ตอนที่แล้วChapter 74 – Dark Elven City (7)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 76 - Dark Elven City (9)

Chapter 75 - Dark Elven City (8)


Chapter 75 - Dark Elven City (8)

นักทำลายได้เหวี่ยงขวานออกไป

"อะไร...,"

'เพชฌฆาต' ได้ถูกฟาดกระเด็นไปไกลก่อนที่เขาจะพูดจบ จากนั้นนักทำลายก็ชูขวานขึ้นมาและตะโกน

"แผ่นดินไหว"

แต่ว่าก่อนที่มันจะถูกเพชฌฆาต

"บลิ้ง"

เพชฌฆาตได้ใช้เวทมนตร์เพื่อที่จะหลบไปทางอื่น

"ตูมม"

ที่ทางเข้าของวิหารได้สั่นออกมาอย่างรุนแรง ในเวลาเดียวกันที่ร่างกายของนักทำลายก็ได้มีออร่าสีแดงปรากฏออกมา และจากนั้นโอเปอเรเตอร์ก็ปราะกาศขึ้น

[การโจมตีพันธมิตรจะทำให้เข้าสู่สถานะ 'ฆาตกร']

มีการอธิบายเพิ่มเติมอีกด้วยเกี่ยวกับบทลงโทษ แต่ว่านักทำลายที่กำลังโกรธอยู่ก็ไม่สนใจ เขามองค้าหนเพชฌฆาตด้วยดวงตาที่กระหายเลือด

"ฟิ้ว~"

ลูกธนูของสไนเปอร์ระดับสูงได้เปิดเผยตำแหน่งของเพชฌฆาต เขากำลังอยู่ที่ขั้นบันไดของวัด ในตอนนี้มันกำลังเป็นสถานการแบบ 2 ต่อ 1 เพชฌฆาตได้พยานามที่จะหนีออกไปโดยที่ถูกอีกสองคนตามล่า

ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นนักล่าทั้งสามคนก็ได้ออกไปจากวอหาร และจากนั้นครู่หนึ่งเสาแสงสีขาวก็ได้ปรากฏขึ้นในวิหารและมีชายคนหนึ่งเดินออกมา

****

ซังจินได้มองออกไปรอบๆ ด้านในนี้มีศพของนักบวชหญิงและผู้พิทักษ์อยู่ และก็ยังมีศพของนักล่าอีกสองคนอยู่อีกไม่ไกล

'ฆาตกรอยู่ไหนกัน?'

ซังจินได้เดินออกไปจากวิหารและมองไปรอบๆ จากวิหารมันเป็นที่ๆสูงที่สุดของเมือง เขาจึงสามารถจะมองเห็นทุกๆสิ่งได้จากที่นี้

ไกลออกไปได้มีนักล่ากำลังไล่กันอยู่ ซังจินไม่รู้ว่าพวกเขาไล่ล่ากันเพราะอะไร แต่ว่าซังจินก็รีบใช้ทักษะทันที

"สวิฟพาว"

จากนั้นเขาก็วิ่งออกไปในทันที หลังจากนั้น 10 วินาทีต่อมา เขาก็ได้เห็นเพชฌฆาตกำลังต่อสู้กับนักทำลายและสไนเปอร์ระดับสูง ทั้งสองคนได้มีออร่าสีแดงอยู่ จากนั้นเบสโกโร่ก็แสดงความเห็นออกมา

'มีสองคน'

ไอเทมสี่ชิ้น ซังจินได้คิดเกี่ยวกับมันอย่างยินดี เขาหยักน่ารับในทันที

"มันมีสองคน"

แต่แล้วหลังจากนั้น 'เพชฌฆาต' ก็ได้โต้กลับ'

"รากจงยึดพวกเขาไว้กับพื้นดิน พัวพัน!"

เขาได้ใช้เวทมนตร์เพื่อที่จะหยุดนักทำลายไว้กับที่

"บลิ้ง"

แล้วใช้การวาปไปที่นักธนู ก่อนที่ซังจินจะได้ทำอะไรขวานของเขาก็ได้ผ่าหัวของนักธนู

'ในตอนนี้เหบือเพียงหนึ่งแล้ว'

แม้ว่ามันจะเป็นการต่อสู้แบบ 2 ต่อ 1 เขาก็สามารถจะจัดการไปได้หนึ่งคน เขานั้นมีความแข็งแกร่ง

"แก!"

เมือนักทำลายได้หลุดออกจากรากไม้ เขาก็ได้พุ่งเข้าไปประชิดตัวทันที หากว่าไม่มีการแทรกแซงเกิดขึ้น ซังจินก็อาจจะสูญเสียทั้งคู่ไป

'ฉันจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น'

ซังจินได้ขยับตัวอย่างรวดเร็ว ฆาตกรกำลังยุ่งอยู่กับเพรฌฆาต เขาจึงไม่ได้สังเกตุถึงซังจินที่ใกล้เข้ามา

เมื่อนักทำลายยกขวานเขาขึ้น ซังจินก็ได้ตัดมือเขาทิ้งจากด้านหลังในทันที

"อ๊ากกก"

นักทำลายที่ได้ถูกปลดอาวุธโดยซังจินจากทางด้านหลังได้ร้องออกมาอย่าวเจ็บปวด จากนั้นซังจินก็ตามมาด้วยการตัดหัวเขาในทันที

"อั๊ก"

ด้วยเสียงร้องสั้นๆ นักทำลายก็ได้คุกเข่าลงไป เพชฌฆาตได้มองมาที่ซังจินอย่างประหลาดใจ มันยากที่จะจินตนาการมีนักล่ามาจากข้างนอก ซังจินก็หันไปมองเขาเช่นกัน

'เขาอาจจะไม่จูบแหวนของฉัน แม้ว่าฉันจะถาม....จริงไหม?'

ซังจินไม่มีความรู้สึกว่าชายคนนี้จะยอมรับเลย เขาแข็งแกร่ง เขาสามารถจะเอาชนะการต่อสู้ในก่อนหน้านี้ได้ มันจึงไม่มีเหตุผลที่เขาจะยอมรับคำขอของซังจิน

หลังจากที่จ้องมองมาที่ซังจินอยู่ครู่หนึ่งด้วยตาที่เบิกกว้างขึ้น ในที่สุดเขาก็ถามออกมา

"นายเป็นใคร? ศตรูงั้นหรอ?"

ซังจินได้ตอบกลับออกมาด้วยการฉีกยิ้มที่มุมปาก

"มาลองดู ถ้าหากว่านายคิดเช่นนั้น"

เพชฌฆาตไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรดี จากนั้นซังจินก็เดินเขาไปหยิบไอเทมขึ้นมาจากบนพื้นและเก็บมันลงไปในลูกบาศก์ และกล่าวกับเพชฌฆาต

"นายสามารถจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ได้อย่างอิสระเลย แต่ว่าอย่าไปลองต่อสู้เพียงคนเดียวด้วยความประมาทละ"

ซังจินได้ทิ้งคำพูดเอาไว้ในขณะที่เดินกลับขึ้นไปบนเนินของวิหาร การเลือกวหวิหารเป็นจุดวาปมันเป็นความคิดที่ดี

นักล่าทุกๆคนจะต้องผ่านในจุดๆนั้นเหมือนๆกัน และมันก็เป็นชุดชมวิวที่ยอดเยี่ยมภายในเมือง

เมื่อเขากลับไปถึงวิหาร เขาก็หยิบเอาหินก้อนที่สองออกมา และเบสโกโร่ก็พูดขึ้น

'เราควรจะทำมันที่ให้เร็วขึ้นในครั้งต่อไป เพราะตั้งแต่ที่ฆาตกรถูกโต้กลับและโดนฆ่าไปก่อนที่เราจะไปถึง'

"นายพูดถูก"

ซังจินหยักหน้ารับ ถ้าหากเขาไปเร็วกว่านี้ เขาก็จะสามารถจัดการฆาตกรได้ทั้งสองคนและได้รับไอเทมสี่ชิ้นในรอบนี้ เมื่อเขาเตรียมตัวพร้อมแล้ว เขาก็ตะโกนออกมาอีกครั้ง

"การแสวงหาความยุติธรรม"

[หินแสวงหาฆาตกรจะสามารถใช้ได้ในทุกๆ 10 นาทีเท่านั้น]

[ได้โปรดลองใหม่อีกครั้งหลังจากผ่านไป 4 นาที 27 วินาที]

"โอ้ จริงหรอ?"

ซังจินได้มองไปที่หินก้อนที่สอง มันไม่ได้มีบอกเวลาคูลดาวของมัน มันอาจจะเป็นเนื่องจากว่ามันเป็นไอเทมจิปาถะ ตั้งแต่ที่โอเปอเรเตอร์ได้กล่าวออกมาเขาก็ไม่สามารถจะทำอะไรกับมันได้

'เยี่ยม ถึงแม้ว่ามันจะใช้เวลา 10 นาที ฉันก็ยังมีเวลาเพียงพอดังนั้น...มันควรจะไม่เป็นไร'

ซังจินได้มองออกไปรอบๆ ในระยะไกลออกไปเขาสามารถจะมองเห็นเต็นท์สีดำที่นำไปสู่ถ้ำได้

มันเป็นที่ๆบอสลับคอยอยู่ แต่แม้ว่าเขาจะฆ่ามอนสเตอร์อะไรเพิ่มขึ้นอีกในพื้นที่แห่งนี้ เขาก็จะไม่ได้รับอะไรเลย พ่อค้าในร้านค้ามืดมิดยิ่งกว่าสีดำได้กล่าวเอาไว้ว่าการแจกรางวัลจะมีเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

ในตอนนี้เขามีเวลาว่าง ดังนั้นเขาจึงนั่งลงไปที่พื้นบันไดและถามกับโอเปอเรเตอร์

"ช่วยส่งไอเทมที่ฉันได้รับจากการจู่โจมก่อนหน้านี้มาที"

ตามคำขอของเขา โอเปอเรเตอร์ได้ส่งฟอเทมออกมาสามชิ้น มันมีดาบต้องสาป จอก และนิ้วแปลกๆ ซังจินได้หยิบดาบขึ้นมาเป็นอย่างแรก

'มันเป็นไอเทมในตำนาน ถ้าหากว่าฉันจำไม่ผิด...'


อาเทอร์มิโอ - จอมเวทหายนะ

ดาบสั้นระดับตำนาน - ความแข็งแกร่ง S ความคล่องแคล่ว A

ทักษะติดตัว

กลืนเวท (II) - ลดดาเมจที่ได้รับจากเวทมนตร์ลง 20%

ทักษะใช้งาน

สะท้อนเวทมนตร์ (IV) - สะท้อนเวทมนตรโจมตีที่มีระดับต่ำกว่า 6 ลงไป

คูลดาว 10 นาที

ดาบชนิดพิเศษที่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับล่าจอมเวท


'โอ้ววว...'

ซังจินหยักหน้าอย่างยินดี มันเป็นดาบที่สุดยอดมาก ทั้งทักษะใช้งานและทักษะติดตัวทั้งหมดมันไว้ใช้สำหรับต่อต้านเวทมนตร์ ดาบเล่มนี้มันจะช่วยให้การต่อสู้กับจอมเวทง่ายดายขึ้น

และสเตตัสของมันก็ยอดเยี่ยม เหมาะสมแล้วที่มันเป็นไอเทมระดับตำนาน ซังจินได้ตัดสินใจในทันที

"สวมใส่"

เขาได้ทดลองควงมันกลางอากาศ มันให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากคาตานะที่เขาใช้ตามปกติ แต่ว่ามันก็ควรจะคล้ายกันในทางทฤษฏี

'สิ่งนี้มันคุ้มที่จะใช้เป็นอาวุธที่สาม'

ด้วยสเตตัสนี้มันคุ้มค่าที่จะพกพามันไปทั่วๆ การเปลื่ยนไปใช้มันในตอนที่ได้เผชิญหน้ากับจอมเวทมันจะทำให้ทุกๆอย่างง่ายขึ้น

ซังจินได้แขวนดาบไว้ที่ข้างซ้าย ด้านหลังของเขาเป็นมูนสเปค ถ้าหากว่าเขาได้รับมันมาในชีวิตก่อนหน้านี้เขาก็จะขายมันไปในตลาดประมูล แต่ว่าในตอนนี้เขาสามารถจะมีดาบเสริมไว้ได้แล้ว

ไอเทมต่อมาคือจอก มันเป็นจอแปลกๆที่มีรูปภาพของงูสลักอยู่


ดาร์ค - จอกต้องสาป

อาวุธสนับสนุนระดับวีรชน (ขอเปลื่ยนระดับจากวีรบุรุษเป็นวีรชนนะครับ)

ทักษะติดตัว

เพิ่มพลังมนตร์ดำ(III) - เพิ่มพลังของเวทมนตร์ดำ 30%

ทักษะใช้งาน

สปิริตลิ้งค์ (มารากอร์) - มันเป็นงูพิษที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากซึ่งมีชื่อว่า มารากอร์

ถ้าหากว่ามันถูกฆ่าหรือถ้า 10 นาทีผ่านไป มันก็จะหายไป

จอกของนักบวชหญิงเคเรนิส

คำสาปแช่งมีความถูกต้องมากกว่าคำอวยพร


'ในตอนนั้นทีเธอได้กล่าวถึง...'

เขาได้จำได้ว่าเคยมีใครบางคนได้ใช้มันในอดีต หนึ่งในสิบคนสุดท้าย ผู้หญิงเพียงคนเดียวในหมู่ผู้ชาย 'นาดา' ซังจินได้รำลึกนึกถึงอยู่ครู่หนึ่ง

เธอมีการกระทำที่หยาบคาย แต่ว่าเธอก็มีผิวที่เรียบเนียนและใสสะอาด จมูกที่โด่ง ดวงตาที่โตและสว่างสดใสดั่งมรกต

'เธอเป็นคนที่สวยมาก...'

แต่ว่าก็ไม่เหมือนกับเซริน ฮาน เธอสามารถจะมีชีวิตรอดไปได้จนถึงตอนท้ายโดยที่ไม่ต้องปิดบังใบหน้าที่แท้จริง

มันเป็นเพราะความเร็วที่น่าอัศจรรย์ ทักษะมีดที่อันตราย และพลังเวทมนตร์ดำที่ทรงพลังของเธอ

ในบรรดาชาย 9 คนสุดท้ายไม่มีใครเลยที่กล้าจะต่อต้านเธอ

'แต่นี่ก็เป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงกับฉัน...'

มันเป็นความจริง เขาไม่มีมือว่างอีกแล้วที่จะถือมันไว้เฉยๆ ทักษะอัญเชิญงูมันก็ไม่ได้ดีมากนัก

'มันควรจะเป็นไอเทมสนับสนุนที่มีประโยชน์สำหรับจอมเวทดำ...'

และซังจินก็ยังมีเคนและซาดาเมียร์อยู่แล้วด้วย

'ฉันควรจะขายมันออกไปในราคา 4000 เหรียญ'

ซังจินได้เก็บจอกกลับเข้าไปในลูกบาศก์ และไอเทมชิ้นสุดท้ายมันเป็นมือที่แห้งเหี่ยวคล้ายกับมือของมัมมี่


มามาย่า - นิ้วมือล้างสมอง

เครื่องประดับระดับวีรชน

ทักษะใช้งาน

ควบคุมจิตใจ(II) - สามารถสั่งการเป้าหมายได้อย่างอิสระเป็นเวลา 10 วินาที

การให้เป้าหมายฆ่าตัวตายหรือให้เป้าหมายทำร้ายตัวเองไม่สามารถจะทำได้

ผู้ที่ใช้ความสามารถนี้จะไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ในระหว่างที่ใช้งาน

คูลดาว 20 นาที

ดาร์คเอฟ์ได้เป็นเจ้าของของดวทมนตร์สะกดจิต และด้วยสิ่งนี้มันก็สามารถจะลบความกลัวจากพันธมิตรหรือควบคุมจิตใจศัตรูก็ได้


มันเป็นไอเทมที่แปลกที่มีทักษะแปลกๆ ซังจินได้หันมองไปรอบๆเพื่อที่จะตรวจสอบ

'ฉันควรจะใช้ไอเทมนี้ยังไงดี?'

ควบคุมเป้าหมาย 10 วินาที แต่ก็ไม่สามารถจะให้ทำร้ายตัวเองได้ เบสโกโร่ได้แสดงความคิดเห็นขึ้นมา

'แม้ว่ามันจะไม่สามารถสั่งให้ทำร้ายตนเองได้...ท่านก็ไม่สามารถจะให้วิ่งออกไปจากหน้าผาหรือวิ่งเข้าไปในใจกลางกลุ่มของศัตรูได้งั้นผรอ?'

"แต่ในขณะเดียวกันฉันก็ไม่สามารถจะเคลื่อนที่ได้"

นี้มันเป็นปัญหาเพียงอย่างเดียวที่ใหญ่มาก

"มันจะง่ายกว่าสำหรับฉันเพียงแค่ก้าวออกไปและฆ่าพวกมันด้วยตัวเอง"

'มันก็จริง...แต่ก็มันอาจจะมีประโยชน์ในบางสถานการณ์...'

ซังจินได้ตัดสินใจที่จะไม่ขายมันออกไปในตอนนี้ เขายังไม่สามารถที่จะมองเห็นประโยชน์ของการใช้งานมันจริงๆได้ แต่จากสิ่งที่เบสโกโร่กล่าว เขาก็รู้สึกว่ามันอาจจะมีประโยชน์ในสักวันหนึ่ง

เมื่อซังจินตรวจสอบไอเทมเสร็จสิ้น เขาก็หยิบหินขึ้นมาอีกครั้ง ในตอนนี้มันได้ผ่านไปมากกว่า 4 นาทีแล้ว

[คำขอเคลื่อนย้ายมิติได้รับการยินยอม]

เวลาได้ถูกต้อง การย้ายมิติได้เริ่มขึ้นแล้ว

[คุณจะวาปไปในอีก 10 วินาที 10 9 8]

การนับถอยหลังได้เริ่มต้นขึ้น และซังจินก็ได้ถูกวาปออกไปเป็นครั้งที่สอง

****

ในนักล่าทั้งห้าคน สองคนได้ถูกฆ่าไปในระหว่างการล่า ตอนนี้มีเพียงสามคนที่รอดอยู่ แม้ว่าพวกเขาจะเหลือเพียงสามคน พวกเขาสองในสามคนนั้นก็ได้ร่วมมือกันฆ่าอีกคนหนึ่งเพื่อทีจะเอาผลงานมา แต่ว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาก็ทำสำเร็จ

"วูว...เยี่ยมมาก"

"นายก็ด้วย"

นักล่าทั้งสองคนที่มีออร่าสีแดงได้แสดงความยินดีกัน ก่อนหน้านี้ก่อนที่พลหอกจะต่ย หนึ่งในพวกเขาได้แสดงความคิดเห็นออกมาว่า

"ชายคนนี้...ได้ผูกขาดแต้มผลงานมากจนเกินไป"

นักล่าคนอื่นๆก็ได้ตอบกลับมา

"เราควรจะอยู่รอดมีชีวิตด้วยกันกับเขาได้งั้นหรอ?"

พวกนักล่าพยายามที่จะห้ามปรามการกระทำที่เขาคิดขึ้นมา แต่ว่าพวกเขาก็มีความคิดมากขึ้นไปอีก

'ถ้าหากเขาตาย ฉันก็จะได้ทุกๆอย่าง'

พวกเขาได้ทรยศพรรคพวกของพวกเขาเพื่อแต้มผลงานที่มากขึ้น มันไม่มีเหตุผลที่จะทรยศใครถ้าหากว่าเขาเป็นคนรอดคนสุดท้าย โดยปราศจากคำพูด ทั้งสองคนได้ถอยออกห่างจากกันพร้อมๆกัน

พวกเขาได้มองไปที่ตาของกันและกันืจากนั้นก็ยิ้มขึ้น

"นายคิดเหมือนที่ฉันคิดไหม?"

"แล้วนายหละ?"

"ไม่มีปัญหา มาต่อสู้เพื่อที่จะดูว่าใครจะได้รับแต้มไปทั้งหมดกันเถอะ

"ฟังดูดีนี่"

ชายทั้งสองคนต่างก็หยิบอาวุธของตนขึ้นมาและเข้ามาเผชิญหน้ากัน และแล้วในที่สุดพวกเขาก็ได้เข้าปะทะกัน

"เคร๊ง"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด