ตอนที่แล้วChapter 72 – Dark Elven City (5)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 74 – Dark Elven City (7)

Chapter 73 – Dark Elven City (6)


Chapter 73 – Dark Elven City (6)

ซังจินได้พุ่งเข้าไปหาคาเรี่ยนด้วยดาบบลัดเวเจนเพียงข้างเดียว ในขณะที่มืออีกข้างจับที่ด้ามจับของมูนสเปค เขาวางแผนที่จะใช้เสียงคร่ำครวญของคนตายเพื่อที่จะสร้างโอกาสในการโจมตีให้เขาล้มลง โดยการใช้บลัดเวเจน

แต่ว่ามันก็ไม่ได้ง่ายเช่นนั้น เมื่อซังจินเข้าใกล้คาเรี่ยน

"วูบ วูบ"

เขาได้เหวี่ยงดาบออกมาทั้งสองข้าง มันจึงทำให้ซังจินต้องถอยกลับมาในขณะที่ปัดป้องการโจมตีด้วยดาบบลัดเวเจน

จากประสบการณ์ของเขา ผลของเสียงคร่ำครวญของคนตายจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเมื่อเขายืนอยู่ใกล้ศัตรู แต่คาเรี่ยนแข็งแกร่งเกินไปที่เขาจะเขาไปประชิดได้

มันจึงช่วยไม่ได้ที่ซังจินจะต้องถอยกลับมาในขณะที่เขาป้องกันการโจมตีไปด้วย หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาก็ตะโกนออกมา

"เสียงคร่ำครวญของคนตาย"

เขารีบใช้งานทักษะอย่างรวดเร็วและดึงดาบออกมา

"กรี๊ดดดดด~"

เสียงกรีดร้องที่น่าหวาดหวั่นได้เต็มไปทั่ว และคาเรียนก็ได้ก้าวถอยออกไปพร้อมกับใบหน้าแสดงความประหลาดใจออกมา

ผลของเสียงคร่ำครวญของความตายดูเหมือนจะไม่ได้ส่งผลต่อเขาเต็มทีี แต่ว่าแค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะเป็นโอกาสทอง

'ฉันไม่รู้ว่าฉันจะมีโอกาสเช่นนี้อีกไหม"

ซังจินได้พุ่งเข้าไปหาคาเรี่ยน แต่ว่า

"แสงสว่างแห่งอิออน"

แสงบางอย่างได้สว่างออกมาภายใต้เกราะของคาเรี่ยน และเขาก็กลับเป็นปกติ

ซังจินรีบแกว่งดาบออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ว่า

"เคร๊ง"

คาเรี่ยนได้นำดาบมาไขว้ไว้และป้องกันการโจมตี ซังจินได้กัดฟันแน่นและเหวี่ยงดาบออกมาอีกครั้ง

"เคร๊ง ปัง"

คาเรี่ยนไม่สามารถจะตอบโต้กลับไปได้และทำได้เพียงแค่ป้องกันการโจมตี เขามีโอกาสน้อยมากที่จะสวนกลับ และเมื่อซังจินคิดว่าไม่มีโอกาสที่จะเจาะการป้องกันไปได้เขาก็ถอยกลับมา

'มอนสเตอร์อะไรกัน'

ซังจินได้หอบหายใจออกมาและกดดาบลงด้านข้าง การล้างบาปของโลหิตได้สิ้นสุดลงแล้ว มันไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะยอมให้มันดูดหลังชีวิตไปอีก

คราวนี้คาเรี่ยนก็ได้พุ่งเข้ามาหาซังจิน เขาค่อนข้างจะแข็งแกร่งกว่าซังจินเล็กน้อยในด้านวิชาดาบ

ทั้งสองคนนั้นต่างก็ฟาดฟันดาบเฉียดผ่านร่างกาย แต่ว่าก็ไม่มีบาดแผลที่สำคัญเลย และในระหว่างต่อสูอยู่นั้น

'ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งเช่นนี้'

เบสโกโร่ได้กล่าวออกมาในความคิดของซังจิน ถ้าหากว่าอย่างน้อยมีเคนหรือซาดาเมียร์ ทุกอย่างมันก็ควรจะง่ายขึ้น แต่ว่าเวลาของพวกเขาได้หมดลงไปแล้ว

แล้วก็ด้วยเหตุผลบางอย่างก็ดูเหมือนว่าซังจินจะต้องการเอาชนะเขาในการต่อสู้แบบ 1 ต่อ 1

"เคร๊ง เคร๊ง แคร๊ก แคร๊ก"

นักสู้ทั้งสองคนได้ต่อสู้กัน และดาบทั้งสี่เล่มก็เข้าปะทะห่ำหันกัน แต่ว่ามันก็ยังไม่มีข้อสรุปเลย ในขuเดียวกันนั้นเอง

'...ฆ่า'

มันเผ็นเสียงที่เขาไม่ได้ยินมันมานานแล้ว เสียงกระซิบของยอนฮัวเรท ซังจินเขาไม่สนใจมันและต่อสู้ต่อไป แต่ว่าด้วยเหตุผลบางอย่างเบสโกโร่ก็ได้ตอบสนองต่อเสียงนั้น

'เสียงอะไรน่ะ"

เขาก็คงจะได้ยินเสียงของมันเช่นกัน

'ฆ่า...'

'มันบอกว่าฆ่าหรอ?'

ซังจินกำลังยุ่งกับการต่อสู้เพื่อชีวิตที่รักยิ่งของเขา และผีสองตัวก็ได้คุยกัน จากนั้นซังจินจึงจำเป็นจะต้องใช้ดาบทั้งสองเล่มผลักคาเรี่ยนออกไผและทำบางอย่าง

"อา หุบปาก!"

ในขณะเดียวกันคาเรี่ยนก็ได้ร่ายเวทออกมา

"หอกที่เจาะทั้งลวงทุกสิ่ง ไลท์นิ้งโบลด์"

ซังจินได้กลิ่งไปด้านข้างเพื่อที่จะหลบเวทมนตร์ ในตอนนี้เขาก็นึกออกว่าดาร์คเอลฟ์นักดาบก็รู้วิธีใช้เวทมนตร์ แต่ว่าเขาก็รู้วิธีใช้มันเช่นกัน

'ตาต่อตา ฟันต่อฟัน...เวทมนตร์ต่อเวทมนตร์'

"ความจริงคือเรื่องหลอกลวง และเรื่องหลอกลวงก็คือความจริง"

เบสโกโราได้ร่ายเวทมนตร์ออกมาแทนเขา และจากนั้นเมื่อเบสโกโร่ร่ายเวท เขาก็เริ่มร่ายอีกเวทหนึ่งออกมา

"จงเผาไหม้ทุกสิ่งในเส้นทาง"

ในครั้งล่าสุดแม้ว่ามันจะมีความคาดเคลื่อนอยู่บ้างในตอนที่ร่ายเวทสองอัน แต่ว่าในตอนนี้ซังจินสามารถจะกะจังหวะมันได้ลงตัวแล้ว

"ภาพลวงตา"

ร่างกายของซังจินได้แยกออกมาเป็นหกคน

"บอลไฟ"

บอลไฟหกลูกได้ถูกยิงออกมาจากซังจินทั้งหกร่าง ทุกๆที่ที่ยิงต่างก็มีทิศทางที่ต่างกัน แน่นอนว่าของจริงมันมีเพียงอันเดียว แต่มันก็แยกออกยากว่าอันไหนคือของจริง

คาเรี่ยนที่ไม่รู้ว่าอันไหนคืออันจริง เขาจึงได้ถอยหลังออกมาเล็กน้อยและใช้ดาบของเขาในการปกป้องร่างกาย

"ตูมม"

คาเรี่ยนโชคดีที่ว่าลูกไฟลูกจริงคือลูกที่อยู่ห่างออกไปที่สุด แต่ส่ามันจะยังคงมีผลกระทบ ไฟมันได้ไหม้ลุกลามมาที่ผ้าคลุมของเขา

นี้มันเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมาก ดังนั้นซังจินจึงร่ายเวทมนตร์ออกมาอีกครั้ง

"บอลไฟ"

แต่ว่า

"สะท้อนเวทมนตร์"

เขาได้พึมพัมบางอย่างออกมา และจากนั้นดาบในมือขวาของเขาก็ส่องแสงสีม่วงออกมา เขาได้เฝ้ามองไปที่ลูกไฟทั้งหกลูกที่พุ่งเข้ามา จากนั้นเขาก็สะท้อนลูกไปลูกจริงกลับมา

'อะไรกัน?'

บอลไปได้เปลื่ยนทิศทางและพุ่งมาทางที่ซังจินอยู่ ดวงตาของซังจินได้เบิกกว้างออกมา และจากนั้นเขาก็กลิ้งตัวไปด้านข้างและตะโกนออกมา

"แข็งตัว"

และช่วงเวลาสั้นๆหลังจากนั้น

"ตูมม"

บอลไฟได้ระเบิดออกมา ถึงแม้ว่าซังจินจะทำให้คาเรี่ยนประหลาดใจในครั้งแรก แต่ว่าในครั้งต่อมาเขาก็สามารถจะแยกของจริงออกและสะท้อนมันกลับมาได้

'พระเจ้า...เพียงแค่ครั้งเดียว...เขาสามารถที่จะบอกได้ว่าอันไหนของจริงอันไหนของปลอม'

โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องดูลูกไฟระเบิดออก หรือไม่ต้องรู้ว่าใครคือผู้ร่ายตัวจริง สิ่งนี้มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

ซังจินได้ยืนขึ้นมาหลังจากที่การแข็งตัวหมดลง เขาดึงดาบออกมา หลังจากที่โดนการสวนกลับล่าสุด ซังจินก็ได้ตัดสินใจ

'ชายคนนี้แข็งแกร่งเกินไปที่จะเอาชนะเขาโดยที่ออมแรงเและไอเทมเอาไว้'

เขาได้ลืมมันไปนานแล้วว่าการจู่โจมเป็นเกมส์ที่เอาชีวิตรอดโดยที่ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย ถ้าเขาไม่สามารถจะล้มศัตรูข้างหน้าลงได้ เขาก็จะตาย เมื่อเขาได้เตรียมพร้อมตนเอง เขาก็ถามกับเบสโกโร่

"เบสโกโร่ นายบอกว่าการคลั่งจะช่วยเพิ่มความเร็วในการโจมตีแต่ละหลังของฉันใช้ไหม?"

'เพิ่ม 10% ทุกๆครั้งที่ท่านโจมตี'

ซังจินไม่ได้ใส่ใจฟังเขาทั้งหมด ในขณะนั้นซังจินก็ได้หยิบสร้อยยอนฮัวเรทออกมา

"สวมใส่"

เขาได้เก็บส้รอยตัวดางของบาซิลิสลงไป ดวงตาของงูมันเป็นทักษะที่น่าสนใจจะลองกับคาเรี่ยน แต่ว่าเพื่อให้มันแน่นอนและจบลง มันยังมีวิธีที่ดีกว่า นั้นคือการสวมใส่สร้อยคอยอนฮัวเรท

"ฆ่า! ฆ่า!"

เสียงได้เริ่มดังขึ้นและเร็วขึ้นเรื่อยๆ เบสโกโร่ก็ดูเหมือนจะรู้สึกเกี่ยวกับเสียงนี้เช่นกัน

'ฆ่า! ฉันบอกว่า...ฆ่า...'

มันจะต้องแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เนืองจากว่าภายในสนามรบแห่งนี้มีวิญญาณถึงสองตัว

"ฉันจะ"

เมื่อซังจินได้เตรียมพร้อมเสร็จสิ้น เขาก็พูดขึ้นอีกครั้ง

"การล้างบาปของโลหิต"

ทักษะของดาบบลัดเวเจนได่ถูกเปิดใช้งานและดูดเลือดของเขาไปอีกครั้ง ซังจินสังเกตุเห็นว่าคาเรี่ยนดูเหมือนจะตื่นเต้นขึ้นเมื่อเห็นบลัดเวเจนเปล่งแสงสีเลือดออกมา

และสิ่งนี้มันก็เหมาที่จะใช้กับคาเรี่ยน การจะเสียสละเลือดของตนเองเพื่อที่จะให้การโจมตีสั้นๆเป็นการโจมตีที่รุนแรงขึ้นมา เาเรี่ยนได้แสดงออกถึงความระมัดระวังอิกมา

"การป้องกันของความมืด ลบล้างทุกๆสิ่งออกไป โล่แห่งความมืด"

ครู่หนึ่งร่างกายของเขาก็ได้ถูกปกคลุมไปด้วยออร่าแห่งความมืด สิ่งนี้มันเป็นเวทมนตร์ดำที่ใช้สำหรับเพิ่มพลังป้องกัน ซังจินเคยเห็นใันมาก่อนในชีวิตที่แล้ว

'ฆ่า ฆ่า ฆ่า'

'ไปฆ่ามัน ฉันต้องการจะเห็นเลือดของเอลฟ์'

เสียงของวิญญาณได้ดังขึ้นในหัวของเขา ซังจินจึงตะโกนออกมา

"คลั่ง"

โหมดคลั่งของเบสโกโร่ได้เปิดใช้งาน และในท้ายที่สุด

'ฆ่า ฆ่า ฆ่า ฆ่า'

เขาก็ยอมที่จะใช้ยอนฮัวเรท

"บ้าคลั่ง"

การล้างบาปของโลหิต คลั่ง และบ้าคลั่ง ซังจินได้ใช้มันทั้งสามอันพร้อมกัน จากนั้นซังจินก็พุ่งเขาไปหาคาเรี่ยนเหมือนกับเสือดาว

คาเรี่ยนได้เตรียมตัวตั้งรับซังจินที่ได้พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วที่มากขึ้นกว่าแต่ก่อนถึงสามเท่า เขาจะต้องนำทุกสิ่งทุกอย่างที่มีมาป้องกันการโจมตีนี้ จากนั้นเขาก็นำดาบมาป้องกันตัวเอง

"เคร๊ง เคร๊ง คลิ๊ก แคร๊ก"

คาเรี่ยนนั้นเป็นสุดยอดนักดาบ เขาสามารถที่จะป้องกันการโจมตีของซังจินได้แม้ว่าซังจินจะมีความเร็วมากขึ้นสามเท่า แต่ว่าเขาก็ไม่สามารถจะป้องกันการโจมตีทั้งหมดของซังจินได้

ดาบได้ทะลุเข้าไปโดนเกราะของเขาหนึ่งครั้ง

"ฟิ่ว~"

มูนสเปคได้ปะทะกับต้นแขนของคาเรี่ยน และนี่ก็เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น ด้วยผลของทักษะคลั่ง ซังจินก็เริ่มจะเร็วยิ่งขึ้นไปอีก

คาเรี่ยนได้ก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวเพื่อที่จะ้ปองกัน แต่ว่า

"วูบ"

บลัดเวเจนก็ได้เฉียดร่างกายเขาไป เขาจึงคิดขึ้นกับตัวเอง

'มันยังโอเค ฉันยังไปได้รับการโจมตีที่อันตรายถึงชีวิต'

แต่อันตรายของ 'คลั่ง' มันพึ่งจะเริ่มขึ้นเท่านั้น ทุกๆครั้งที่ซังจินโจมตีสำเร็จ ความเร็วและพลังของเขาก็จะมากยิ่งขึ้นไปเท่านั้น เร็วยิ่งขึ้น ยิ่งขึ้นไป และในตอนท้ายคาเรี่ยนได้ถูกโจมตีสามครั้งติดต่อกัน

เมื่อวิญญาณได้เห็นเช่นนั้นเขาก็ตะโกนออกมาอีก

'ฆ่า ฆ่า ฆ่า ฆ่า ฆ่า ฆ่าาาาา'

'ฆ่ามันซะเค ตัดหัวของมัน และเรามาดูเลือดของมันกัน'

ด้วยเสียงที่บ้าคลั่งนี้ซังจินก็ได้จมลงไปในมัน และสูญเสียสติไป

****

[........ถูกกำจัด]

เมื่อซังจำตั้งสติกลับมา การต่อสู้ก็ได้จบลงแล้ว จากนั้นเสียงเตือนของโอเปอเรเตอร์ก็ตามมา

[คำเตือน พลังยีวิตเหลือครึ่งหนึ่ง]

'หืมมม?'

ซังจินได้รู้าึกประหลาดใจและจากนั้นเขาก็หันไปปิดการ้างบาปของโลหิตในทันที ในตอนนี้เขาได้คิดถึงมัน เขาไม่จำเป็นจะต้องเปิดมันเอาไว้แล้วในตอนนี้

หลังจากที่โจมตีถูกสองหรือสามครั้ง โบนัสการจู่โจมก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญไปทั้งหมด การเปิดใช้งานการล้างบาปของโลหิตในระหว่างที่สูยเสียสติมันอันตรายมาก

'ฉันเพียงแค่โชคดีที่ไม่มีศัตรูรอบๆ...'

ซังจินหันไปมองรอบๆ ศพของคาเรี่ยนได้ถูกตัดออกเป็นชิ้นเล็กๆจนแทบจะไม่สามารถเรียกว่าเป็นศพได้ ซังจินจึงได้ยกดาบขึ้นมาเพื่อที่จะให้ความเคารพเขา

'เขาเป็นศัตรูที่น่าอัศจรรย์ ถ้าหากว่าปราศจาคไอเทม....ฉันก็ไม่สามารถจะมีหวังที่จะเอาชนะเขาได้เลย'

หลังจากคิดดังนั้นซังจินก็ได้หยิบยอนฮัวเรท

"ยกเลิกการส่วมใส่"

และเก็บมันกลับไปในลูกบาศก์ ส่วนเบสโกโร่นั้นเขายังคงคลั่งอยู่

'ฆ่าพวกมันทั้งหมด ฆ่าพวกมัน'

"ยกเลิกการส่วมใส่"

ซังจินได้ถอดหมวกของเบสโกโร่ออกมาในตอนนี้และถือมันเอาไว้ด้านข้าง จากนั้นเขาก็นั่งลงและถอยหายใจออกมา

"วูวว~...."

เขาเป็นศัตรูที่ทรงพลังมาก ส่วนมากบอสลับจะยากที่จะเอาชนะด้วยการร่วมมือของคนห้าคน แต่ว่าคาเรี่ยนแข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกนั้นมาก

มันเป็นศัตรูตัวแรกที่สามารถจะปลุกสัญชาตญาณเตือนถึงอันตรายของซังจินได้

'ในตอนนี้ฉันคิดถึงมัน...เมื่อฉันเริ่มซื้อของในร้านมืดมิดยิ่งกว่าสีดำ...ฉันก็ได้หยุดลงทุนในตัวเอง'

เมื่อบทการจู่โจมดำเนินไปเรื่อยๆ ศัตรูก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และยิ่วไปบทไกลๆ ความแตกต่างมันก็จะยิ่งห่างกันมาก ถ้าหากว่าเขาไม่สามารถจะเพิ่มความสามารถให้ทันมันตัวเขาเองก็จะพินาศลง

เมื่อซังจินได้รับพงศาวดารสามก๊ก เขาก็รู้สึกว่าเขาพึ่งไอเทมนี้มากเกินไป ซังจินหันไปมองรอบๆ หนังสือมันได่วางอยู่บนพื้นใกล้ๆ

เขาได้ปัดมันทิ้งไปในช่วงเริ่มต้นการต่อสู้เนื่องจากว่าเขาถูกพุ่งเข้าใส่และขัดจังหวะ ซังจินได้เดินออกไปหยิบหนังสือและปัดฝุ่นมัน

เขาได้คิดกับตัวเอง

'หนังสือเล่มนี้มันมีจุดอ่อนที่ชัดเจนมาก...'

การอ่านข้อความในหนังสือมันจะใช้เวลานานเกินไป หึงจากได้รับไอเทมนี้ก็ควรจะให้แท้งดึงความสนใจไว้และอ่านมันโดยที่ไม่โดนขัดขวาง เจ้าของคนก่อนของมันได้ทำเช่นนี้

'สำหรับหนึ่งเหตุผลหรืออย่างอื่น...มันก็ถึงเวลาแลเวที่ฉันควรจะมองหาการพัฒนา'

จากนั้นซังจินก็หันกลับไปถามโอเปอเรเตอร์เกี่ยวกับเวลาที่เหลืออยู่

"โอเปอเรเตอร์ตอนนี้เวลามันผ่านมาเท่าไหร่แล้วหลังจากการจู่โจมเริ่มขึ้น"

[เวลาได้ผ่านมา 24 นาที 32 วินาทีแล้ว]

"โอเค..."

เขายังคงเหลือเวลาอยู่ และเขาก็ได้เสียพลังชีวิตและมานาไป ซังจินจึงเดินกลับออกไปจากถ้ำ

เขาวางแผนที่จะฆ่าศัตรูบางส่วนเพื่อที่จะเพิ่มพลังชีวิตและมานา มันไม่ควรที่จะมีตัวอะไรที่แข็งแกร่งกว่าคาเรี่ยนแล้วตอนนี้ แต่มันก็ยังมีความเป็นไปได้อยู่ที่ว่ามันอาจจะมีการเอาจำนวนเข้าสู้

ก่อนที่เขาจะกลับออกไป เขาได้กลับมาใส่ 'ดวงตาของบาซิลิส' และ 'เบสโกโร่' เมื่อเขาได้สวมหมวกคืนมา เบสโกโร่ก็ตะโกนออกมาอย่างยินดี

'เฮ้ เคทำไมท่านไม่มช้ข้าในก่อนหน้านี้หละ? เมื่อร่วมกับทักษะคลั่งมันก็ไม่ควรจะมีอะไรที่เป็นไปไม่ได้'

ซังจินได้คิดขึ้นในใจแทนที่จะตอบกลับไป

'เฮ้อ...มันเป็นไอเทมที่ดีนะ...แต่ว่าทำไมมันถึงต้องมีทักษะติดตัวที่แปลกๆด้วย'

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด