ตอนที่แล้วGE353 ไสหัวไป [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE355 สังหารหลิวเฉวียน [ฟรี]

GE354 ซัวหมิงผู้ไม่อาจยั่วยุ [ฟรี]


หนิงฝานแบกเกาะกู่ซูตามล่าหลั่วเซิน แววตาหนิงฝานสงบ แต่ละย่างก้าวแฝงไปด้วยพลัง แม้การทะลวงข่ายอาคมของนิกายอักขระม่วงจะทำให้สั่วถงตกตะลึง แต่หนิงฝานไม่สนใจ

มีเหตุผลร้อยแปดที่ผู้คนจะไม่ย่างกรายเข้าอาณาเขตของนิกายอักขระม่วง แต่หนิงฝานไม่สนใจ

การที่จะทำให้นิกายอักขระม่วงยอมก้มหัวให้นั้นมีเพียงเหตุผลเดียว นั่นคือคนผู้นั้นต้องแข็งแกร่งจนนิกายอักขระม่วงไม่กล้ายั่วยุ

หนิงฝานอยากให้นิกายอักขระม่วง และขุมกำลังอื่นๆรู้ว่าเขากลับมาแล้ว และอยากให้ทุกคนได้รู้ว่าห้ามยั่วยุ!

ลั่วเซินตั้งใจหนีไปยังขุมกำลังต่างๆ เพื่อที่จะให้ขุมกำลังเหล่านั้นช่วยหยุดหนิงฝาน

หนิงฝานไม่ได้เร่งความเร็วเพื่อให้ตามลั่วเซินทัน เขาจงใจไล่ไปตามเส้นทางที่มันนำไป ผ่านเกาะน้อยใหญ่มากมาย

แต่ในเมื่อนิกายอักขระม่วงยังไม่กล้าหยุดหนิงฝาน เหตุใดขุมกำลังอื่นๆจะกล้าหยุด

เกาะราชาวิหค หรือขุมกำลังบางแห่งที่เป็นขุมกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลส่วนนอกก็ยังไม่กล้า

เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังของขุมกำลังบางแห่ง ถูกหนิงฝานสังหารตายที่สุสานของนิกายกระถางขัดเกลา ทำให้ขุมกำลังเหล่านั้นถูกลดระดับความแข่งแกร่งลง หนึ่งในนั้นคือตระกูลเซียง

ภายในโถกหลักของตระกูลเซียง ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ 7 คนนั่งพูดคุย รวมถึงผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างชายชราที่อยู่ในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น ผู้เชี่ยวชาญที่เหลืออยู่นี้ คือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลแล้ว

ชายชราที่อยู่ในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มนั้น ทะลวงขอบเขตด้วยวิชาลับ แม้ระดับจะกลายเป็นขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม แต่ไม่อาจสู้กับผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มทั่วไปได้

เรื่องที่คนเหล่านี้พูดคุยคือ จะเข้าร่วมกับสมาพันธ์สังหารหมิงดีหรือเปล่า เพราะพวกมันแค้นซัวหมิงมาก

หากพวกมันเข้าร่วมและสังหารซัวหมิงได้ ตระกูลของพวกมันอาจยกระดับ กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง

“ท่านผู้นำ ข้าได้ยินข่าวว่าซัวหมิงกลับมาแล้ว ยามนี้สมาพันธ์สังหารหมิงสมควรเตรียมลงมือ หากพวกเราเข้าร่วม พวกเราจะได้รับกาสนับสนุนและกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง… เหตุใดท่านยังลังเลอยู่?” ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสูงคนหนึ่งป้องมือกล่าวอย่างมั่นใจ  ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นพยักหน้าเห็นด้วย

“อาจไม่ใช่อย่างที่พวกเจ้าคิด!” ชายชราในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มลืมตาช้า สีหน้าดูเหนื่อยอ่อนตามอายุ

ชายชราคนนี้คือผู้นำตระกูลคนใหม่ และเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูล

“เพราะเหตุใด? เรื่องจัดการซัวหมิงนับเป็นเรื่องสำคัญ หรือท่านไม่อยากให้ตระกูลเซียงของเราฟื้นฟูแล้ว?”

ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคนหนึ่งกล่าวถาม

หากเข้าร่วมกับสมาพันธ์สังหารหมิง ตระกูลเซียงจะตกอยู่ใต้อาณัติของสมาพันธ์ แทกกับการได้รับการสนับสนุน ผู้นำตระกูลเซียงไม่อยากให้ตระกูงตกอยู่ใต้อาณัติใคร

“น่าขัน! ข้าไม่ได้สนใจเรื่องยศอย่างหรืออะไรทั้งนั้น! เหตุที่ข้าไม่เข้าร่วมมาพันธ์สังหารหมิงเป็นเพราะข้ากลัว… ยามนี้ซัวหมิงบรรลุขอบเขตตัดวิญญาณแล้ว บางที สมาพันธ์อาจล้มซัวหมิงไม่ได้… ข้าไม่อยากให้ตระกูลถูกทำลาย ไม่อยากเสียงสายเลือกของตระกูลเราไป ฉะนั้นเราจะเป็นศัตรูกับซัวหมิงไม่ได้”

ชายชราหวาดกลัวกับสิ่งที่ตนเองเคยประสบมา

เหล่าผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขบคิดกับคำกล่าวของชายชรา เพราะยังไม่เคยมีผู้ใดเห็นซัวหมิงจริงๆมาก่อน

ในอดีต ผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังของตระกูลเซียงถูกซัวหมิงสังหารตายไม่เหลือ

“ขนาดอยู่ขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม ในทะเลส่วนนอกเราก็ไม่มีใครสู้ซัวหมิงได้แล้ว แต่ตอนนี้มันบรรลุตัดวิญญาณ เราจึงไม่อาจยุ่งเกี่ยวกับมันได้”

“ถึงมันจะบรรลุตัดวิญญาณ แต่หากเราเข้าร่วมสมาพันธ์สังหารหมิง...”

ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำพยายามจะทำให้ชายชราเข้าร่วมสมาพันธ์ให้ได้ แต่ในชั่วพริบตานั้น เกาะที่ตระกูลเซียงอยู่กลับสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ราวกับมันสัตว์อสูรยักษ์วิ่งผ่าน

ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดเร่งออกมาสังเกตุการณ์ แต่ทันทีที่พวกมัน กลับสีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง

คลื่นยักษ์ราวกับจะกลืนกินเกาะได้ทั้งเกาะปรากฏ เงาร่างขนาดยักษ์พาดผ่านเกาะ หากเป็นอสูรแก่นทองคำทั่วไป หากมันชกเข้ากับเกาะ จะเกิดแรงสั่นสะเทือนเพียงเล็กน้อย แต่หากเป็นอสูรดวงจิตแรกเริ่ม เกาะจะสั่นสะเทือนอยู่บ้างแต่ไม่นานก็สงบ

แต่ยามนี้ แรงสั่นสะเทือนที่ไม่เคยประสบมาก่อน ทั้งเกาะที่ถูกเหยียบราวกับจะแยกเป็นสองส่วน

ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 8 กวาดตามองโดยรอบ ก่อนที่พวกมันจะพบกับภาพที่ไม่อาจลืมไปตลอดชีวิต

พวกมันเห็นยักษ์สวมเกราะม่วงสูงสามพันจ้าง บนไหล่แบกเกาะขนาดใหญ่กำลังวิ่งไปบนเกาะ

แรงเหยียบของยักษ์ตนนั้นน่าสะพรึงกลัว แม้จะเพียงก้าวเดียวก็มากพอที่จะทำให้เกาะแยกเป็นสองส่วนได้

“ยักษ์! ใครกัน แค่เท้าเดียวก็เกือบจะทำลายเกาะได้… น่ากลัวมาก!” ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสูงกล่าว ถ้าเกิดยักษนั่นคิดจะทำลายตระกูลเซียงขึ้นมา คงไม่มีใครต้านทานได้

“นั่นซัวหมิง! เห็นแบบนั้นแล้วเจ้ายังเจ้าเข้าร่วมสมาพันธ์อีกหรือเปล่า?” ชายชราสูดหายใจลึกพลางกล่าว

เมื่อครู่ยักษ์ตนนั้นจ้องมองชายชรา ชายชรารู้สึกราวกับถูกกระบี่กรีดเฉือนจนดวงจิตแทบจะถูกทำลาย

แม้ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณจะสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มได้ในพริบตา แต่ไม่อาจทำให้ดวงจิตแทบจะถูกทำลายได้แค่ด้วยการจ้องมอง

ชายชราไม่รู้ว่าซัวหมิงจะแข็งแกร่งกว่าผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณทั่วไปมากขนาดไหน

“เป็นไปไม่ได้ ต่อให้เป็นประมุขแห่งเกาะหยิงซัวก็ไม่อยากกลายร่างเป็นยักษ์ที่ใหญ่ได้ขนาดนี้!” ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำกวากลัว แต่ถือว่าพวกมันโชคดีที่ยักษ์ตนนั้นแค่ผ่านพวกมันไป ไม่ได้สังหารผู้ใด

“พวกเจ้าทั้งหมดรู้แล้วใช่มั้ยว่าจะยั่วยุซัวหมิงไม่ได้… ข้ารู้ว่าพวกเจ้าแอบเข้าร่วมสมาพันธ์แล้ว แต่ข้าขอเตือนเอาไว้ หากเจ้าดึงให้ตระกูลเราไปเกี่ยวข้องกับภัยพิบัติอีก ข้าจะฆ่าเจ้าทิ้งซะ!”

แววตาชายชราแปรเปลี่ยนเย็นชา หากใครยั่วยุซัวหมิง ชายชราไม่ปล่อยเอาไว้แน่

ยามนี้ตระกูลเซียงนับว่าถึงจุดที่ตกต่ำที่สุด ชายชราจึงตั้งมั่น จะไม่ให้ตระกูลต้องถูกทำลายด้วยน้ำมือของตน

ณ ทะเลที่มีน้ำทะเลเป็นสีดำ มีเกาะรกร้างแห่งหนึ่ง ภายในเกาะมีสำนักเมฆาตั้งอยู่ ประมุขนิกายมีนามว่าหวั๋งเหิ่ง

หวั๋งเหิ่งคือผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นต้น และติดอยู่ที่ขั้นนี้มานานถึง 30 ปีแล้ว

แม้พรสวรรค์ของคนผู้นี้ไม่ได้สูงสุดนัก แต่ก็ถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีพรสวรรค์ แต่ผ่านมา 30 ปีแล้วที่ยังอาจทะลวงขอบเขตแก่นทองคำขั้นกลางได้ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่หวั๋งเหิ่งมีโอกาสได้ผลไม้แห่งเต๋าแก่นทองคำมา เพื่อกินเข้า ปราณยกระดับจนเกือบถึงแก่นทองคำขั้นสูง แต่เหตุที่มันไม่อาจทะลวงระดับได้ เป็นเพราะมันมีบางสิ่งที่ติดอยู่ในใจ

ในอดีต ซัวหมิงเคยสังหารผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มของวังผนึกอสูรที่นี่ เพื่อปกป้องชู่ซวนเชียนสื่อ

ภาพเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้หวั๋งเหิ่งหวาดกลัวมาจึงถึงปัจจุบัน

“ท่านซัวหมิง ท่านเคยกล่าว่าจะสังหารก็ต่อเมื่อพบผู้ที่สังหาร แต่ในอดีต ท่านสังหารคนของวังผนึกอสูรที่เกาะข้า ที่ผ่านมา จึงมีคนของวังผนึกอสูรมาที่นี่หลายครั้ง”

“หากไม่เพราะข้าบอกกล่าวไปว่าข้าไม่เกี่ยวข้องกับท่าน และยอมจ่ายหยกสวรรค์ไปมากมาย ป่านนี้ข้าคงตาย… สำนักของข้าคงถูกทำลาย...”

“ท่านซัวหมิง ยามนี้ท่านคือผู้เชี่ยวชาญอันดับหนึ่งของทะเลไร้สิ้นสุด… ข้าเฝ้ากังวลอยู่ทุกยามว่าพวกมันจะคิดว่าข้าเกี่ยวข้องกับท่าน จนข้าอาจต้องสูญเสียทุกสิ่ง”

หวั๋งเซิ่นกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองพลางถอนหายใจ แต่ในขณะที่มันพร่ำเพ้ออยู่นั้น เกาะของมันกลับสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

“ท่านจ้าวสำนัก เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว!” ศิษย์สำนักของหวั๋งเซิ่นเข้ามาแจ้ง

“มีเรื่องสำคัญอะไรกัน! ผู้เชี่ยวชาญในสำนักอยากได้อะไรอีก?”

หวั๋งเหิ่งไม่กล้าออกไปนอกโถงหลังสำนัก มันรู้ว่ายักษ์สูง 3 พันจ้างกำลังวิ่งผ่านมายังเกาะของมัน ยามนี้ มันกลัวจนฉี่แทบราด

“ยักษ์นั่น… ถึงจะไม่รู้ว่ามีพลังระดับไหน แต่กลิ่นอายนั่นไม่ผิดแน่… ซัวหมิง!”

หวั๋งเหิ่งพยายามสงบอารมณ์เมื่ออยู่ต่อหน้าศิษย์สำนัก ทั้งๆที่มันหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

“ผู้อาวุโสซัว เหตุใดท่านมักข่มเหงคนที่อ่อนแออย่างข้า หากท่านมาที่นี่ พวกนั้นก็จะคิดว่าข้าเกี่ยวข้องกับท่าน...”

“ยามนี้ สมาพันธ์สังหารหมิงกำลังหมายตาท่าน ข้าไม่อยากเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย!”

“หากเรื่องราวผันผ่าน ข้าจะออกไปช่วยท่านทำลายซากศพไม่ให้เหลือแม้แต่ร่องรอย ข้ากล้ากล่าวว่าข้าจะไม่ทรยศท่าน แต่ข้าก็ร่วมมือกับท่านไม่ได้เช่นกัน!” หวั๋งเหิ่งกล่าวในใจพลางจ้องมองยักษ์ที่วิ่งข้ามเกาะไป

แต่จู่ๆยักษ์ตนนั้นกลับชงักฝีเท้าราวกับได้ยินสิ่งที่มันคิด ยักษ์ตนนั้นราวกับนึกถึงบางสิ่ง จ้องมองหวั๋งเหิ่งครู่หนึ่ง ก่อนจะทะยานจากไปพร้อมกับทิ้งคำกล่าวไว้

“ได้พานพบสหายเก่านับว่าโชคดี หวังว่าพลังนี้จะช่วยเหลือเจ้าได้!”

เส้นแสงสีดำตรงเข้าร่างหวั๋งเหิ่ง มันสั่นสะท้านไปทั่วร่าง สิ่งที่หวาดกลัวและค้างใคในใจหายไป ปราณจำนวนมากที่อัดแน่นในร่างทะลวงจุดตีบตัน!

หวั๋งเหิ่งตกตะลึง ซัวหมิงเพียงจ้องมอง ก็ช่วยให้มันทะลวงจุดตีบตันได้

“ตำนานกล่าวขาน มีเพียงผู้ที่มีสัมผัสแห่งพลังไร้ลักษณ์ จึงจะสามารถในพลังไร้ลักษณ์ในการทะลวงจุดตีบตับของเส้นลมปราณได้… หรือผู้อาวุโสหมิงจะเป็นผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง ถึงมีสัมผัสแห่งพลังไร้ลักษณ์?”

แม้หวั๋งเหิ่งจะตกตะลึง แต่ดูเหมือนการที่มันออกมาแอบดูจะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง

ผู้อาวุโสซัวหมิงทรงพลังมาก!

“โชคดีจริงๆที่ได้รู้จักกับผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง!”

ยามนี้ ความกล้าของหวั๋งเหิ่งเพิ่มพูน แม้เรื่องที่มันเกี่ยวพันกับซัวหมิงแพร่ออกไป มันก็ไม่กลัว

ยามนี้สิ่งมันต้องเร่งทำคือ เก็บตัวเพื่อทะลวงขอบเขตแก่นทองคำขั้นสูง...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด