ตอนที่แล้วตอนที่ 10 ชนชั้นสูงแห่งแอดเรี่ยน พาร์ท 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 12 ชนชั้นสูงคนใหม่แห่งสไตน์เบ็ค ไฟต์ พาร์ท 2

ตอนที่ 11 ชนชั้นสูงคนใหม่แห่งสไตน์เบ็ค ไฟต์ พาร์ท 1


ณ ทางตอนใต้ของทวีปซีเหมิงซี่

ระหว่างการเดินทางไปยังสไตน์เบ็ค ไฟต์ กลุ่มของไคลด์เผชิญเข้ากับกลุ่มโจรที่เข้ามาโจมตี กลุ่มการเดินทางของไคลด์ประกอบไปด้วยชายหนึ่งหญิงสองจึงทำให้กลุ่มโจรตัดสินใจอย่างง่ายดายที่จะปล้นพวกเขา กลุ่มการเดินทางของไคลด์ไม่มีทุนพอที่จะจ้างเหล่าผู้คุ้มกันในการเดินทาง หากเหล่าโจรพวกนี้รู้ว่าเป็นรถม้าของชนชั้นสูงพวกเขาอาจจะคิดทบทวนก่อนการโจมตีก็เป็นได้

เจ้าหญิงเซราสหลบหลังลูซิเฟอร์ภายในรถม้าก่อนที่ไคลด์จะค่อยๆ ลงจากรถม้า เขามองไปรอบๆ เพื่อประเมินสถานการณ์ของกลุ่มโจรที่ล้อมรอบเขาไว้ กลุ่มโจรมีราวสิบคนพวกเขาใช้อาวุธชนิดเดียวกับที่ทหารในเมืองอาวน์เลสใช้ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะสามารถดักปล้นนักเดินทางได้หลายคนในก่อนหน้านี้

‘’พวกเราไม่มีเงินกันหรอกนะ ใช่แหละที่พวกเรามีผู้หญิง แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอกจริงไหมที่ฉันจะยกให้พวกนาย พวกเราเป็นเจ้าเมืองไปสไตน์เบ็ค พวกนายคงไม่อยากปล้นพวกเราหรอกนะ’’

‘’เจ้าเมือง? นายเห็นว่าพวกฉันโง่งั้นหรอ? เจ้าเมืองแบบไหนกันที่ไม่มีผู้คุ้มกันแม้แต่คนเดียว เมืองสไตน์เบ็ค ไฟต์ ไม่มีเจ้าเมืองมานานแล้ว นาย...’’

ไคลด์รู้สึกไม่อยากพูดคุยกับโจรเหล่านี้ให้เสียเวลาอีก เขากระทืบเท้าเบาๆ บนพื้น ก่อนที่จะมีหนวดดำหลายสิบหนวดพุ่งขึ้นจากพื้นดินสังหารสมาชิกกลุ่มโจรตายทันที พวกเขาเอาชีวิตมาทิ้งแบบสูญเปล่า เขาจัดการศพด้วยหนวดดำหลายสิบเส้นเหลือทิ้งไว้เพียงรอยเลือดบนถนนเท่านั้น

ระหว่างทางไปสไตน์เบ็ค ไฟต์ กลุ่มของไคลด์ยังเจอกับกลุ่มโจรที่มาดักปล้นพวกเขากว่า 10 กลุ่ม แต่ละกลุ่มโจรมีสมาชิกร่วม 100 คน น่าสงสารที่พวกเขาพบชตากรรมเดียวกันทั้งหมด หนวดสีดำลึกลับส่งพวกเขาไปสู่ความตายเหลือทิ้งไว้เพียงของเหลวสีแดง เจ้าหญิงเซราสผู้อยู่ในรถม้าไม่เห็นฉากสยดสยองเหล่านี้ เธอถูกลูซิเฟอร์ปิดตาเอาไว้ในช่วงเวลานั้น แต่เธอยังคงได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างทุกข์ทรมาน เสียงเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ

ในการเดินทางของพวกเขาตอนนี้ยิ่งใกล้ถึงเมืองเท่าไหร่ทำให้พวกเขาเจอกลุ่มโจรดักปล้นน้อยลงเท่านั้น การจัดการกับเหล่าโจรเองก็เป็นงานส่วนหนึ่งของชนชั้นสูงผู้ปกครองเมือง ไคลด์กำลังทำในสิ่งที่ตัวเองเป็นในอนาคต สิ่งเดียวที่ทำให้ไคลด์ไม่พอใจคือโจรเหล่านี้จนไม่ต่างจากพวกเขา ไคลด์ไม่ได้เงินสักเหรียญเดียวจากศพของกลุ่มโจร ไคลด์ใช้หนวดดำโจมตีทำให้ชุดเกราะ และอาวุธของพวกเขาถูกทำลายไปด้วย จึงทำให้การจัดการกับเหล่าร้ายของเขาไม่ได้ผลตอบแทนใดๆ

‘’เกิดอะไรขึ้นกับสะพาน? สะพานพังไปแล้วหรอ’’

‘’พี่ไคลด์ ดูเหมือนว่าสะพานจะใช้การไม่ได้มานานแล้วนะ คงจะตั้งแต่มีชนชั้นสูงปกครองเมืองรุ่นก่อนเลย ฉันคิดว่างั้นนะ’’

ในที่สุดกลุ่มของไคลด์ก็ถึงชายแดนเมืองสไตน์เบ็ค ไฟต์ แต่พวกเขากำลังเผชิญกับปัญหาใหม่ สะพานสำหรับการข้ามแม่น้ำไปยังเมืองพังทลายไปแล้ว แม่น้ำลอว์เรนไกลกว่าที่จะเดินลุยข้ามไปได้ ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงหาเรือข้ามฝั่ง จากการคำนวณของเจ้าหญิงเซราสการซ่อมแซมสะพานนี้อาจต้องใช้เงินมูลค่าสูงถึง 500 เหรียญทอง

ในต่างโลกนี้การที่พวกเขาได้เงิน 10 เหรียญทองเปรียบเหมือนกับการได้รางวัลแจ็คพอต การที่พวกเขาต้องใช้เงินถึง 500 เหรียญทองในการซ่อมสะพาน และใช้เงินอีกนับไม่ถ้วนในการซ่อมบำรุงเมือง ด้วยสาเหตุนี้เหล่านี้อาจทำให้พวกเขายกเว้นส่วยที่ต้องส่งให้อาณาจักรแอดเรี่ยนได้ 1 ปี แต่ถึงอย่างงั้นพวกเขาใช้เวลา 5 ปี ก็ไม่สามารถซ่อมบำรุงดินแดนแห่งนี้ให้กลับมาเป็นปกติได้

‘’ลูซิเฟอร์ นั่นต้องไม่ใช่เธอแน่...’’

‘’พี่ใหญ่ไคลด์ อากาศวันนี้ดีจัง’’

เมื่อลูซิเฟอร์ได้ยินคำถามของไคลด์ทำให้เธอเผลอยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกผิด เธอกระโดดลงมาจากรถม้าก่อนทำท่ายืดเส้นยืดสายกลบเกลื่อนอาการเขิน เจ้าหญิงเซราสเดินลงจากรถม้าตามลูซิเฟอร์มาด้วยเช่นกัน เธอมองแม่น้ำลอว์เรนก่อนจะคิดถึงความยาวของแม่น้ำ เธอสั่นหัวไปมาในขณะใช้ความคิด แม่น้ำลอว์เรนทอดยาวจนไปถึงอาณาจักรของพันธมิตรวิคเตอร์การที่พวกเขาจะเดินทางอ้อมไปจะทำให้พวกเขาต้องเจอกับหนทางอันแสนยาวไกล แต่ถ้าพวกเขาจะข้ามสะพานก็ต้องใช้เงินเช่นกัน

ตอนนี้ถ้าพวกเขาจะสร้างสะพานจะต้องรับงานจากอาณาจักรต่างๆ หรือไม่ก็ต้องหาเงินสนับสนุนจากอาณาจักรอื่นๆ ทั้งสองตัวเลือกเป็นตัวเลือกที่น่าอายทั้งหมด การที่ชนชั้นสูงผู้ปกครองเมืองจะไปทำงานให้กับผู้อื่นเป็นเรื่องน่าอาย ถึงต่อให้ทำงานให้ก็ไม่รู้ว่าจะใช้เวลาเท่าไรถึงจะเก็บเงินครบ 500 เหรียญทอง แต่การที่ขอให้อาณาจักรอื่นสนับสนุนพวกเขาพวกเขาจะต้องมีชื่อเสียงหรือประโยชน์ทางการเมืองให้กับอาณาจักรที่สนับสนุนเป็นการตอบแทน

เป็นครั้งแรกที่เขาจนปัญญา การที่เขามีร่างกายเป็นหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่แต่ก็ไม่ทำให้เขาสามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ ความสามารถของผู้ยิ่งใหญ่นั่นมีแต่การทำลาย ไม่ใช่การสร้างสรรค์ ลูซิเฟอร์ก็มีความสามารถเช่นเดียวกัน เธอไม่มีความสามารถที่จะสามารถซ่อมแซมสะพานได้เลย ไคลด์ไม่มีเวทย์มนตร์ที่ใช้ในการบิน ในตอนนี้พวกเขาคงทำได้แค่ต้องเปลี่ยนเส้นทางที่ใช้เป็นการเดินทางอ้อมแม่น้ำแทน

นอกจากอาณาจักรแอดเรี่ยนแล้วเพื่อนบ้านอาณาจักรอื่นๆ ที่อยู่รอบล้วนอยู่ในกลุ่มพันธมิตรคลาร์กทั้งหมดนี้จึงเป็นสภาพแวดล้อมที่แย่มาก และการที่ไม่มึผู้ใดอาศัยในดินแดนสไตน์เบ็ค ไฟต์มานานอาจทำให้ที่นั่นเต็มไปด้วยอันตราย ในตอนนี้พวกเขามาถึงชายแดนของอาณาจักรแอดดิเลดส์ พวกเขาตั้งใจที่จะหาเงินทุนจากเมืองแทสแห่งนี้

ในฐานะหนึ่งในสมาชิกพันธมิตรคลาร์ก อาณาจักรแอดดิเลดส์มีเหล่าทาสเดินผ่านสัญจรไปผมา ไคลด์เห็นทาสถูกขายตามท้องถนนในเมือง เสื้อผ้าที่เหล่าทาสสวมล้วนขาดรุ่ย คู่ทาสชายหญิงคู่หนึ่งเป็นทาสจากเชลยศึกหลังการแพ้สงคราม ที่แห่งนี้การแลกเปลี่ยนซื้อขายทาสเปรียบเสมือนการใช้เงิน การซื้อขายแลกเปลี่ยนนั้นจะเป็นไปตามของที่มีมูลค่าเท่ากัน

ทาสที่ขายทั่วไปตามท้องถนนเป็นทาสระดับต่ำ ทาสระดับสูงระดับเจ้าหญิงเซราสจะถูกส่งขายที่โรงประมูล มีเพียงสมาชิกจากพันธมิตรคลาร์กที่สามารถเข้าร่วมการซื้อขายประมูลได้ ในตลาดการซื้อขายมีหลากหลายเผ่าพันธุ์ เผ่าพันธุ์หายากนั้นจะถูกประมูลด้วยราคาสูงเฉียดฟ้า

ตอนนี้เจ้าหญิงเซราสตกอยู่ในความกังวล หากเธอไม่พบกับไคลด์และลูซิเฟอร์ในตอนนี้เธอเองคงอยู่ที่ลานประมูลนั่น แต่ถ้าหากพวกเขาคิดจะขายเธอในที่นี่แล้วเธอก็คงไม่สามารถขัดขืนได้...

‘’พี่สาวเซราส ไม่ต้องห่วงไปนะ พวกเราไม่ใช่คนแบบพวกนั้นหรอก’’

‘’ลูซิเฟอร์ฉันขอโทษ ฉันแค่อ่อนไหวไปหน่อยนะ’’

ภายใต้การปลอบใจของลูซิเฟอร์ทำให้เจ้าหญิงเซราสรู้สึกสบายใจขึ้น แม้ว่าลูซิเฟอร์และไคลด์จะดูลึกลับ บางครั้งก็ดูน่ากลัวและโหดร้าย แต่พวกเขาเป็นมิตรกับเธอมาก ขณะนี้กลุ่มของไคลด์ได้เดินทางมาถึงตลาดมืดของเมืองแทส ในตลาดนี้มักมีภารกิจใต้ดินให้เหล่าทหารรับจ้างได้ทำซึ่งต่างจากภารกิจจากสมาคมทหารรับจ้าง เนื้อหาของภารกิจของที่แห่งนี้มืดมนกว่ามาก และมีระดับความยากมากกว่าเช่นกัน ยิ่งระดับความยากสูงค่าตอบแทนก็จะยิ่งสูงตาม กลุ่มของไคลด์กำลังมองหาภารกิจที่ให้รางวัลตอบแทนสูงอยู่

‘’ลูซิเฟอร์รออยู่ที่นี่กับเจ้าหญิงเซราสนะ เดี๋ยวฉันไปดูเอง’’

‘’อืมม ไว้ใจได้เลย ฉันจะดูแลเจ้าหญิงเซราสเอง’’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด