บทที่ 31
บทที่ 31 ออกเดทกับฉูหยวน
ผู้แปล loop
ในวันอังคาร
เงินในบัญชีการซื้อขายหุ้นนั้นไม่สามารถถอนได้ในวันเดียวกับวันที่ทำการซื้อขายหุ้น ดงซูบินจึงต้องรอในวันถัดไปเพื่อที่จะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของเขา อีกทั้งในวันนี้หัวหน้าของเขาโจวฉางจูจะต้องไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล จึงทำให้เขาไม่ได้เขามาทำงาน มันทำให้ดงซูบินใช้โอกาสนี้ในการขอตัวออกมาจากกลุ่มเพื่อนของเขาก่อนหลังทานอาหารกลางวันเสร็จ และไปที่ธนาคารไอซีบีซีเพื่อโอนเงิน 3,000 หยวนไปยังบัญชีของแม่ของเขา เพราะเขาหวังว่าแม่ของเขาจะมีความสุขเมื่อได้เห็นเงินที่โอนไปให้
หลังจากโอนเงินแล้วดงซูบินจึงโทรหาแม่ของเขา
แหวน, แหวน, แหวน เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งรับโทรศัพท์ “สวัสดีค่ะ โรงเรียนมัธยมฮุ่ยเทียน”
ดงซูบินตอบรับเสียงนั้นและถามเธอไปว่า:“สวัสดีครับ ผมต้องการคุยสายกับลวนเสี่ยวปิง”
“อ๋อ อาจารย์ลวนหรอค่ะ โปรดถือสายไว้สักครู่” ผู้หญิงคนนั้นเงียบไปพักหนึ่งก่อนที่จะตะโกน:“อาจารย์ลวน มีคนโทรหาอาจารย์ อาจจะเป็นลูกชายของอาจารย์ก็ได้นะคะ”
ไม่กี่วินาทีต่อมาแม่ของดงซูบินก็รับโทรศัพท์ “ซูบินหรอ?”
ในตอนนั้นดงซูบินนั่งลงบนเก้าอี้พลาสติกสีน้ำเงินในบริเวณจุดนั้งรอของธนาคารไอซีบีซี “แม่ทานข้าวเที่ยงหรือยัง? เงินเดือนผมพึ่งเข้าและก็ผมเลยเพิ่งโอนเงิน 3,000 หยวนไปให้แม่ หากแม่ว่างๆก็ไปถอนเงินที่ธนาคารและก็อากาศก็เริ่มเย็นลงแล้ว แม่ควรหาซื้อเสื้อโค้ทหรือเสื้อกั้นหนาวมาไว้สักตัว นี้ถือว่าเป็นของขวัญจากลูกชายคนนี้ละกันนะ” แม่ของดงซูบินเคยสูญเสียเงินมากมายในตลาดหุ้นในอดีต มันทำให้ดงซูบินรู้ดีว่าถ้าเขาบอกแม่ว่าเขาหาเงินจากการเล่นหุ้น แม่ของเขาก็คงจะเป็นกังวลแน่ เขาเองก็ไม่สามารถอธิบายความสามารถพิเศษของเขาให้เธอเข้าใจได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะไม่พูดถึงมัน
แม่ของดงซูบินเริ่มบ่นเสียงดังมาตามสาย “แม่ไม่ต้องการเงินของลูกหรอก แม่ยังมีเงินอยู่เลย ลูกควรเก็บมันไว้นะเผื่อไว้ในอนาคตข้างหน้า”
ดงซูบินตอบกลับไปว่า:“ก็ผมโอนเงินไปแล้ว แม่ไม่ต้องจู้จี้มากนักหรอก”
แม่ของดงซูบินถอนหายใจ “งั้น……โอเค แต่ครั้งต่อไปอย่าส่งเงินมาให้แม่อีกนะ เงินเดือนของแม่ก็เพียงพอสำหรับแม่แล้ว ลูกควรประหยัดเงินของลูกไว้ ไม่กี่ปีที่ผ่านมาเรายากจนและแม่ไม่มีเงินซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ลูก ตอนนี้ลูกเป็นข้าราชการแล้ว ลูกควรหาซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆให้ดูดีทิ้งเสื้อผ้าเก่าๆขาดๆไปก็ได้นะ เมื่อลูกไปเจอกันคนอื่นๆเขาจะได้ประทับใจลูก เข้าใจไม?”
ดงซูบินมองไปที่เสื้อผ้าของเขา เขาสวมเสื้อยืดสีซีดๆ “เอ่อ……เดียวเย็นนี้ผมจะไปหาซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆมาใส่”
แม่ของดงซูบินเองเธอต้องการประหยัดค่าโทรศัพท์ของลูกชาย เธอจึงถามดงซูบินสั้น ๆ เกี่ยวกับงานของเขาก่อนที่จะวางสาย
ตอนเย็นหลังเลิกงาน
บนรถบัสกลับบ้านดงซูบินส่งข้อความถึงฉูหยวน “วันนี้เธอทำโอทีไหม? ฉันจะเตรียมอาหารเย็นและรอให้เธอกลับมา?” หลังจากส่งข้อความดงซูบินก็รู้สึกดีใจ ทำไมข้อความนี้ถึงรู้สึกเหมือนเป็นคู่รักที่ส่งข้อความหากัน ปี๊บปี๊บ เขายังคงฝันถึงวันนั้น
เมื่อฉูหยวนตอบกลับมา “ไม่ รอฉันกลับห้องแล้วฉันจะทำอาหารให้นายกินเอง โอ้ผักที่ห้องหมดแล้ว ฉันไม่รู้ว่านายอยากกินอะไร นายมาที่ทำงานของฉันสิ ถือว่าแวะมารับฉัน ใกล้ได้เวลาเลิกงานแล้ว เดียวเราแวะไปตลาดใกล้เพื่อไปซื้อผักกัน” ดงซูบิน อ่านข้อความและตอบกลับไปว่า:“โอเค”
ถนนวงแหวนปักกิ่งที่ 2
สำนักงานใหญ่ปักกิ่งรายวัน (หนังสือพิมพ์)
แม้ว่าดงซูบินและฉูหยวนจะสนิทกันในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นเพียงเพื่อนบ้านกันเท่านั้น แต่หลังจากที่ดงซูบินช่วยชีวิตเธอไว้ไม่กี่เดือนก่อน พวกเขาก็ดูสนิทกันมากขึ้น และทำให้ดงซูบินรู้จักเธอมากขึ้นด้วย อีกทั้งตอนนี้ฉูยวนเริ่มทำธุรกิจกับเพื่อน ๆ หลังจากที่เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย แต่บริษัทก็ปิดตัวลงได้ไม่นาน จากนั้นเธอก็ได้งานกับฝ่ายโฆษณาของปักกิ่งรายวัน ตอนนี้เธอเป็นหัวหน้าทีมอยู่ที่นั่น
10 นาทีต่อมา ผู้คนเริ่มเดินออกจากอาคารลงมา
นี่เป็นครั้งแรกที่ดงซูบินมาที่ทำงานของฉูหยวน เขายังไม่รู้ด้วยว่าเธอจะเดินออกจากทางออกไหน ดงซูบินได้แต่ยืนอยู่ตรงนั้นเพื่อดูฝูงชนที่เดินออกมาและพยายามมองหาเธอ
ทันใดนั้นดงซูบินก็เห็นฉูหยวนเดินออกมาจากอาคารสำนักงานที่อยู่ไม่ไกลมาก ผมของเธอถูกมัดด้วยยางมัดผมและสวมเสื้อสีขาวกระโปรงสำนักงานสีน้ำตาลถุงน่องและรองเท้าส้นสูงสีดำ เธอสวยมากทำให้ดงซูบินเหมือนถูกสะกดจิตโดยเธออีกครั้ง ‘ฉูหยวนทำไมเธอถึงได้สวยแบบนี้’ ดงซูบินเริ่มสงสัยอยู่ในใจ
“พบกันพรุ่งนี้หัวหน้าทีมฉู.”
"บาย. แล้วพบกันใหม่พรุ่งนี้” ฉูหยวนพยักหน้า
“พี่ฉู! ข้อเสนอที่ผมบอกกับพี่เมื่อวานนี้พร้อมหรือยังครับ”
ฉูหยวนหันไปหาบุคคลนั้น:“โอ้เสี่ยวหลู! ฉันติดต่อให้แล้วล่ะ นายสามารถเขาไปคุยกับลูกค้าได้ในวันพรุ่งนี้”
"ตกลงครับ. ดูแลตัวเองด้วยนะ. บาย."
ฉูหยวนมีรัศมีของหญิงแกร่ง(Working Women) นี่เป็นครั้งแรกที่ดงซูบินมองเห็นอีกด้านของเธอ
เมื่อฉูหยวนมองเห็นดงซูบินเธอจึงเดินไปหาเขาอย่างรวดเร็ว “นายรอนานไหม? มีที่นั่งรออยู่ข้างใน ทำไมนายไม่เข้าไปข้างในและรอฉันที่นั่นล่ะ”
ซูบินหยุดด้วยความสงสัยว่าด้านในมีที่รอด้วยหรอและแต่เขาก็พูดแบบเสแสร้งไปว่า:“ฉันขี้เกียจลงทะเบียนเข้าไปนะ”
ฉูหยวนเธอหัวเราะและชี้ไปนิ้วไปทางหนึ่ง “ไปตลาดและซื้อกับข้าวที่นายอยากทาน”
ในขณะที่พวกเขากำลังข้ามถนนดงซูบินสังเกตว่า ฉูหยวนถูไหล่ของเธอและดงซูบินจึงถามว่า:“เธอเหนื่อยไหม? เดียวฉันช่วยถือกระเป๋าให้เธอดีกว่า?”
ฉูหยวนกำลังจะพาเขาไปที่ตลาด เธอจึงตอบกลับเขาไปว่า:“ไม่เป็นไร ฉันมาทำงานเพื่อเงินและมันก็ต้องเหนื่อยอยู่แล้ว เมื่อฉันเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองในตอนนั้น มันเหนื่อยกว่าตอนนี้อีก ไม่เพียงแต่จะเหนื่อยที่ร่างกายเท่านั้น แต่ยังเหนื่อยทางจิตใจด้วย” ที่หน้าตลาดฉูหยวนเปลี่ยนจากการเป็นหญิงแกร่งมาเป็นแม่บ้าน “ไข่นี้ราคาเท่าไหร่? 4 หยวน สำหรับ 3 ฟอง อย่างนั้นฉันขอ 1 กิโล……. ปีกไก่เท่าไหร่ โอ้……หยิบมาให้ฉันเลย……” ฉูหยวนซื้อวัตถุดิบจากนั้นจึงหันไปพูดกับดงซูบิน “มันน่าเสียดาย ตอนนั้นฉันยังเด็กและไม่รู้อะไรมากมาย ถ้าฉันมีบริษัทตอนนี้ฉันมั่นใจว่าฉันจะจัดการมันได้ดีขึ้น”
“เธอยังคิดที่จะจัดตั้งบริษัทของตัวเองอยู่อีกหรือ?”
"ใช่. แต่ตอนนี้ฉันไม่มีทุนแล้ว ฉันพึงใช้มันหมดไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน”
หลังจากคุยกันมา ดงซูบินสังเกตว่าเขาทั้งคู่มีเป้าหมายคล้ายกัน เขาต้องการเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง และเธอต้องหาเงินให้ได้มหาศาล
เมื่อมาถึงถนนเหอผิงเหนือ
ดงซูบินต้องการช่วยฉูหยวนในการทำอาหารเย็นในวันนี้ มันเป็นเรื่องที่น่าอายสำหรับเขาที่ให้เธอทำอาหารให้เขากินทุกครั้ง แต่ ฉูหยวนก็ไล่เขาออกจากห้องของเธอ เธอขอให้เขากลับไปอาบน้ำก่อนและค่อยมาทานอาหารเย็น
ในห้อง 302 ห้องของฉูหยวน
หลังจากเป่าผมให้แห้งแล้ว ดงซูบินก็ไปกดกริ่งห้องของฉูหยวนประตูเปิดออกและเขาได้กลิ่นของปีกไก่ผสมเบียร์ เขาหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเดินเข้าไปในห้องนั้น “ว้าวกลิ่นหอมจัง ข้าวพร้อมหรือยัง?” มีอาหารจานร้อนวางบนโต๊ะอาหาร เพียงแค่ดูอาหารบนโต๊ะก็ทำให้ดงซูบินหิวแล้ว เขาม้วนแขนเสื้อขึ้นและพร้อมที่จะหยิบอาหาร
ฉูหยวนจึงตบหลังมือของเขาอย่างสนุกสนาน “ล้างมือให้สะอาดก่อนกินสิ”
ดงซูบินจึงตอบโต้กลับไปว่า:“ฉันเพิ่งอาบน้ำมาน่ะ”
“นายคิดว่าตอนนายเขามา นายไม่ได้ใช้มือเคาะตูหรือยังไง และก็ตอนบิดลูกบิดประตูเขามาในห้องอีกล่ะ ไม่คิดว่ามันสกปรกหรอ?” ฉูหยวนแหย่เขา “ไปล้างมือของนายเดี๋ยวนี้”
ดงซูบินถูจมูกของเขาแล้วเดินเข้าไปในห้องครัว
ฉูหยวนเธอยังคงสวมผ้ากันเปื้อนอยู่ก็ได้แต่หัวเราะ “เมื่อนายออกมา หยิบตะเกียบมาด้วยสองคู่นะ”
“โอเค.”
ฉูหนวยเธอทำอาหารเก่งมาก เธอสามารถเป็นหัวหน้าพ่อครัวของร้านอาหารระดับ 5 ดาวได้เลย ดงซูบินกินจนกระทั่งท้องของเขาไม่สามารถยัดอะไรลงไปได้อีกแล้ง เขาเอามือลูบท้องของเขาขณะที่นั่งอยู่ที่บนโซฟา พร้อมกันนั้นฉูหยวนเองก็กำลังล้างจานเหมือนแม่บ้านอยู่ เขารู้สึกว่าเขาโชคดีจริงๆและต้องการให้ความรู้สึกนี้คงอยู่ตลอดไป
‘ใครก็ตามที่ได้แต่งงานกับฉูหยวน เขาคนนั้นจะมีชีวิตที่สุขสบายอย่างแน่นอน’
ในขณะทั้ดงซูบินหันหน้าไปที่ห้องครัวเขาหันไปเห็นดูต้นขาขาวๆที่สวยงามของฉูหยวน ขณะที่เธอกำลังทำความสะอาดจานในห้องครัว เขาเพ้อฝันเกี่ยวกับขาเหล่านั้นเมื่อเขาตระหนักว่าเนื้อคู่ของขาเข้ามาใกล้และใกล้ชิดกับเขาแล้ว “นายกำลังคิดอะไรอยู่?”ฉูหยวนยืนอยู่ตรงหน้าเขา
ดงซูบินหันหน้าออกไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว “เอ่อ… .. ฉันเพิ่งได้รับเงินเดือนนะ ฉันสงสัยว่าเธอจะไปกับฉันเพื่อซื้อเสื้อผ้าใหม่จะได้หรือป่าว?”
ฉูหยวนหัวเราะและบีบแก้มของดงซูบินอย่างสนุกสนาน “โอเค พี่สาวของนายคนนี้จะไปช่วยนายเลือกเสื้อผ้าดีๆและเปลี่ยนนายให้เป็นชายหนุ่มรูปงามเอง”
ดงซูบินตอบกลับอย่างเขินอาย “พอเถอะ หน้าตาอย่างฉันใส่อะไรไปก็ไม่ดูดีหรอก”
“ไร้สาระ” ฉูหยวนตบหัวเบา ๆ “ฉันบอกว่านายหล่อมันก็หมายความว่านายหล่อ อย่างงั้นไปที่ห้างกันเถอะ”