ตอนที่ 06 ของขวัญจากเจ้าหญิงเซราส! พาร์ท 2
ทางตอนใต้ของทวีปซีเหมิงซี่ ณ เมืองโอรัน ชายสวมคลุมลึกลับกำลังเผชิญหน้ากับหญิงเปลือยกาย ขณะที่ไคลด์กำลังพิจารณาว่าจะทำไงกับเซราสยังภายในห้องนอนพระราชวังแห่งอาณาจักรอาวน์เลส ภายนอกก็เกิดเสียงโกลาหลขึ้น น่าเสียดายที่พระราชวังนั้นไม่มีทหารยามแม้แต่คนเดียว ตอนนี้พระราชวังเหมือนสถานที่สาธารณะที่ใครจะเข้ามาก็ได้
‘’เจ้าหญิงเซราสอยู่ไหน!? รีบไปจับตัวเธอเร็วเขา เราจะได้รวยกันสักที!’’
''มันไม่ถูกต้องนะ เธอเป็นเจ้าหญิงของอาณาจักรเรานะ''
''อาณาจักรกำลังล่มสลาย ใครจะไปแคร์กัน? หรือว่านายไม่ต้องการเงินแล้วหนีไปตั้งตัวใหม่หรอ?''
เจ้าหญิงเซราสไม่เคยคิดว่าประชาชนจะทรยศเธอ เธอเสียสละตัวเพื่อเป็นค่าจ้างสำหรับทหารรับจ้างในการปกป้องพวกเขา ไคลด์เห็นเธอกำลังจะว่าพวกชาวบ้านที่คิดทรยศ แต่เพื่อป้องกันเจ้าหญิงถูกจับตัว ไคลด์ปิดปากของเธอด้วยผ้าสีแดง และปิดตาของเธอด้วยผ้าสีดำอีกครั้ง
‘’เจ้าหญิงเซราส ขอโทษที่ล่วงเกิน แต่โปรดเงียบสักครู่ ฉันจะพาคุณออกไป’’
ในตอนแรกเจ้าหญิงเซราสรู้สึกหวาดกลัว แต่ตอนนี้เธอเข้าใจสถานการณ์แล้ว ไคลด์จับเธอใส่กล่องอีกครั้ง และลบคำว่า ‘’ของขวัญ’’ ออก เขาหากุญแจสำหรับล็อกไม่เจอ เขาจึงขึ้นไปนั่งบนกล่องไม้ หลังจากนั้นไม่นานกลุ่มชาวบ้านที่เป็นอาสาสมัครป้องกันเมืองจึงเปิดประตูห้องเข้ามา ชาวบ้านเหล่านี้ขาดแคลนเสบียงและไม่ได้รับค่าจ้าง ทำให้พวกเขาคิดกบฏ พวกเขาใช้อาวุธที่ได้รับแจกเพื่อที่จะตามหาเจ้าหญิง
‘’เจ้าหญิงเซราสอยู่ที่ไหน? พวกเราหาทั่วพระราชวังแล้ว แต่พบเพียงเสื้อผ้าของเธอที่ขาดรุ่งริ่ง หรือว่าเธอจะถูกจับตัวไปแล้ว?’’
‘’แต่ชุดของเธอบางส่วนยังวางอยู่ที่นี่นะ เป็นไปได้สูงที่มีใครจับเธอไปก่อน เพราะเธอไม่มีทั้งทักษะการต่อสู้และก็เวทย์มนตร์นิ’’
‘’แต่เสื้อผ้าของเธอที่ขาดถูกพับอย่างเรียบร้อย หรือว่าเธอจะถูกบังคับ ไม่เธอก็ตั้งใจที่จะสร้างสถานการณ์ไว้?’’
หลังจากเหล่าทหารกบฏบุกเข้าห้องไคลด์ ไม่มีทหารคนไหนกล้าเผชิญหน้ากับเขาซึ่งหน้า ข่าวในไม่กี่วันก่อนที่ว่าไคลด์สามารถฆ่าเหล่าอัศวินของอาณาจักรออกัสต้าได้ ฝีมือของเขาต้องเป็นทหารรับจ้างระดับ S แน่นอน นอกจากนี้เขายังมาพร้อมกับสาวน้อยที่ใช้เวทย์มนตร์ได้ ข่าวนี้ทำให้พวกเขาลังเลที่จะบุกเข้าโจมตีไคลด์
ไคลด์ถือกล่องไม้ขึ้นก่อนจะเดินผ่านพวกเข้าไปที่ประตู ด้วยแรงกดดันอะไรบางอย่างในตัวเขาจึงทำให้เหล่ากบฏไม่กล้าทำอะไร จนกะทั่งเขาเดินถึงประตู ในที่สุดเหล่ากบฏก็มีกิริยาตอบโต้ พวกเขาก้าวไปข้างหน้าเพื่อขวางทางไคลด์ ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะจบไม่สวยสะแล้ว
‘’เฮ้พวก มีอะไรอยู่ในกล่องนายกันนะ? มันคงไม่ใช่ค่าตอบแทนที่องค์หญิงให้นายหรอกใช่ไหม? ทำไมไม่ให้พวกเราได้ดูหน่อยละ? หะ!’’
ไคลด์ส่งกบฏที่กำลังขวางทางให้บินไปด้วยลูกเตะ กบฏผู้เคราะห์ร้ายทะลุกำแพงและบินออกจากพระราชวังด้วยเสียงร้องโหยหวนไปทั่วเมือง ในทิศทางที่เขาบินนั้นเต็มไปด้วยเลือด ฉากการต่อสู้นี้ทำให้เหล่ากบฏคนอื่นสั่นกลัว ไม่มีใครกล้าขวางทางไคลด์อีกต่อไป แม้ว่าเขาจะถือกล่องแต่ก็สามารถฆ่าคู่ต่อสู้ได้ด้วยการเตะเพียงครั้งเดียว นี่คือพลังต่อสู้ที่มากพอที่จะทำให้พวกเขายอมแพ้ พวกเขาคิดว่าชีวิตของพวกเขามีค่ามากกว่าทอง
ทุกสิ่งในพระราชวังแม้จะมีของที่มีค่าเล็กน้อยเพียงใด ก็จะถูกเหล่ากบฏยึดไปทุกอย่าง พวกเขาเผาเสื้อผ้าของเจ้าหญิงเซราสด้วยความโกรธที่พวกเขาไม่สามารถจับตัวเธอได้ ความพ่ายแพ้ของอาณาจักรแอดเรี่ยนเป็นอีกเครื่องเตือนใจว่า อาณาจักรอาวน์เลสจะเป็นอาณาจักรต่อไปที่ถูกบุกโจมตี
ในเวลานี้ทหารจากอาณาจักรออกัสต้ามีมากกว่า 30,000 นาย ส่วนประชาชนในเมืองโอรันมีเพียง 10,000 คน ประชาชนส่วนมากอ่อนแอ ป่วย ขาดกำลังใจในการสู้รบไปหมดแล้ว บางส่วนก็ก่อกบฏต่ออาณาจักร บางส่วนก็หนีออกจากอาณาจักรไป ถ้าเจ้าหญิงเซราสไม่ตัดสินใจที่กล้าหาญในคืนนี้ เธอคงถูกเหล่ากบฏจับตัวไปขายแล้ว
ในมุมมองของไคลด์ อาณาจักรอาวน์เลสนั้นมีแต่ชื่อ กษัตริย์และเจ้าชายได้หนีไปที่อาณาจักรแอดเรี่ยนพร้อมกับนำมีค่าและทรัพย์สมบัติไปหมดไปแล้ว ทิ้งเจ้าหญิงเซราสที่ใสซื่อไว้ โดยที่เธอไม่มีทั้งทักษะการต่อสู้และเวทย์มนตร์ การทิ้งเธอให้อยู่คนเดียวเปรียบเหมือนของสมนาคุณให้กับศัตรู นอกประตูพระราชวัง เด็กสาวตัวน้อยผมสีเงินยืนอยู่ข้างรถม้าพร้อมส่งรอยยิ้มให้กับเขา มีรอยเลือดอยู่ทั่วพื้นที่เธอยืน ดูเหมือนว่าเธอพึ่งฆ่าใครบางคนเมื่อไม่นานมานี้
แต่ชุดสีดำของเธอไม่เลอะเลือดแม้แต่หยดเดียว ดูเหมือนว่าเธอจะใช้ค้างคาวบริวารเธอจัดการแทน ในใจของไคลด์คิดว่าสมเหตุสมผลแล้วเพราะว่าเธอนั้นขี้เกียจจนกว่าจะลงมือจัดการเอง สถานการณ์เมืองโอรันตอนนี้เต็มไปด้วยความวุ่นวาย มีการปล้น การฆ่าอยู่ทั่วไป บ้านเรือนหลายหลังถูกกบฏเผาทำลาย หอสังเกตการณ์ของเมืองที่ดูสะดุดตาตอนนี้ลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง
‘’พี่ไคลด์ พาหนะพร้อมแล้ว! เร็วเข้า ถ้าไปตอนนี้ละก็ผ่านประตูเมืองแบบสบายๆ ได้แน่’’
‘’เอิ่ม.. แต่เจ้าหญิงเซราส...’’
‘’เราจะพาเธอไปด้วย ตอนนี้พี่สาวเซราสเปลือยเปล่าแล้ว พี่จะมอบเธอให้กับเหล่ากบฏหรอ?’’
ภายใต้คำพูดของลูซิเฟอร์ทำให้ไคลด์ไม่ลังเลอีกต่อไป เขาตัดสินใจพาองค์หญิงเซราสไปกับเขาด้วย ถ้าหากทิ้งเจ้าหญิงที่กำลังเปลือยตอนนี้จะเป็นการทิ้งให้เธอเจอกับสถานการณ์ลำบาก เจ้าหญิงเซราสกำลังคิดถึงความเป็นไปได้ ตอนนี้เจ้าหญิงไม่กลัวไคลด์กับลูซิเฟอร์อีกต่อไปแล้ว แต่ตอนนี้เธอสิ้นหวังกับสถานการณ์วุ่นวายในเมืองโอรันมากกว่า
หลังจากความพ่ายแพ้ของอาณาจักรแอดเรี่ยน อาณาจักรเล็กๆ หลายแห่งรอบเมืองจึงตกเป็นของอาณาจักรออกัสต้า สถานการณ์นี้กำลังมาเยือนอาณาจักรอาวน์เลส ตอนนี้ทุกอาณาจักรมีความเสี่ยงที่จะถูกยึด พวกเขาจึงตัดสินใจออกจากเมืองอย่างรวดเร็ว เขาออกจากเมืองที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงพร้อมกับเจ้าหญิงเซราสที่เป็นเจ้าหญิงแต่ในนาม ตอนนี้เธอไม่มีแม้กระทั่งเสื้อผ้า ไคลด์ปวดหัวทันทีเมื่อคิดถึงสถานการณ์ปัจจุบัน นี้เราไม่มีเสื้อผ้าในกระเป๋าสักชุดเลยสินะ เขาตัดสินใจหลี้ภัยไปพร้อมกับสาวสวยสองคน
การไปแถวอาณาจักรแอดเรี่ยนนั้นเสี่ยงเกินไป พื้นที่โดยรอบน่าจะถูกยึดไว้หมดแล้ว นอกจากนี้คนในประเทศคงอยู่ในภาวะวุ่นวายไม่ต่างจากเมืองโอรัน ในรถม้าไคลด์ได้แก้ผ้ากับเชือกที่มัดเจ้าหญิงออก เนื่องจากเธอไม่มีเสื้อผ้าอยู่เลย เธอจึงรู้สึกเขินอายเป็นอย่างมาก เธอพยายามเอามือปกปิดส่วนลับของเธอ หน้าของเธอแดงคล้ายแอปเปิ้ลแดงที่สุกงอม เธอใช้มือปิดหน้าอกที่เหมือนผลไม้อวบๆ เหยียดขาขาวราวกับหิมะปิดส่วนล่างของเธอขณะที่นั่งอยู่บนรถม้า
‘’เอ่อ.. เจ้าหญิงเซราส รอก่อนนะ เสื้อผ้าของลูซิเฟอร์ไม่ใหญ่พอที่เธอจะใส่ได้หน่ะ เมื่อเราไปถึงเมืองเราจะหาซื้อผ้าให้เธอเองนะ’’
‘’ไม่เป็นไรหรอกค่ะท่านไคลด์ นี้ถือเป็นค่าตอบแทนของคุณ’’
‘’เอาค่าตอบแทนของเธอวางไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้เธอกำลังเหนื่อย พักผ่อนสะ’’
เจ้าหญิงเซราสเอนหลังนอนด้วยความสงสัย เธอมั่นใจในรูปร่างของเธอเป็นอย่างมาก แต่ไคลด์กับไม่แตะต้องเธอเลย การกระทำของไคลด์ทำให้เธอเป็นกังวล เธอมองเขาด้วยตาที่เป็นประกาย เธอส่ายหัวไปมาเล็กน้อยในระหว่างการใช้ความคิด หลังจากที่เจ้าหญิงเซราสหลับไป ไคลด์สังเกตเห็นกลุ่มอัศวินดำเดินทางเข้ามาใกล้รถม้าของเขา เหล่าอัศวินถือธงของอาณาจักออกัสต้า พวกเขาโชคร้ายมาเจอกับกองทัพอาณาจักรออกัสต้า ไคลด์ยิ้มเยาะให้กับโชคชตาของเขา...