ตอนที่แล้วบทที่ 1: ระบบการต่อสู้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 3: คนสามารถทรงพลังได้อย่างเหลือเชื่อ!

บทที่ 2: ประสิทธิผลของการต่อสู้ของนาย


ระบบการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่อยู่คงกระพัน

บทที่ 2: ประสิทธิผลของการต่อสู้ของนาย

"ฉลาดมาก!"

หนิงเทียนหลินตัวแข็งทื่อเพราะรู้ว่าประสิทธิผลของการต่อสู้ที่สตาร์วอร์สพูดถึงคืออะไร ซึ่งคือการแสดงถึงกำลังทางทหารของบุคคลที่มีค่าความแข็งแกร่งในการต่อสู้แบบเฉพาะ

"8 คะแนนเอง!"

“ฉันไม่มีพลังในการสู้มากเท่าไรใช่ไหม? แล้วทำไมต้อง 8 ด้วยด้วยเนี่ย? แล้วพลังมันสูงถึงพันคะแนนเลยเหรอ?”

ถึงแม้ตอนนี้หนิงเทียนหลินจะอายุแค่ 19 แล้วเขาก็เคยแบกก้อนอิฐและออกกำลังกายเป็นประจำ ฉะนั้นความแข็งแกร่งของร่างกายก็อยู่ในขั้นดีเยี่ยม แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะวิ่งไล่โจรไปไกลถึง 2 ไมล์หรอกนะ

ก็แค่ว่าเขาไม่เคยคาดฝันว่าโจรที่ชนกับเขาจนล้มจะพกมีดปอกผลไม้ไว้ในขากางเกงแล้วเกิดโมโหเขาขึ้นมา จนสุดท้ายเขาก็นอนจมกองเลือดและตาย

"มากเลยล่ะ"

“คะแนนพลังการต่อสู้เฉลี่ยของผู้ใหญ่ในดาวของนายแค่ 5 คะแนนเอง แต่นายสูงกว่าค่าเฉลี่ยตั้ง 3 คะแนน”

“แต่ถึงแม้จะแค่ 3 คะแนน แต่มันก็ง่ายขึ้นเยอะเลยนะที่จะชนะเวลาที่มีการต่อสู้” สตาร์วอร์สอธิบาย

“แล้วเสือล่ะ? คะแนนการสู้ของเสือโตเต็มวัยคือเท่าไร?” หนิงเทียนหลินถาม เพื่อที่จะให้การเปรียบเทียบง่ายขึ้นไปอีกเขาเลยอยากที่จะเปรียบเทียบกับสัตว์พวกนี้ เขาเคยเห็นชื่อของเสือโตเต็มวัยและราชาของสวนสัตว์และเขาอาจจะสู้กับพวกมันได้

“ประมาณ 15 คะแนน” สตาร์วอร์สตอบ

“15 คะแนนเหรอ?” หนิงเทียนหลินถึงกับพูดไม่ออก เขาเคยคิดว่าด้วยความแข็งแกร่งของร่างกายเขาก็สามารถสู้กับเสือได้แล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะอวดดีเกินไปหน่อย ต่างกัน 3 คะแนนก็สามารถชนะได้งั้นแล้ว 15 คะแนนกับ 8 คะแนนล่ะ? ช่างต่างกันซะเหลือเกิน

ถ้าน้ำหนักของเสือโตเต็มวัยที่อาจจะหนักได้ถึง 2000 หรือ 3000 ปอนด์โถมลงมาที่ใคร คนนั้นก็คงจะสู้ไม่ได้กันทั้งนั้นแหละ

หลังจากที่ได้ฟัง หนิงเทียนหลินก็หมดคำถามและก็รู้แล้วว่าประสิทธิผลของการต่อสู้คืออะไรและมันหมายความว่ายังไง

“แต่พวกนี้มันไร้สาระ ไม่สำคัญหรอกว่าประสิทธิผลของการต่อสู้จะสูงแค่ไหนแค่ส่งปืนมาให้ฉันน่ะ ฉันจะยิงเสือพวกนี้ให้พรุนเลย! หรือแม้แต่มีดคมๆนะฉันก็พร้อมที่จะสู้กับเสือได้เลย!”

“พลังการต่อสู้ไม่ใช่รากฐานของความแข็งแกร่งทั้งหมดนะ!”

หนิงเทียนหลินมั่นใจมากว่าถ้าเขามีมีดคมๆสักเล่ม เขาก็กล้าที่จะสู้กับเสือที่ดุร้ายด้วยพลังการต่อสู้ระดับ 15 แน่ๆ! เขาแค่คิดว่าถ้าตัวเองไม่มีมีดเขาก็ไม่ใช่คู่แข่ง

“นายคิดผิดแล้วนะ!”

“พลังการต่อสู้เท่านั้น แค่พลังการต่อสู้ก็เป็นสิ่งพื้นฐานที่สามารถสู้ได้กับทุกอย่างแล้ว!”

สตาร์วอร์สปฎิเสธความคิดของหนิงเทียนหลินโดยตรงพร้อมทั้งเย้ยหยัน “ตั้งแต่วินาทีที่นายหยิบปืนหรือดาบ พลังการต่อสู้ของนายก็ไม่ใช่ระดับดั้งเดิมที่ 8 อีกแล้วแต่มันต้องบวกพลังการต่อสู้ของดาบเข้าไปด้วย คนเขาพูดถึงประสิทธิผลของการต่อสู้ดั้งเดิม ซึ่งก็คือประสิทธิผลของการต่อสู้ทั้งหมดของนายเอง!”

“ตัวอย่างเช่น ปืนพกธรรมดาๆให้พลังการต่อสู้นาย 30 คะแนน ตั้งแต่วินาทีที่นายถือปืน พลังการต่อสู้สูงสุดของนายจะไปได้ถึง 38 คะแนน ส่วนมีดจะเพิ่มพลังการต่อสู้ได้ที่ 6 คะแนน งั้นถ้านายถือดาบ พลังการต่อสู้สูงสุดที่มีประสิทธิผลของนายจะไปได้ถึง 14 คะแนน”

“งั้นประสิทธิการต่อสู้จะไปได้ไกลขนาดไหน มันก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพทางจิตวิทยาและร่างกายของนายเอง”

“และถ้านายใช้ฉันเพื่อแสดงมันออกมา อาวุธของนายก็จะชำนาญมากเลย!”

“ยิ่งอาวุธของนายชำนาญมากเท่าไร ประสิทธิผลในการต่อสู้ของนายก็จะแข็งแกร่งมากเท่านั้นเลยนะ!”

หลังจากที่ได้ฟังเรื่องนี้ หนิงเทียนหลินก็ถึงกับตกตะลึก “ทันทีที่ฉันถือปืน ประสิทธิผลการต่อสู้ของฉันก็จะขึ้นไปที่ 38...งั้นก็หมายความว่าอาวุธสามารถเพิ่มประสิทธิผลการต่อสู้ได้งั้นเหรอ?”

“ไม่ใช่แค่อาวุธนะ อุปกรณ์อะไรก็ได้ทั้งนั้นก็สามารถเพิ่มประสิทธิผลการต่อสู้ได้” สตาร์วอร์สแก้ให้ถูกต้อง “และยิ่งอาวุธมีความสามารถมากเท่าไร คล่องแคล่วมากเท่าไร นายก็ยิ่งควบคุมปืนได้ดีมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังไงก็ตามทุกคนต่างก็ลำเอียงกันได้ทั้งนั้นโดยเฉพาะเมื่อฉันเป็นน้องใหม่ ฉันชอบที่จะยิงให้โดนเป้าหมาย ถึงเวลาแล้วที่ประสิทธิผลการต่อสู้ของนายจะไปแตะสูงสุดที่ 38!”

“ปกติไปถึง 30 32 หรือ 33 ก็ยอดเยี่ยมแล้วนะ!”

“แบบไม่มีทักษะ ได้ถึง 12 ก็เป็นไปได้นะ!”

“เจ้านาย ฉันบอกไว้ชัดๆเลยนะว่าผู้ต่อสู้สามารถฆ่าคู่ต่อสู้ที่ต่ำกว่าได้ง่ายๆแม้ว่าในมือเขาจะมีปืนหรืออาวุธที่ระดับสูงกว่าก็ตาม”

บางทีการเข้าใจเรื่องแนวคิดของประสิทธิผลการต่อสู้ของหนิงเทียนหลินอาจจะยังไม่ชัดเจนเท่าไร สตาร์วอร์สอธิบายต่อ “ในจักรวาล ประสิทธิผลของการต่อสู้เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่กำหนดชัยชนะและความพ่ายแพ้ทั้งหมดได้เลยนะ!”

“ฉะนั้นความแข็งแกร่งของเราเองเป็นสิ่งจำเป็น”

“สาเหตุภายนอกอื่นๆที่เหลือก็เช่น คู่ต่อสู้ มีตำแหน่งต่างๆก็อาจจะมีผลด้วย”

ในเวลาเดียวกัน หนิงเทียนหลินก็ถามต่อว่า “พลังการต่อสู้ของคนๆหนึ่งแข็งแกร่งมากพอที่จะจัดการกับทุกอย่าง, กฎหมาย, กฎต่างๆ, ระบบต่างๆ ซึ่งในสายตาเขาเป็นสิ่งที่สมบูรณ์แบบที่สามารถทำลายได้!”

“พวกนี้เป็นเรื่องที่เขากำหนดได้เท่านั้น!”

“เงิน, อำนาจ, ผู้หญิง ด้วยปลายนิ้วนายเลย!”

หนิงเทียนหลินพ่นลมหายใจหลังจากที่ได้ฟัง “มันจะเป็นไปได้ยังไง!”

“กฎหมายมันจะถูกเหยีบย่ำง่ายๆได้ยังไง! ไม่สำคัญว่าคนนั้นทรงอำนาจมากแค่ไหน จะเอาไปเปรียบเทียบกับอำนาจประเทศได้ยังไง ถ้ามันทำได้ ไม่สำคัญหรอกว่าประสิทธิผลการต่อสู้ของนายจะสูงแค่ไหนมันก็ต้องแตกเป็นเสี่ยงๆแน่ๆ!”

ในคำพูดที่พูดมา หนิงเทียนหลินไม่เชื่อเลยสักนิด เขาไม่เชื่อว่าพลังการต่อสู้ของคนๆหนึ่งจะไปเทียบกับประเทศได้ มีคนมากมายที่จมกองน้ำลายตัวเอง

"ฮ่าฮ่า"

ครั้งนี้ สตาร์วอร์สไม่ได้เย้ยหยันแต่กลับหัวเราะเสียงดังออกมาหลังจากที่ได้ยินสิ่งที่หนิงเทียนหลินพูดออกมา แต่สิ่งที่เขาได้ยินกลับเป็นเรื่องน่าขำแทน “กฎหมายเหรอ ประเทศเหรอ?”

“กฎหมายก็ขึ้นอยู่กับคนแล้วประเทศก็มีพวกเขาเป็นคนดูแล”

“และคนก็มีประสิทธิผลในการต่อสู้”

“ถ้านายเหยียบย่ำกฎหมายและรุกรานประเทศ นายก็ฆ่าพวกคนที่มาจับนายได้ง่ายๆ จะฆ่ามากแค่ไหนล่ะ นายคิดว่ากฎหมายกับประเทศจะมีประโยชน์อะไร?”

“มันก็มีประโยชน์เมื่อนายได้รับขีปนาวุธที่นายสามารถหลีกเลี่ยงได้ง่ายๆ แต่ในเวลานี้กฎหมายกับประเทศก็ไม่จำเป็นเลยสักนิด!”

"พวกเขากลัวนาย!"

และเมื่อพูดถึงสถานการณ์ปัจจุบันของดาวนายนะ นายรู้ไหมว่ามีกี่คน มีกี่ชีวิตที่พึ่งกฎหมาย? ไม่มีพวกขุนนางจริงๆคนไหนที่เชื่อฟังกฎหมายเลยเพราะพวกเขาเป็นคนตั้งกฎหมายขึ้นมาเองไง!”

“มันก็เหมือนผีในคฤหาสน์ยินเคาไดแหละ ถ้าผีพวกนั้นละเมิดกฎหมายในโลกของนาย จะมีคนธรรมดากี่คนในโลกนายกันที่ทำอะไรพวกเขาได้ล่ะ?”

“ประสทธิผลของการต่อสู้เป็นรากฐานของทุกสิ่ง!”

คำอธิบายของสตาร์วอร์สทำให้หนิงเทียนหลินรู้สึกถึงหลักจรรยาบรรณที่เขาปฏิบัติตามมาหลายปีที่อยู่ดีๆก็มีช่องโหว่ ถึงแม้ว่ามันจะยังไม่พังทลายแต่เมื่อมันเกิดช่องโหว่มันก็เสี่ยงที่จะพังได้เหมือนกัน

"ขอฉันคิดเรื่องนี้อีกทีนะ"

ในเวลานี้เป็นอีกครั้งที่สตาร์วอร์สสร้างความประหลาดใจให้กับหนิงเทียนหลิน ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบอะไรก็เกิดจอภาพระเบิดขึ้นมาในจิตใจเขา