บทที่ 4 โหดร้าย: กล้าดียังไงมาขุดหลุมศพฉัน!
ระบบการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่อยู่คงกระพัน
บทที่ 4 โหดร้าย: กล้าดียังไงมาขุดหลุมศพฉัน!
“นายไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องนี้หรอก”
“นายคิดว่าจะเข้ายึดโลกได้ง่ายๆอย่างนั้นเหรอ ลืมไปแล้วหรือไงว่ายังมีหยินเชาไต้ฟูอยู่น่ะ”
“ฉันบอกนายได้อย่างชัดเจนเลยนะว่าโลกที่นายรู้จักอยู่ตอนนี้ก็แค่ยอดน้ำแข็งแค่นั่นแหละ”
สตาร์วอร์สรวมตัวเข้ากับหนิงเทียนหลิน แบบนี้จะง่ายกว่าที่จะได้รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรแต่เขาก็ช่วยไม่ได้ที่จะขัดจังหวะความคิดของหนิงเทียนหลิน โลกจะถูกทำลายไม่ได้”
"งั้นเหรอ?"
"ต่อหน้าฉันงั้นเหรอ? ต่อหน้าฉันเหรอ?"
หนิงเทียนหลินตัวแข็งไปสักพักโดยที่ไม่รู้ว่าสตาร์วอร์สหมายถึงอะไร
"บูม!"
ทันทีที่เสียงของหนิงเทียนหลินกลับมา ม่านแสงสีเขียวก็ปรากฏต่อหน้าเขา เบื้องบนคือกองดินใหม่ๆและเด็กหนุ่ม 7-8 คนที่กำลังถือผลั่วค้างไว้ในท่าขุด และยังมีชายวัยกลางคนที่กำลังถือห่วงโซ่เหล็กและอุ้มสุนัขตัวใหญ่สีเหลืองอยู่
"นี่พวกนั้นนิ!"
"โจรพวกนั้นไง!"
“พวกนี้เป็นกลุ่มเดียวกับพวกโจรที่รัดคอฉันนิ!”
แค่เพียงเหลียวมอง หนิงเทียนหลินเป็นคนฉลาดเพราะเขาจำได้ทันทีว่าคนพวกนี้ที่อยู่เบื้องหลังม่านแสงคือใคร คนพวกนี้มีรูปกะโหลกสีแดงอยู่ที่แขนซ้าย ผู้ชายคนนี้คือคนที่อยู่ที่สถานีรถไฟครั้งล่าสุดและคนที่กำลังอยู่เหนือเขาตอนนี้ก็คือคนเดียวกันเลย!
ถ้าเป็นแค่คนเดียวมันก็อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญแต่นี่แขนของคน 7-8 คนมีรอยเหมือนกันแบบนี้ ก็บอกได้อย่างเดียวว่าคนอื่นก็อยู่กลุ่มเดียวกัน! มันเป็นทีมเดียวกัน!
“พวกนั้นกำลังทำอะไร?”
“ดึกแบบนี้ พวกนั้นขุดหลุมศพใครกัน?”
ม่านแสงที่ปรากฏตรงหน้าเป็นสีเขียว ในเวลานี้มันง่ายที่จะเห็นเลยว่าพื้นหลังเป็นสีดำไปหมดแล้ว แต่การปรากฎตัวของคน 7-8 คนนี้รวมทั้งร่างที่เรืองแสงจากแสงพิเศษของสตาร์วอร์ส ทำให้ยิ่งเห็นคนพวกนั้นชัดเจนขึ้นไปอีก
หนิงเทียนหลินแค่สงสัยนิดหน่อยว่ากลางดึกแบบนี้มันเกิดอะไรขึ้นและโจรพวกนั้นกำลังทำอะไรกัน
"ใช่เหรอ?"
ทันใดนั้นความคิดของหนิงเทียนหลินก็เป็นไปได้ ร่างของเขานอนตัวขด เขานอนอยู่ในโรงศพของตัวเองและคนพวกนี้กำลังขุดหลุมศพ เมื่อมีสตาร์วอร์สร่วมด้วยเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเย็นไปทั้งตัว
คนพวกนี้ขุดหลุมศพคนอื่น!
บ้าเอ๊ย! คนตายไปแล้วก็ยังไม่ปล่อยให้รอดไปอีก!
"ดี!"
“ในตอนนี้ คนพวกนั้นกำลังขุดหลุมศพของนาย!”
สตาร์วอร์สพยักหน้าและพูดเสริม “แล้วมันก็ไม่ง่ายเลยนะที่จะขุดหลุมศพ พวกนั้นเห็นหมาตัวใหญ่ที่อยู่ในมือชายคนนั้นไหม?”
“มันหิวมาทั้งวันแล้ว!”
“นายจะบอกว่าถ้ามันถูกปล่อยออกมา มันอาจจะกัดทุกอย่างงั้นเหรอ!”
หนิงเทียนหลินไม่รู้ว่าตัวเองคิดไปเองหรือเปล่าแต่เมื่อดูจากปากของสตาร์วอร์ส เขารู้สึกได้ว่านี่เป็นเรื่องตลก
“นายหมายถึง ไอ้หมาสีเหลืองตัวนี้พามาหาฉัน มากินศพฉัน…”
หนิงเทียนหลินไม่ได้โง่ เขาไม่ได้เข้าใจสิ่งที่สตาร์วอร์สพยายามจะสื่อได้ยังไงแล้วตอนนี้ตัวเขาก็เย็นไปหมดแล้ว! พวกนั้นตายไปแล้ว คนกลุ่มนี้ต้องขุดศพตัวเองขึ้นมาให้หมากินงั้นเหรอ! คนกลุ่มนี้มันปีศาจชัดๆ!
มือของหนิงเทียนหลินกำแน่นอย่างห้ามไม่ได้และรู้สึกเริ่มจะคันไม้คันมือ! แทบรอไม่ไหวที่จะออกไปฆ่าไอ้พวกปีศาจนี้เดี๋ยวนี้เลย!
“งั้นนายคิดว่าไอ้หมาสีเหลืองตัวใหญ่นี้มาเพื่อกินฉันงั้นเหรอ?” สตาร์วอร์สคาดเดาออกมา
ทันใดนั้นหนิงเทียนหลินก็เงียบไปแต่ในดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยความโกรธอย่างร้ายกาจ!
...
"พี่ชาย!"
"เกือบจะเห็นฝาโรงแล้วนะ รูบาร์บพร้อมนะ!"
"ฮ่าฮ่า!"
ในเวลานี้ชายที่ชุดดำที่กำลังขุดดินตะโกนขึ้นมา เขารู้สึกว่าผลั่วในมือโดนเข้ากับฝาโรงซึ่งใช้เวลาไม่ถึงสองนาทีในการเปิดฝาโรงออกมา
“นี่เด็ดเลยพี่ชาย รูบาร์บพร้อมไหม! แต่เด็กนี่ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ ทำให้เขารู้หน่อยว่าความตายไม่ใช่เรื่องง่ายๆ! มันกำลังจะเป็นอาหารของหมา! กระจายข่าวเรื่องนี้ออกไปให้ทุกคนแถวนี้ได้รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกคนที่กล้าพอจะทวงความยุติธรรม!
ชายคนนั้นประกาศกล้าออกไป
“โอเค ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันรู้ดีอยู่แค่ใจ”
หัวหน้าวัยกลางคนโบกมือแล้วพูดกับชายหนุ่มกำยำที่ยืนอยู่ข้างๆเขา “ไอ้ลูกชายไม่ต้องขุดแล้ว เมื่อฝาโรงถูกเปิดออกก็เปิดกล้องได้เลยนะ พ่อจะให้รูบาร์บเข้าไปข้างในแล้วแกก็ถ่ายวีดีโอเอาไว้ด้วยล่ะ”
“มองย้อนกลับไปแล้วปล่อยให้แสงอาทิตย์ส่องกลับมาที่คนที่ส่งเขาไปเข้าคุกจะบอกเขาเองว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เขาตาย”
ชายคนนั้นคือโจรที่หนิงเทียนหลินส่งเข้าคุก
“หวัดดี” หลังจากที่ได้ยินคำสั่งเสียงเข้ม เขาก็โยนผลั่วในมือทิ้งและหยิบมือถือขึ้นมาในระหว่างที่พูด “ดูสิไอ้น้อง วีดีโอนี้จะต้องทำให้พวกโจรดูกระหายเลือดแน่ๆ เมื่อคนอื่นได้เห็นฉันจะต้องดังแน่ๆ!”
ชายกำยำหัวเราะร่าและคิดว่าคืนนี้เป็นคืนที่สนุกจริงๆ ขุดศพขึ้นมาให้หมากินแล้ววีดีโอนี้จะต้องถูกส่งต่อๆกันไปให้เพื่อนในแอฟวีแชทของเขาไปอีกนานเลยล่ะ
...
"บ้าฉิบ!"
"พวกแกนี่มัน***จริงๆเลย!"
ในตอนนี้ในดวงตาของหนิงเทียนหลินมีแต่ความคับแค้น เขาเป็นจ้าวแห่งความอิจฉาไม่งั้นเขาคงไม่เห็นถึงความชอบธรรม ตอนนี้เขาไม่คิดได้ยังไงว่าจะต้องถูกขุดขึ้นมาแล้วถูกโยนหลังจากที่ตายไปแล้วเนี่ย! คนพวกนี้มันกล้าดียังไงว่ะ!
ในเวลานั้นพ่อแม่มาเพื่อเคารพศพหรือเรื่องต่างๆได้ผ่านเข้าไปถึงหูพ่อแม่ของพวกนั้นและพวกท่านไม่ได้รับอนุญาตให้มาได้อีก! ตอนที่วิญญาณเจ็ดดวงแรกกลับมา เขาเห็นว่าพ่อแม่ของเขาเศร้ามากแค่ไหน!
ความตายของพวกเขาเกือบจะถึงแก่ชีวิตแล้ว!
“ตาย!”
“ไอ้พวกสารเลว!”
หนิงเทียนหลินขบฟันแน่น ตอนที่ไอ้พวกปีศาจยกโรงเปิดฝาโรง เขาอยากที่จะวิ่งออกไปแล้วสู้กับพวกนั้นจริงๆ ถึงแม้ว่าเขาจะต้องตายอีกรอบเขาก็พร้อมที่จะสู้!
“นายอยากรู้ไหมว่าความสามารถในการสู้ของแปดคนนี้รวมกับหมาสีเหลืองตัวใหญ่นั่นเป็นเท่าไร”
ทันใดนั้นแม้แต่ตอนที่เขารู้สึกว่าเขาไม่น่าจะทนกับเรื่องนี้ได้ ตอนที่เขากำลังจะวิ่งหนี เสียงของสตาร์วอร์สก็ดังขึ้นมาในหูของเขาเงียบๆ
“ประสิทธิผลของการต่อสู้เหรอ?”
หนิงเทียนหลินคิดเรื่องที่สตาร์วอร์สพูดอยู่ซักพักแต่ระบบประสิทธิผลของการต่อสู้ของเหลาอาซิถามขึ้นมา “นายตัดสินประสิทธิผลการต่อสู้ของพวกนั้นได้ไหม?”
ในเมื่อประสิทธิผลของการต่อสู้คือการแสดงออกที่ดีที่สุดของพลังของคน แน่นอนหนิงเทียนหลินไม่รังเกียจที่จะได้รู้ว่าใครกันที่แข็งแกร่งและใครกันที่อ่อนแอ อย่างน้อยแน่นอนมันก็ดีกว่าที่ได้รู้ตัวเองและคู่ต่อสู้ อีกอย่างเวลาที่เขาสู้ เขาจะโจมตีคนที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่มก่อนแน่ๆ
ซ้อมเขาจนตายไปเลย!
ถึงว่าฉันจะตาย ฉันก็จะสู้
“จัดการง่ายมาก” สตาร์วอร์สตอบพร้อมความมั่นใจอย่างล้นเหลือ “และฉันก็เหนือชั้นกว่านั้นเยอะเลย มันง่ายมากที่จะช่วยกำหนดประสิทธิผลในการต่อสู้ ฉันพูดได้เลยว่าตัวเองเป็นระบบการต่อสู้ที่มีประสิทธิผลมากที่สุดในจักรวาลใช่ไหม?”
“ฉันทำอะไรได้มากกว่านั้นแล้วนายจะได้เห็นเอง”
คำตอบของสตาร์วอร์สเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งเหมือนกับว่าหนิงเทียนหลินถามเขาว่าสามารถประเมินพลังการต่อสู้ของคู่แข่งได้หรือเปล่า ซึ่งเป็นการดูถูกอย่างมากสำหรับเขา! มันเหมือนการไปถามนักฟุตบอลดาวรุ่งว่าจะทำประตูได้ไหม?
ในเกมส์แข่งฝ่ายตรงข้ามต้องเล่นงานนายหนักแน่ๆ!
"ว้าว!"
เมื่อคำพูดของสตาร์วอร์สเปลี่ยนไป ม่านแสงตรงหน้าหนิงเทียนหลินก็เปลี่ยนไปด้วย จำนวนคนยังเท่าเดิม หมาสีเหลืองยังอยู่ที่เดิมแต่ทุกคนรวมทั้งหัวของหมาสีเหลืองเห็นได้ชัดว่าถูกทำเครื่องหมายด้วยตัวเลขอารบิคสีแดงอย่างชัดเจน
เข้าใจง่าย