GE346 หยางกู่คุกเข่า [ฟรี]
ข่าวที่ซัวหมิงกลับมา แพร่ไปทั่วทะเลส่วนนอกภายในหนึ่งคืน
เมื่อทราบข่าวว่าซัวหมิงบรรลุขอบเขตตัดวิญญาณ เกาะหยิงซัวและสมาพันธ์สังหารหนิงฝานแยกตัวออกจากกัน ทำราวกับไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
พวกมันหวาดกลัว และไม่คิดว่าหนิงฝานจะทะลวงขอบเขตตัดวิญญาณได้เร็วขนาดนี้
เมื่อ 20 ปีที่แล้วหนิงฝานสังหารศัตรูเป็นผักปลา และยามนี้ เขาทรงพลังยิ่งกว่าตอนนั้นหลายเท่า
หนิงฝาน ตงสู่ และคนอื่นๆนั่งล้อมวงพูดคุยดื่มกิน หนิงฝานกล่าวถามถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ที่เกิดขึ้นภายในทะเลส่วนนอก ส่วนตงสู่และคนอื่นๆก็กล่าวถามถึงเรื่องราวที่หนิงฝานประสบ
สู่ฉุ่ยหลิงทำหน้าที่ราวกับภรรยา นั่งข้างกายหนิงฝานคอยรินสุราให้ไม่ขาด
ห่างออกไป หยานลู่จ้องมองหนิงฝานด้วยแววตาที่เคารพนับถือ แรกเริ่มมันคิดว่าการที่ได้เป็นทาสของหนิงฝานจะทำให้ชีวิตของมันจบสิ้น แต่ยามนี้ การได้เป็นทาสของหนิงฝาน คือสิ่งที่มันภาคภูมิใจที่สุด
หยางกู่เองเองก็ร่วมวงดื่มกินพูดคุยกับคนอื่นๆอย่างถูกคอเช่นกัน
สุราที่ทั้งหมดดื่มนั้น คือสุราหวนอดีต หมักขึ้นจากบุบผาในสวนของตงสู่ ฤทธิ์ของมันรุนแรง หากผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มดื่ม คงเมาไปนานร่วมเดือนจึงจะสร่างเมา แต่หากเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้น อย่างมากดื่มได้ 10 จอกเท่านั้น
เมื่อทุกคนดื่มได้ถึงจอกที่ 11 ก็ต่างพากันขอตัวแยกย้าย กลับไปพักเพื่อสลายพิษของสุรา ไม่อย่างนั้นคงเมาอยู่ร่วมเดือน
เมื่อ เหยียนซ่งสื่อ สู่ลู่ฉาน และหยางกู่จากไป ก็เหลือเพียงหนิงฝานและตงสู่ที่ยังดื่มกันต่อ
ทั้งสองดื่มกันจนถึงเช้า สู่ฉุ่ยหลิงที่เห็นตกตะลึง นางคาดไม่ถึงว่าหนิงฝานจะทนอยู่ได้ถึงเช้าโดยไม่มีอาการเมา
สู่ลู่ฉานหาวหวอดด้วยความง่วง... 20 ปี… 20 ปีที่นางเฝ้ารอ… ช่างเป็นสิ่งที่คุ้มค่า
ตงสู่และหนิงฝานดื่มสุราร่วมกันนับ 10 เหยือก เมื่อสุราหมด ตงสู่ยอมแพ้และขอตัวไปพัก แต่ก่อนไป ชายชราได้มอบบางสิ่งให้
หนิงฝานก็บสิ่งที่ชายชราให้พลางโคจรปราณสลายสุราในร่าง
“อาจารย์ให้อะไรเจ้าเหรอ?” สู่ฉุ่ยหลิงกล่าวถามด้วยท่าทางสนใจ
“ทาส โอสถ หยกสวรรค์ และสมบัติที่อยู่อาศัย ที่สำคัญข้ายังได้วิธีสร้างสมบัติที่อยู่อาศัยมาด้วย… อาจารย์เจ้าบอกว่า ให้เป็นของขวัญแต่งงานของเรา...”
หนิงฝานลุกยืนบิดกายด้วยความเหนื่อยล้า สิ่งที่ชายชรามอบให้นับเป็นสมบัติล้ำค่า หากนำไปขายสมควรได้หลายล้านผลึกศิลา
เขาได้ทาสมา 17 ตน เป็นขอบเขตตัดวิญญาณขั้นต้น 10 ตน ขั้นกลาง 4 ตน ขั้นสูง 1 ตน และขั้นสูงสุดอีก 1 ตน
โอสถที่ได้มาคือโอสถผันแปรที่ 4 จำนวน 50 ขวด แต่ละขวดมี 20 เม็ด แต่ละเม็ดสามารถเพิ่มปราณได้ 1 เกราะ
นอกจากนี้ เขายังได้หัวใจแห่งมารดาพิภพมาด้วย
เหตุที่ชายชรามอบของล้ำค่าให้ก็เพื่อจะซื้อใจหนิงฝาน และแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของตัวเขา
“ข้าจะรักษาฉุ่ยหลิงเอง… ท่านไม่ต้องกังวล” หนิงฝานกล่าวกับตนเอง แต่นั่นคือการรับปากว่าจะรักษานางให้หาย เพียงแต่สิ่งที่หนิงฝานกล่าวไปนั้น จู่ๆมันก็กลายเป็นผีเสื้อกระดาษบินไปหาสู่ฉุ่ยหลิงที่ออกไปเดินเล่น
เมื่อนางแผ่สัมผัสเทพสำรวจ นางก็อดขำไม่ได้
“เจ้าขำอะไร? หืม? สิ่งที่ข้ากล่าวไปกลายเป็นผีเสื้อกระดาษ เจ้าเป็นคนทำเหรอ?”
หนิงฝานจ้องมองฝีเสื้อกระดาษน้อยในมือนาง
“อืม… ผีเสื้อน้อยบอกในสิ่งที่เจ้ากล่าวกับข้า ข้าเลยอดหัวเราะไม่ได้”
นางขัดผมขึ้นด้วยท่วงท่าที่งดงาม แม้ยามนี้ร่างกายของนางจะไม่ได้แข็งแรงนัก แต่ก็ยังไม่บดบังความงามนางได้
นางเก็บผีเสื้อกระดาษไปพลางกล่าว “นายน้อยซัว ข้าไปพักก่อนนะ ท่านตั้งใจปรุงโอสถเถอะ”
“เจ้าไม่พักอยู่กับข้าเหรอ?” หนิงฝานยิ้มพลางกล่าว
“ถ้าท่านกล้าข้าก็กล้า” นางกล่าวอย่างเรียบเฉย แม้ใบหน้าของจะแดงระเรื่อ
“เท่าที่ข้าเคยพบสตรีมา เจ้าแตกต่างจากคนอื่นๆที่สุด...”
หนิงฝานส่ายหน้า หากกล่าวเช่นนี้กับจื่อเฮ่อ เขาคงได้ทำบางสิ่งกับนางจนหมดแรงแน่นอน แต่สู่ฉุ่ยหลิงกลับยังสีหน้าเรียบเฉยแม้จะเขินอาย
“ไปพักเถอะ ข้าจะรีบปรุงโอสถให้เร็วที่สุด”
“ขอบคุณนายน้อยซัวที่เป็นห่วงข้า แต่รีบหน่อยก็ดี ข้านอกนั่นมีชายชราคนหนึ่งกำลังรอท่านอยู่”
“รอข้า?” หนิงฝานประหลาดใจ แต่เมื่อแผ่สัมผัสเทพออกไป เขาก็พบคนที่เฝ้าสังเกตุการณ์อยู่
เขาเดินเข้าหานาง โอบประครอง นางตกใจเล็กน้อยแต่ไม่ขัดขืน หากเป็นสตรีคนอื่น พวกนางคงตกใจไปแล้ว
“ในที่สุดท่านก็ทนไม่ไหว...” นางกล่าวพึมพัมกับตนเอง
“ว่าไงนะ?”
“เปล่า!”
หนิงฝานพานางมุ่งไปยังห้องปรุงโอสถที่อยู่บนยอดสุดของสถานที่แห่งนี้โดยที่นางไม่ทันตั้งตัว
ที่นอกห้อง ชายชราคนหนึ่งสวมผ้าคลุมหนายืนรออยู่ เมื่อเห็นหนิงฝานมาพร้อมกับสู่ฉุ่ยหลิง ชายชราก็ป้องมือให้
“ฮ่าฮ่า สหายเต๋าซัว ท่านจะปรุงโอสถแล้วเหรอ?” ชายชราอยากเห็นวิธีการปรุงโอสถของหนิงฝานมาก
“ท่านกำลังรอข้าอยู่เหรอ?”
“ถูกต้อง!” หยางกู่กล่าว หลังจากได้วิธีสร้างจิตวิญญาณสมุนไพรมา ชายชราก็อยากทะลวงระดับ เป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 เร็วๆ ดังนั้น การที่ได้ชมนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ปรุงโอสถ จึงเป็นประโยชน์และช่วยย่นเวลาในการทะลวงระดับด้วย
“ท่านลืมอะไรหรือเปล่า?” หนิงฝานกล่าว
“ฮ่าฮ่า ข้าไม่ลืมแน่นอน...” ชายชรานำกระเป๋าที่บรรจุหยกสวรรค์ไว้ออกมา แล้วยื่นส่งให้หนิงฝาน
ในทะเลไร้สิ้นสุด หากจะชมนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ปรุงโอสถ ต้องจ่ายค่าครูด้วยหยกสวรรค์ และหากเป็นทั่วไปแล้ว จะมีการเชื้อเชิญนักปรุงโอสถจำนวนมากมาเพื่อเรียนรู้การปรุงโอสถ ซึ่งนั่นถือเป็นการสร้างรายได้จำนวนมากให้กับนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5
การยกระดับทักษะปรุงโอสถนั้นต้องยอมสละสมุนไพรจำนวนมาก และผลาญหยกสวรรค์ไปไม่น้อย การขอชมการปรุงโอสถเช่นนี้นับว่าประหยัดกว่า
หนิงฝานเชิญหยางกู่เข้าห้องปรุงโอสถและเฝ้าดูอยู่ห่างๆ ส่วนหนิงฝานและสู่ฉุ่ยหลิง นั่งอยู่เบื้องหน้ากระถางปรุงโอสถ นางไม่ยอมให้นางห่างกาย
นางเองก็ถือโอกาสนี้ในการศึกษาการปรุงโอสถจากหนิงฝานไปด้วย ย่อมเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับนาง
หนิงฝานนำทาสที่ทั่วร่างได้รับความเสียหายออก แม้ร่างของมันจะไม่สมบูรณ์และเต็มไปด้วยบาดแผล แต่แรงกดดันที่มันแผ่ออกมากลับทำให้หยางกู่หวาดกลัว
“ทะ...ทาสขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง!”
ชายชราตกตะลึง ทาสระดับนี้ เทียบได้กับ 7 ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลส่วนใน นั่นยิ่งทำให้หยางกู่สงสัยว่า หนิงฝานแข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่
ข่าวการปรากฏของหนิงฝานที่แผ่ออกไปนั้น ผู้คนเข้าว่าหนิงฝานอยู่เพียงขอบเขตตัดวิญญาณขั้นต้น แต่หยางกู่ที่เห็นหนิงฝานตรงหน้าไม่เชื่อ ว่าระดับแค่นั้นจะมีทาสในระดับนี้ได้
“สหายเต๋าหยางไม่ต้องกังวล ข้านำทาสออกมาเพื่อความปลอดภัยยามปรุงโอสถเท่านั้น”
แล้วหนิงฝานก็เริ่มนำสมุนไพรใส่กระถางโอสถ… ทาสจะคอยทำหน้าที่คุ้มกัน ไม่ให้ผู้ใดลอบจู่โจมกระถางปรุงโอสถ
ยามนี้หยางกู่รู้แล้วว่าตนดูแคลนหนิงฝานเกินไป แต่ไม่นานนัก ชายชราก็สงบใจและตั้งใจดูหนิงฝานปรุงโอสถ
“นะ...นี่มัน วิชาเก้าผันแปรแห่งวารี...”
“นี่มัน วิชาพิสุทธิ์สามประการ...”
วิชาปรุงโอสถที่หนิงฝานแสดงออกมานั้น 9 ใน 10 ส่วนชายชราเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกในชีวิต ชายชราเคยเห็นแต่ในตำราโบราณ
ชายชรามีความสุขล้ม ปลื้มปิติราวกับจะร่ำไห้ สิ่งที่ได้เห็นล้วนมีค่าเกินกว่า 1 ล้านหยกสวรรค์ที่จ่ายไป
วันคืนผันผ่าน กระทั่งบรรจบครบ 1 เดือน วิชาปรุงโอสถที่หนิงฝานแสดงไปทั้งหมด เขาอยากให้สู่ฉุ่ยหลิงได้เห็นและเรียนรู้ อีกอย่าง โอสถที่ปรุงให้นางจะผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด
วิชาเก้าผันแปรแห่งวารี และวิชาพิสุทธิ์สามประการ ผสานเข้ากันได้เป็นอย่างดี ราวกับหยินหยางสอดประสาน ทำให้การปรุงโอสถเป็นไปได้อย่างราบรื่น ทั้งคุณภาพของโอสถยังเพิ่มพูน
ผลจากการประสานสองวิชาเข้าด้วยกัน ทำให้หนิงฝานได้สิ่งที่คาดไม่ถึง ยามนี้ ทั่วร่างของเขาเปล่งสีแสงสีครามระยิบระยับ กลิ่นสมุนไพรหอมอบอวน เขาทะลวงระดับนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นกลางแล้ว!
“สหายเต๋าซัวหมิงทะลวงระดับแล้ว! นับเป็นโชคของข้าที่ได้เป็นสักขีพยานในการทะลวงระดับของสหายเต๋า!”
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกวิชาที่ใช้ หยางกู่จดจำมันทั้งหมด หากตนทะลวงนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ได้สำเร็จ ตนก็จะมีโอกาสทะลวงนักปรุงโอสถแปรที่ 5 ขั้นกลางได้เช่นกัน
นับว่าคุ้มค่าที่จ่ายไป 1 ล้านหยกสวรรค์ หากจะกล่าว สิ่งที่ชายชราได้มีค่านับ 100 ล้านหยกสวรรค์
แววตาหยางกู่เป็นประกาย ทักษะปรุงโอสถของหนิงฝานล้ำเลิศ ทุกการเคลื่อนไหวทุกการกระทำน่าจับตา หากชายชราได้เป็นศิษย์คงจะดีไม่น้อย
ชายชราไม่ต้องการอะไรมาก แค่คำชี้แนะเล็กน้อยจากหนิงฝานก็พอใจมากแล้ว ชายชราไม่ได้โอสถหรือสิ่งใด
ศิษย์คนแรกของหนิงฝานคือชูชิง ยามนี้สมควรบรรลุนักปรุงโอผถผันแปรที่ 4 และปรุงโอสถจำนวนมากให้เมืองหนิงแล้ว
หนิงฝานไม่รู้ว่าหยางกู่มีเจตนาอะไรถึงได้ขอตนเป็นอาจารย์ แต่เท่าที่เห็น เหมือนหยางกู่จะตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้ว
หนิงฝานในยามนี้บรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นกลาง เขารู้สึกราวกับตนเองเป็นผีเสื้อที่เพิ่งออกมาจากดักแด้ แสงสีครามที่เคยเปล่งออกมา แปรเปลี่ยนเป็นสีดำอย่างช้าๆ นั่นคือสัญลักษณ์ที่วิชาปรุงโอสถของเขายกระดับไปอีกขั้น
“ในที่สุดวิชาปรุงโอสถก็ยกระดับ!” หนิงฝานยิ้ม
การจะยกระดับวิชาปรุงโอสถนั้น ยากเย็นราวกับเข็นครกขึ้นภูเขา วิชาปรุงโอสถที่ได้รับสืบทอดมาจากจักรพรรดินั้น ได้ถึงจุดตีบตันที่ระดับนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 พอขึ้นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 เขาต้องหาวิธีทะลวงขอบเขตวิชาเอง
หากเขาพยายามอย่างหนัก พรสวรรค์และโชคจะช่วยให้เขาได้เป็นนักปรุงโอสถระดับสูง
“นายน้อยซัวเหนื่อยมามากแล้ว… ให้ข้าเตรียมน้ำอาบดีหรือเปล่า?” สู่ฉุ่ยหลิงหัวเราะขบขัน
หนิงฝานปรุงโอสถมาตลอด 1 เดือนเต็ม เนื้อตัวสกปรกมอมแมมราวกับขอทานข้างถนน แต่หากไม่เพราะนาง หนิงฝานคงไม่ทุ่มเทมากขนาดนี้
“เจ้าจะอาบน้ำกับข้าหรือเปล่า?” หนิงฝานหยอกล้อนาง
“ถ้าท่านกล้า… ข้าก็กล้า!” นางกล่าวอย่างเรียบเฉย
*ตึง!*
ในระหว่างที่ทั้งสองหยอกล้อกันอยู่นั้น เสียงบางอย่างกระทบพื้นก็ดังขึ้นขัดจังหวะ เมื่อหนิงฝานหันมอง เขาเห็นหยางกู่คุกเข่าลงกับพื้น!
“สหายเต๋าซัว… ไม่… ท่านหมิง ท่านรับข้าเป็นศิษย์ด้วยเถอะ!”
ชายชราจ้องมองหนิงฝานด้วยแววตาที่หนักแน่นไม่สั่นไหว ชายชรารู้ดีว่าหนิงฝานมีพรสวรรค์ที่เหนือชั้นกว่าผู้นำเกาะโอสถและผู้ที่เป็นอาจารย์ของตน ที่สำคัญ ชายชรายังเชื่อว่า หนิงฝานจะต้องกลายเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่เก่งกาจที่สุดในโลกพิรุณแน่
“เอ่อ...” หนิงฝานดวงตาเบิกกว้าง ไม่รู้จะกล่าวถ้อยคำอันใด เหตุใดคนอย่างหางกู่ต้องมาขอตนเป็นอาจารย์?
หากเป็นชูชิง หนิงฝานยังมอบหมายให้ปรุงโอสถให้กับกองทัพปีศาจทมิฬของเขาได้ แต่หากรับหยางกู่มา… เขาจะได้ประโยชน์อะไร?
“สหายเต๋าหยาง ก่อนจะขอให้ข้าเป็นอาจารย์ ท่านควรขบคิดให้รอบคอบ...”
“ท่านหมิงให้โอกาสข้าเถอะ… ถึงจะไม่ได้ศิษย์ติดตามข้างกายข้าก็ไม่เกี่ยง ข้ารู้ว่าท่านท่องเที่ยวเดินทางไปทั่วโลก ไม่ได้อยากจะมีศิษย์ติดตามข้ากาย แต่ท่านวางใจได้ ศิษย์ทุกคนสมควรดูและตัวเองได้ ไม่สร้างปัญหาและเป็นภาระให้กับผู้เป็นอาจารย์! นี่หยกสวรรค์ 100 ล้าน ถือเป็นของขวัญที่ศิษย์มอบให้!”
หยางกู่กล่าวทั้งหมดออกมาจากใจ แม้จะเป็นครั้งที่ 2 ที่ชายชราคุกเข่า แต่เป็นครั้งแรกที่คุกเข่าเพราะขอให้ผู้อื่นเป็นอาจารย์ เพราะครั้งแรก ชายชราคุกเข่าให้กับบิดาและมารดา เพื่อออกจากบ้าน ก้าวสู่เส้นทางของผู้ฝึกตน
“หากข้ารับท่านเป็นศิษย์ ข้าจะได้ประโยชน์อะไร?” แม้หนิงฝานจะเข้มงวด แต่เขาอยากให้อีกฝ่ายเข้าใจ
ในโลกของผู้ฝึกตนนี้ น้อยนักที่จะมีสหายที่ไม่หวังหรือต้องการสิ่งใดตอบแทน
“หากท่านรับข้าเป็นศิษย์ ข้าจะแนะนำท่านให้กับผู้นำเกาะโอสถ ให้ท่านกลายเป็นแขกคนสำคัญ จากนั้นจะช่วยให้ท่านมีสิทธิ์ใช้ ‘สระล้างวิญญาณ’... หากท่านได้ลงแช่ในสระนั้น จิตวิญญาณสมุนไพรและวิชาปรุงโอสถของท่านยกระดับขึ้นมาก กระทั่งตัวท่านอาจบรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นสูง” ชายชรากล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
โดยทั่วไปแล้ว ผู้เป็นอาจารย์มักจะมอบของให้ศิษย์ แต่ยามนี้ ดูเหมือนศิษย์ต้องเป็นคนมอบของให้อาจารย์แทน
แต่เหตุที่ชายชรายอม เพราะอยากให้วิชาปรุงโอสถของตนก้าวหน้า ชายชราเสาะหานักปรุงโอสถที่เก่งกาจทั่วสารทิศ แต่คนเหล่านั้นไม่อาจสอนสั่งวิชาปรุงโอสถที่จะทำให้ชายชราก้าวหน้าได้
หนิงฝานนิ่งเงียบไม่กล่าว เขาเคยได้ยินชื่อของสระล้างวิญญาณ หากได้ลงไปแช่ จะทำให้จิตวิญญาณสมุนไพรและวิชาปรุงโอสถยกระดับขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ดูเหมือนรับหยางกู่เป็นศิษย์จะเป็นประโยชน์กับตนไม่น้อย
หนิงฝานขมวดคิ้วราวกับตัดสินใจที่จะกล่าวกับหยางกู่ว่า...