ตอนที่ 05 ของขวัญจากเจ้าหญิงเซราส! พาร์ท 1

ดูเหมือนว่าเมืองอาวน์เลสจะรอดพ้นจากวิกฤตชั่วคราว แต่เงาแห่งสงครามยังปกคลุมอยู่ทั่วเมือง เมืองเล็กๆ แห่งนี้อยู่ทางตอนใต้ของทวีปซีเหมิงซี่ อาณาจักรออกัสต้าไม่ได้ใจดีถึงขนาดปล่อยพวกเขาไป แต่พวกเขารวมกำลังพลเพื่อจะพิชิตอาณาจักรแอดเรี่ยนให้ได้ก่อน หลังจากนั้นพวกเขาจะต้องกลับมาจัดการกับอาณาจักรเล็กๆ อย่างอาณาจักรอาวน์เลสแน่

ไคลด์และลูซิเฟอร์อยู่ในพระราชวังที่สุดแสนจะเรียบง่ายของเมืองโอรัน สถานการณ์ในปัจจุบันของเมืองไม่สู้ดีนัก แค่รอเวลาที่อาณาจักรแอดเรี่ยนพ่ายแพ้ อาณาจักรอาวน์เลสก็จะเกิดสงครามต่อไป อาณาจักรแอดเรี่ยนเคยพ่ายแพ้ต่ออาณาจักรออกัสต้ามาก่อน พวกเขาได้รับความเสียหายทหารทุกข์ทรมานจากการบาดเจ็บของทหารเป็นจำนวนมาก ถึงแม้ทหารของพวกเขาจะมากกว่าถึงสิบเท่า แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับอาณาจักรแห่งความมืดออกัสต้ามาแล้ว

‘’พี่ไคลด์ น้องสาวสุดน่ารักคนนี้เอาข่าวมาบอก ดูเหมือนว่าอาณาจักรแอดเรี่ยนจะพ่ายแพ้อีกแล้ว คราวนี้กองทัพทั้งหมดถูกกวาดล้าง ดูเหมือนว่าเราต้องทำงานกันอีกครั้งนะ’’

‘’โง่เง่า! อาณาจักรแอดเรี่ยนพ่ายแพ้เร็วเกินไป ยังไม่ถึง 3 วันพวกเขาก็แพ้แล้ว?’’

ค้างคาวตัวเล็กบนไหล่ของลูซิเฟอร์ส่งสัญญาณด้วยดวงตาสีแดงไปที่สาวน้อยเผ่าโลหิต ค้างคาวและลูซิเฟอร์ใช้ภาษาอะไรบางอย่างที่ไคลด์ไม่สามารถเข้าใจได้ เมื่อไม่นานมานี้ป้อมปราการมิเชลสัน แห่งอาณาจักรแอดเรี่ยนถูกองค์หญิงโอฟีเลียนำทหารกว่า 20,000 นาย บุกโจมตีได้สำเร็จโดยที่ป้อมปราการมีทหารป้องกันกว่า 50,000 นาย

ในสงครามครั้งนี้กองทัพของอาณาจักรออกัสต้าสามารถกวาดล้างกองทัพของอาณาจักรแอดเรียนได้หมด อาณาจักแอดเรี่ยนไม่มีทางเลือกที่จะต้องรวมกองกำลังทหารที่เหลือทั้งหมดปกป้องเมืองหลวง พวกเขาจึงละทิ้งเมืองเล็กๆ รอบอาณาจักรให้อาณาจักรออกัสต้า โชคดีที่กองทัพของ ‘’อาณาจักรสีขาวแห่งความบริสุทธิ์’’ วินเฟร็ดได้นำทัพสนับสนุนเดินทางมาถึงชายแดนของอาณาจักรแอดเรี่ยน ทำให้อาณาจักรออกัสต้าไม่สามารถบุกยึดเมืองหลวงของอาณาจักรแอดเรี่ยนได้

อย่างไรก็ตามเรื่องทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรอาวน์เลส พวกเขายังต้องเผชิญกับสถานการณ์อันสุ่มเสี่ยงเช่นเดิม จนกว่าอาณาจักรออกัสต้าจะถอนกำลังมาโจมตีเมืองโอรัน ดูเหมือนว่าสถานที่แห่งนี้ไม่เหมาะสำหรับเป็นที่พักในระยะยาว เมื่อไคลด์คิดถึงเรื่องนี้จึงทำให้เขาปวดหัว เขาพึ่งจะตกลงช่วยเมืองแห่งนี้ในไม่กี่วันก่อน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาต้องกลับไปใช้ชีวิตเร่ร่อนเช่นเดิม เขาเคยเห็นเจ้าหญิงโอฟีเลียมาก่อน จากที่เขาสังเกตุเธอเป็นคนที่แข็งแกร่ง เป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะไม่บุกโจมตีเพื่อยึดเมืองอาวน์เลส

‘’เอ๊ะ! มีกล่องอยู่ตรงนี้ด้วยหรอ? แปลกจริง เมื่อกี้ยังไม่มีนิ’’

‘’พี่ไคลด์ ฉันมีเรื่องด่วนที่ต้องทำ พี่นอนก่อนเลยนะ’’

‘’ลูซิเฟอร์นี้ดึกแล้วนะ เธอจะไปไหน’’

เมื่อไคลด์กลับมาที่ห้องนอนเขาสังเกตุเห็นกล่องไม้ที่ไม่เคยมีมาก่อนอยู่ข้างเตียงไม้ของเขา เมื่อเขาเปิดกล่องจึงเห็นป้ายเขียนด้วยตัวหนังสือสีขาวว่า ''ของขวัญ'' ในราชวังแห่งนี้ถ้าจะมีใครสักคนที่ส่งกล่องนี้มาได้มีเพียงองค์หญิงเซราส เขาเอง และลูซิเฟอร์

ลูซิเฟอร์รู้อยู่แล้วว่าในกล่องไม้มีอะไร แต่ลูซิเฟอร์ไม่ได้บอกไคลด์ก่อนที่เธอจะออกไปสูดอากาศข้างนอก เธอส่งรอยยิ้มที่แอบแฝงอะไรบางอย่างมาที่ไคลด์ เธอหันออกไปและปิดประตูห้องนอนทิ้งไคลด์ที่สับสนไว้เบื้องหลัง ถึงไคลด์เป็นหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่แต่เขาก็ไม่สามารถเดาใจของลูซิเฟอร์ได้เลย

ไคลด์เดินตรงไปทางที่กล่องไม้วางอยู่ เขาเป็นถึงหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่การที่เขาไม่กล้าเปิดกล่องไม้ใบนี้อาจทำให้เขาเสียศักดิ์ศรีอันสูงส่งของเขาได้ เมื่อไคลด์เปิดกล่องเขาได้กลิ่นหอมจางๆ เป็นกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของสาวงาม เขาพิจารณากลิ่นนี้เหมือนว่าเขาจะเคยได้กลิ่นนี้มาก่อน

หลังจากที่เขามองไปที่ของในกล่องซึ่งมันเกิดความคาดหมายของเขามาก ด้านหน้าของเขาเองสิ่งที่อยู่ในกล่องคือเจ้าหญิงเซราสที่เปลือยเปล่า ผิวสีขาวราวหิมะของเธอเด่นชัดในห้องนี้ มือทั้งสองข้างของเธอถูกมัดไขว้ไว้เหนือศรีษะด้วยเชือกสีแดง เธอนั่งคลุกเข่าอยู่ในกล่องไม้ ร่างกายของเธอถูกมัดไว้ด้วยเชือกสีแดง

ผมยาวสีทองของเธองดงาม ตาของเธอถูกผ้าไหมสีดำปิดไว้ บนคอของเธอสวมปลอกคอเหล็กสีดำ เธอถูกปิดปากด้วยผ้าสีแดง ใบหน้าของเจ้าหญิงสดใส อมชมพู ดวงตาสีฟ้าสดใสทั้งสองข้างของเธอทำให้เห็นได้ชัดเจนแม้จะถูกผ้าปิดอยู่

ไคลด์เคยเห็นฉากต้องห้ามนี้มาก่อนแล้วที่โลกของเขา เขาวิเคราะห์ได้ว่าเจ้าหญิงนั้นมัดตัวเอง และไม่ได้ถูกลักพาตัวมาแต่อย่างใด ทุกสิ่งทุกอย่างเธอทำเอง หรือว่า ‘’ของขวัญ’’ ที่เขียนไว้จะหมายความแบบนี้ ไม่มีชายใดที่จะปฏิเสธของขวัญชิ้นนี้แน่

เขาลังเล ถึงแม้ไคลด์จะไม่ใช่สุภาพบุรุษนัก  แต่ตอนนี้เขามีร่างกายเป็นหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ ถ้าเขาทำอะไรเธออาจะทำให้เธอตายได้ ยัยบ้าลูซิเฟอร์ เธอรู้อยู่แล้วสินะว่าจะต้องเป็นแบบนี้

ไคลด์พยายามต่อสู้กับความคิดของตัวเอง ก่อนที่จะเอาผ้าปิดตาและผ้าปิดปากของเจ้าหญิงออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะถอยออกเพื่อรักษาระยะห่างไว้ เมื่อเจ้าหญิงลืมตาขึ้น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเขินอาย การที่เธอทำแบบนี้ดูเหมือนจะทำลายขีดจำกัดความอายของเธอไปแล้ว... เธอกังวลเป็นอย่างมากที่ หากคนเปิดกล่องไม่ใช่ไคลด์ นี้อาจจะเป็นเหมือนการฆ่าตัวตายของเธอ

‘’เอ่อ... เจ้าหญิงเซราส กำลังทำอะไรอยู่ครับ?’’

‘’ไคลด์ ฉันไม่มีเงินที่จะให้นาย แต่นายเป็นเหมือนทหารรับจ้างระดับ S ที่มีสามารถขับไล่อาณาจักรออกัสต้าได้ ฉันไม่มีอะไรจะตอบแทนนายนอกจากสิ่งนี้...’’

‘’(เสียงไอ) คุณเลยแต่งตัวแบบนี้หรอเจ้าหญิง’’

‘’นี่ไม่ดีหรอ? พวกชนชั้นสูงชอบทำแบบนี้กันนะ เธอ... เธอไม่ชอบหรอ?’’

ใบหน้าของเจ้าหญิงอมชมพู เธอถามเกี่ยวกับรสนิยมของไคลด์ คำถามนี้ทำให้ไคลด์ทำอะไรไม่ถูก เขาไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร ถ้าหากเขาบอกว่าไม่ชอบนั่นคงเป็นการโกหก การตอบแทนของเธอมีมูลค่ามหาศาล องค์หญิงเซราสมีค่ามากกว่า 100,000 เหรียญทอง ถ้าเขาขายเธอในฐานะทาส

ไม่ไกลจากห้อง ลูซิเฟอร์มีท่าทางหงุดหงิด ล้อมรอบของเธอเต็มไปด้วยค้างคาวตัวเล็กที่คอยรายงานสถานการณ์ใกล้เคียงให้เธอฟัง ตอนนี้มีกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ล้อมพระราชวังไว้หมดแล้ว เธอเลือกที่จะไม่บอกไคลด์เพราะว่าเธอกลัวจะไปขัดจังหวะนั้นเอง