Chapter 62 - Tahrakhan Plateau (7)
Chapter 62 - Tahrakhan Plateau (7)
”
แมนติคอร์ยังอยู่ไกลออกไป ซังจินจึงหยิบหนังสือขึ้นมาและตัดสินใจอ่านมัน
"กวนอูได้รู้สึกระมัดระวังเมื่อเขาได้ยินเสียงรั้งสายะนู แต่แล้วก็ไม่มีลูกธนูถูกจิงออกมา เขาจึงได้ไล่ตามผู้นั้นไปเรื่อยๆจนถึงสะพาน แต่แล้วในตอนนั้นเองก็ได้มีลูกธนูพุ่งออกมาและตัดสายรัดหมวกของเขาลง
วันเวลาในตอนนี้ผ่านไปได้นานกว่าปกติ
"ในตอนนั้นเองมันจึงได้ทำใผ้กวนอูรู้ว่าเขาผู้นั้นมีทักษะที่สามารถจะยิงได้แม้แต่ใบไม้ที่ร่วงลงมาในระยะ 100 ก้าวและเขาก็เอาชีวิตรอดไปได้"
ในขณะที่ซังจินกำลังอ่านหนังสือนั้น แมนติคอร์ก็ได้มาถึงด้านบนของยอดเขาใกล้ๆกับทางเข้าถ้ำและคำรามออกมา
"ก๊าซซ~"
แต่ซังจินก็ได้อ่านบทนั้นสำเร็จแล้ว
[การสิงสถิตของฮองตงทำงานแล้ว]
[ทักษะติดตัว การบุกรุก(IV) ความเร่ง(II) ใช้งานแล้ว]
ในขณะที่ลูกบาศก์กำลังประกาศอยู่แมนติคอร์ก็ได้กระโดดลงมาจากยอดเขาและโจมตีที่ซังจิน เขาจึงจำเป็นต้องพลิกตัวหลบการโจมตีนั้นไป
[ทักษะใช้งาน - ธนูชินกง ใช้งานในทันที]
'ธนูชิงกง...'
ในขณะที่ซังจินพยายามจะเข้าใจในชื่อของทักษะนั้น แมนติคอร์ก็ได้เหวี่ยงกรงเล็บเข้าใส่ซังจิน
"ก๊าซ!"
การโจมตีนี้มันมีความเร็วเป็นยากมาก แม้ว่าซังจินจะมีทักษะ ความเร่ง อยู่เขาก็ไม่สามารถจะหลบมันได้พ้น
"เคร๊ง"
กรงเล็บของมันได้ปะทะเข้ากับดาบของซังจิน แม้ว่าเพียงแค่การปะทะเพียงเล็กน้อยก็มีความเสียหายเป็นอย่างมาก จากนั้นแมนติคอร์ก็เหวี่ยงแขนซ้ายตามมาอย่างรวดเร็ว
"เคร๊ง~"
จากนั้นจู่ๆมันก็หันหลังให้กับซังจิน
'ทำไม...'
ในขณะที่ซังจำกำลังสงสัยในสิ่งที่มันทำ ทันใดนั้นหางก็ได้พุ่งเข้ามาใส่เขา มันมีเข็มเหล็กแหลมยาวโผล่ออกมาจากหาก สิ่งนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่เขาจะป้องกันมันได้ด้วยดาบ
ซังจินกลิ้งตัวลบอย่างด้วยเร็ว เบื้องหลังของเขาเป็นหน้าผาสูงดังนั้นเขาจึงกลิ้งหลบถอยหลังไปเพียงไม่กี่ครั้ง ในขณะเดียวกันเขาก็คิดไปถึงทักษะ ธนูชินกง เขาไม่รู้ว่ามันทำอะไรได้ แต่เขาคิดว่ามันจะต้องเป็นทักษะระยะไกลแน่นอน แมนติคอร์ตามซังจินเข้ามาต่อเพื่อไม่ให้เขามีเวลาตั้งตัว
"กรร~"
มันกระโดดขึ้นไปบนฟ้าและกางปีกขึ้นบินเข้ามาหาซังจิน มันดูไม่มีข้อจำกัดในพื้นที่เลย มันได้บินเข้ามาหาเขาด้วยความเร็วสูง
พร้อมด้วยความเร็วในการบินที่เร็วแบ้ว มันก็ยังมีกรงเล็บที่แหบมคมหน้าหวาดหวั่นตามมาด้วย กรงเล็บของมันได้พุ่งเข้ามาหาซังจินทั้งสองทางปิดทางหลบหนีของเขาจนหมด ซังจินจึงไม่มีทางเลือกไก้แต่ใช้ทักออกมา
"แข็งตัว"
"ตูม"
เสียงของการปะทะกันได้ดังออกมา
"ครื๊ดดดด"
เสียงครูดกันได้ดังออกมารอบๆอากาศ มันเป็นเสียงที่เสียดหูเป็นอย่างมาก หลังจากการปะทะนั้นซังจินก็ได้จ้องมองไปที่แมนติคอร์ แมนติกอร์ก็จ้องกลับคืนมา ในตอนนี้พวกเขากำลังมองตาของกันและกัน
"กรร..."
แมนติคอร์มองไปอย่างประหลาดใจ ราวกับมันกำลังคิดอยู่
'มีมนุษย์ที่สามารถจะป้องกันการโจมตีนั้นได้'
จากมันแมนติคอร์มันก็ได้กระโดดขึ้นไปบนอากาศอีกครั้งและเหวี่ยงหางไปรอบๆ เข็มจำนวนนับไม่ถ้วนจากห่างได้พุ่งเข้าไปใส่ซังจิน
มันเหมือนกับลูกแก้วน้ำแข็งของลิซในบทที่สาม แต่ในตอนนี้ไม่มีเคนที่จะมารับการโจมตีแทนเขาและทักษะ 'แข็งตัว' ก็กำลังคูลดาวอยู่
ซังจินไม่มีทางเลือกอื่นได้แต่ก้มตัวลงต่ำและใช้เบสโกโร่และฟรีอาคป้องกันการโจมตีนี้
"ฟึบ ๆๆๆ'
เข็มได้หล่นลงรอบๆเขา มีเข็มเล่มหนึ่งที่สามารถจะผ่านการป้องกันและเจาะเขามาที่แขนขวาเขา
'อึก'
มันผ่านมานานแล้วตั้งแต่ที่เขาได้รับดาเมจครั้งสุดท้าย และมันก็เจ็บมาก ทันใดนั้นเองอยู่ๆแขนขวาของเขาก็ไม่ตอบสนอง
'อัมพาต?'
เขาจะไม่สามารถต่อสู้ได้หากว่าแขนขวาของเขายังเป็นอัใพาตอยู่ ซังจินจึงยืนขึ้นและรีบลบสถานนะนั้นออกไปในทันที
"ฟรีอาร์ค"
โว่ที่อยู่บนมือของเขาได้ส่องแสงออกมาครู่หนึ่งและอัมพาตก็หายไป ในขณะเดียวกันแมนติคอร์ก็ได้ลงสู่พื้น
"บูมม"
มันได้ลงมายืนบนเนินเขาและยิ้มออกมาให้เขา
'เป็นยังไงหละ เจ็บไหม'
มันดูเหมือนจะยั่วเขา มันได้ทำให้ซังจินเริ่มจะโกรธแล้ว และจากนั้นโอเปอเรเตอร์ก็ได้เริ่มนับถอยหลัง
[ผลของการสิงสถิตจะหมดลงในอีก 10 9]
ซังจินได้เก็บกลับเข้าไปในฝัก ตอนแรกเขาวางแผนที่จะใช้กับคนในอีกมิติหนึ่ง แต่แล้ว
"ก๊าซ"
แมนติคอร์ก็ไก้กระพือปีกบินมาหาเขา ซังจินได้ถือดาบบลัดเวเจนไว้ในมือซ้าย ในขณะที่มือขวากำลังค่อยๆชักมูนสเปคออกมา
"เสียงคร่ำครวญของคนตาย=
ครู่ต่อมา
"กรี๊ดดดดดดด~~"
เสียงกรีดร้องที่ดังอย่างหน้าเหลือเชื่อได้ดังออกมาจนทั่วทั้งท้องฟ้า ใบหน้าของแมนติคอร์ได้แปรเปลื่ยนกลับกลายเป็นหวาดกลัวและมันก็บินหนีไป มันดูน่าอับอายอย่างมากในตอนที่มันหนีไป
'และมันได้เรียกตัวเองว่าราชา...'
ซังจินต้องการจะเฝ้าดูการหลบหนีอย่างน่าอับอายของแมนติคอร์ต่อ แต่แล้ว
[5 4 3]
เขาแทบจะไม่เหลือเวลาที่จะใช้การสิงสถิตอีกแล้ว เขาไม่สามารถจะปล่อยให้การสิงสถิตหมดไปได้โดยที่ยังไม่ใช้ทักษะ เขาเลยตะโกนออกมา
"ธนูชินกง"
จากนั้นลูกธนูสามลูกได้ปรากฏขึ้นมากลางอากาศและพุ่งออกไป
'หืมม?
ซังจินเอียงหัวลง เขาไม่ค่อยได้มีโอกาสได้ยิงธนูมากนัก แต่เขาก็สามารถบอกได้ว่าวิถีของธนูนี้ที่ยิงออกไปมันดูแปลกๆ ลูกธนูมันพุ่งไปในทางซ้ายของเส้นทางหนีของแมนติคอร์ หากมันยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปลูกธนูทุกดอกก็จะพลาดเป้า
'ฉันว่า...'
ถ้าหากว่าเขาไม่สามารถโจมตีแมนติคอร์ด้วยระยะไกล เขาก็จะต้องเข้าไปปะทะซึ่งๆหน้า ซังจินจึงดึงดาบออกมาและวิ่งไล่ตามหลังของแมนติคอร์ แต่ทันใดนั้นเบสโกโร่ก็กล่าวออกมา
'จงดู'
"ก๊าซ"
แมนติคอร์ผู้ซึ่งกำลังหลบหนีอยู่ ทันใดนั้นมันก็หันมาในทางซ้าย เบสโกโร่ก็กล่าวต่อ
'ทั้งสามดอก'
หลังจากนั้นสั้นๆ ลูกธนูดอกแรกก็ได้ปักลงบนหางของมัน และอีกสองดอกที่เหลือก็ได้ไปปักที่ปีกแต่ละข้าง
หางได้ขาดออกไป และแมนติคอร์ก็อาจจะไม่สามารถบินได้อีกต่อไป
"การล้างบาปของโลหิต"
บลัดเวเจนได้เรืองแสงสีแดงออกมา และเขาก็ได้ไล่ตามต่อไปในขณะที่ร่ายเวท
ก่อนที่ซังจินจะกล่าวเบสโกโร่ก็ได้ร่ายเวทออกมาเช่นกัน ซังจินจึงรีบๆร่ายตามเขาไปอย่างรวดเร็ว
"จงพันธนาการศัตรูด้วยน้ำแข็ง ฟรอสต์ไบท์"
"จงพันธนาการศัตรูด้วยน้ำแข็ง ฟรอสต์ไบท์"
เวทมนตร์ได้ร่ายเสร็จออกมาพร้อมกันในระยะเวลาสั้นๆ และมันก็ไก้แสดงผลของการพันธนาการออกมาพร้อมๆกัน แมนติคอร์ได้ถูกหยุดลงด้วยน้ำแข็ง
มันหันกลับมามองที่ซังจิน ใบหน้าของมันดูเหมือนกำลังหวาดกลัวก่อนหน้านี้ ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะ 'เสียงคร่ำครวญของคนตาย' หรือเพราะสไาพแวดล้อมเขาก็ไม่สามารถจะบอกได้
มันได้ขยับเท้าเพื่อที่จะเข้ามาเผชิญหน้ากับซังจิน แต่มันก็ช้าเกินไป ในที่สุดซังจินก็พบโอกาสและดาบของเขานั้นก็ไม่รู้จำคำว่าปราณี
ซังจินได้เปลืยนให้เนินเขานี้กลับกลายเป็นเต็มไปด้วยเลือดของมอนสเตอร์ มอนสเตอร์ผู้ที่ข่มขู่คุกคามมอนสเตอร์ตัวอื่นๆและผู้ที่มีฉายาว่าเป็นราชาแห่งที่ราบสูงนี้มันได้ตายลงในขณะที่กำลังหวาดกลัวซังจิน
[บอสลับแมนติคอร์ได้ถูกกำจัดแล้ว]
โอเปอเรเตอร์ได้ประกาศออกมาอย่างยินดีและซังจินก็ถอนหายใจออกมา
"วูว~"
ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน การจะจัดการบอสลับก็ไม่ใช่เรื่องง่าย จากนั้นซังจินก็ได้สลัดดาบเพื่อเอาเลือดออกจากใบดาบ เบสโกโร่ได้มองดูเลือดรอยไนอากาศและแสดงความคิดเห็นออกมา
'ดี ยอดเยี่ยม นี่ไงเลือดของข้าเดือดแล้ว ไปล่าศัตรูตัวอื่นต่อเถอะ'
เบสโกโร่นั้นบ้าเลือดไปแล้ว แต่ซังจินก็ยังคงใจเย็นอยู่เขาได้เก็บดาบเข้าฝักอีกครั้งและกล่าวถามโอเปอเรเตอร์
"โอเปอเรเตอร์เหลือเวลาอีกเท่าไหร่"
[คุณจะกลับสู่ตลาดมืดในอีก 41 นาที 57 วินาที]
'ใช้แล้ว เรายังมีเวลาอีกเหลือเฝือ ไปล่าพวกฮาปี้ที่เหลือรอดจากก่อนหน้านี้กันเถอะ...มันควรจะเหลืออยู่อีกมาก อย่าได้ไปเสียเวลาอีกเลย'
เบสโกโร่ตื่นเต้นเป็นอย่างมากแต่ซังจินก็กล่าวออกมา
"รอก่อนเบสโกโร่ พวกเรากำลังจะไปที่อื่นกัน"
'ที่อื่น?'
"ใช่แล้ว"
'ที่ไหนหละ'
"...มันยังคบเป็นที่ราบสูงอยู่แหละนะ...แต่ว่าจะเป็นมนอีกมิติหนึ่ง"
'มันจะมีศัตรูมากไหม?'
"มันจะมีศัตรูแน่นอน และศัตรูมันก็จะเป็นมนุษย์"
ด้วยคำพูดนี้ เบสโกโร่ก็ร่าเริงขึ้นทันที
'มนุษย์ ? เยี่ยมยอด สมบูรณ์แบบไปเลย'
ดูเหมือนว่าเบสโกโร่ที่อาศัยอยู่ในสนามรบถึง 40 สิบกว่าปีเขาจะไม่ได้ทำเพียงแค่เพราะคำสั่งของเคาท์เดมิทรีเท่านั้น ดูเหมือนกับว่าเขาเองก็บ้าสงครามเป็นอย่างมาก
"ก่อนที่เราจะไป ฉันอยากจะเตรียมความพร้อมก่อนเป็นอยากแรก เราไม่รู้ว่าจะไปเจออะไรบ้างเมื่อไปอยู่ที่นั้น"
'ทำไมนายจะต้องเตรียมตัวด้วยเค นายแข็งแกร่ง แข็งแกร่งกว่าใครทั้งหมด'
ซังจินกล่าวตอบกลับ
"แน่นอนว่าพวกเขาอ่อนแอกว่าฉัน...แต่ว่ามันอาจจะมีศัตรู 3 ถึง 4 คน เมื่อฉันได้ไปที่นั่น มันไม่มีอะไรจะแย่ถ้าหากฉันจะใช้เวลาไปบางส่วนบ้างเพื่อที่จะเตรียมตัว"
'ฮึ..'
เบสโกโร่ส่งเสียงน่ารำคาญออกมา แต่เขาก็ไม่ได้ตอบโต้กลับไป เขาตระหนักดีว่าซังจินสามารถจะเอาเขาออกไปได้ตลอดเวลาถ้าต้องการซังจินเริ่มจากตรสจสอบพลังชีวิตและมานสก่อนเป็นอย่างแรก
"โอเปอเรเตอร์มานาของฉันบดไปเท่าไหร่"
[คุณมีพลังชีวิต 46912/49620]
'หืมมม?'
ซังจินเอียงหัวอย่างสงสัย เขาได้ใช้การล้างบาปของโลหิตไป มันจะลดเลือด 1000 ต่อวินาที แต่เขาได้เสียเลือดไปเพียงแค่ 3000
'ฉันคิดว่าฉันได้ใช้มันไปอย่างน้อยก็ 5 วินาทีแล้ว...'
ซังจินถามกลับมาอย่างสงสัย
"ทำไมกัน?"
จากนั้นโอเปอเรเตอร์ก็ได้ให้คำตอบซังจินกลับมา
[บันทึกเหตุการณ์พลังชีวิต]
[สูญเสีย : เข็มพิษจากแมนติคอร์ , บลัดเวเจน : ผลของทัักษะการล้างบาปของโลหิต]
[ได้รับ : บลัดซัคเกอร์ - ผลของทักษะดูดเลือด]
'อา...'
ซังจินเงยหน้าขึ้นฟปมองแหวนทับทินมือของเขาทันที
'ฉันพึ่งจะนึกออก...มันเป็นไอเทมที่เข้าค่กับบลัดเวเจนได้ดีจริงๆ...'
เขาสามารถใช้ผลของทักษะดูดเลือดเพื่อที่จะลดผลข้างเคืองของทักษะการล้างบาปแห่งโลลิตไปได้ เขาไม่แน่ใจเท่าไหร่ แต่ว่าในตอนที่เขาต่อสู้อยู่อย่างน้อยมันก็ขะช่วยฟื้นฟูเลือดของเขาขึ้นมาได้
"แล้วมานาของฉันหละ?"
[มานาเหลืออยู่ 25641/44050]
เขาได้ใช่มานาออกไปเป็นจำนวนมาก แต่ว่ามันก็ได้ใช้มานาไปน้อยกว่าที่เขาคิดเอาไว้ นี่คงจะเป็นผลมากจาก 'ดูดวิญญาณ' ของดาบมูนสเปค คงต้องจะขอบคุณมันในสิ่งนี้ที่ทำให้เขาสามารถฟื้นฟูมานาไปในขณะต่อสู้ได้
จากนั้นซังจินกล่าวขึ้นกับเบสโกโร่
"ฉันจะปืนลงไปจากเขาและล่ามอนสเตอร์ในระหว่างทางด้วย มันอาจจะต้องใช้เวลานานเกินไปเพื่อรอให้ไอเทมคูลดาวเสร็จ...ดังนั้นฉันจะไปล่าฆาตกรในทันทีที่พลังชีวิตและมานาเต็ม"
'ล่าฆาตกร? ท่านกำลังบอกว่าจะไปสู้กลับมนุษย์'
เบสโกโร่รู้สึกเหมือนกับจะได้กลับไปสู้สนามรบอีกครั้ง
'อา เยี่ยม...เยี่ยมมาก...มนุษย์'
****
ซังจินถือดาบสองมือและตัดไปที่หลังของแพะภูเขา
"แบ๊ะๆ~"
แพะได้ขาดลงอย่างรวดเร็วด้วยดาบของซังจิน เขากำลังล่ามอนสเตอร์เพื่อมี่ขะฟื้นฟูมานาที่สูญเสียไป จากนั้นซังจินก็ถามกับโอเปอเรเตอร์
"โอเปอเรเตอร์มานาฉันมีเท่าไหร่แล้ว"
[44050/44050]
การเตรียมพร้อมมั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว ซังจินจึงหยิบเขาหินแสวงหาฆาตกรออกมาและถือมันไว้ นี้จะเป็นครั้งแรกที่เขาจะเข้าไปแทรกแซงการจู่โจมอื่น
ซังจินกลืนน้ำลายลงไปและกล่าวออกมา
"การแสวงหาความยุติธรรม"
ลำแสงจากท้องฟ้าได้ส่องโอบล้อมมาที่ตัวซังจิน และโอเปอเรเตอร์ก็ได้กล่าวกับเขา
[ทำการขอโอนย้ายมิติแล้ว]
[ก่อนที่การย้ายมิติจะเสร็จสิ้น การแจกรางวัลจะต้องทำการแบ่งเสร็จสิ้นในที่นี้]
[เริ่มต้นการแจกรางวัล]