Chapter 91 – Black Market Ninth Shopping (2)
Chapter 91 – Black Market Ninth Shopping (2)
”
ซังจินได้เดินไปที่ทางทิศใต้ของตลาดมืด
'มันอยู่แถวๆนี้...'
ในขณะที่เขากำลังเดินอยู่
"เคร๊ง ๆ''
เขาสามารถจะได้ยินเสียงตีเหล็กดังออกมา เขาจึงได้เดินไปตามทิศทางเสียงนั้นและได้พบกับโรงหล่อของคาร์กอต
[นี่คือโรงตีเหล็กของคาร์กอต]
[มันเป็นสถานที่สำหรับปรับแต่งและตีบวกไอเทม]
ซังจินได้เดินเข้าไปข้างในและทักทายออกมา
"สวัสดี"
"ยินดีต้อนรับ"
คนแคระที่มีขนาดตัวครึ่งหนึ่งของซังจินได้ทักทายกลับมา
"ต้องการอะไรงั้นหรอ?"
"ฉันต้องการจะตีบวกไอเทมบางอย่าง"
"โอ้โฮ จริง? ไอเทมอะไรหละที่นายต้องการจะตีบวก?"
ซังจินได้ปลดดาบทั้งสามเล่มออกมาจากเอวของเขา และวางมันลงบนเคาน์เตอร์
"หืมมม? ทั้งหมดนี่?"
ซังจินได้ส่ายหัวของเขา
"ไม่ ไม่ ฉันแค่จะเลือกหนึ่งในนี้...ฉันแค่อยากจะรู้ว่าฉันสามารถจะดูตัวอย่างหลังจากตีบวกก่อนที่จะตัดสินใจได้ไหม?"
คาร์กอตได้ส่ายหัวของเขาในคำถามของซังจิน
"อี้ แน่นอนว่าไม่"
"...เข้าใจละ..."
"แม้ว่าฉันจะเห็นไอเทมพวกนี้เป็นเหมือนลูกๆของฉัน และมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้พวกเขา แต่ฉันก็ไม่สามารถจะทำนายอนาคตของลูกๆฉันได้"
ซังจินรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่ไม่สามารถจะดูข้อมูลก่อนตัวสินใจ
"โอเค ในกรณีนี้..."
ซังจินได้หยิบบลัดเวจกลับไปแขวนไว้ที่เอว จากนั้นก็หยิบอาเทอร์มิโอไปด้วยเช่นกัน สิ่งเดียวที่ยังเหลืออยู่คือมูนสเปค เขาได้ส่งออกไปและกล่าวขึ้น
"ช่วยตีบวกไอเทมชิ้นนี้ที"
เหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงได้เลือกมูนสเปคนั้นง่ายมาก ซังจินนั้นรู้ผลของการตีบวกบลัดเวเจนอยู่แล้ว
การตีบวกบลัดเวเจนมันจะทำให้ผลของทักษะนั้นแข็งแกร่งขึ้น แต่ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ซังจินต้องการในเวลานี้ และอีกอย่างซังจินก็ไม่ได้ใช้อาเทอร์มิโอมากนัก ดังนั้นความเป็นไปได้ที่เขาจะเลือกจึงต่ำ
แม้ว่าถ้าหากว่าพิจารณาในบทบาทการต่อต้านจอมเวทย์มันจะดีมากก็ตาม...
"หืมม นายแน่ใจนะ? โอเค มาดูกัน..."
คาร์กอตได้รับมูนสเปคมาจากซังจินและตรวจสอบมัน มูนสเปคนั้นมีรูปลักษณ์ที่ไม่ได้ดูดีนัก มันได้ถูกฝังในซากโบราณมากก่อน สีของมันได้ลอกออกไปหมดแล้ว และด้ามจับของมันก็เสียหายเป็นอย่างมาก
แต่คาร์กอตก็ไม่ได้สนลักษณะภายนอกนั้น และจากนั้นเขาก็ได้ดึงดาบออกมาจากฝัก
"โอ้"
เขาได้ร้องออกมาเมื่อได้เห็นคมดาบ
"สิ่งนี้มันเป็นไอเทมระดับตำนาน"
เขาสามารถแยกมันออกได้ด้วยการมองเพียงแค่ครั้งเดียว
"ใช่แล้ว"
"นายมีหินเอนชานต์ไหม? ไอเทมระดับตำนานจะใช้หินนี้สามก้อน"
"ฉันมีมันอยู่สามก้อนพอดี"
ซังจินได้เอามันออกมาจากลูกบาศก์และส่งมันออกไป
"หืมมม...ยอดเยี่ยมมาก ฉันจะดูแลพวกมันเอง"
"แล้วเมื่อไหร่ที่ฉันควรจะมารับมัน?"
ซังจินรู้กระบวนการตีบวกอยู่แล้วจากการตีบวกบลัดเวเจนในอดีต แต่ว่าสำหรับมูนสเปคมันอาจจะแตกต่างออกไป
แต่คาร์กอตก็ได้ให้คำตอบเดียวกับในตอนตีบวกบลัดเวเจน
"พรุ่งนี้เช้า"
"พรุ่งนี้เช้านะ"
"ใช่แล้ว ในเวลา 8 โมงเช้า...หรือก็คือก่อนที่การจู่โจมจะเริ่มขึ้น 1 ชม."
ซังจินได้หยักหน้ารับ มันไม่ใช่เรื่องแย่นัก เพราะว่าสิ่งที่เขาทำก็มีแค่มารับมันไปในตอนเช้าเท่านั้น
"เข้าใจแล้ว ตอนนี้ฉันขอฝากไว้ในมือนายด้วยหละ"
ซังจินได้พูดออกมา และจากนั้นคาร์กอตก็ได้ยื่นมืออกมาและหงายขึ้น
"10000 เหรียญดำ"
"อา..."
ซังจินได้ลืมมันไปแล้ว การตีบวกจะต้องใช้เงิน ซังจินจึงได้ถามกับโอเปอเรเตอร์
"โอเปอเรเตอร์ตอนนี้ฉันมีเงินอยู่เท่าไหร่?"
[12146]
ซังจินได้คิดคำนวณในหัวอย่างรวดเร็ว
'ฉันยังมีไอเทมที่ยังขายไม่ออก 3 ชิ้นจากก่อนหน้านี้ และฉันก็ได้เอาไอเทมไปลงใหม่ 7 ชิ้นในวันนี้...ทั้งหมดเป็น 10 ชิ้น...'
มันตะขึ้นอยู่กับการแข่งขันและจำนวนที่ขายออกไป ซังจินได้คาดหวังว่าจะได้ซัง 30000-50000 เหรียญ
'...20000 เหรียญสำหรับดวงดาวไร้นาม 15000 เหรียญสำหรับแว่นตาของกอเมท...35000...'
ซังจินรู้สึกว่าเขาสามารภจะใช้ 10000 เหรียญที่นี่ได้ มันไม่มีไอเทมเร่งด่วนอย่างอื่นอีกที่เขาต้องการจะซื้อ สิ่งเดียวที่ทำให้เขารำคาญก็คือเขาไม่สามารถจะซื้ออิลิกเซอร์ได้ แต่สิ่งนี้มันจะสามารถแก้ไขได้จากเงินจากครั้งหน้า
สิ่งที่สำคัญกว่าคือการซื้อไอเทมที่จำเป็นที่สุดในตอนนี้
'เกี่ยวกับอิลิกเซอร์...ฉันอาจจะสามารถใช้เวลาของฉัน'
ในขณะที่ซังจินกำลังชั่งน้ำหนักตัวเลือกของเขา คาร์กอตก็ได้กล่าวเสริม
"นายสามารถจะมาจ่ายตอนมารับดาบก็ได้นะ"
"จริง?"
"ใช่แล้ว...นายคงจะไม่มีทางทิ้งมันไว้หรอกใช่ไหมหละ?"
เขาพูดถูก ดาบมูนสเปคมันมีมูลค่ามากว่า 10000 เหรียญซะอีก ไอเทมระดับตำนานอย่าง หินเอนชานต์ก็ประเมินค่ามิได้เช่นกัน การทิ้งมันไว้ข้างหลังโดยไม่มาเอามันไปก็เหมือนกับการทิ้งสิ่งที่ล้ำค่ามากๆพอกับชีวิตไปได้เลย
ซังจินได้หยักหน้ารับ
"ถ้าอย่างนั้นฉันจะมาจ่ายเมื่อตอนที่ฉันกลับมาเอาดาบ"
นี้มันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับซังจินน เขาจะสามารถวางแผนได้ดีขึ้้นหลังจากที่ได้้รับเงินจากการขายของ คาร์กอตได้หยักหน้ารับออกมา
"โอเค"
ซังจินได้ตัดสินใจที่จะถามออกมา
"อา...แล้วที่ฉันได้ยินมาในก่อนหน้านี้..."
"ว่า?"
"ฉันได้ยินมาว่าถ้ามีไอเทมสองชิ้นที่เหมือนกัน นายจะสามารถทำบงสิ่งบางอย่างที่เรียกว่า 'การผสาน' หรืออะไรซักอย่างได้..."
"อาใช่แล้ว นั้นมันเป็นไปได้ ถ้าหากนายมีไอเทมสองชิ้น นายสามารถจะ 'รวมมันเข้าด้วยกัน' ได้"
"รวมกัน?"
"ใช่แล้ว นายสามารถจะผสมไอเทมที่เหมือนกันได้ ระดับของไอเทมมันจะเพิ่มขึ้น 1 ระดับ"
"แล้วมัน....แตกต่างจากหินเอนชาต์อย่างไร"
"การรวมไอเทมมันจะมีผลเหมือนกันการใช้หินเอนชานต์ แต่แทนที่มันจะใช้หินเอนชานต์ นายจะต้องใช้ไอเทมสองอันแทน"
"แล้วจำนวนที่ต้องการ"
"จำนวนของมันก็จะเหมือนกับการใช้หินเอนชานต์ เพื่อเพิ่มระดับจากวีรชนไประดับตำนาน นายจะต้องใช้ไอเทมที่เหมือนกันหรือหินเอนชานต์หนึ่งชิ้น และถ้าเป็นจากระดับตำนานไปเป็นระดับตำนานเพียงหนึ่งเดียว นายจะต้องใช้ไอเทมที่เหมือนกันหรือหินเอนชานต์สามอัน เข้าใจไหม?"
ซังจินได้หันหน้าไปพูดกลับโอเปอเรเตอร์
"โอเปอเรเตอร์ส่งยอนฮัวเรททั้งสองอันมาให้ที"
ยอนฮัวเรททั้งสองอันไอออกมาจากลูกบาศก์ และซังจินก็รับมันมาแล้วส่งไปให้คาร์กอต
"พวกนี้เป็นไอเทมระดับวีรชนทั้งคู่"
คาร์กอตได้ตรวจสอบยอนฮัวเรทและมองไปที่ซังจินแล้วกล่าวออกมา
"นี้มัน...เป็นไอเทมที่อันตรายมากเลยทีเดียว ผลของมันยอดเยี่ยม...แต่ว่าผลข้างเคียงก็แย่มากเช่นกัน"
"ฉันรู้"
"แต่ถ้านายผสมทั้งสองอันเข้าด้วยกัน มันไม่เพียงแค่เพิ่มความสามารถปกติแต่มันจะยังเพิ่มผลข้างเคียงอีกด้วย...นายโอเคกับเรื่องนี้ไหม?"
ซังจินได้เม้มริมฝีปาก
"ใช่...มันเป็นไอเทมที่ฉันไม่ค่อยได้ใช้นอกจากจะเผชิญกับสถานการณ์ที่เลวร้าย"
ใช่แล้ว ซังจินไม่เคยอาศัยความแข็งแกร่งของยอนฮัวเรทเลย เว้นแต่ว่ามันจะเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เช่นเมื่อตอนบทที่ 2 ที่เขาแข็งแกร่งไม่เพียงพอหรทอเมื่อตอนที่เขาพบกับคาเรี่ยนบอสลับที่แข็งแกร่งยังกลับคนคลั่งในบทที่ 8
ถ้าเขาจะเก็บมันเอาไว้ในกรณีฉุกเฉินแล้วมันก็เป็นการดีที่จะเพิ่มความเสี่ยงแลกกับผลที่ดีมากยิ่งขึ้น
"โอเค...งั้นฉันจะรวมมันเข้าด้วยกันทันที...เว้นแต่ว่ามันจะมีค่าใช้จ่าย 3000 เหรียญและค่าธรรมเนียมก็ไม่สามารถจะต่อรองได้"
มันเป็นราคาเพียงเล็กน้อยสำหรับการลงทุน ซังจินได้พูดออกมา
"โอเค ช่วยทำเลย"
คาร์กอตได้หยิบยอนฮัวเรทเข้าไปในโรงตีเหล็กและวางมันเอาไว้ในกล่องและถามซังจิน
"เฮ้ นายรู้จักกล่องนี้ไหม? มันค่อนข้างที่จะมีชื่อเสียงมากเลยทีเดียว"
ซังจินได้ส่ายหัว มันเป็นไอเทมที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลย เขาเคยแต่ตีบวกไอเทมเท่านั้นในอดีต เขาไม่เคยรวมไอเทมมาก่อนเลย
"จริง? ฉันเดาว่าคงจะมีบางคนที่ไม่รู้จัก"
คาร์กอตได้เขย่ากล่องสองครั้ง จากนั้นในกล่อง
"จี่"
มีเสียงดังออกมา คาร์กอตก็ได้เปิดกล่องออกมาอย่างสงบและมอบมันให้ซังจิน จากนั้นโอเปอเรเตอร์ก็ประกาศขึ้น
[ขอแสดงความยินดีด้วย คุณได้รับไอเทมระดับตำนาน 'ยอนฮัวเรท - เสียงกระซิบของพระเจ้าที่บ้าคลั่ง']
ซังจินได้ยกไอเทมชิ้นใหม่ขึ้นมาตรวจสอบ
ยอนฮัวเรท - เสียงกระซิบของพระเจ้าที่บ้าคลั่ง
สร้อยคอระดับตำนาน
ทักษะติดตัว
ไม่ย่อท้อ(II)
สร้างภูมิคุ้มกันการพันธนาการทุกชนิดรวมไปถึงดีบัฟทุกประเภท
ระยะเวลา 10 วินานที
ทักษะใช้
บ้าคลั่ง (V) - เพิ่มพัลงโจมตีและความเร็วขึ้น 500% เป็นเวลา 30 วินาที ลดพลังชีวิตลงเหลือ 1/5 หลังจากที่ผลหมดลง
สร้อยคอที่ผนึกพลังของพระเจ้าที่บ้าคลั่งยอนฮัวเรทเอาไว้
เสียงกระซิบของเขาสามารถจะได้ยินออกมาจากสร้อยคอ
"โว้ว..."
ซังจินได้มองไปที่สร้อยคออย่างระมัดระวัง พลังของมันได้เพิ่มขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ ผลของมันได้กระโดดจาก คูณ 3 ไปเป็นคูณ 5 ทั้งในด้านพลังและความเร็ว
'5 เท่ามันทรงพลังมากในตอนนี้...'
มันอาจจะเป็นไปไม่ได้สำหรับนักล่าคนอื่นๆที่จะตามการเคลื่อนไหวได้ด้วยสายตาทัน แต่ในทางกลับกันมันก๋มีผลลงโทษที่มากขึ้นด้วยการลดพลังชีวิต 1/5 มันเป็นอันตรายอย่างมากแม้แต่กับซังจิน
นอกจากนี้มันยังมีผลข้างเคียงอื่นอีกที่ไอเทมไม่ได้บอกออกมา มันเป็นโทษที่ซ่อนเอาไว้อยู่่ มันจะปรากฏออกมาอย่างไม่น่าเชื่อหลังจากที่ได้ใช้งาน
เมื่อซังจินมองไปที่ไอเทม
'ฆ่า ฉันบอกให้ฆ่าพวกมัน'
เสียงตะโกนของยอนฮัวเรทได้เร็วมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ซังจินได้กระโดดถอยหลังไปด้วยความตกใจ และรีบนำไอเทมไปไว้ในลูกบาศก์
'ผลของมันได้อัพเกรดขึ้น...แต่ในตอนนี้ฉันจะต้องระวังมากขึ้นเมื่อใช้มัน'
คาร์กอตได้ถามซังจินอย่างไร้เดียงสา
"มันเป็นยังไงบ้าง?"
"มันเยี่ยมมาก แล้วฉันจะมาพบนายอีกครั้งในวันพรุ่งนี้"
"อา โอเค"
ซังจินได้ออกไปจากโรงตีเหล็กหลังจากที่เสร็จธุระและกลับไอที่โรงแรมที่ๆดารูปินและพรรคพวกของเขารออยู่ ที่สวนด้านหน้าของโรงแรม
"โฮ่ง"
"กี้?"
เคนและลูกกริฟฟินกำลังเล่นกันอยู่ เคนในตอนนี้ได้โตเต็มที่แล้วและราร์ก็ยังคงเป็นเพียงเด็กแรกเกิดอยู่ แต่พวกเขานั้นก็มีขนาดที่ใกล้เคียงกัน สิ่งที่พวกเขาแตกต่างกันก็คือเผ่าพันธ์
เมื่อพวกเขาได้สังเกตุเห็นซังจินเข้ามา พวกเขาก็หยุดเล่นและวิ่งเข้ามาหาซังจิน ราร์ได้บินเข้ามาด้วยปีกของมัน ซํงจินได้กอดสัตว์ทั้งสองตัวของเขาในขณะที่พูดออกมา
"ฮ่า ๆ ๆ ฉันกลับมาแล้วเข้าไปข้างในกันเะถอะ เคน ราร์"
"ฮี้ๆ"
ม้าวิญญาณก็ได้รอเขาอยู่ในคอกม้าอย่างสงบซึ่งแตกต่างจากทั้งสองตัวข้างหน้านี้ ซังจินได้มีโอกาสใช้เขาไม่มากนัก แต่มันก็คงจะมีเวลาที่สมควรเอง เมื่อซังจินได้กลับเข้าไปในโรมแรม เขาก็ได้เห็นซัมม่อนตนสุดท้ายของเขา
"ยินดีต้อนรับกลับเจ้านาย ฉันดีใจที่ได้เห็นท่านอีกครั้ง"
จอมเวทย์ซาดาเมียร์ได้กล่าวออกมาทักทายเขา
"ฉันก็ดีใจที่ได้พบนายเช่นกัน"
ซังจินได้นั่งลงที่โต๊ะใกล้ๆกันและดารูปินก็ถามออกมา
"ยินดีต้อนรับกลับ ท่านต้องการจะรับอะไรไหม?"
"ใช่แล้ว ฉันต้องการ..."
ซังจินได้คิดถึงเรื่องนี้อยู่พักหนึ่งและชื่ออาหารมื้อแรกก็ได้เข้ามาในหัวของเขา
"แฮมเบอเกอร์ ช่วยเอาเบอเกอร์เนื้อไก่สองชั้นใส่ชีสและผักกาดหอมเยอะๆด้วย"
"รับทราบ"
ในขณะที่เขากำลังสั่งอาหารเขาก็สังเกตุเห็นเคนและราร์
"ทั้งสองคนกินอะไรกันยัง?"
"อา พวกท่านมักจะกินอาหารพร้อมๆกัน ดังนั้นข้าจึงยังไม่ได้ให้อาการพวกเขา"
"อา ขอบใจมากๆ ช่วยนำอาหารมาให้พวกเขาหลังจากที่นายทำเบอเกอร์เสร็จทีนะ"
"รับทราบ"
กล่าวได้ว่าการรับประทานอาหารร่วมกันมันจะช่วยให้มีความไว้วางใจกันมากขึ้น กับสัตว์ก็ไม่ได้แตกต่างกัน เมื่อได้สั่งมื้อค่ำมาแล้วซังจินก็ได้พับแจนเสื้อและเอนตัวลงนอนบนเก้าอี้
เคนและราร์กำลังเล่นกันเองอยู่ จากนั้นเองเขาก็ได้นึกถึงบางอย่าง ซังจินได้หันไปพูดกับลูกบาศก์
"โอเปอเรเตอร์...ช่วยส่งผลวิวัฒนาการมาให้ฉันที"