Chapter 74 – Dark Elven City (7)
Chapter 74 – Dark Elven City (7)
”
ซังจินได้ออกมาจากทำพร้อมกับพลังชีวิตและมานาที่เหลือครึ่งหนึ เขาจึงวางแผนที่จะใช้แหวนแวมไพร์และมูนสเปคในการฟื้นฟูมันคืนมา
เขาได้ใช้เวลาในการกำจัดบอสทั้งสองตัวไป 25 นาที ดังนั้นเขาจึงยังมีเวลาเหลืออยู่อีกมาก เขรจึงตัดสินใจที่จะไม่รีบเร่งอะไรมากและคิดบางสิ่งบางอย่างในขณะเดียวกัน
'เมื่อฉันวาปไป...แล้วที่ไหนกันที่ฆาตกรควรจะยืนอยู่"
ใน 5 นาทีจากนี้ พวกนักล่าก็ควรจะสู้กับบอสจบแล้ว และเมื่อมันเสร็จสิ้น กวกฆาตกรก็จะเริ่มปรากฏตัวออกมา เขาทีเวลาอยู่ 1 ชม.ในการจัดการฆาตรกรทั้งสามการจู่โจม เขาจะต้องทำมันไม่ให้ช้าไปกว่านั้น
จากการจู่โจมสู่การจู่โจม เขาจะต้องค้นหาฆาตกร การสู้รบมันจะกินเวลาน้อยกว่าการค้นหาซะอีก
และถ้าหากเขาต้องการจะพิจาณาค้นหาคนจะมอบเหรียญขาวให้เขาหรือคนที่เขาต้องการจะมอบ 'น้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งการล้างบาป' ให้ เขาก็จะไม่มีเวลามากนัก
ดังนั้นเขาจะต้องค้นหาฆาตกรให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นซังจินก็ชี้ไปที่ศพของที่เขาเพิ่งจะจัดการก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า
"การกวักมือของลิช"
เขาได้เติมเต็มมานาของเขาในขณะที่ไปรอบๆเมือง สถานที่ๆดีที่สุดก็ดูเหมือนจะเป็นวิหารที่บอสหลักอยู่
มันเป็นใจกลางของเมือง มันอยู่ในจุดที่สูงที่สุด เขาจึงสามารถจะมองเห็นนักล่าที่กำลังสู้อยู่ได้อย่างรวดเร็ว
ซังจินได้เก็บดาบกลับไปก่อนที่จะเริ่ทปีนขึ้นไปที่เมือง มีเอลฟ์บางตัวได้มาขวางเส้นทางของเขา แต่ว่าพวกเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซังจิน
บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเขาได้ต่อสู้เป็นตายกับสุดยอดนักดาบมาก่อน การฆ่าพวกเอลฟ์ตัวอื่นๆมันจึงให้ความรู้สึกเหมือนว่ากำลังสู้กับเด็ก
'วูบ'
ทุกๆครั้งที่ซังจินร่ายรำดาบ หัวของเอลฟ์ก็จะร่วงไปบนพื้น ในขณะที่เขากำลังล่าอยู่จากนั้นเขาก็ำามกับโอเปอเรเตอร์
"โอเปอเรเตอร์พลังชีวิตมีเท่าไหร่แล้ว?"
เขาได้ตรสจสอบพลังชีวิตไปเรื่อยๆขณะที่กำลังล่าเอลฟ์ และแล้วในขณะเดียวกันเขาก็ได้วิ่งมาพบกับกลุ่มนักล่า
"อ่ะ นาย"
"ผู้พิพากษา..."
เป็นคนอื่นๆที่ได้เข้ามาในการจู่โจมพร้อมกับเขา พวกเขาดูจะรู้สึกตกใจมากเมื่อได้เห็นเขาราวกับว่าเห็นผี มันไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะว่าในก่อนหน้านี้ลูกบาศก์ได้สุ่มบอกออกมาตลอดเวลา
[บอสปรากฏตัว]
[บอสถูกกำจัด]
[บอสลับปรากฏตัว]
[บอสลับถูกกำจัด]
และจากคำพูดของซังจิน
"อา...ฉันสัญญาว่าฉันจะฆ่าแค่บอสเท่านั้น พวกนายมีอิสระเลยในการล่าพวกเอลฟ์รอบๆ"
พวกนักล่าได้เงียบไร้ซึ่งคำพูด
'นายทำแบบนี้ได้ยังไงกัน?'
ไม่มีใครเลยที่กล้าจะถามออกมา คำพูดและการกระทำของซังจินนั้นมันอยู่คนละโลกกับพวกเขาแล้ว
โดยเฉพาะกับ 'นักดาบระดับสูง' เขารู้สึกกังวลว่าซังจินจะทำอะไรบางอย่างขึ้นเพื่อแก้แค้นสำหรับในเหตุการณ์ก่อนหน้านีและหลีกเลี่ยงที่จะสบสายตา้
เมื่อซังจินเห็นเช่นนี้ เขาจึงไม่สามารถจะห้ามยิ้มของเขาเอาไว้ได้ในขณะที่เดินออกไป ที่นี่มันมีศัตรูไม่มากแล้วในระหว่างทางขึ้นไปวิหาร
นักล่าทั้งสี่คนได้พยายามเคลียเส้นทางอย่างขยันขันแข็ง แต่ว่าอย่างไรก็ตามในบางครั้งซังจินก็จะเขาไปล่าเอลฟ์ในเส้นทางด้วย
[พลังชีวิตเต็ม]
โอเปอเรเตอร์ได้บอกกับซังจินในะอนที่เขาได้เหวี่ยงดาบตัดหัวเอลฟ์ไปอีกตัวหนึ่ง
"เวลามันผ่านมาเท่าไหร่แล้วตั้งแต่การจู่โจมเริ่มขึ้น"
[30 นาที 12 วินาที]
มันถึงเวลาที่เขาจะต้องไปแล้ว ซังจินได้เก็บดาบเข้าฝักและหยิบหนึ่งในหินแสวงหาฆาตกรออกมา
ซังจินได้กลับเข้ามาในวิหารอีกครั้ง และมองออกไปรอบๆ เมื่อเขาแน่ใจแล้วว่าไม่มีศัตรูอยู่ใกล้ เขาก็ชูหินขึ้นและกล่าวออกมา
"การแสวงหาความยุติธรรม"
แม้ว่าเขาจะอยู่ในใต้ดินแสงก็ได้ส่องลงมาและล้อมรอบที่ซังจิน
[ทำการขอเคลื่อนย้ายมิติแล้ว]
[การที่การเคลื่อนย้ายมิติจะเสร็จสิ้น การแจกร่างวัลการจู่โจมจะต้องเกิดขึ้นที่นี่]
[เริ่มต้นการแจกรางวัล]
โอเปอเรเตอร์ได้เริ่มแจกรางวัลอย่างรวดเร็ว
[มอนสเตอร์ที่กำจัด: ชาวบ้านดาร์พเอลฟ์ 44 คน การ์ดดาร์คเอลฟ์ 25 คนืจอมเวทดาร์คเอลฟ์ 8 คนรวมทั้งหมด 728 แต้ม]
[บอสที่กำจัด: 'นักบวชหญิงเคเรนิส 1100 แต้ม]
[บอสลับ: ดาร์คเอลฟ์ที่ถูกเนรเทศ 1100 แต้ม]
[รวมแต้มทั้งหมดเป็น 9480 แต้ม]
[ผลงานของคุณคือ 65.5% ได้รับแต้มสเตตัส 6209 แต้ม เหรียญดำ 6209 เหรีย โบนัสเคลียการจู่โจม แต้มสเตตัส 2800 แต้ม เหรียญดำ 2800 เหรียญ ผลของไอเทมเพิ่มเงินรางวัล 10% รวมทั้งหมดเป็นแต้มสเตตัส 9009 แต้มและเหรียญดำ 9910 เหรียญ]
[และในตอนนี้เราจะเริ่มแจกไอเทม]
ซังจินได้กลืนน้ำลายเข้าไปโดยที่ไม่ตั้งใจ สิ่งนี้มันทำให้เขาต้องกังวลใจเสมอ
[อาเทอร์มิโอ - จอมเวทหายนะ]
[ดาร์ค - ถ้วยต้องสาป]
[มามาย่า - นิ้วมือล้างสมอง]
[หินเอนชานร์]
[หนังสือเวทมนตร์ - สโลว]
[หนังสือเวทมนตร์ - โล่ความมืด]
[โพชั่นฟื้นฟูขนาดใหญ่ 2 ขวด]
โอเปอเรเตอร์ได้ส่งข้อความแสดงความยินดีมาถึงสองครั้ง
[ขอแสดงความยินดีด้วยืคุณได้รับไอเทมในตำนาน 'อาเทอร์มิโอ']
[ขอแสดงความยินดีด้วย คุณได้รับชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนาน 'หินเอนชานร์]
ได้มีไอเทมหลายชิ้นตกลงมาที่เบื้องหน้าของซังจิน และก่อนที่ซังจินจะหยิบพวกมันขึ้นมา สิ่งแรกที่สายตาของซังจินได้มองไปก็คือดาบระดับตำนาน 'อาเทอร์มิโอ'
'นี่มันเหมาะมาก...'
มันเป็นดาบเวทมนตร์ของคาเรี่ยนมี่ซึ่งเขาได้ใช้สะท้อนลูกไฟของซังจินกลับมา ซังจินต้องการที่จะหยิบมันขึ้นมาเพื่อดูหย้าต่างข้อมูล แต่ว่าลูกบาศก์ก็ยังคงยุ่งวุ่นวายกับการประกาศอยู่
[และสุดท้ายนี้จะเป็นการแจกฉายาที่ได้รับจากในการจู่โจม]
[นักฆ่า - การโจมตีศัตรูที่ไปรู้ตัวจะเพิ่มความเสียหาย 100%]
'นักฆ่า...ฉันคิดว่ามีใครบางคนใช้ฉายานี้เมื่อเร็วๆมานี้...'
และในตอนนี้เองเขาก็นึกออก คนๆนั้นก็คือเจ้ามาเฟียที่พยายามจะข่มขืนคนอื่นในหุบเขาคนยักษ์ ต้องขอบคุณเขาที่ทำให้ซังจินรู้สึกฝืนในการใช้ฉายานี้ แต่ว่าผลของมันกดีมาก ไม่ว่าจะเป็นบอสหรือฆาตกร ถ้าหากว่าเขาสามารถจะประสบความสำเร็จในการซุ่มโจมตี ฉายามันก็จะมีประโยชน์เป็นอย่างมาก
'การสวมใส่ฉายานี้มันจะทำมห้การซุ่มโจมตีมีดาเมจเพิ่มขึ้นเผ็นสองเท่า และการที่ไม่สวมใส่มันก็จะมีความเสียเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า....มันหมายความว่าถ้าหากฉันเห็นโอกาสการซุ่มโจมตีฉันก็ควรจะใช้มัน...'
ในขณะที่ซังจินกำลังนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็นึกไปถึงการมีอยู่ของ 'ดวงดาวไร้นาม' มันเป็นไอเทมที่ดีมาด เนื่องจากว่ามันอนุญาติให้ปรับเปลื่ยนฉายาได้ตามสถานการณ์
การต่อสู้กับคาเรี่ยนมันลำบากมากยิ่งขึ้นเนื่องจากเขาส่วมใส่ฉายา 'ผู้พิพากษา' แทนที่จะเป็น 'สุดยอดนักล่า' ราคา 20000 มันคุ้มค่าแล้วที่จะจ่ายเพื่อซื้อสิ่งนั้น
'ฉันไม่รู้ว่าจะมีไอเทมที่คุ้มค่าอีกไหม...แต่ว่าในตอนนี้ฉันจะต้องเก็บมันใส่ตระกร้าไว้ก่อน
[การแจกรางวัลสิ้นสุดลงแล้ว คำขอเคลื่อนย้ายมิติได้รับอนุญาติ]
[คุณจะวาปไปในอรก 10 วินาที 10 9]
โอเปอเรเตอร์ได้เริ่มต้นนับถอยหลัง และซังจินก็ได้เตรียมพร้อมตัวเอง มันจะไม่มีความเมตตาสำหรับพวกชั่วร้าย ผู้ที่ได้เข้าไปในวังวนของมันครั้งนึงแล้ว เขาผู้นั้นก็จะวนอยู่ในนั้นตลอดกาล
เขาจะต้องกำจัดเจ้าพวกนั้นให้หมดไปจากการจู่โจมให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และป้องกันไม่ให้พวกเขาสามารถไปถึงช่วงท้ายเกมได้ และก็ด้วยผลข้างเคียงของการทำเช่นนี้มันก็ได้ทำให้เขาได้รับไอเทมมาอีกด้วย สำหรับซังจินการทำเช่นนี้มันเหมือนกับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
[5 4 3]
เมื่อการนับถอยหลังใกล้จะสิ้นสุดลง ซังจินก็ได้ยืดตัวเองเพื่อที่จะให้ร่างกายยืดหยุ่น เขาต้องการที่จะใช้เวลาหาพวกฆาตรให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
ในมิติอื่นๆนักล่านับหมื่นยังคงอยู่ในการจู่โจมที่ยังไม่จบลงอยู่ แม้ว่าถ้ามีเพียงหนึ่งในสิบส่วนที่มีฆาตกร มันก็ควรจะยังมีฆาตกรเยอะอยู่ดี
การเริ่มต้นใช้หินแสวงหาฆาตรให้บ่อยที่สุดมันเป็นสิ่งที่ดี ถ้าหากว่าเขาสามารถใช้หินทั้งสามอันได้หมด เขาก็จะสามารถพิจารณาถึงสิ่งที่ได้รับจากพวกนั้นมากขึ้น
[2 1 0]
การนับถอยหลังได้สิ้นสุดลง และซังจินก็ได้ถูกวาปไปที่มิติอื่น
****
นักล่าทั้งห้าคนทั้งแข็งแกร่งและมีพรสวรรค์ พวกเขาร่วมมือกันได้อย่างสมบูร์แบบและเข้าไปหาบอสที่ได้รอพวกเขาอยู่ในวิหาร เมื่อพวกเขาได้เข้ามาที่ด้านในของวิหาร
" ไคม่า โอ พระผู้เป็นเจ้าที่ยิ่งใหญ่ๆ ลูกๆของท่านกำลังเตรียมที่จะไปสู้รบได้โปรดมอบพรให้แก้ลูกๆของท่านด้วยเถิด"
พวกเขาได้เห็นนักบวชหญิงและผู้พิทักษ์ทั้งสี่คนกำลังทำพิธีแปลกๆอยู่ พวกเขาได้หันหน้ามามองกันและกระซิบออกมา
"มันดูเหมือนว่าพวกเราจะสามารถซุ่มโจมตีในที่พวกมันกำลังยุ่งอยู่ได้"
"ใช่แล้ว เริ่มต้นการต่อส้ด้วยการจัดการนักธนูและนักบวชหญิงก่อนเลย"
"ใช่แล้ว มันเป็นไอเดียที่ดีเลย"
พวกเขาได้วางแผนที่จะซุ่มโจมตีบอส แต่ว่า
"สสสสสส์~"
งูอนาคอนด้ายักษ์ได้ฆ่าตัวตายด้วยการพุ่งเข้าไปใส่มีดสั้นของนักบวช และสไนเปอร์ระดับสูงก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เว้นแต่อ้าปากค้างออกมา
"อ่ะ..."
มันได้สร้างเสียงแปลกๆออกม
"ใครกันที่มารบกวนพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา"
นักบวชหญิงได้เปล่งเสียงออกมา และการต่อสู้ก็เริืมขึ้นโดยการที่การซุ่มโจมตีไม่สำเร็จ แต่การต่อสู้ก็เป็นไปได้ด้วยดี
นักล่าพวกนี้มีพลังมากพอืี่จะสามารถเข้ามาถึงนักบวชได้ภายใน 30 นาที แต่ว่่าปัญหาก็ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักบวชหญิงได้เริ่มใช้เวทมนตร์ล้างสมองแปลกๆ
เมื่อเธอได้หยิบเอานิ้วแปลกๆที่ขรุขระออกมาจากผ้าคลุมและเมื่อชี้ไผที่ใครซักคน มันก็จะทำให้เขาคนนั้นหันกลับมาต่อสู้กับเพื่อนร่วมทีม
พวกเขาจะสูญเสียพันธมิตรและได้รับศัตรูมาแทน และจากเป้าหมายทั้งหมด หนึ่งเดียวที่ได้รับผลกระทบคือ 'เพรฌฆาต' ตัวทำดาเมจที่แข็งแกร่ง
ในขณะที่นักล่ากำลังลังเลเนื่องจากไม่รู้ว่าจะตอบโต้ไปอย่างไร
"อ๊ากกก"
มันก็ได้มีอุบัติเผตุเกิดขึ้นมา นักล่าคนอื่นๆก็ได้พยายามอย่างผนักเพื่อที่จะหยุดการล้างสมอง แต่ว่าในระหว่างที่มันดำเนินต่อไป
"อุ๊กก"
อุบัติเหตุครั้งที่สองก็ได้เกิดขึ้นมา ผู้รอดชีวิตสองคนและ 'เพชฌฆาต' ที่ได้เป็นอิสระจากการล้างสมองก็ได้จัดการล้มบอสลง
[นักบวชหญิงได้ถูกกำจัด]
[จะกลับสู่ตลาดมืดในอีก 58 นาที 23 วินาที]
ในที่สุดพวกเขาก็สามารถจะจบการจู่โจมได้ แต่ว่าผู้รอดชีวิตทั้งสองคนก็ไม่ได้มีความสุข 'นักทำลาย' ผู้ที่ใช้ค้อนยักษ์ก็ได้กล่าวกับ 'เพชฌฆาต'
"ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของนาย"
"ทำไมมันถึงเป็นแบบนั้นกัน?"
"ทำไม? ทำไมมันถึงเป็นความผิดของฉัน? สิ่งนั้นมันคือทักษะของบอส ถ้าหากว่านายโดนมันแล้วนายก็จะเป็นเช่นเดียวกับฉัน นายคิดว่านายจะสามารถหยุดยั้งผลของมันได้งั้นเหรอเมื่อนายโดนมัน?"
"ฉันก็ไม่ได้โดนทักษะนั้นนี่"
"หยุดการแกล้งทำซะเถอะ ถ้าหากนายต้องการจะตำหนิใครซักคน ก็ควรจะตำหนิสไนเปอร์ที่ได้ทำให้เราซุ่มโจมตีล้มเหลวในก่อนหน้านี้ ฉันได้ต่อสู้อย่างหนัก ฉันไม่สามารถจะทำอะไรกับการที่ถูกล้างสมองได้"
สไนเปอร์ระดับสูงที่ได้ฟังอยู่ด้านข้ทงก็ยังได้เข้ามาร่วมการเถียงกันนี้
"นายกำลังพูดอะไรกัน? นายคิดว่ามันจะแตกต่างกันงั้นหรอ? ไม่ว่าเขาจะต่อสู้แบบไหนมันก็จะเกิดการถูกล้างสมองขึ้น และนายก็จะถูกล้างสมองไม่ว่ายังไงก็ตาม นายได้ฆ่าพรรคพวกด้วยมือของนายเอง"
"ฉันไม่ได้ฆ่าพวกเขาเพราะว่าฉันต้องการที่จะฆ่า!"
ทั้งสามคงยังคงตะโกนและโต้เถียงกันต่อไป และแล้วในที่สุด 'นักทำลาย' ก็ไม่สามารถจะระงับความโกรธของเขาเอาไว้ได้อีก ในที่สุดเขาก็ได้เหวี่ยงค้อนออกมา