Chapter 92 – Black Market Ninth Shopping (3)
Chapter 92 – Black Market Ninth Shopping (3)
”
ซังจินได้หยิบ 'เมอร์ก้า - ผลไม้วิวัฒนาการ' ออกมาโดยไม่คิดอะไร แต่ว่าครู่หนึ่งเมื่อเขาได้หยิบมันออกมาจากลูกบาศก์
"กรร?"
"อู้?"
เคนและราร์ได้หยุดวิ่งไปรอบๆและนั่งลงเงียบๆ พวกเขาได้มองมาที่ผลไม้ในมือของซังจิน
'หืมม? เกิดอะไรขึ้น?'
ซังจินได้เอียงหัวเล็กน้อย ซาดาเมียร์ได้กลืนน้ำลายเสียงดังและพูดออกมา
"สิ่งนี้มัน...ผลไม้วิวัฒนาการ"
ซังจินได้เอาผลไม้เข้ามาใกล้ๆ เพื่อที่จะดมกลิ่นของมันอีกครั้ง
"แค่กๆ"
กลิ่นมันก็ยังคงเหม็นแปลกๆเช่นเดิม
แต่ซัมม่อนทั้งสามคนของเขาก็ยังคงมองมาที่ผลไม้ราวกับมันเป็นสิ่งที่อร่อยที่สุดในโลก ซาดาเมียได้พยายามที่จะสงบลง แต่เขาก็ไม่สามารถห้ามมันได้ และเคนก็ได้หอบลิ้นห้อยอย่างแปลกประหลาด ราร์ก็ได้พยายามที่จะปีนขึ้นมาบนไหล่ของเขา
"ก้าา!"
"ถอยไปราร์ ฉันไม่ได้จะให้มันกับนาย"
ซังจินได้ผลักราร์ถอยออกไป แต่จากทางด้านของประตู
"ฮี้"
แม้แต่ชาโดวรันก็ได้เข้ามา สำหรับในตอนนี้ซังจินจึงเก็บไอเทมลงไป ราร์ได้บินขึ้นไปและไปก็ที่ลูกบาศก์เพื่อที่จะพังมัน แต่แน่นอนว่าลูกบาศก์ก็ยังคงไม่มีความเสียหาย
"เพียงแค่นี้..."
ซาดาเมียร์ได้ตอบกัลบมาในคำถามของซังจิน
"ข้าเชื่อว่าผลไม้มันมีมานาสะสมเอาไว้เป็นจำนวนมาก พูดตามตรง ข้ายังรู้สึกต้องการจะกินผลไม้นั้นเป็นอย่างมากเมื่อได้เห็นมัน"
"จริงอะ?"
"ใช่แล้ว แม้ว่าข้าจะไม่เคยสูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์...แตาข้าก็คิดว่ามันน่าจะเหมือนๆกัน"
มันจะต้องมีพลังเวทมนตร์เป็นจำนวนมากในผลไม้นั้นออกมาแน่นอน โดยพิจารณาจากการที่เคนและราร์ยังคงจ้องไปที่ลูกบาศก์
"ท่านนักล่า อาหารของท่านมาแล้ว"
ดารูปินได้เข้ามาพร้อมกับเบอเกอร์ขนาดใหญ่และเยื้อสดชิ้นโต เคนและราร์ได้หันเหความสนใจไปที่อาหารเย็นของตนในทันที ซังจินได้หยิบเบอเกอร์ที่ดารูปินเอามาให้และคิดขึ้น
'ไอเทมชิ้นนี้....ฉันควรจะใช้มันกับซัมม่อนเมื่อไม่มีใครอื่นอยู่อีก'
เขาได้กัดลงไปที่เบอเกอร์คำใหญ่
"กลั๊บ"
เสียงการกัดผักกาดได้ดังกุบของมาจากในปากของซังจิน จากนั้นก็ตามมาด้วยความนุมนิมของขนมปังที่นุ่มละมุน เนื้อที่ฉ่ำมันและรสหนาของชีสได้มาผสมรวมกันภายในปาก
"อืมม~"
ซังจินได้ปล่อยครางออกมาเมื่อเขาได้เริ่มที่จะเพลิดเพลินไปกับอาหารครู่หนึ่ง ทันใดนั้นโอเปอเรเตอร์ก็ได้ประกาศออกมา
[ผู้ถูกเลือกได้ส่งคำขอการเคลื่อนย้ายทางไกลมาให้คุณ]
ในเวลาเวลาเดียวกันภาพของฟรานซ์ก็ได้ปรากฏขึ้นมาจากลูกบาศก์
[คุณจะตอบรับคำขอหรือไม่? 10 9]
'หืมมม?'
ซังจินได้หยุดกินเบอเกอร์และมองไปที่ภาพ
[7 6 5]
ฟรานซ์ได้มองมาอย่างกังวล เขาได้ไขว้แขนเข้าด้วยกันและเคาะเท้า
[4 3 2]
มันดูเหมือนว่าเวลามันจะหมดลงไปแค่เพียงซังจินมองไปที่ภาพ จากนั้นซังจินจึงตอบกลับไป
"โอเค....ฉันยอมรับ"
[การเคลื่อนย้ายได้รับการยอมรับ]
ทันทีที่คำพูดได้ออกมาจากปากของซังจิน เขาก็ได้หายออกไปจากจุดๆนั้นและปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในตลาดมืด การปรากฏตัวขึ้นของซังจิน มันได้ทำให้ฟรานซ์ได้อุทานออกมา
"โอ้"
มันน่าประหลาดใจ
"มันได้ผล"
"ชะ...ใช่แล้ว..."
ซังจินได้มองออกไปรอบๆ ที่นี่มันอยู่ใกล้ๆได้อยู่ใกล้ๆกับร้านประมูลในใจกลางของตลาดมืด มันดูเหมือนกับตลาดมืดของซังจิน แต่ว่าเขาได้ถุกเคลื่อนย้ายไปมิติอื่นแล้ว ฟรานซ์ได้ถามกับซังจิน
"มันเป็นไปได้ยังไง?"
ซังจินกำลังจะตอบกลับไปแต่แล้วเขาก็รู้สึกหิว เพราะเบอเกอร์ของเขาได้หายไปแล้ว ซังจินจึงได้ถามกับฟรานซ์
"นายกินอาหารเย็นยัง?"
"ไม่ ยังไม่ได้กินเลย"
"ถ้างั้น...ไปกินอาหารกันก่อนแล้วค่อยคุยกัน"
"มันฟังดูดีนะ"
ทั้งสองคนได้เดินเข้าไปในร้านอาหารภายในตลาดมืด
****
[ยินดีต้อนรับที่นี่คือร้านธัมป์ธัมป์ของเย่วชาน]
[ร้านขายอาหารทั้งหลายแบบ]
"ท่านต้องการจะรับประทานอะไร ท่านนักล่า"
ครึ่งมนุษย์หมีขนาดใหญ่ได้เข้ามาหาพวกเขา การถูกเรียกว่า 'นักล่า' มันได้ทำให้พวกเขารู้สึกประหลาดใจ เพราะปกติแล้วพวกเขาอยู่ในตลาดมืดเพียงคนเดียว
แต่เจ้าของร้านก็ดูเหมือนว่าจะไม่แปลกใจกับการที่มีนักล่าสองคน ราวกับว่าการปรากฏตัวของซังจินมันเป็นเรื่องปกติ ซังจินจึงเริ่มสั่งอาหารออกมาก่อน
"เอาซุปแมนจูกับเกี้ยวกุ้ง"
ฟรานซ์ก็"ด้สั่งอาหารของเขาออกมาเช่นกัน
"อา...ฉันเอา...เหมือนกับที่เขาสั่งละกัน"
เมื่อพวกเขาได้สั่งอาหารเสร็จ พวกเขาก็ได้เงียบลง มันเหมือนกับว่าพวกเขาไม่สามารถจะกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกันเพียงแค่การจู่โจมเดียว พวกเขารู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย
'ฉันควรจะพูดอะไรดี?'
ซังจินได้แน่ใจในเกี่ยวกับมันนัก แต่แล้ว
"โอ้ใช่แล้ว...นายได้ถามฉันในก่อนหน้านี้ว่ามันเป็นไปได้ยังไง?"
"อ่า ใช่"
"ดังนั้นโดยทั่วไปแล้ว..."
เขาได้มองตรงไปที่ซังจิน แต่ว่าสิ่งเดียวที่ซังจินบอกได้ในตอนนี้ก็คือ
"ฉันจะบอกให้นายรู้ก็ต่อเมื่อมันถึงเวลาที่เหมาะสม ดังนั้นสำหรับตอนนี้มันจึงเป็นความลับ"
มันคือสิ่งที่ซังจินได้คิดเอาไว้แล้วในก่อนหน้านี้ มันยังเร็วเกินไปที่จะให้พวกเขารู้ถึงการคงอยู่ของร้านมืดมิดยิ่งกว่าสีดำ ถ้าหากบอกพวกเขาไปมันก็อาจจะมีการพัฒนาการที่ไม่สามารถจะควบคุมได้
"พร้อม...ที่นายจะพูด?"
"ใช่ไม่เพียงแค่สำหรับนายแต่ฉันก็เช่่นกัน การที่จะไปมิติอื่นๆ..."
ครึ่งมนุษย์หมีได้เข้ามาขัดจังหวะพวกเขา
"อาหารพร้อมแล้ว"
เกี้ยวกุ้งและชามน้ำชุปแมนจูได้ถูกนำมาเซิร์ฟให้กับพวกเขา ซังจินได้หยิบตะเกียบขึ้นมา
"มันเป็นเรื่องอันตราย"
มันไม่ใช่เรื่องโกหก เริ่มต้นด้วยฆาตกรพวกเขาคือพวกที่มุ่งเป้าไปที่การผูกขาดผลงาน ฆ่าพรรคพวกของพวกเขา พวกเขาได้ทำลายกฏเพื่อที่จะได้รับแต้มที่มากขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงแข็งแกร่งกว่านักล่าปกติมาก
และเพราะว่าพวกเขาไร้ซึ่งการยับยั้งชั่งใจในการโจมตีคนอื่นๆ พวกเขาจึงสามารถที่จะต้องสู้กับมนุษย์ที่มีระดับเท่ากันได้อย่างดีกว่า แน่นอนว่ามันแตกต่างกับซังจินเพราะว่าเขาได้เชี่ยวชาญกับการล่าฆาตกรเป็นพิเศษ
"ดังนั้นตอนนี้ฉันจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับก่อน เมื่อมันถึงเวลาฉันจะบอกให้พวกนายรู้เอง"
โชคดีที่ว่าฟรานซ์ไม่ได้สนใจมากนัก
"โอเค เข้าใจแล้ว ช่วยบอกฉันด้วยละกันเมื่อมันถึงเวลา"
ซังจินได้หยักหน้าและกินแมนจูลงไปด้วยซ้อมของเขา เขาได้คิดขึ้น
'ปฏิกิริยา 10 เต็ม 10'
ถ้าหากว่าเขาต้องการที่จะรู้ลึกไปกว่านั้น ซังจินก็จะรู้สึกเสียใจที่ล้างบาปเขา
"โอยังไงก็ตาม นายชื่ออะไรหรอ ท่านผู้พิพากษา? ฉันไม่สามารถจะเรียกนายว่าผู้พิพากาาต่อไปได้ ในตอนนี้ฉันจะเรียกนายได้ว่าอะไร?"
ซังจินได้มองที่เขาและพูดขึ้น
"เค"
เขาได้บอกชื่อปลอมของเขาไป มันไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องให้คนอื่นรู้ชื่อจริงของเขา เขาได้เคยชินกับชื่อใหม่นี้ไปแล้ว
"อา ฉันรู้แล้ว เค ฉันไม่รู้เรื่องนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร...แต่ฉันขอขอบใจมากที่เลือกฉัน"
ซังจินได้ตอบกลับมา
"เอาละ มันมีเหตุผลมากมายที่ฉันเลือกนาย...แต่ก่อนอื่นเลย นายอาจจะสามารถบอกได้ว่าฉันแข็งแกร่งแค่ไหน"
"ใช่ ฉันเข้าใจในความแข็งแกร่งของนายดีกว่าของคนอื่นเลยหละมากมันมากแค่ไหน"
"และยิ่งฉันแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ พลังของนายก็จะยิ่งมากขึ้นตามนั้น"
ฟรานซ์ได้หยักหน้ารับ
"สิ่งที่ฉันต้องการจากนายก็คือความร่วมมือในการที่จะทำงานร่วมกันในการที่จะเอาชนะการจู่โจมครั้งสุดท้ายด้วยกัน...ความร่วมมือนะ นายเข้าใจใช่ไหม?"
"แน่นอน แต่...ไม่ใช่ว่าการจู่โจมได้ถูกออกแบบมาให้สำรับการร่วมมือกันอยู่แล้วหรอกหรอ?"
"ใช่แล้ว แต่ว่าในตลอดททาง มีคนมากมายได้หยุดที่จะให้ความร่วมมือกับคนอื่นๆ"
"นายหมายถึงฆาตกร?"
"ใช่แล้ว นายเจอเจอพวกนั้นบ้างไหม?"
"ใช่ สองครั้ง ครั้งแรกที่ที่สัสาน อีกครั้งที่ๆราบสูง ฉันได้รับผลงานมามากเกินไป พวกเขาจึงหวงพวกมันจากฉัน"
ขณะที่ซังจินกำลังคิดอยู่ ฟรานซ์นั้นเคยเจอกับฆาตกรมาสองครั้งแล้ว แต่ความจริงที่ว่าฟรานซ์ได้นั่งกินซุปอยู่ที่นี่นั้นจึงหมายความว่าคนที่ได้ตายไม่ใช่เขาแน่นอน
"นายได้ฉายาผู้พิพากษาไหม?"
"ไม่นะ ฉายานั้นมันทำอะไรได้งั้นหรอ?"
"ฉายานี้มันจะทำให้ได้รับไอเทมจาการฆ่าฆาตกรสองชิ้น"
"โอ้...ฉันรักฉายานี้มากเลยหละ...พวกชั่วเหล่านั้น..."
ฟรานซ์ได้หยุดกินอาหารลงและจับซ่อมแน่นขึ้น ในด้านนี้ของฟรานซ์มันได้ทำให้ซังจินนึกไปถึงในตอนที่ฟรานซ์พุ่งเข้าใส่เขาในก่อนหน้านี้
'โอ้ใช่แล้ว...เขาเป็นคนแบบนี้ ฉายาผู้พิพากษาเหมาะกับเขามากกว่าฉันซะอีก'
ซังจินได้คิดออกมา
"อย่างไรก็ตามมันยังมีฆาตกรอยู่เสมอ แม้กระทั่งเมื่อมีคนที่เหลือรอดอยู่ไม่กี่คน พวกเขาเหล่านั้น...จะคงอยู่จนจบ"
ซังจินกำลังเผลอพูดถึงที่นั่นไป แต่แล้วเขาก็ได้แก้ไขมัน เขาไม่สามารถจะเปิดเผยถึงประสบการณ์ในอนาคตของเขาไปได้
"ดังนั้น...เป้าหมายของฉันคือการกำจัดฆาตกรและรวบรวมคนแบบนาย คนที่จะมีส่วนร่วมและเป็นคนที่ดีในการที่จะจบการจู่โจมสุดท้ายไปด้วยกัน"
"นี้มันเป็น...แผนที่ยิ่งใหญ่จริงๆ"
ฟรานซ์ได้มองไปที่ซังจินอย่างเป็นประกาย
"ใช่แล้ว ดังนั้นนายอาจจะสังเกตุเห็นฉายาผู้ถูกเลือกของนาย....โบนัสสเตตัสของฉันสามารถมีให้ได้มากสุดที่ 20% กล่าวอีกนัยหนึ่งยิ่งฉันแข็งแกร่งนายก็0ะยิ่งแข็งแกร่งตามไปด้วย ถูกไหม?"
"ใช่แล้ว"
ฟรานซ์ได้หยักหน้ารับออกมา
"ฉันยังคงแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งมันจะหมายถึงว่านายก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปเช่นกัน ดังนั้นเมื่อมีคนเหลือยู่อีกไม่มากในตอนท้าย ฉันหวังว่าจะได้พบกับนายนะ"
"นั่นมันจะไม่ใช่ปัญหา ถ้าฉันไม่สามารถแม้แต่จะมีชีวิตอยู่ได้ด้วยบัฟนี้....มันก็หมายความว่าฉันไม่มีสิทธิที่จะมายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่แรกแล้ว"
"ถ้าหากว่ามีบางอย่างที่นายไม่สามารถจะเอาชนะได้ด้วยตนเอง นายสามารถจะเรียกขอความช่วยเหลือจากฉันได้วันละครั้ง ฉันสามารถช่วยจัดการมันแทนได้"
"อา ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องทำอย่างนั้น..."
"แต่ในกรณีที่เจอกับบอสลับหรือไม่ก็....ฆาตกร..."
ฟรานซ์ได้เริ่มจริงจังขึ้นมาในคำพูดของซังจิน
"ถ้าหากว่าฉันเจอฆาตกรฉันจะจัดการพวกมันด้วยตัวเอง"
ซังจินได้ยิ้มขึ้นมา
"ตกลง ดี ฉันจะต้องพึ่งพานาย"
"ไม่ฉันต่างหากหละที่จะต้องพึ่งพานายแน่ๆ"
ชายทั้งสองคนได้จับมือกันอยู่เหนือถ้วยซุปแมนจู หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้คุยกันเล็กๆน้อยๆ
"แล้วฟรานซ์นายเป็นชาวเยอรมันหรอ?"
"เปล่า ฉันเป็นชาวออสเตรียนะ...ซึ่งพวกฉันมีเชื้อสายมาจากเยอรมันมาก แล้วนายหละเค"
"อา ฉันเป็นชาวเกาหลี"
***
เมื่ออาหารเย็นจบลง ซังจินก็ได้พูดกับฟรานซ์
"จากนี้ไป...ถ้านายมีอะไรที่ไม่สามารถจะจัดการได้หรือเขาใจได้ ให้เลือกฉันในตอน 6 โมงเย็น มันเป็นเวลามื้อเย็นและก็เป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะพูดคุยกัน ใช่ไหมหละ?"
"นั่นมันฟังดูดีเลยหละ"
"อาและฉันก็มีอีกอย่างที่จะแนะนำ ที่ร้านขายแหวนที่อยู่ใกล้ๆกับร้านอาวุธ ไปที่นั่นและซื้อแหวนแห่งความร่ำรวยซะแล้วส่วมใส่มัน
"แหวนแห่งความร่ำรวย?"
"ใช่แล้ว คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะตระหนักถึงมัน....แต่นี่มันเป็นไอเทมที่คุ้มค่ามาก ฉันแน่ใจเลยว่านายจะต้องซื้อมัน"
"เข้าใจละ"
ซังจินได้พูดกับเขาเป็นอย่างสุดท้าย
"โอเคแล้ว....จนกว่าจะถึงครั้งต่อ ในรอบหน้า...ระวังตัวเอาไว้ด้วยหละ"
"โอเค"
ซังจินกำลังจะกลับไปสู่มิติของตนเอง แต่แล้วเขาก็นึกออกถึงอะไรบางอย่าง
"โอ้ใช้แล้ว"
"ว่าไง?"
"มีอะไรบางอย่างที่ฉันจะต้องทำก่อนที่จะไป"
ซังจินได้หันหน้าไปกล่าวกับโอเปอเรเตอร์
"โอเปอเรเตอร์ช่วยส่งรูปสลักของเคน ตะเกียงขอซาดาเมียร์ ไข่ของราร์และเหรียญของชาโดวรันมาหน่อย"
จากนั้นไอเทมได้เทลงมาจากลูกบาศก์
"อืมมม..."
ซังจินได้จ้องไปที่ไอเทมพวกนั้นและหยิบรูปสลักของเคนออกมา เขาได้โยนมันขึ้นไปบนอากาศและเรียกเคนออกมา
"บรูววววว"
ซังจินได้กล่าวกับโอเปอเรเตอร์หลังจากที่เรียกเคนออกมา
"ส่งผลไม้วิวัฒนาการมาให้ฉันด้วย"
เมื่อผลไม้โผล่ออกมา เคนก้ได้จ้องเขม็งมาที่ผลไม้ ซังจินจึงโยนมันไปทางเคน
"นายอยากจะกินมันใช่ไหม?"
เขาได้เลือกเคนเพราะเหตุผลสองประการ อย่างแรกเคนยังสามารถจะเติบโตและตัวใหญ่ขึ้นได้อีก ในกรณีนี้มันใกล้เคียกับ 'เหตุการณืสำคัญ' เคนนั้นใกล้เคียงที่สุด
อย่างท่สองเคนเป็นซัมม่อนที่อยู่กับเขามานานที่สุด ซังจินอยู่กับเขาแล้วสบายใจมากที่สุดใในการต่อสู้ ถ้าหากถามว่าใครที่ควรจะได้รับการเสริมความสามารถนั้นก็คือเคน
เคนได้กินผลไม้ลงไปในคำเดียว
ร่างกายของเคนได้เต็มไปด้วยแสงสว่างจ้าและจากนั้นเขาก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ซังจินได้ถูกบังคับให้หันสายตาหลบออกไปเพราะว่าแสงมันแยงตา แต่ว่าโอเปอเรเตอร์ก็ได้เป็นคนประกาศให้เขาฟัง
[ขอแสดงความยินดีด้วย คุณได้รับไอเทมระดับตำนาน 'แกรนด์คิน - เจ้าแห่งป่าไม้']