Chapter 100 – Red Dragon’s Lair (6)
Chapter 100 – Red Dragon’s Lair (6)
”
ก่อนที่ซังจินจะถูกวาปไปที่มังกร เขาได้คิดในขณะที่อ่านกระดาษข้อมูล
'การถูกโจมตีลมหายใจมังกรแดง?'
เขาไม่ได้ต้องที่จะจิตนาการถึงมันเลย
'ไม่ว่าค่าความอดทนจะสูงแค่ไหน....นี้มันก็จะเป็นตั๋วไปสู่นรกในทางเดียวเลย....'
ซังจินได้จิบลาเต้วานิลาในขณะที่กำลังกำจัดความคิดของเขา แหวนในทุกๆนิ้วของเขาได้ส่องแสงประกายออกมา
ในหมู่พวกนี้ แวหนที่น่าจับตามองมาที่สุดก็คืออันที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ 'คิเมโร่ - แหวนแห่งการผสมสัตว์' แหวนมันได้ถูกตบแต่งไปด้วย มนุษย์ แพะ อสรพิษ และคน
แต่ละตัวจะให้ภูมิคุ้มกัน ไฟ พิษ ความหวาดกลัว และความหนาวเย็น เป็นเวลา 5 วินาที
เขาได้เล่นแหวนในขณะที่คิดกับตัวเอง
'ถ้าฉันใช้สิ่งนี้...ฉันจะสามารถอยู่รอดได้จากลมหายใจมังกรได้ใน 5 วินาที'
'ไม่สิ....ฉันไม่ควรจะคิดถึงความเป็นไปได้เช่นนี้ การมีหรือไม่มีไอเทมการถูกโดยแตะโดย....'
มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในเมื่อเช้านี้
****
คาลกัลป์ได้ฟื้นคืนสติและหันปรับลมหายใจมังกรมาที่ซังจิน
ซังจินได้วิ่งหลบออกไปข้างกำแพง แต่ว่าโดยความโกรธของคาลกัลป์มันจึงใช้ลมหายใจมังกรไล่หลังเขามมา ซังจินจะต้องรอให้ลมหายใจมังกรหยุดลงเท่านั้นถึงจะหาโอกาสส่วนกลับไปได้ แต่แล้วคาลกัลป์ก็ได้ยกแขนขึ้นมาและ
"ตูมมม"
มันได้เหวี่ยงแขนมาปิดเส้นทางของซังจิน
มันเป็นการโจมตีที่แนวแน่ มังกรมันได้เตรียมพร้อมที่จะเสียสละแขนของมันเพื่อแลกกับการขวางซังจิน ซังจินในตอนนี้จึงไม่มีสถานที่ๆจะวิ่งไปได้อีก
มันเป็นสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ซังจินจึงได้ตัดสินใจที่จะใช้ตัวเลือกที่เขาได้คิดเอาไว้ในตอนเช้า
"ความเย็นของจอมเวทย์"
ด้วยคำพูดน้ แหวนคิเมโร่ก็ได้ปล่อยแสงสีฟ้าออกมา และด้านบนลมหายใจมังกรก็ได้พุ่งเข้ามาใส่เข้าแล้ว
แสงไฟจ้าทำให้เขาไม่สามารถจะมองเห็นอะไรได้ เขาจึงปิดตาลงในขณะที่ถูกผลักเข้าไปชนกับกำแพงจากแรงดัน แต่เขากลับไม่รู้สึกร้อนเลย
ภูมิคุ้มกันไฟมันได้เริ่มขึ้นแล้ว ซังจินได้เริ่มนับถอยหลังจากจุดนั้น
'5'
มูนสเปคก็เป็นกังวล
'นายท่าน! นายท่าน!'
เธอได้ตะโกนเรียกเขา
'4'
เบสโกโร่ที่ยังคงเงียบอยู่ตลอดเวลาก็ยังได้ตะโกนออกมาอย่างเร่งด่วน
'นายกำลังทำอะไรเค? ถ้าหากนายตาย ฉันก็จะตายเช่นกัน'
'3'
เมื่อวานได้ผ่านไป ซังจินก็เริ่มรู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจของเขา
'ใครจะไปสนถ้านักล่าคนสองคนตายไป? ฉันไม่ควรที่จะเอาหวังมาพิงกับกำแพง'
ถ้าหากลมหายใจมันยังมีระยะเวลาอยู่นานอีก 2 วินาที มันก็จะเป็นจุดจบของชีวิตที่สองของเขา
'2'
แต่ว่าเมื่อเขาได้นับถึงวินาทีที่ 4 เขาก็ไม่รู้สึกถึงแรงดันใดๆ
'1'
ซังจินได้เปิดตาของเขาในวินาทีสุดท้าย คาลกัลป์ที่ปกติมักจะมองมาด้วยความหยิ่งผยอง ในตอนนี้มันมีแต่นับตาที่แสดงถึงความหมดหวัง
การโ๗มตีมันได้สิ้นสุดลงในระยะเวลา 5 วินาที เขาได้กลิ่นบางอย่างที่ไหม้ ดังนั้นเขาจึงมองไปที่ด้านข้างและเห็นว่าแขนของมังกรมันได้ไหม้เป็นสีดำ
มันได้เสียสละแขนตัวเองเป็นมาตรการสุดท้ายที่สิ้นหวัง มันจะไม่สามารถใช้แขนของมันได้อีกต่อจากนี้ไป
'มันทำเพื่อ...'
ซังจินได้กระโดดขึ้นไปที่แขนของมังกรและวิ่งเข้าไปหาร่างกายของมัน มังกรได้หันไปเพื่อพยายามที่จะหนี แต่ซังจินก็ไม่อนุญาติให้มันหนีไป
ซังจินได้กระโดดไปที่ไหล่ของมัน
"การล้างบาปของโลหิต"
เขาได้เปิดใช้งานทักษะของบลัดเวเจนและสร้างลอยแผลกากบาทบนอกของมังกร
"ก๊าซซซซ"
คาลกัลป์ได้ร้องออกมา แต่นี่ก็ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุด ซังจินได้ใช้บลัดเวเจนเป็นจุดยึกและพุ่งไปที่คออย่างรวดเร็ว
ในขณะเดียวกันนักล่าคนอื่นๆก็เริ่มฟันแทงและยิงธนูไปที่มังกร คาลกัลป์ได้ร้องออกมาอย่างทุกทรมานและสิ้นหวัง แต่ว่ามันไม่มีประโยชน์
"นี้มันไม่จริง...."
คาลกัลป์ได้พูดออกมาไม่กี่วินาที ก่อนที่จะล้มลงไป เลือดได้ไหลออกมาทั่วทั้งร่างของมัน
[ขอแสดงความยินดีด้วย บอสมอนสเตอร์]
[มังกรแดงคาลกัลป์ได้ถูกกำจัด]
การประกาศนี้ไม่ได้รับการยินดีมากนัก
"โฮ่ง"
เคนได้วิ่งมาที่ซังจิน เขาก็คงจะกังวลกับความเป็นอยู่ของเจ้านายเขาเช่นกัน เขาได้เลีบมาที่ใบหน้าของซังจินที่เต็มไปด้วยเลือด ซังจินจึงพูดกับเคน
"อา เคนฉันสบายดี ฉันสบายดี"
ในขณะเดียวกันนักล่าคนอื่นๆอีก 9 คนก็ได้วิ่งเข้ามาหาซังจินเช่นกัน เมื่อซังจินได้ลุกขึ้น นักล่าคนอื่นๆก็เขาไปแสดงความยินดีกับเขา
"มันช่าง....น่าอัศจรรย์จริงๆ สุดยอดนักล่า"
"พวกเราสามารถรอดมาได้ต้องขอบคุณนาย ถ้าเป็นนาย...อาจจะ..."
"ฉันไม่สามารถจะทำอะไรได้เลยนอกจากเคารพนาย"
ซังจินได้ลุกขึ้นยืนและมองไปที่นักบวช เขาคนนั้นก็ประหลาดใจ เขารู้ว่าซังจินแข็งแกร่ง แต่ว่าซังจินได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขามีพลังที่มากกว่าที่พวกนั้นคิด ซังจินได้ยืดตัวตรงในขณะที่พูดออกมา
"ทำได้ดีมากทุกคน งั้นเราไปพักพ่อนกันก่อนที่จะไปต่อกันเถอะ"
****
ภายในถ้ำของคาลกัลป์ นักล่าที่ได้เพิ่มเลือดที่เสียไปและตรวจสอบอุปกรณ์ ไม่มีใครที่ได้รับบาดแผลสำคัญเลย ต้องขอบคุฯการมีส่วนร่วมทุกอย่างของซังจิน
นักล่าคนอื่นๆได้คุยกันเองเกี่ยวกับการต่อสู้นองเลือดของซังจินและมังกร
"ถ้าไม่ใช่เพราะสุดยอดนักล่าพวกเราก็ไม่สามารถที่จะอยู่รอดกันมาได้ครบทุกคนW
Wข่าวลืมมันเป็นจริง เขาสามารถจะเคลียการจู่โจมได้ด้วยตัวคนเดียว"
ซังจินรู้สึกเขินกับการสรรเสริญพวกนี้ เขาจึงออกมานั่งห่างๆและพูดคุยกับเคน
"แล้วเพื่อนของนายมาจากไหนเคน? ที่ป่านั่นหรอ?"
"โฮ่ง"
"ฉันเห็นแล้ว ทำได้ดีมาก ขอบคุณมากที่คอยระวังหลังเอาไว้ให้พวกเรา มันทำให้การต่อสู้กับมังกรง่ายขึ้น ขอบใจมากนะเคน"
ในขณะที่เขากล่าวออกมาเขาก็เดินไปที่ศพของเฮลฮาว เขาได้ใช้มานาไปอย่างในการต่อสู้นี้ และการล้างบาปของโลหิต ก็ได้ดูดเลือดเขาออกไปเช่นกัน
"การกวักมือของลิช"
ซังได้ใช้แหวนนิ้วมือของลิชเพื่อที่จะเพิ่มมานาของเขา
"ปิดบาดแผลและลบล้างความเจ็บปวด ฮีล"
เขาได้ใช้เวทย์เพื่อที่จะรักษาตัวเอง
[พลังชีวิตเต็มแล้ว]
ซังจินก็ได้ถามเพิ่มออกมาอีก
"เวลาผ่านไปเท่าไหร่แล้ว?"
[เวลาที่ได้ใช้ไปในการจู่โจมนี้คือ 34 นาที 49 วินาที]
มันได้จบลงเร็วกว่าที่เขาได้คิดเอาไว้ การต่อสู้กับมังกรเป็นอีกเรื่อวหนึ่ง แต่การที่บาบาเรี่ยนมีฉายาไกด์มันเป็นปัจจัยสำคัญมาก
'ฉันไม่เคยให้ความสำคัญกับมัน...แต่ว่านี้ได้แสดงให้เห็นว่าสิ่งนั้นมันไม่ใช่ฉายาที่ไร้ประโยชน์...'
แต่ว่าเขาก็ยังคงเร่งรีบ ในบทนนี้มันเป็นเขาวงกต เขาไม่มีทางจะรู้ได้เลยว่าคนอื่นๆจะอยู่ไหนในตอนที่เขาไปล่าฆาตกร เขาอาจจะต้องใช้เวลาถึง 20-30 นาทีต่อครั้งเพื่อค้นหาฆาตกร
'ฉันควรจะรีบ'
ซังจินได้กลับไปที่ๆนักล่ารวมตัวกันอยู่อย่างรวดเร็ว
"ถ้าทุกคนพักผ่อน..."
ทักทีที่เขาได้พูดออกมาคนอื่นๆก็หันมาจ้องมองเขา พวกเขานั้นเป็นผู้ชายทั้งหมด แต่ว่าเหมือนว่าซังจินจะดึงดูดความสนใจทั้งหมด มันเป็นความรู้สึกแปลกๆ ผู้อมตะได้ยืนขึ้นและพูดออกมา
"ไปค้นหามอนสเตอร์กันต่อเถอะ เราควรที่จะเพิ่มผลงานของพวกเราให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
"ไปทำแบบนั้นกัน"
"ไปกันเถอะ"
ซังจินได้หันไปพูดกับนักล่าที่ได้เตรียมพร้อมที่จะเดินทางต่อ
"พวกนายรู้เรื่องเกี่ยวกับชิ้นส่วนลับกันใช่ไหม? นายจะคิดยังไงกับการค้นหาสิ่งนี้?"
พวกเขาทั้งหมดได้มองมาที่ซังจิน
"ชิ้นส่วนลับ? มันคืออะไรหละ?"
"มันยอดเยี่ยม แต่ว่า...."
"ถ้าเราพบมันก็ดี แต่ถ้าไม่หละW
"ของจากมังกร...ฉันก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่า...
และในหมู่พวกเขา
"บอลลับมันจะไม่ยากเกินไปงั้นหรอ?"
ในที่สุดก็ได้มีใครบางคนพูดไปถึงบอสลับ ซังจินได้หันไปพูดกับพวกเขา
"ฉันนั้นมีฉายานักล่าสมบัติ ดังนั้นเราจะไปค้นหาชิ้นส่วนลับกันเป็นหลัก และแน่นอน พวกเราก็จะล่ามอนสเตอร์ตามทางไปด้วย...แต่วสมบัติมันจะดีขึ้นยิ่งไปอีกถ้ามันยเกี่ยวกับบอสลับ....ลองคิดเรื่องนี้ดูนะ"
ทุกๆคนได้หยักหน้ารับในคำพูดนี้
"แน่นอน"
"ชิ้นส่วนลับมันยอดเยี่ยมเสมอ"
ซังจินที่ได้รับความเห็นชอบจากคนในกลุ่มแล้วเขาก็ได้หันไปพูดคุยกับลูกบาศก์
"โอเปอเรเตอร์ส่งดวงดาวไร้นามมาที"
ครู่หนึ่งลูกบาศก์ก็ได้ส่งจีรูปดาวออกมา
"เปลื่ยนชื่อ"
มันเป็นครั้งแรกที่ซังจินได้ใช้มัน โอเปอเรเตอร์ก็ได้ถามออกมา
[ชื่อใดที่คุณต้องการจะเปลื่ยน?]
"นักล่าสมบัติ"
[คุณได้เปลื่ยนชื่อแล้ว]
ซังจินได้เงยหน้าขึ้นไปเพื่อที่จะตรวจสอบฉายา แต่แล้วเขาก็ไม่จำเป็นต้องทำ เพราะนักล่าทั้งเก้าคนได้มองไปบนหัวของเขาด้วยปากที่อ้าค้าง
"เดี๋ยวก่อนนะ...นายสามารถจะเปลื่ยนฉายากลางการจู่โจม?"
"ไอเทมอะไรกัน..."
ไม่มีใครที่ถามออกมาว่า
'นายได้รับมันมายังไง'
ทุกๆคนคิดว่า 'เขาเป็นคนที่พิเศษ' และปล่อยมันไป ซังจินได้รวบรวมนักล่าและพูดออกมา
"ทักษะของนักล่าสมบัติจะทำให้เราได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับชิ้นส่วนที่ซ่อนอยู่ ฉันจะใช้ความสามารถนี้...แต่ว่าฉันต้องการความคิดของพวกนายเพื่อช่วยฉันคิดเกี่ยวกับมัน"
ตาของพวกเขาได้ส่องประกายออกมาตามคำพูด พวกเขาไม่ได้รู้เกี่ยวกับผลของฉายานักล่าสมบัติ แต่ว่าพวกเขาก็รู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าทักษะนักล่าสมบัติก็ยอดเยี่ยม
"โปรดฟังเกี่ยวกับคำแนะนำจากลูกบาศก์และบอกฉันถ้าหากว่าพวกนายเข้าใจเงื่อนงำนี้"
ทุกคนได้หยักหน้าตามคำพูดของเขา
'ฉันรู้สึกเหมือนเป็นครูกำลังสอนนักเรียนอยู่เลย'
จากนั้นซังจินก็หันไปถามกับโอเปอเรเตอร์
"โอเปอเรเตอร์ฉันจะใช้งานทักษะนักล่าสมบัติ ถ้าหากว่ามีชิ้นส่วนลับในพื้นที่ก็ช่วยบอกฉันที"
โอเปอเรเตอร์ได้ให้คำใบ้ออกมา
[มังกรแดงแห่งอวไลท์ คาลกัลป์]
[ได้ฆ่าคนไปมากมาย ในช่วงชีวิตหลายร้อยปี]
[มันได้เก็บสะสมสมบัติเอาไว้ภายในรัง]
[ทางเดินสีแดง เป็นสถานที่เดียวที่สามารถจะเข้าไปได้]
[การกลิ้งสมบัติและปกคลุมมันด้วยปีก]
[มันคือช่วงเวลาที่เขารักมากที่สุด]
ซังจินได้ตั้งใจฟังอย่างระมัดระวัง ส่วนสำคัญมันดูเหมือนจะอยู่ตรงที่
'เส้นทางสีแดง เป็นสถานที่เดียวที่สามารถจะเข้าไปได้ และก็ปกคลุมด้วยปีก'
"เส้นทางสีแดง? แต่ว่าทุกๆอย่างที่นี่มันเป็นสีดำและแดง"
"มีแต่เส้นทางนี้เท่านั้นที่จะเข้าไปได้....สถานๆที่ๆมีขนาดใหญ่เท่ามังกร?"
"ปีกที่ปกคลุม...ฉันคิดว่านี้มันเป็นกุญแจสำคัญ"
ซังจินได้หยักหน้า
"โอเค ฉันรู้แล้ว งั้นมาลองดูกันว่าบอสลับมันอยู่ที่ไหน ฉันไม่รู้ว่าเราจะสามารถเอาชนะได้หรือไม แต่ว่า...เราก็ควรจะรู้ว่ามันอยู่ที่ไหนเพื่อที่ว่าเราจะหลีกเลี่ยงมันได้ ใช่ไหม?"
ทุกๆคนได้หยักหน้าตามคำแนะนำของเขา
"ใช่แล้ว นี่มันเป็นความคิดที่ดี"
"อย่างน้อยเราก็จะได้ไม่ไปพบมันในขณะที่เดินลงไป แต่...."
ซังจินได้แกล้งไอออกมาและถามคำถามที่สอง
"แค่กๆ...โอเปอเรเตอร์บอสลับซ่อนอยู่ที่ไหน?"
[เธอผู้ที่ได้ฟัง เธอผู้ที่เข้ามา]
[เธอได้เรียนรู้จากความไม่มั่นคงของเด็ก]
[และตื่นขึ้นจากการหลับไหลยาว]
[ได้รับการเตือนว่าเหนือการพิสูจน์ความชั่วร้าย]
[ได้โกหก และเธอก็ยังโกรธ]
มันสั้น แต่ว่ามันค่อนข้างจะแตกต่างกัน ซังจินเป็นเช่นเดียวกับคนอื่นๆคือกลายเป็นใบ้ไป
'มันพูดถึงอะไรกัน?'
การแสดงออกของทุกคนได้เหมือนกับซังจิน และท่าทางของพวกเขาดูเหมือนจะพูดเช่นนี้ ซังจินได้ลูบคางของเขาและถามออกมาอีกครั้ง
"เฮ้ โอเปอเรเตอร์ช่วยให้คำใบ้อีกครั้งหนึ่ง?"