Chapter 87 – Magician’s Ivory Tower (8)
Chapter 87 – Magician’s Ivory Tower (8)
”
ชาวภูเขาฟรานซ์หยักหน้ารับในคำถามของซังจิน
"ใช่แล้ว....โอเปอเรเตอร์ได้พูดเอาไว้ว่าสามารถจะเรียกผู้เลือกได้หนึ่งครั้งต่อวัน"
"ดังนั้นเใท่อนายกลับไปที่ตลาดมืด นายก็จงใช้ทักษะของฉายานั้นเรียกฉันมา ฉันจะบอกนายเกี่ยวกับมัน"
ชาวภูเขาได้เอียงหัวอย่างสงสัย
"แต่ว่า...นายไม่สามารถจะอธิบายได้ในตอนนี้หรอ? พวกเรายังมีเวลาเหลืออยู่อีกตั้ง 50 นาที
..."
ซังจินได้ส่ายหัวของเขา
"มันเป็นเพราะว่าฉันมีเวลาเหลืออีกเพียงแค่ 50 นาที"
"มันทำไมงั้นหรอ?"
ซังจินได้ขมวดคิ้วขึ้น
"ฟังนะ ในตอนนี้ฉันไม่มีเวลาอีกแล้ว ดังนั้นฉันจะอธิบายเกี่ยวกับมันในครั้งหน้า โอเค?"
ชาวภูเขาก็ยังคงมองอย่างสับสน แต่ว่า
"...โอเค"
ในตอนนี้เขาได้หยักหน้ารับออกมา ซังจินก็ได้หยิบหินแสวงหาฆาตกรออกมาจากกระเป๋าของเขา ในที่ๆเขาอยู่ในตอนนี้มันเป็นชั้นที่ 10 ดังนั้นในอีกความหมายหนึ่ง มันเป็นสถานที่แรกที่ควรจะใช้ค้นหาฆาตกร
'แสวงหาความยุติธรรม'
เขาต้องการที่จะใช้มันในทันทีแต่แล้วเขาก็ได้ถูกขัดจังหวะโดยจอมเวทย์เขียวและภูผา
"ขอโทษนะ...ผู้พิพากษา...ช่วยเลือกฉันด้วยคนสิ"
"ฉันด้วย...ฉันต้องการสเตตัส ได้โปรดล้างบาปฉัน"
ซังจินได้มองไปที่พวกเขา ในสถานการณ์ตอนนี้มันต่างออกไป เขามีขวดน้ำเหลืออยู่อีกเพียงขวดเดียว เขาไม่สามารถจะใช้มันฟุ่มเฟือยได้ ดังนั้นเขาจึงพูดออกไป
"ขอโทษด้วยนะ แต่ว่าฉันไม่สามารถตะใช้มันกับทุกคนได้"
พวกเขาได้มองมาอย่างผิดหวัง
"ฉันขขอโทษด้วย"
ซซังจินต้องการที่จะจากไป แต่ว่า
"ได้โปรดคิดดูอีกทีนะ"
"ฉันจะยอม...ยอมทำทุกอย่างเลย"
เมื่อพวกเขาได้หยุดซังจินเอาไว้ เขาก็ได้เกิดไอเดีย
"ถ้างั้น...ฉันจะสร้างข้อเสนอ มันเป็นข้อเสนอที่ยาก...."
"มันคืออะไร?"
ซังจินได้แสดงแหวนที่อยู่บนนิ้วซ้ายของเขาออกมา มันคือแหวน 'ฮีลิกซ์'
"ถ้าหากว่าพวกนายฉูบแหวนของฉันด้วยความเต็มใจและจริงใจต่อฉัน..."
ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยคเขาก็ได้ถูกขัด
"ฉันจะ...ฉันจะทำมัน"
"ฉันก็ด้วย"
พวกเขาได้ตอบกลับมาโโยปราศจากความลังเล แต่ว่าคำอธิบายมันยังคงไม่จบลง
"ฉันจะล้างบาปนายเมื่อพวกเราพบกันอีกครั้ง"
สิ่งที่ซังจินคือก็คือ ถ้าหากว่าน้ำศักดื์สิทธิ์ใช้ 1 เหรียญขาว มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ซังจินจะไม่ล้างบาปพวก ถ้าหากพวกเขาได้ให้เหรียญขาวกับซังจินในตอนนี้
'พวกเขาไม่ได้ดูเหมือนพวกคนเลว...'
แต่ว่าจอมเวทย์เขียวก็รู้สึกความสงสัย
"ครั้ง..ต่อไป?"
"ใช่แล้ว ครั้งต่อไป"
ภูผาก็ได้เอียงหัวอย่างสงสัยเช่นกัน
"เมื่อไหร่กันหละ..."
ซังจินได้หยักไหล่ออกมา
"ฉันไม่รู้ในคำตอบของมัน แต่ว่าถ้พวกนายสามารถจะอยู่รอดต่อไป พวกเราก็จะได้เจอกันแน่นอน ไม่คิดแบบนั้นหรอ?"
ซังจินไม่ได้ยอกพวกเขาเกี่ยวกับ 'พลังในการไปมิติอื่น' วกเขาได้มองหน้ากันและกันอย่างเงียบๆ
"ถ้าอย่างนั้น...ฉันจะทำมันในตอนนี้"
"ฉันก็ด้วย"
แต่มันก็ยังคงมีอีกอุปสรรคหนึ่งเหลืออยู่อีก
"แต่ว่าถ้าพวกนายจูบแหวน พวกนายก็จะได้รับเงินจากรางวัลการจู่โจมลดลง 10% พวกนายยังแน่ใจอยู่ไหม?"
"อะไรนะ?"
"ว่ายังไนะ?"
และการตอบสนองก็เป็นไปตามคาด
"ไม่มีทาง..."
"เขาพูดจริง? เหรียญดำที่เราได้รับจากรางวัลการจู่โจมจะลดลง 10%? พวกเราตะสามารถอยู่รอดได้อย่างไรในการจู่โจมต่อๆไป"
"นั่นคือเหุผลที่ว่าทำไมฉันถึงได้บอกพวกนายว่ามันเป็นข้อเสนอที่ยาก แต่ฉันก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้....การล้างบาปมันไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะสามารถใช้ได้โดยไม่ได้รับสิ่งใดชดเชย"
พวกเขาได้ตกอยู่ในความเงียบ ซังจินก็พูดกับพวกเขาอีก
"ถ้าหากว่าไม่มีใครต้องการ...ฉันก็คงต้องขอโทษด้วยสำหรับในตอนนี้"
ซังจินได้เตรียมพร้อมที่จะจากไป พวกเขาได้ทำให้ซังจินเสียเวลามามากพอแล้ว แต่แล้วจอมเวทย์เขียวก็ได้ลองกล่าวเพิ่มมาอีกคำหนึ่ง
"แต่ว่า...ถ้าอย่างงั้น ทำไมนายถึงล้างบาปชาวภูเขา?"
'ฉันได้อ่านใจพวกนาย และเขาก็เป็นคนดี'
แต่เขาก็ไม่สามารถจะพํดไปได้ ซังจินจึงได้ให้คำตอบง่ายๆออกไป
"ฉันชอบทักษะของเขา"
ด้วยคำนี้จอมเวทย์เขียวก็ได้เงียบลงไป ทักษะของชาวภุเขาเป็นของจริง จอมเวทย์เขียวจึงไม่สามารถจะทำเช่นไรได้อีก จากนั้นซังจินก็เหล่มองออกไปในขณะที่กล่าวขี้น
"แสวงหาความยุติธรรม"
และเขาก็ได้ใช้หินแสวงหาฆาตกร
[ทำการร้องขอการเคลื่อนย้ายมิติ]
แสงจากท้องฟ้าได้ส่องลงมาที่ซังจิน
ชาวภูเขาและคนอื่นๆต่างก็ตกใจในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะว่าพวกเขาก็พึ่งจะเคยเห็นเหตุการณ์เข่นนี้เป็นครั้งแรก
โดยปกติแล้วข้อความ 'ม่ายจะต้องได้รับรางวัลการจู่โจมเป็นอย่างแรก' จะปรากฏออกมา แต่ว่าในครั้งนี้มันต่างออกไปเพราะว่ารางวัลได้แจกออกมาแล้ว
[คำร้องขอย้ายมิติได้รับการยอมรับ]
[จะวาปไปที่มิติอื่นในอีก 10 วินาที 10 9]
"นั่นมันคืออะไร?"
พวกนักล่าคนอื่นๆต่างก็ได้พยายามที่จะสัมผัสไปแสงสวางรอบๆซังจิน แต่ว่าแสงก็เหมือนกับจะกระจกที่ปิดกั้นทุกอย่าง พวกเขาไม่สามารถจะสัมผัสด้านในได้เลย
[4 3 2]
ซังจินได้กล่าวกับฟรานซ์ในวินาทีสุดท้าย
"เราจะได้เจอกันอีกครั้งในตลาดมืดนะพวก"
ฟรานซ์ได้หยักหน้ารับ
"ใช่แล้ว"
ครู่หนึ่ง
[1 0]
ซังจินก็ได้ถูกวาปออกยังที่ๆปรากฏฆาตกรอยู่
***
"วูบบ"
"ชิ้ง"
ดาบสองเล่มได้เพุ่งออกไปในเวลาเดียวกัน 'โอเวอร์ลอร์ด' ได้มองดูดาบทั้งสองเล่มอย่างระมัดระวังและเล็งที่จะป้อมกันมันทั้งคู่ด้วยโล่เหล็ก
แต่เมื่อเขาขยับโล่ไปป้องกัน ทันใดนั้นดาบสีแดงเล่มหนึ่งจากทั้งสองเล่มก็ได้เปลื่ยนทิศทาง มันเป็นการเคลื่ยนที่ๆไม่น่าจะเป็นไปได้ โอเวอร์ลอร์ดได้เบิกตากว้าง
'ได้ยังกัน?'
แต่มันการสายเกินไปแล้ว ดาบสิแดงได้ฟันลึกเข้ามาที่ด้านข้างที่ไร้การป้องกัน
"อ๊ากกก"ดวงตาของเขาได้เต็มไปด้วยความกลัวในตอนที่เขจามองไป
โอเวอร์ลอร์ดได้หรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เขาไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนี้มาก่อนในตอนที่ต่อสู้่กับมอนสเตอร์ แต่ว่าศัตรูตรงหน้าเขา 'ผู้พิพากษา' ทรงพลังเกินไป
ดวงตาของเขาได้เต็มไปด้วยความกลัวในตอนที่เขามองไปที่ผู้พิพากษา
"ได้โปรด...เมตตา ฉันขอโทษ"
เขาได้พยายามร้องขอความเมตตา
"ไปทำมันในนรกซะเถอะ"
ผู้พิพากษาไม่ได้แสดงความปราณีใดๆเลย
"อ๊ากกก"
หัวของโอเวอร์ลอร์ดได้ลอยขึ้นไปในขณะที่หมวกของเขาก็ยังคงสวมใส่อยู่
"วูวว..."
ทันใดนั้นผู้พิพากษาหรือก็คือซังจินก็ได้ถามกับโอเปอเรเตอร์
"โอเปอเรเตอร์ เวลาที่ฉันใช้ในมิตินี้คือ?"
[3 นาที 12 วินาที]
เบโกโร่ได้กล่าวออกมา
'มันรวดเร็วเป็นอย่างมาก มันเป็นสถิติใหม่เลยนะเนี่ย'
มันเป็นมิติที่สี่แล้วที่เขาได้วาปมาหลังจากที่ได้แยกจากชาวภูเขา เขาได้กุดหัวฆาตกรไปสี่คนแล้ว
"นายพูดถูกแล้ว แต่ว่านี่มันเป็นเพราะว่าเขาได้อยู่ข้างๆฉันในตอนที่ฉันได้วาปออกมา"
เมื่อซังจินได้มาถึงที่นี่มันมีเพียงแค่โอเวอร์ลอร์ดที่เป็นฆาตกรเพียงคนเดียวที่อยู่ที่นี่ แล้วแม้ว่าเขาพึ่งจะฆ่าเพือ่นร่วมทีมของเขาไป แต่ว่าเขาก็ยังคงสูบซิก้าอย่างสบาลใต ดังนั้นซังจินจึงจัดการกุดหัวเขาไปอย่างไร้ความปราณี
ถัดไปจากศพของโอเวอร์ลอร์ดเป็นศพของเรนินและตามมาด้วยศพนักล่าคนอื่นๆ ซังจินได้เหล่มองไปที่พวกเขา
'สองคนถูกเผาตาย หนึ่งคนแข็งตาย หนึ่งคนถูกทุบจนตาย และอีกคนถูกฉันฆ่าตาย'
ซังจินได้มองไปดูที่สาเหตุการตายของพวกเขา มันง่ายมากที่จะเดาว่าสิ่งใดเกิดขึ้นที่นี่ พวกเขาได้ถูกบอสจัดการไปสองคนและอีกหนึ่งคนก็ถูกโอเวอร์ลอร์ดฆ่าไป
'พริบตาเดียวของความโลภที่ต้องการจะยึดทุกสิ่ง"
พวกเขามีโชคที่แย่ที่สุด แต่ว่าสิ่งเดียวที่จะโทษได้ก็คือโทษโชคชะตาของพวกเขาเอง
'ทุกอย่างมันจะต้องดีขึ้น แต่ว่าทำไมถึงมีเพียงแค่หนึ่งคนในแต่ละรอบ?"
เบสโกโร่ได้พึมพัมออกมา
"นายหมายถึงฆาตกร?"
'ใช่แล้ว'
"ฉันรู้ว่านายหมายถึงอะไร"
ใช่แล้ว ในการจู่โจมก่อน เขาได้พบกันฆาตกรหลายๆคนพร้อมกัน แต่ว่าในตอนนี้เขากลับต้องพบเจอกับฆาตกรเพียงแค่คนเดียวในแต่ละมิติเท่านั้น
"เยี่ยมมันเป็นสิ่งที่ดีแบ้วที่ไม่มีฆาตกรจำนวนมาก"
'แต่ว่าฆาตกรสองหรือสามคนมันก็จะหมายความว่านายจะมีรางวัลสองหรือสามเท่า'
เขาพูดถูกแล้ว ซังจินได้เดินไปหยิบไอเทมที่เขาได้จากฆาตกรคนล่าสุด และใส่มันลงไปในลูกบาศก์ขณะที่คิดขึ้น
'ยังหรอก ฉันยังไม่สามารถจะเขื่อได้ว่าจะมีฆาคกรเพียงแค่หนึ่งคนต่อการจู่โจม...รายได้โดยรวมของฉัน...มันน้อยกว่าที่ฉันคิดเอาไว้'
ไม่ใช่แค่เพียงเหรียญดพ แต่เขาก็ยังไม่เจอโอกาสที่จะได้รับเหรียญขาวเลยซึ่งในก่อนหน้านี้ซังจินได้ช่วยปกป้องคนเอาไว้ไม่หนึ่งก็สองคน
'ขอบคุณ'
'ขอบคุณ'
พวกเขาเพียงแค่แสดงความขอบคุณเพียงเท่านั้น ซึ่งซังจินก็ได้พยายามแล้วอย่างดีที่สุดเพื่อที่จะโนมน้าวพวกเขา
"เฮ้ พวกนายได้ค้นหาชิ้นส่วนที่ลับอยู่ไหม?"
แล้วแม้ว่าเขาจะบอกสถานที่ลับแก่พวกนั้นเพื่อที่จะรับโบนัสสเตตัสไป
'แต่ว่าการสูญเสียเงิน 10% จากรางวัลการจู่โจมมันมากเกินไป...'
พวกเขาก็ยังคงปฏิเสธที่จะจูบแหวน บทลงโทษของมันใหญ่เกินไป เบสโกโร่ได้บ่นออกมา
'โชคร้ายที่นายสามารถจะรับรางวัลได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น'
ซังจินก็ได้ตอบกลับไปอย่างเฉยเมย
"ใช่แล้ว"
เมื่อเขาได้นำนักล่าไปยังสถานที่ลับหลังจากที่ปกป้องพวกเขา หมวกเวทย์ก็ได้กล่าวออกมา
'นายเป็นใคร'
'เค เป็นนักล่า ฉันได้กลับมาหลังจากที่ฆ่าเรนิน'
'เรนิน? นายฆ่าเรนิน?'
เขาทำทางราวกับว่าเขาไม่เคยเห็นซังจินมาก่อน
'นี้คือรางวัล ฉันจะให้พลังของฉันแก่นาย'
แม้ว่าเหตุการณ์มันจะเหมือนเดิม แต่ว่าซังจินก็ไม่ได้อะไรกลับมาเลย
พ่อค้าร้านมืดมิดยิ่งกว่าสีดำได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า 'การแจกรางวัลจะเกิดขึ้นเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น' สิ่งนี้มันยังยอมรับได้ในส่วนสถานที่ลับ
"เยี่ยม ฉันไม่สามารถจะทำอะไรได้ ฉันคิดว่าฉันจะต้องมุ่งเน้นไปที่การจัดการฆาตกร"
'ใช่...นั้นมันแน่นอนว่าคือความชำนาญของนาย'
ซังจินได้ยืดตัวขึ้นมา ในตอนนี้ไม่มีนักล่าเหลืออีกแล้ว เขาจึงมีเวลาว่างมากมาย
"หืมม ฉันคิดว่าในตอนนี้ฉันควรจะเอาไอเทมออกมาตรวจสอบ"
ไอเทมที่เขาได้รับมาจากการล่าฆาตกรมันไม่ดีเลย แต่ว่าไอเทมที่เขาได้รับจากการแจกรางวัลมันเป็นไอเทมระดับตำนาน มันเป็นสิ่งที่ดี
"โอเปอเรเตอร์ ส่งไอเทมที่ฉันได้รับจากการจู่โจมในก่นหน้านี้มาที ยกเว้นหินเอนชานต์นะ"
แหวนและผลไม้ขนาดเล็กๆได้ออกมาจากลูกบาศก์ ซังจินได้หยิบแหวนขึ้นมาก่อน
คิเมโร่ - แหวนแห่งการรวมสัตว์
แหวนระดับตำนาน
ทักษะใช้าน
จอมเวทย์คือน้ำแข็ง - ภูมิคุ้มกันไฟ 5 วินาที
งูคือเซรัมธ์ - ภูมิคุ้มกันพิษ 5 วินาที
สิงโตคือความกล้าหาญ - ภูมิคุ้มกันความกลัว 5 วินาที
แพะคือไฟ - ภูมิคุ้มกันน้ำแข็ง 5 วินาที
คูลดาวใช้ร่วมกัน 10 นาที
ธรรมชาติได้ถูกสร้างโดยพระเจ้า คนที่ทำลายการสร้างนี้จะค้องได้รับโทษทัณฑ์
มันยอดเยี่ยมมาก มันมีทักษะที่สมกับการเป็นไอเทมระดับตำนาน
ซังจินมีข้อได้เปรียบทางกายภาพอยู่แล้ว แต่ว่าผลของพวกเวทมนตร์มันมักจะทำให้เขาต้องปวดหัว ด้วยเวทย์ที่เขาได้เรียนรู้มาและด้วยฉายา 'จิตแกร่ง' ที่เขาได้รับมาในรอบนี้ เขาก็ควรที่จะเหวี่ยงดาบได้โดยที่ไม่ต้องหยุดพัก
"ส่วมใส่"
ซังจินได้สวมใส่ในไปในทันที ซึ่งในตอนนี้นิ้วของซังจินก็เต็มไปด้วยแหวนแล้ว เหลือเพียงแค่ไม่กี่นิ้วเท่านั้นที่ยังว่างอยู่
'มันถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องหยิบและเลือกมัน'
ซังจินได้คิดขึ้นในขณะที่มองไปยังผลไม้ที่มีกลิ่นเหม็น
เมอร์ก้า - ผลไม้วิวัฒนาการ
ผลไม้ระดับตำนาน
ทักษะติดตัว
การเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว -อนุญาติให้สปิริตลิ้งสัตว์อัญเชิญได้รับการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ถ้าหากสิ่งมีชีวิตได้มาถึง 'เช็คพ้อย' มันก็จะมีการวิวัฒนาการในทันที
ผลไม้ที่ได้เจริญเติบโตที่เมืองทางทิศใต้ มันจะเพิ่มสปีดการทำงานของร่างกายและเพิ่มการเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
ซังจินได้มองไปที่ข้อมูลเบื้องหน้า
'การเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว...และการวิวัฒนาการ?'