ตอนที่ 03 ปกป้องเมืองโอรัน! พาร์ท 1

เช่นเดียวกับเมืองบาร์นาร์ด เมืองโอรันตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปซีเหมิงซี่ เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรอาวน์เลส อาณาจักรเล็กๆ แห่งหนึ่ง เมืองโอรันเป็นเมืองที่มีประชากรไม่มาก ในความเป็นจริงแล้วยังมีประชากรและทหารน้อยกว่าเมืองเล็กๆ ในอาณาจักรใหญ่อย่างอาณาจักรแห่งความมืดออกัสต้า อาณาจักรออกัสต้าสามารถวิเคราะห์ภาพรวมของเมืองในอาณาจักรอาวน์เลสได้อย่างรวดเร็ว เพราะเป้าหมายของพวกเขาคือการยึดครองเมืองหลวงนั้นเอง

เมื่อไคลด์และลูซิเฟอร์เดินทางมาถึงประตูเมืองโอรัน พวกเขาไม่พบทหารเฝ้ายาวแม้แต่คนเดียว ในความเป็นจริงแล้วอาณาจักรนี้น่าจะมีทหารประมาณหนึ่งพันนายปกป้องเมืองหลวงตามที่อาณาจักรออกัสต้าสืบมา แต่เมื่อได้ข่าวจากชายแดนที่ถูกทหารจากอาณาจักรออกัสต้าโจมตีทหารคงเสียขวัญและกำลังใจในการต่อสู้จนเลือกที่จะหนีแทน มันก็คงจะดีกว่าที่รอเวลาตายอยู่ในเมืองนั้นแหละ

ตอนนี้มีทหารเพียง 100 นายเท่านั้นที่ปกป้องเมือง กว่า 500 นายได้ละทิ้งอาณาจักรของพวกเขาไปแล้ว และกษัตริย์ริชาร์ดที่หกของอาณาจักรได้ทิ้งประเทศไปแล้วโดยนำทหารกว่า 400 นายติดตามไปกับเขาด้วยโดยให้เหตุผลว่าเป็นผู้คุ้มกัน ส่วนเจ้าชายชาร์เลส เขาได้หนีไปที่อาณาจักรอื่นทันทีที่สงครามเริ่ม

มีเพียงพลังของ ''อาณาจักรสีขาวแห่งความบริสุทธิ์'' อาณาจักรวินเฟร็ด ที่จะสามารถต่อกรกับอาณาจักรแห่งความมืดได้ ซึ่งอาณาจักรวินเฟร็ดเป็นหนึ่งในกลุ่มพันธมิตรวิคเตอร์ แต่อย่างไรสะอาณาจักรนี้อยู่ห่างไกลอาณาจักรอาวน์เลสเป็นอย่างมาก อาณาจักรวินเฟร็ดมีทหารสนับสนุนประมาณ 30,000 นาย แต่พวกเขาคงให้ความสำคัญในการช่วยอาณาจักรแอดเรี่ยนมากกว่าอาณาจักรอาวน์เลส

แต่ไม่มีทางใดที่สามารถช่วยอาณาจักรแอดเรี่ยนได้ อาณาจักรแอดเรี่ยนนั่นเต็มไปด้วยความเน่าเฟะ พวกเขามีทหารกว่า 100,000 นาย แต่ถูกทหารของอาณาจักรแอดเรี่ยนเพียง 10,000 นายไล่ต้อน อาณาจักรแอดเรี่ยนคงไม่มีเหตุผลที่ดีพอสำหรับการแก้ตัวในครั้งนี้ ในตอนท้ายพวกอาณาจักรออกัสต้าต้อนอาณาจักรแอดเรี่ยนจนมุม แต่ท้ายที่สุดเจ้าหญิงโอฟีเลียเลือกที่จะถอยทัพเพราะกองกำลังทหารของเธอนั้นเหนื่อยล้าเกินกว่าจะสู้รบต่อไป การบุกจู่โจมอาณาจักรแอดเรี่ยนรอบที่ 3  อาณาจักแอดเรี่ยนสูญเสียกองกำลังทหารไป 50,000 นายอย่างรวดเร็ว ส่วนทหารที่เหลืออีก 50,000 นายนั้นเกิดอาการกลัว เสียขวัญและกำลังใจในการสู้ไปหมดแล้ว

ไคลด์และลูซิเฟอร์เดินเที่ยวชมรอบเมืองโอรัน คำทำนายของลูซิเฟอร์ก่อนหน้านี้ผิดพลาด แม้อาณาจักรจะใกล้ล่มสลาย แต่เจ้าของโรงแรมที่พักก็ยังทำงานของพวกเขาต่อไป พวกเขายังคิดค่าใช้บริการมากกว่าปกติด้วยซ้ำ นี้อาจเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่พยายามแสวงหาผลกำไรในความเดือดร้อนของผู้อื่น ไคลด์และลูซิเฟอร์หาที่พักทั่วเมือง แต่กลับไม่ได้ห้องพักที่สามารถให้พวกเขาอยู่ฟรีได้เลย

‘’10 เหรียญทองแดงต่อวัน ไม่มีเซ็นไว้ก่อน จ่ายมาถ้าอยากอยู่!’’

‘’แต่คุณลุง หน้าโรงแรมเขียนไว้แค่ 5 เหรียญเองนิ’’

‘’คุณผู้หญิงตัวน้อย นี้คือราคาในช่วงที่เกิดสงคราม ราคาอาจจะเพิ่มเป็น 20 เหรียญก็ได้นะถ้าคุณยังมัวลีรอ’’

ไคลด์ดึงตัวลูซิเฟอร์ออกมาจากโรงแรมในทันที เขาไม่เคยเห็นการโก่งราคาขึ้นขนาดนี้ อาณาจักรออกัสต้าเป็นอาณาจักรที่มีการส่งเสริมการขายทาส ท้ายที่สุดเมื่อพวกเขายึดที่นี่ได้ ประชาชนก็จะถูกจับเป็นทาสและขาย ในเวลานั้นต่อให้พวกเขามีเงินเท่าไหร่ก็คงเปล่าประโยชน์ อย่างไรก็ตามสงครามเผ่ามนุษย์ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขา ปัจจุบันไคลด์ยังเน้นไปในการสำรวจโลกใหม่ เขาจึงไม่มีความคิดที่จะไปยุ่งในสงครามของเผ่ามนุษย์ เขาสามารถส่งกองทัพของอาณาจักรไหนก็ตามที่กล้ายุ่งกับเขาไปที่ประตูนรกได้โดยใช้เวลาไม่นาน

หน้าราชวังของอาณาจักรโอรัน ไคลด์เห็นเจ้าหญิงแห่งอาณาจักร เจ้าหญิงเซราส เจ้าหญิงมีผมยาวสีทองดูมีน้ำหนัก ตาของเธอสีฟ้าแต่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า เธอกำลังนั่งอยู่บนสถานีรับสมัครทหารรับจ้างเพื่อต่อสู้ในศึกสุดท้าย เธอไม่มีทางเลือกอีกแล้ว ทหารส่วนใหญ่ได้เสียขวัญและกำลังใจในการต่อสู้จนหนีไปหมดแล้ว ทหารที่เหลือ 100 นายส่วนใหญ่ก็แก่ชรา ไม่ก็บาดเจ็บจนใช้การไม่ได้ ทำให้พวกเขาไม่สามารถหนีได้ ส่วนพ่อและพี่ชายของเธอก็ได้ทิ้งเธอไปหมดแล้ว

ความงดงามของเจ้าหญิงเซราสไม่ได้ด้อยไปกว่าเจ้าหญิงแห่งความมืดโอฟีเลียแม้แต่น้อย แม้ว่าเธอจะหมั้นหมายกับเจ้าชายจากอาณาจักแอดเรี่ยน เจ้าชายอีริค แต่ในสถานการณ์ที่ว่าว่าประเทศของเธอกำลังจะถูกโจมตี คู่หมั้นของเธอไม่มาช่วยเธอ ดูเหมือนว่าการหมั้นหมายในครั้งนี้ไม่มีความหมายใดๆ

''พี่สาว พี่รับสมัครทหารใช่ไหม? พี่ชายของฉันหน่ะไม่ชอบทำงาน แต่เขาสามารถเป็นทหารให้พี่ได้นะ เขาแค่ต้องการอาหารและที่พักเท่านั้นเอง พวกเราไม่มีเงินกันเลยหน่ะ''

‘’ว้าว.. เด็กคนนี้น่ารักอะไรอย่างงี้! เธอน่าจะหนีไปนะ ที่แบบนี้ไม่เหมาะกับหญิงสาวน่ารักแบบเธอหรอก เพราะเธอจะถูกจับเป็นทาสนะ’’

‘’แล้วพี่สาวหล่ะ? พี่ไม่หนีไปหรอ พี่สวยสะขนาดนี้ พี่ไม่กลัวโดนจับเป็นทาสไปขายหรอ’’

‘’แม้ว่าพี่จะหนีไปมันก็เปล่าประโยชน์หน่ะ’’

ไคลด์ยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมสงครามแต่อย่างใด แต่คุณน้องสาวลูซิเฟอร์ก็ได้เริ่มบทสนทนากับองค์หญิงเซราสไปแล้ว องค์หญิงเซราสยิ้มให้อย่างขมขื่นก่อนจะแนะนำพวกเขาให้ออกไปจากเมืองนี้ เพราะว่ากษัตริย์ริชาร์ดที่หกได้หนีออกไปพร้อมกับราชสมบัติ ทำให้องค์หญิงไม่มีค่าจ้างสำหรับจ่ายให้ทหารรับจ้าง จนถึงตอนนี้การกระทำของเธอเป็นเพียงการกระตุ้นให้ผู้คนในเมืองเคลื่อนไหว เธอสัญญากับเหล่าทหารรับจ้างได้เพียงหลังจากที่ชนะ เธอจะให้รางวัล นี้เป็นการทำธุรกิจที่ไร้ความหวังอย่างสิ้นเชิง มีทหารรับจ้างเพียงไม่กี่คนที่จะยอมรับข้อเสนอนี้

‘’ลูซิเฟอร์ เธอคิดจะทำอะไรกัน’’

‘’พี่ไคลด์ พวกเราหน่ะต้องการที่พักในระยะยาว ส่วนพี่สาวคนนี้หน่ะไม่มีแผนที่จะรับมือการโจมตีได้เลย ฉันเห็นความคิดของเธอผ่านสายตาของเธอ ไม่ได้มีพี่สาวใสซื่อบริสุทธิ์แบบนี้มาให้หลอกบ่อยๆ หรอกนะพี่’’

‘’เอ่อคุณลูซิเฟอร์ครับ... คุณเป็นปีศาจหรอครับ’’

‘’ใช่! พี่มีปัญหาอะไรไหม?’’

ภายใต้แรงผลักดันของลูซิเฟอร์ ไคลด์ลังเลที่จะปกป้องเมืองแห่งนี้ เมือเขาพิจารณาความปลอดภัยขององค์หญิงจึงไม่ไปใกล้จะดีกว่า องค์หญิงเซราสเป็นเพียงเด็กสาวเผ่ามนุษย์ ถ้าเธอใกล้เขาซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ เธออาจจะตายในทันที

‘’ขอบคุณมากนะ ฉันไม่สามารถจะให้อาวุธพวกนายได้ เพราะพ่อของฉันเอามันไปหมดแล้ว’’

‘’ไม่เป็นไรหรอกพี่สาวเซราส พวกเราไม่ต้องใช้อาวุธหรอก’’

ไม่นานหลังจากที่ไคลด์ยอมเป็นทหารรับจ้าง อาณาจักรออกัสต้าเดินทัพมาถึง พวกเขาต้องรู้แล้วแน่ว่าเมืองแห่งนี้มีทหารประมาณ 100 นาย ซึ่งเป็นทหารที่แก่ และบาดเจ็บ ส่วนกองทัพของอาณาจักรออกัสต้ามีทหารราวๆ 1,000 นาย พวกเขาตั้งเป้าในการยึดเมืองหลวงโอรัน

แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีทหารเพียงหลักพัน แต่ทหารเหล่านี้เป็นทหารจากกองทัพหลักอาณาจักออกัสต้า เป็นอัศวินสวมชุดเกราะสีดำ สวมอุปกรณ์ราคาแพง ไคลด์ยืนอยู่บนกำแพงสูงเพื่อที่จะตรวจสอบกองกำลังทหารอีกฝ่าย

เมื่อเขามองกลับมาที่ทหารในอาณาจักรอาวน์เลสซึ่งมีเพียงเเผ่นเหล็กรัดที่หน้าอกเพื่อใช้แทนชุดเกราะจึงทำให้เขาเผลอถอนหายใจออกมา พวกเขาไม่มีแม้แต่โล่ พวกเขามีแต่หอกไม้ที่ผูกติดกับหัวหอกลักษณะคล้ายหอก มีทหารหนุ่มบางคนทำท่าทางไม่เคยถืออาวุธเลยด้วยซ้ำ ความแตกต่างของอุปกรณ์ทั้งสองนั้นมากกว่าสองสามระดับด้วยซ้ำ แต่ด้วยความต่างของอุปกรณ์ยังทำให้มีความหวังอยู่ แต่ความแตกต่างของกำลังทหารจะทำให้พวกเขาพ่ายแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม แต่ตอนนี้ไคลด์ได้อยู่ที่นี่ อาณาจักรอาวน์เลสจะต้องรอดจากการโจมตีนี้ นี่จะเป็นปาฏิหาริย์อีกเรื่องหนึ่งของทวีปซีเหมิงซี่

‘’หัวหน้าโคล์ เจ้าหญิงบอกว่าให้รอเธอมาถึงก่อนค่อยบุกโจมตี’’

‘’นายมันโง่รึเปล่า? ถ้าเจ้าหญิงมาเราจะได้ประโยชน์อะไร เราต้องเข้าเมืองไปจับองค์หญิงเซราสมา แล้วเราก็จะได้คุณงามความดีและรางวัลกว่า 100,000 เหรียญทองเชียวนะ’’

ภายใต้ความโลภจากเงินมหาศาล ผู้บังคับบัญชาโคล์จากกองทัพอาณาจักรออกัสต้าตัดสินใจที่จะบุกโจมตีโดยไม่รอเจ้าหญิงโอฟีเรีย

บนกำแพงเมืองมีเพียงอัศวินชุดดำยืนอยู่ ทหารที่คอยอยู่ป้องกันกำแพงได้ทิ้งให้ไคลด์และลูซิเฟอร์ยืนปกป้องกำแพงเพียงสองคน เขาส่ายหัวให้กับความขี้ขลาดของเหล่าทหาร อย่างน้อยก็คงไม่มีคนโดนลูกหลงหรอกนะ ขณะที่ไคลด์ครุ่นคิดอะไรบางอย่างก็ถูกอัศวินโจมตี เนื่องจากความสูงของลูซิเฟอร์ที่ยืนไม่พ้นกำแพง ทหารจู่โจมจึงผิดคลาดที่คิดไว้ เขานึกว่ามีไคลด์ยืนป้องกันกำแพงเมืองคนเดียว แต่ตอนนี้พวกเขาเห็นลูซิเฟอร์อยู่ด้วย สำหรับเหล่าทหารลูซิเฟอร์เปรียบเสมือนทาสสาวแสนน่ารักที่ราคาดี