บทที่ 24
ผู้แปล loop
ในวันถัดมา
ดงซูบินเองเขารู้สึกอารมณ์ดีเป็นอย่างมากในวันนี้ เนื่องมาจากเขาพึงทำเรื่องดีๆไปเมื่อวันก่อน และนั้นมันก็สามารถพิชิตใจหัวหน้าของเขาได้
ซึ่งดงซูบินเองเพิ่งได้รับเงินเดือนในเดือนแรกของการทำงานในวันนี้ด้วย เขาตัดสินใจที่จะฉลองด้วยการทานอาหารเช้าที่ร้านเกี๊ยวริมถนน ซุปแพะใส่เครื่องใน, เค้กงาอบและใบชาไข่ ดงซูบินทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยมาก และหลังจากทานอาหารเสร็จเขาก็ยังไม่รู้สึกอิ่ม เขาไปที่ร้านเครปเพื่อซื้อเครปต่อ เขาใช้การเงินทั้งหมดของเขาในกระเป๋าตังสำหรับมื้ออาหารแสนอร่อยนี้
หลังจากนั่งรถโดยสารผ่านถนนใหญ่ไปแล้ว และดงซูบินเดินผ่านประตูสาขาสำนักงานเขตตะวันตก
“โอ้! วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่อยู่ที่นี่แล้ว” ต้าหลินเหม่ยหัวเราะและโบกมือให้กับดงซูบิน
ดงซูบินรู้สึกดี แต่เขาไม่ได้แสดงบนใบหน้าของเขาออกมา เขาพูดอย่างสุภาพ:“ฮีโร่คนไหนกัน? มันเป็นเรื่องบังเอิญเมื่อวานนี้เท่านั้น ในแง่ของการเขียนผมไม่ได้ดีเท่ากับพวกคุณที่เหลือเลย”
ฉางจ้วง หัวเราะขณะทาลิปสติกอยู่ “หนูน้อยซูบินพยายามอ่อนน้อมถ่อมตนอยู่นะเนี่ย”
พี่หยางก็หัวเราะขณะที่ยืดหนังสือพิมพ์ให้ตรง "ดีมาก. ฉันได้ยินมาว่าหลังจากหัวหน้าหลี่ชิงรู้เรื่องนี้แล้ว เขาก็ชื่นชมนายยกใหญ่เลย”
ดงซูบินกำลังยิ้ม:“หยุดทำให้ผมยิ้มได้แล้ว ผมไม่ได้ดีขนาดนั้นหรอก”
เกาแพนเหว่ย กำลังเขียนและวาดเส้นบางอย่างที่โต๊ะทำงานของเขา หลังจากดงซูบินนั่งลงที่โต๊ะทำงานของเขา เขาก็มองไปที่สิ่งที่เกาแพนเหว่ยกำลังทำ ซึ่งเมื่อสังเกตดูตอนนี้เกาแพนเหว่ยกำลังวาดแผนภูมิแท่งเทียนของค่าเฉลี่ยดัชนีหุ้นในห้าวันที่ผ่านมา ดงซูบินรู้ว่าโจวฉางจูชอบที่จะเล่นหุ้นอยู่แล้วและเกาแพนเหว่ยกำลังพยายามที่ซื้อใจหัวหน้าผ่านการทำกราฟหุ้นนี้ ซึ่งจริงๆแล้วหัวหน้ามีหน้าที่มอบหมายงานที่จำเป็นให้กับลูกน้องเท่านั้น แต่ก็ไม่มีข้อห้ามที่ลูกน้องจะขอเข้าไปช่วยงานส่วนตัวของหัวหน้า ซึ่งการทำอย่างงี้ก็จะช่วยให้เกาแพนเหว่ยเองได้ใกล้ชิดหัวหน้าของเขาเป็นการส่วนตัวมากขึ้นอีกด้วย
ณ เวลา 9.30 น.
เกาแพนเหว่ยนำแผนภูมิแท่งเทียนที่เขาวาดเข้าไปในห้องทำงานของรองหัวหน้าโจว เขาอยู่ในห้องนั้นประมาณครึ่งชั่วโมงจนกระทั้ง 10 โมงเช้าเขาก็เดินออกมาจากห้องแล้วปิดประตูเบา ๆ เขายิ้มแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับการชื่นชมจากโจวฉางจูอีกด้วย
ที่เครื่องแฟกซ์ที่อยู่ด้านในสุดของสำนักงาน ต้าหลินเหม่ยกำลังจัดการกับกองเอกสารจำนวนหนึ่งอยู่ เธอพูดว่า“มีเอกสารที่ต้องให้หัวหน้าโจวเซ็นต์อีกเยอะเลย มีใครว่างบางไมตอนนี้?”
เกาแพนเหว่ย ยกมือขึ้นโดยไม่รู้ตัว แต่เขาจำได้ว่าเขาเพิ่งออกมาจากห้องของหัวหน้าโจวแล้วเขาก็ลดมือลง
“เดียวฉันช่วยเอง” ดงซูบินเดินไปจุดนั้นและนำเอกสารไปที่ห้องทำงานขนาดเล็กของหัวหน้าโจวแล้วเคาะประตู
"…… เชิญ."
ดงซูบินเข้ามาในห้อง “หัวหน้าโจวครับ พอดีผมจะรบกวนให้เซ็นต์เอกสารเหล่านี้ให้หน่อย”
โจวฉางจูถือเอกสารขนาด A4 จำนวนหนึ่งไว้ในมือของเขาและเขากำลังดูชาร์ตหุ้นรายวันบนจอคอมพิวเตอร์ขณะที่อ่านเอกสารที่อยู่ในมือของเขา ถ้าเป็นไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาโจวฉางจูจะย่อขนาดหน้าต่างเพื่อไม่ให้ดงซูบินมองเห็นสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ แต่ตอนนี้โจวฉางจู รู้จักดงซูบินมากขึ้น และรู้สึกว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่ค่อนข้างเชื่อฟัง โจวฉางจูจึงไม่ค่อยสนใจว่าดงซูบินจะรู้ว่าเขาซื้อขายหุ้นในที่ทำงานอยู่หรือไม่ก็ตาม “ซูบิน……เมื่อวานหัวหน้าชมนายผ่านทางโทรศัพท์ด้วย ทำได้ดีมาก พยายามรักษามาตรฐานไว้นะ”
"ครับ. ผมจะไม่ทำให้หัวหน้าทุกคนผิดหวัง……“ดงซูบินรู้สึกถึงท่าทางที่เปลี่ยนแปลงของโจวฉางจูที่มีต่อเขา มันทำให้ภายในใจเขารู้สึกดีเป็นอย่างมาก เขาพูดสิ่งที่ไร้ประโยชน์ทันทีว่า”เขาจะทำงานหนักต่อไปและทำให้หัวหน้าทุกคนภูมิใจ ฯลฯ”
หลังจากที่ดงซูบินพูดเสร็จแล้วโจวฉางจูก็พยักหน้าและเรียกให้ดงซูบินเข้ามาหาโดยเขาบอกว่า "นั่ง."
ดงซูบินนั่งลงบนเก้าอี้ เขาไม่รู้ว่าจะมองที่ไหนดังนั้นเขาจึงมองไปที่จอคอมพิวเตอร์
มันเป็นแผนภูมิหุ้นที่ชื่อว่า ต้าชิ เรลเวย์
ดงซูบินจำได้ว่าเมื่อวานนี้ได้มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับหุ้นรถไฟและรถยนต์ที่กำลังจะเพิ่มขึ้น จากชาร์ตหุ้นของต้าชิ เรลเวย์ ตั้งแต่เริ่มต้นวันซื้อขายมันเพิ่มจาก 8.59 เป็น 9.03 หยวนจากนั้นลดลงเหลือ 8.89 หยวนก่อนเพิ่มขึ้นเป็น 9.25 หยวน ซึ่งมันใกล้ที่ตลาดหุ้นรายวันจะปิดแล้ว
‘โดยหุ้นตัวนี้ดูแล้วค่อนข้างจะได้กำไรดีที่เดียว’
ดงซูบินมองไปที่โจวฉางจูและสังเกตว่าเขากำลังยิ้มอยู่
หลังจากนั้นไม่นานโจวฉางจูได้เซ็นต์เอกสารจนครบ และยิ้มก่อนที่จะบอกเขาว่า “อ่ะ รับไปซะ.”
ดงซูบินใช้มือทั้งสองข้างเพื่อรับเอกสารทั้งหมดจากเขาและกำลังจะเดินออกไป แต่ก่อนที่ดงซูบินจะไปดวงตาของโจวฉางจูก็ยังคงจ้องไปที่จอภาพ
แต่ใน 2 วินาทีหลังจากนั้นหุ้นต้าชิ เรลเวย์ ก็ร่วงลงอย่างกะทันหัน มีคนเทขายหุ้น 12,000 หุ้นซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของหุ้นเหล่านี้ซึ่งโจวฉางจูพึงซื้อไปไม่นานมานี้ ไม่นานหลังจากนั้นมีคนขาย 8,000 หุ้นตามด้วย 5,000 ทันทีราคาหุ้นของ ต้าชิ เรลเวย์
ลดลงต่ำกว่า 9 หยวน สิ่งนี้เกิดขึ้นเกือบจะในทันที
โจวฉางจู ตบขาของเขาและส่งเสียงพึมพัม “ผู้เล่นรายใหญ่ขายหุ้นเร็วไปแล้ว ถ้าฉันรู้ก่อนฉันควรจะขายหุ้นเร็วกว่านี้”
ดงซูบินที่กำลังจะออกจากห้องได้ยินสิ่งนี้และหันกลับมามองแผนภูมิบนจอภาพ เขารู้ว่านี่เป็นโอกาส
"ย้อนกลับ!"
......
สภาพแวดล้อมโดยรอบของดงซูบินเปลี่ยนไป
ตอนนี้เขาหันหน้าไปอีกทางหนึ่ง
โจวฉางจูได้เซ็นต์เอกสารจนครบ และยิ้มก่อนที่จะบอกเขาว่า “อ่ะ รับไปซะ.”
ราคาหุ้นของ ต้าชิ เรลเวย์ยังคงอยู่ที่ระดับ 9.26 หยวน ดูเหมือนว่าจะถึง 9.3 หยวน
แม้ว่าดงซูบินรู้สึกว่ารวดเร็วเกินไป แต่เขาก็ไม่ต้องการที่จะให้โอกาสนี้หลุดมือไปซึ่งเป็นโอกาสที่เขาจะได้ใกล้ชิดกับหัวหน้าของเขา เขาชี้ไปที่จอภาพทันที:“หัวหน้าโจว ถ้าหัวหน้าเป็นเจ้าของหุ้นนี้นี้คุณควรขายทันที เมื่อวานนี้หุ้นรถยนต์และรถไฟเพิ่มขึ้นมาก นักเก็งกำไรจะทำกำไรออกมา จากกราฟปัจจุบันดูเหมือนว่าอันตราย ราคาอาจลดลงทุกเวลาตอนนี้”
โจวฉางชุนขมวดคิ้ว เขาไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่ดงซูบิน พูดว่า:“จริงเหรอ? ฉันคิดว่ามันจะเพิ่มขึ้นจนปิดตลาดหุ้นของวันนี้เลยนะ”
ดงซูบินตอบว่า:“ผมไม่แน่ใจเกี่ยวกับแนวโน้มในช่วงบ่ายนี้และอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่ก่อนเที่ยงหุ้น ต้าชิ เรลเวย์จะลดลงต่ำกว่า 9 หยวน”
โจวฉางชุนดูหงุดหงิดแล้วส่ายหัว เขาหันกลับไปที่จอภาพโดยไม่พูดอะไรสักคำ
หลังจากอยู่ในสำนักงานมาสองสามสัปดาห์ ดงซูบินได้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับสังคมในที่ทำงานแห่งนี้ เขารู้ว่าถ้าเขายังอยู่ในสำนักงานนี้ก็ต้องหัดดูว่าราคาหุ้นของ ต้าชิ เรลเวย์ลดลงเขาจะพิสูจน์ว่าหัวหน้าของเขาไม่ถูกต้อง หัวหน้าจะดูไม่ดีและมันก็เหมือนกับการตบหน้าเขา หัวหน้าอาจจะรู้สึกว่าดงซูบินกำลังล้อเลียนเขา
ดงซูบินออกจากห้องทันทีและกลับไปที่ที่นั่งของเขา เขามองไปที่ประตูห้องทำงานของหัวหน้าโจว
5 นาที……
10 นาที……
20 นาที……
ดงซูบินมองดูที่ประตูเรื่อย ๆ จนเกือบถึงเวลาอาหารกลางวัน เขากำลังจะออกจากสำนักงานกับต้าหลินเหม่ย และ จ้วงจื้อเพื่อไปยังโรงอาหาร และเมื่อโจวฉางจู เดินออกจากห้องทำงานของเขา ท่าทางของเขาดูไม่เปลี่ยนแปลง เขาคุยกับฉางจ้วงและเกาแพนเหว่ย สักพักหนึ่งและเมื่อทุกคนกำลังจะออกไปทานอาหารกลางวัน โจวฉางจูก็เรียกดงซูบินมาหาเขา “ซูบิน นายรู้จักการซื้อขายหุ้นใช่ไม?”
‘โอ้ว โอกาสของฉันมาถึงแล้ว!’
ดงซูบินตอบว่า:“ครับ ผมรู้นิดๆหน่อยเกี่ยวกับแผนภูมิและกราฟ”
โจวฉางยูพยักหน้าและตบไหล่ของเขา “ไปทานอาหารกลางวันกัน ช่วยฉันดูหุ้นในวันพรุ่งนี้ด้วย”