Chapter 63 – Tahrakhan Plateau (8)
Chapter 63 – Tahrakhan Plateau (8)
”
โอเปอเรเตอร์ได้เริ่มการแจกรางวัล
[มอนสเตอร์ที่กำจัด : ฮาปี้ 42 ตัว แพะภูเขา 13 ตัว ควายยักษ์ 8 ตัว รวมทั้งหมดเป็น 6140 คะแนน]
[บอสที่กำจัด : ราชินีฮาปี้ราลิฮา 900 คะแนน]
[บอสลับแมนติคอร์ 900 คะแนน]
[คะแนนรวมทั้งหมดเป็น 7940 คะแนน]
[เริ่มการแบ่งคะแนน]
[ผลงานของคุณคือ 71.2% ได้รับแต้มสเตตัส 5653 แต้ม เหรียญดำ 5653 เหรียญ โบนัสเคลียการจู่โจม แต้มสเตตัส 2500 เหรียญ เหรียญดำ 2500 เหรียญ ทักษะไอเทมเพิ่มเหรียญดำ 10% รวมทั้งหมดเป็นแต้มสเตตัส 8153 แต้ม เหรียญดำ 8968 เหรียญ]
เงินที่เขาได้รับในรอบที่แล้วคือ 8050 เหรียญ พิจารณาจากในรอบนี้แล้วดูเหมือนเขาจะได้รับเงินน้อยกว่าที่เคย ทั้งหมดนี้คงจะเป็นเพราะไม่ได้ทำผลงานครบ 100% หรือสูงมากเท่าที่ควร แต่มันก็ไม่สำคัญมากนัก
เพราะจากตอนนี้เป็นต้นไปเขาก็จะได้รับประโยชน์ที่มากขึ้นจากการล่าฆาตกรมากกว่ารางวัลการจู่โจม
[และในตอนนี้จะทำการแจกไอเทม]
[อแมนไทร์ - หอกแห่งอัมพาต]
[ดิโอร่า - กางเกงแห่งขนนกที่ร่วงหล่น]
[หินเอ็นชานท์]
[โพชั่นฟื้นฟูขนาดกลาง 2 ขวด]
'หืมม?'
จากนั้นโอเปอเรเตอร์ก็ได้ส่งข้อความแสดงความยินดีมากถึงสองข้อความ
[ขอแสดงความยินดีด้วย คุณได้รับไอเทมระดับตำนาน 'อแมนไทร์]
[ขอแสดงความยินดีด้วย คุณได้รับชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนาน 'หินเอ็นชานท์']
ซังจินจ้องมองไปที่ไอเทมก่อนหน้านี้อยู่คนู่หนึ่ง มันเป็นหินทรงกลมที่มีรอยขรุขระ จากนั้นเขาก็หยิบมันขึ้นมา
'ไอเทมนี้มันดรอปในช่วงต้นการจู่โจมงั้นหรอ?'
ซังจินพยายามนึกไปในครั้งแรกที่เขาได้เห็นหินเอ็นชานท์นี้อย่าน้อยก็ในช่วง 10 บทสุดท้าย แต่มันก็ไม่สำคัญอะไร ตั้งแต่ที่เขาได้รับอุปกรณ์เกือบจะครบเซ็ตแล้ว มันจึงเป็นการดีที่เขาได้รับไอเทมชิ้นนี้มากกว่าเหล่าไอเทมระดับวีรบุรุษที่ไร้ประโยชน์
ซังจินเก็บไอเทมทั้งหมดลงไปในลูกบาศก์ในขณะที่คิดกับตนเอง
'ฉันควรจะใช้มันเพิ่มพลังของมูนสเปคก่อนหรือใช้มันกับบลัดเวเจนเหมือนในช่วงเวลานั้นดี?'
ลูกบาศก์ก็ยังคงกล่าวแจกรางวัลออกมาต่ออีก
[สุดท้ายนี้จะเป็นการมอบฉายาที่ได้รับจากการจู่โจมนี้]
การแจกรางวัลเช่นนี้มันเร็วกว่าการแจกรางวัลเป็นกลุ่มกว่ามาก
[จอมเวทน้ำเงิน - เพิ่มผลของเวทน้ำเงินขึ้น 20%]
'โอ้...'
ซังจินรู้สึกประหลาดใจจริงๆ มันเป็นครั้งแรกเลยที่เขาได้รับฉายาเกี่ยวกับจอมเวทโดยตรง ที่เขาได้รับฉายานี้มาคงจะเป็นเพราะเวทมนตร์ส่วนใหญ่ที่เขาใช้คงจะเป็นเวทมนตร์น้ำเงิน เช่นอย่าง โซ่สายฟ้าและฟรอสต์ไบท์
แน่นอนว่าเขาไม่ได้ต้องการมันในทันที แต่จากสิ่งที่เขาเคยได้ยินในก่อนหน้านี้ มันมีฉายาของนักเวทโดยตรงที่ทรงพลังมาก
'ฉายาแบบว่าสุดยอดจอมเวท...'
ซังจินได้สรุปความคิดของฉายาลงในตอนนี้
[การแจกรางวัลเสร็จสิ้น คำขอย้ายทิติได้รับการยอมรับแล้ว]
[คุณจะถูกวาปไปในอีก 10 9]
โอเปอเรเตอร์เริ่มต้นที่จะนับถอยหลังขึ้น และในตอนนี้เองซังจินก็เริ่มที่จะรู้สึกร้อนรน เขาคิดกังวลเกี่ยวกับการต่อสู้กับนักล่าคนอื่นๆ
'มันไม่ควรจะมีใครที่แข็งแกร่งกว่าฉัน แต่ว่า....มันจะเหมือนกับสิงโตกับกระต่าย ฉันจะต้องฆ่าพวกเขาทั้งหมด พวกเขาเป็นพวกชั่วร้าย'
[4 3 2 1 0]
การนับถอยหลังได้สิ้นสุดลง และแสงสว่างได้ส่องสว่างจ้าออกมา ซังจินจึงปิดตาลง และจากนั้น
[การย้ายมิติดเสร็จสิ้น]
เขาได้เปิดตาขึ้นมาเมื่อโอเปอเรเตอร์ประกาศขึ้น
'หืมม?'
ซังจินกำลังยืนอยู่ในจุดๆเดิม
'เกิดอะไรขึ้น'
ซังจินหันมองไปรอบๆ ที่เบื้องหลังของเขาที่ควรจะมีศพแพะภูเขาอยู่หลังจากที่เขาใช้มันเติมมานา แต่ว่า
"แบ๊ะๆ~"
แพะภูเขามันยังมีชีวิตอยู่ในตรงนั้น มันได้พุ่งเข้ามาใส่เขา ซังจินจึงตัดหัวออกมันออกมาอย่างง่ายดายและมองสำรวจไปโดยรอบ เขามั่นใจว่าตอนนี้เขาอยู่ในที่ที่แตกต่างแล้ว เขาประสบความสำเร็จในการมาที่มิติที่แตกต่าง
'ดังนั้น...ฆาตกรควรจะอยู่ในที่ไหนบางแห่งภายในมิตินี้'
ซังจินดึงดาบออกมาในทันทีและเริ่มที่จะสำรวจที่ราบสูงนี้
****
'การ์ดระดับสูง' ได้เหวี่ยงหอกออกไปอย่างจริงจัง และโชคดีที่หอกได้ไปถูกจับไว้ที่กรงเล็บของราชินีฮาปี้ จากนั้นเขาก็ตะโกนออกมา
"ตอนนี้แหละ"
และก็สิ่งที่ตอบสนองกลับมา
"ฟิ้ว~"
ใครบางคนได้ยิงธนูออกมาและ
"จงเผาไหม้ทุกๆอย่างในเส้นทาง บอลไฟ"
ใครบางคนก็ได้ยิงเวทออกไปในเวลาเดียวกัน เมื่อลูกธนูและบอลไฟโจมตีโดนราลิฮา
"ก๊าซ"
มันก็ได้ร้องออกมาอย่างเจ็บปวด และผู้ที่รับหน้าที่ในการปิดฉากเธอก็ได้พุ่งออกมา เขาโผกผ้าขาวไว้บนหัวและเขาก็กระโดดไปที่ด้านหลังของราชินีฮาปี้
เมื่อเขามาถึงเขาก็จัดการแทงลงไปที่หัวใจของมัน และจากนั้นโอเปอเรเตอร์ก็ประกาศออกมา
[ราชินีฮาปี้ราลิฮาถูกกำจัดแล้ว]
"ฮ้า~"
"วูว~"
ทุกๆคนได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก และจากนั้นพวกเขาก็กล่าวแสดงความยินดีกับคนอื่นๆ
"ทำได้เยี่ยมมาก"
"สุดยอดมาก"
"ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราจะเอาชนะมันได้"
"อืมม"
มีเพียงแค่สี่คนเท่านั้นที่แสดงความยินดีกันออกมา อีกคนหนึ่งนั้นเงียบไป เขาได้ถูกฉีกเป็นชิ้นๆโดยราชินีฮาปี้ จากนั้นนักล่าก็หันมามองที่เขาสั้น
หนึ่งหรือสองคนได้รวบมือขึ้นและตกลงอยู่ในความเงียบ แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลยกับเขา และอีกช่วงสั้นๆหนึ่งช่วงเวลาเช่นนี้ก็หมดลง และไม่มีใครหันมามองเขา
มันเป็นเพราะว่าพวกเขารู้สึกผิดกับการตายของเขา ในช่วงการจู่โจมดำเนินอยู่ เพื่อนร่วมทีมของพวกเขาได้ตายลงไปแล้วจำนวนนับไม่ถ้วนจนถึงตอนนี้
มีคนได้ตายลงไปจำนวนมาก สิ่งเดียวที่หลงเหลืออยู่นั้นคือความรู้สึกผิดของพวกเขา
'มันเป็นความผิดของฉันที่เขาต้องตาย'
มันช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะรู้สึกเช่นนี้ และดังนั้นนักล่าจึงหาวิธีที่จะแก้ไขสิ่งนี้ ไม่ว่าจะการเป็นแท้ง ตัวทำดาเมจ หรือกระทั้งซับพอท มันเป็นเพราะความผิดของพวกเขาดังนั้นพวกเขาจึงจำเป็นปรับเปลื่ยนตัวเองเพื่อคนอื่นๆ
'ฉันดีใจที่มันไม่ใช่ฉัน'
มันเหมือนกับ 'ทหารชุดเกราะ' แม๊ก โอ เบรน เขานั้นเป็นแท้งของทีม แต่ว่าชายชาวญี่ปุ่นเขายืนห่างออกไปเพื่อที่จะหลบคลื่นเสียง
ดังนั้นเมื่อแม๊กโดนเสียงคนเดียวเขาจึงหลับไป เมื่อเขาตื่นขึ้นมาชาวญี่ปุ่นก็กลายเป็นศพไปแล้ว เพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆก็เข้าใจในสิ่งนี้และไม่ตำหนิเขาเรื่องการตายของชาวญี่ปุ่น
หลังจากที่เขาเลิกโทษตัวเอง เขาก็หันหน้าออกไปจากศพและดื่มโพชั่น ตั้งแต่ที่บอสถูกจัดการลง มันก็เป็นเวลาสำหรับการล่าพวกมอนสเตอร์เพื่อเก็บสะสมแต้มผลงาน
หากว่าเวลายังเหลืออยู่หลังจากฆ่าบอสและพรรคพวคยังรอดมากกว่าสามคน พวกเขาก็ควรจะไปล่าพวกมอนสเตอร์และเก็บสะสมแต้มผลงานต่อ นี้มันได้กลายไปเป็นสามัญสำนึกของทุกคนแล้ว ทุกๆคนต่างก็รู้ถึงคุณค่าของทุกๆแต้มสเตตัสและเหรียญดำ
"พวกเราไปล่าพวกที่เหลืออยู่กันดีไหม?"
ในข้อเสนอนี้ของนักฆ่าชาวอินเดียเอ็ดแมน การ์ดชาวฝรั่งเศสแอเดรียน และสไนเปอร์ระดับสูงชาวอังกฤษต่างก็ยอมรับมันมารอน
"ถ้างั้นไปกันเถอะ พวกเราต้องจะได้รับผลงานในทุกๆจุด"
แม็กได้หยุดดื่นโพชั่นชั่วคราวเพื่อที่จะกล่าวกับทีมของเขา
"เดี๋ยวก่อน...เรามาหยุดพักกันก่อนแปปนึงเถอะ"
"แน่นอน อย่างไรก็ตามฉันมีมานาเหลือต่ำมาก"
นักล่าคนอื่นๆได้รอจนพลังชีวิตและมานากลับมาเต็มและก็กลับไปในพื้นที่การล่าต่อ แม้ว่าพวกเขาจะเสียพรรคพวกไปคนหนึ่ง แต่พวกเขาก็ยังคงมันใจในความสามารถของตนเอง
มันเป็นเพราะว่าพวกเขาสามารถจะเอาชนะบอสได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
การล่อศัตรูเข้ามาคือหน้าที่ของสไนเปอร์ระดับสูง เขาจะยิงธนูล่อมอนสเตอร์มาจากระยะไกล เพื่อให้เพื่อนร่วมทีมของเขาลุมจัดการมอนสเตอร์ที่ละตัว
ตั้งแต่นั้นพวกเขาก็ได้ปะทะกับมอนสเตอร์เพียงแค่หนึ่งหรือสองตัวเท่านั้น การล่ามันจึงเป็นไปอย่างง่ายดาย
"ฟิ้ว~"
มารอนได้ยิงลูกธนูออกไปใส่แพะภูเขาและล่อมันเข้ามา
"แบ๊ะๆ~"
แอเดรียนตะโกนออกมาเมื่อแพะได้เข้ามาใกล้
"จงพันธนาศัตรูด้วยน้ำแข็ง ฟรอสต์ไบท์"
ด้วยผลกระทบจากการแช่แข็งแพะได้ค่อยๆเคลื่อนที่ช้าลง แม็กได้มองไปที่แพะที่กำลังใกล้เข้ามาและเขาก็ยกโล่ขึ้นและตะโกนออกมา
"กายาเหล็ก"
โลหะได้เคลือบโล่และร่างกายของเขาหลังจากนั้นครู่หนึ่งแพะก็ได้มาถึงและพุ่งชนเขา
"เคร๊ง"
จากการผสมระหว่างเวทมนตร์และทักษะมันได้ทำให้เอเดรียนไม่ได้รับความเสียหายมากเท่าที่ควร เมื่อการพุ่งเข้ามาถูกหยุดลง เอ็ดแมนและเอเดรียนก็ระดมการโจมตีเข้าใส่แพะ
เอ็ดแมนนั้นมีทักษะการใช้มีดสั้นเป็นอย่างมาก เขามีควาสคล่องแคล่วที่สูงมาก เขาสามารถจะส่วนกลับฮาปี้ไปได้แม้ว่าในขะนั้นเขากำลังหลบการโจมตีอยู่
แม็กนั้นเคยต่อสู้อยู่ข้างหน้าและสามารถจะบอกได้ว่าการแจกรางวัลนั้นแบ่งจากอะไร
เขามักจะจัดอันดับขึ้นไว้ภายในหัวของเขาก่อนที่โอเปอเรเอตร์จะบอกออกมา ในความเป็นจริงแล้วเขาคิดไปจนถึงระดับเปอเซ้นผลงานเลยด้วยซ้ำ
'ตั้งแต่ที่ชายคนนั้นทำได้ดีในแนวหน้าและใช้เวทมนตร์...เขาจะต้องเป็นอันดับ 1 ด้วยผลงานประมาณ 35%'
เขาเชื่อว่าเอ็ดแมนนั้นจะต้องได้รับอันดับ 1 แน่นอนด้วยผลงานปรามาณ 35%-40% ของผลงานทั้งหมด เอ็ดแมนมีฝีใือและทักษะที่มากพอที่จะได้รับมันเช่นนั้น
เอเดรียนและมารอนทั้งคู่นั้นอ่อนแอ อ่อนแอมากเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับเอ็ดแมน
'เอ็ดแมนควรจะเป็นอันดับแรก ฉันอันดับสอง มารอนอันดับสาม...และเอเดรียนน่าจะอันดับสี่?'
เขาคาดเดาระดับผลงานที่น่าจะเป็นไปได้ และในขณะเดียวกันพวกเขาทั้งสี่คนก็กำลังสู้กับแพะภูเขา
"ฟิ้ว"
ลูกธนูของมารอนได้พุ่งผ่านสามนักล่าและพลาดเป้าหมายไป การพลาดเป้านั้นมันไม่ใช่เรื่องผิดปกติมากนัก ในบทนี้ส่วนใหญ่จะมีแต่นักธนูที่มีทักษะความสามารถ แต่ในตอนเริ่มต้นมันจะมีแต่นักธนูฝึกหัดที่ยิงพลาดเป้ามากกว่าจะยิงถูกเป้า
ปัญหาคือลูกธนูได้พุ่งไกลออกไปและไปปักที่ความยักษ์
"แบ๊ะๆ~"
แพะภูเขายังคงมีชีวิตอยู่และเตะออกมา ควายก็ได้เริ่มโกรธและ
"มออออ~"
มันเริ่มที่จะพุ่งเข้ามาหานักล่า ระยะเวลาของคูลดาวทักษะกายาเหล็กยังคงไม่หมดลง ไม่มีใครที่จะป้องกันการโจมตีของควายได้ แม็กจึงตะโกนออกมา
"ออกไปจากเส้นทาง หลบมัน"
ด้วยคำพูดนี้ นักล่าได้กระจายกันออกไป ในตอนนี้แม็กก็ได้เผชิญหน้ากับแพะเพียงคนเดียว เขาได้ก้าวถอยหลังออกมา แต่แล้วควายก็ได้พุ่งเข้าใส่เขา เขากำลังตกอยู่ในอันตรายถึงตาย
"ม่านหมอกแห่งความมืดจงบดบังการมองเห็นของพวกเขา ตาบอด"
เวทมนตร์ของเอดแมนได้สว่างออกมา ความได้กลายเป็นตาบอดไป มันได้สะดุดและล้มลงไปด้วยตัวของมันเอง
"เยี่ยมมาก เอ็ดแมน"
เอ็ดแมนได้วิ่งเข้าไปหาแพะภูเขาและตะโกนออกมา
"เร็วเข้า เวทมนตร์นั้นมีผลอยู่ไม่นาน"
แต่แล้ว
"ฟิ้ว~"
ได้มีลูกธนูอีกดอกพุ่งออกมา แม็กคิดว่ามารอนคงจะโจมตีไปที่ควายที่ล้มอยู่ แต่ว่า
"ก๊าซ"
เขาได้ยิงไปที่ฮาปี้ที่อยู่ไกลออกไป
"นายกำลังทำอะไรอยู่ !"
เขาได้ตะโกนออกไปและมารอนก็ได้ตอบกลับมาด้วยการขอโทษ
"ขอโทษ"
'นายคิดว่าการขอโทษของนายมันทำให้สถานการณ์ตอนนี้มันดีขึ้นหรอ'
แม็กเริ่มที่จะโกรธขึ้นมา แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้ เขากำลังเผชิญหน้ากับแพะภูเขาตามลำพัง และตอนนี้ฮาปี้ก็กำลังจะมา ควายก็กลับมามองเห็นและลุกขึ้นยืน
แต่ข่าวดีคือเอ็ดแมนได้เข้ามาและแทงไปที่หัวของแพะ ในตอนนี้เหลือเพียงศัตรูอีกสองตัว
แม็กได้หันหน้าไปเผชิญหน้ากลับควายที่มันได้คุกคามเขามากขึ้น ในตอนนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงร่ายเวทออกมา
"จงพันธนาการศัตรูด้วยน้ำแข็ง ฟรอสต์ไบท์"
แม็กเชื่อว่าเวทนั้นคงจะใช้เพื่อที่จะลดความเร็วของควายลง แต่ว่า
"หืมมม"
เท้าของเขาได้ติดอยู่กับพื้น เขาถูกแช่แข็งไว้กับที่
"อะไรกัน"
เมื่อแม็กกำลังจะหันหน้าไปมองที่เอเดรียน
"อ๊าาาา~"
เอ็ดแมนก็ได้ถูกควายโจมตีและคาอยู่บนเขาของมัน