บทที่ 10: การช่วยเหลือเพื่อเงิน 100 หยวน
ระบบการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่อยู่ยงคงกระพัน (ICSS)
บทที่ 10: การช่วยเหลือเพื่อเงิน 100 หยวน
“ทำไมยังไม่มีใครมาอีก? นี่มันวันที่ 3 แล้วนะ!”
“เป็นเพราะเงินยังไม่ได้ถูกรับไปหรือคนเดี๋ยวนี้เก็บแต่เงินแล้วไม่ทำอะไรเลยหรือเปล่า?”
เมืองจินหยวน
ชานเมือง
ในตึก 6 ชั้นที่ทรุดโทรม
แสงไฟถูกหรี่ลงจนมืดมิด
สาวสวยอายุประมาณ 17 หรือ 18 ปี มัดผมหางม้าและสวมชุดออกกำลังกาย ทาแป้งสีชมพู ตั้งแต่หัวจรดเท้าเธอเต็มไปด้วยความสดใสอ่อนเยาว์ แต่ในเวลานี้คิ้วของเธอขมวดเข้ม กำลังยืนพิงมุมโต๊ะ สีหน้าของเธอแสดงถึงความหมดหนทาง
ถึงแม้ใบหน้าของเธอจะซีดและโทรมไปหน่อย
ในมือของเธอถือธนบัตร 100 หยวนอยู่ ถึงแม้มันไม่ควรที่จะมี แต่ถ้ามองดีๆ คุณจะเห็นว่าที่ธนบัตรมีตัวอักษรเขียนอยู่ทั้งด้านหน้าและด้านหลังว่า “ชั้น 6, ระวัง ช่วยด้วยฉันด้วย, หลินเจียหยี่!”
นอกจากนี้ คำพวกนี้ยังเขียนด้วยสีแดงและมีกลิ่นแปลกๆ ที่โครตเหม็น! เห็นได้ชัดว่ามันถูกเขียนด้วยเลือด!
“นี่เป็นธนบัตรใบสุดท้ายของฉัน”
“จะสำเร็จหรือล้มเหลว มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้”
ใบหน้าของเด็กสาวซีดเซียวและนิ้วชี้ของเธอมีร่องรอยของแผลสดๆ แสดงว่าเธอกัดนิ้วตัวเอง เห็นได้ชัดว่าคำต่างๆ บนธนบัตรถูกเขียนด้วยเลือดที่มือของเธอ
ในเวลานี้แววตาของเธออ่อนแรงลงและเธอไม่รู้ว่าถ้าโยนธนบัตรใบสุดท้ายลงไปแล้วจะมีใครมาช่วยหรือเปล่า...
เมื่อคิดแล้ว เธอก็ค่อยๆเดินไปที่หน้าต่างแล้วโยนธนบัตร 100 หยวนใบสุดท้ายผ่านช่องหน้าต่างไป ทันใดนั้นธนบัตรก็ปลิวหายไปอย่างไร้ร่องรอยภายใต้แรงลม
เธอชื่อหลินเจียหยี่ เธอเป็นลูกสาวของนักธุรกิจผู้ร่ำรวยในเมืองจินหยวน เธอมีนิสัยที่ชอบออกมาวิ่งในตอนกลางคืน
เมื่อ 3 วันก่อน ตอนที่เธอออกมาวิ่งตอนกลางคืนในบริเวณชุมชน เธอก็ถูกชาย 9 คนจับขึ้นรถแล้วเอามาขังไว้ที่นี่
ถึงแม้ 3 วันมานี้เธอไม่ได้ถูกจับมัดและมีคนมาส่งอาหารให้เธอตามเวลาก็ตาม เธอก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมพวกนั้นถึงจับเธอมาที่นี่ แต่เธอก็ยังไม่อยากหนีออกไปเพราะพวกที่จับเธอมามี 2 วัตถุประสงค์
หนึ่ง คือใช้เธอเพื่อข่มขู่พ่อของเธอเพื่อให้เขายอมตกลงในเรื่องอะไรซักอย่าง!
และอีกเรื่องคือเพื่อขอเงิน โดยใช้เธอเพื่อเรียกค่าไถ่ก้อนใหญ่จากพ่อ!
ไม่ว่าจะข้อไหน เธอก็ไม่อยากที่จะให้เป็นทั้งนั้น!
เธอรักพ่อมาก และรู้ว่ามันไม่ง่ายเลยที่พ่อเธอจะทำให้ที่นี่กลายเป็นบ้าน ถึงแม้เธอจะหน้าตาดีและมีสิทธิที่จะมีเงิน เธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองเสียเลือดหรือทรมานมากแค่ไหน
เธอไม่อยากที่จะรบกวนพ่อในเรื่องของตัวเอง
มันก็ช่วยไม่ได้นี่นะ! อย่างน้อยตอนนี้ก็บอกให้คนรู้ก่อนว่าเธออยู่ที่ไหน!
ดังนั้นการโปรยเงินเป็นทางเดียวที่หลินเจียหยี่จะทำได้! ในการบอกให้คนรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ในตึกนี้ที่ชั้น 6! เพราะยังไงถ้าเป็นกระดาษธรรมดาคนก็คงจะไม่หยิบแต่ถ้าเป็นเงินมันก็อีกเรื่องเลย ซึ่งถึงแม้จะเป็นแค่ 10 หยวนคนก็ยังหยิบขึ้นมาอยู่ดีโดยไม่มีเงื่อนไข
อย่างไรก็ตาม เพราะเธอออกมาวิ่งออกกำลังกายก็เลยไม่ได้พกเงินมามากนัก ก็แค่ติดตัวมา 500 หยวนเหมือนปกติ หรือแม้แต่โทรศัพท์เธอก็ไม่ได้พกมาด้วย
ธนบัตร 100 เป็นความหวังสุดท้ายเดียวของเธอ เพราะอีก 4 ใบก่อนหน้านี้ไม่ได้ผลอะไรเท่าไร
“พระผู้เป็นเจ้า...”
“ขอให้ลูกได้อยู่อย่างสงบ...”
หลินเจียหยี่กุมมือไว้ที่หน้าอก เงยหน้ามองขึ้นฟ้าและพูดกับตัวเองด้วยความหวัง
อีกอย่าง เธอเพิ่งจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จและผลก็เพิ่งจะประกาศ ในอีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันเริ่มเรียนแล้ว ถึงแม้มันจะไม่ใช่มหาวิทยาลัยที่ดีนัก มันก็แค่มหาวิทยาลัยธรรมดาๆในปักกิ่ง แต่เธอก็หวังที่จะได้เข้าไปเรียน ได้ใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย
มีคนพูดไว้ว่ามหาวิทยาลัยเป็นช่วงที่ไร้ความกังวลที่สุด
เธอ หลินเจียหยี่ ไม่อยากที่จะสูญเสียมันไป!
งั้นเธอจะต้องหนีจากที่นี่ให้ได้! เพราะสิ่งที่คนพวกนี้ทำกับเธอ เธอรู้สึกว่ามันโหดร้ายและไม่เหมือนคนปกติ แม้แต่คนที่มีรอยแผลเป็นที่หน้า ซึ่งรอยแผลเริ่มตั้งแต่ที่คิ้วแล้วเฉียงไปจนถึงปาก! หรือแม้แต่เนื้อที่จมูกก็ดูแปลกๆ!
ความรู้สึกที่คนพวกนี้มอบให้กับเธอ ทำให้เธอรู้ว่าพวกเขาไม่ใช่คนดีแน่ๆ และลมหายใจที่รดตัวเธอก็โหดร้ายมากๆ! ถ้าพ่อเธอทำให้คนพวกนี้พอใจไม่ได้ เธอ หลินเจียหยี่ จะต้องทรมานอย่างหนักหรือไม่ก็ถึงกับตายแน่ๆ!
“หัวหน้า เป็นไงบ้าง หลินว่าไง!”
ในเวลาเดียวกัน ชาย 5 คนก็รวมกันเข้ามาในห้องข้างๆที่หลินเจียหยี่ถูกขังอยู่ แต่ละคนยืนตรง ตัวสูงและดูโหดร้าย และแม้แต่คนที่นั่งเล่นมีดอยู่ในมือก็เช่นกัน
เมื่อได้เห็นชายคนกลางวางหูจากโทรศัพท์ คนที่เหลือก็หันไปจ้องที่เขาแทน
ชายที่มีแผลเป็นที่หน้า สวมเสื้อกั๊กสีดำ และหัวล้าน เอ่ยปากถาม
“มันบอกขอเวลาอีก 2 วัน!”
“เงินสด 100 ล้านมันเยอะเกินไป มันขอเวลาเตรียมหน่อย”
ชายคนที่พูดอยู่ประมาณวัยกลางคนสวมชุดสูท ผมสั้นและดูเย็นชา แม้แต่สายตาก็ยังดูเย็นชา แต่เมื่อพิจารณาจากท่าทางแล้ว แค่การที่เขาส่วมแว่นก็คงไม่มีใครคิดว่าเขาอ่อนแอแน่ๆ
กล้ามเนื้อภายใต้ชุดสูทเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างดี
“แค่นี้หรอ?”
“เขาขอเวลาเพื่อเตรียมเงินงั้นเหรอ?”
“ให้เวลามัน 3 วัน! มันจะเตรียมอะไรเพิ่มได้อีก? ฉันไม่เชื่อหรอกว่าบริษัทใหญ่แบบนั้นจะหาเงินสด 100 ล้านมาไม่ได้!”
เห็นได้ชัดว่าชายที่มีแผลเป็นบนหน้าเป็นคนอารมณ์ร้อน และความโมโหในทันที ใบหน้าเขาก็แข็งกร่าวขึ้น “ฉันคิดว่าก็เรื่องเดิมๆนั้นแหละ ไม่เห็นโรงศพไม่หลั่งน้ำตา! ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้เลย! ไปตัดหูลูกสาวมันแล้วส่งไปให้มันดู!”
“ฉันไม่เชื่อหรอกว่ามันจะยังนิ่งได้ถ้าได้เห็นหูของลูกสาวตัวเอง!”
ชายหน้าบากพูดพร้อมทั้งดึงมีดออกมาจากเข็มขัด และกำลังจะเดินออกไปห้องข้างๆ
“ใช่!”
“เอาเลย!”
“ฉันคิดว่ามันไม่หลั่งน้ำตาหรอกจนกว่าจะได้เห็นโรงศพ!”
ในเวลาเดียวกันนั้นก็มีคนหรือ 2 คนเริ่มที่จะพูดตามกันขึ้นมา
“พอได้แล้ว!”
“มีปัญหาอะไรนักหนาหะ?” ชายวัยกลางคนตะโกนขึ้นมาแล้วพูดกันชายหน้าบากที่เดินมาถึงประตู “หยุดซะ!”
“เราแค่เรียกค่าไถ่ ไม่ได้จะทำร้ายใคร!”
“ก่อนที่จะทำเรื่องนี้ ฉันบอกแล้วไงว่าไอ้หมอนี่มันรวยแต่เงินถูกนำไปลงทุนในโครงการอื่นๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์แล้ว มันก็เป็นเรื่องปกติที่จะขาดสภาพคล่อง และเงิน 100 ล้านก็ไม่ใช่เงินน้อยๆ นะ!”
“แล้วไง?”
“ฉันเพิ่งจะพูดไปนายลืมไปแล้วหรอหะ?”
ขณะกำลังพูด เขาก็มองไปรอบๆห้องด้วยดวงตาเบิกกว้าง จนไม่มีใครกล้าที่จะพูดตอบกลับมา แค่เพียงเขาหันไปมองคนอื่นๆก็ก้มหัวกันหมดแม้แต่ชายหน้าบากก็ก้มหน้าเพราะไม่กล้าที่จะมองไปที่เขา
“1 วัน!”
“ฉันให้เวลามันอีกวันเดียว แล้วถ้ายังไม่ได้เงิน ลูกสาวมันก็เป็นหน้าที่ของนายได้เลย!”
“หรืออย่างน้อยก็ส่งแขนข้างหนึ่งไปให้มัน!” ชายวันกลางคนพูดอย่างเลือดเย็น
อันที่จริงเขาเองก็ค่อนข้างกังวล เขาวางแผนว่าจะใช้เวลา 3 วันในการถอนเงิน ทีนี้ถ้าเขารออีกวัน เขาก็จะต้องเสี่ยงเพิ่มไปอีก 1 วัน ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากจะเสี่ยง อย่างไรก็ตามเขาก็เข้าใจความจริงเรื่องการอดเปรี้ยวไว้กินหวานและการทำตามลูกน้องอย่างไม่ลืมหูลืมตาก็จะทำให้ยากที่จะควบคุมทีม!
เขาเลยรับปากกับลูกน้องไปกว่าอีกวันเดียว ถ้าไม่ได้เงินมา มันจะต้องเจ็บหนักแน่!