บทที่9
ผู้แปล loop
การทดสอบ เอเอที สิ้นสุดลง
ในทางเดินด้านนอกห้อง ดงซูบินเจอกับเสี่ยวตง
เสี่ยวตงงมองไปที่ดงซูบินและพูดประชดประชันว่า“เอเอที ในปีนี้ยากกว่าการสอบระดับชาติปีที่แล้วมาก นายยังมั่นใจอยู่ใช่ไหม?”
ดงซูบินมองเขาและถามว่า:“นายคิดว่านายจะทำมันได้แย่ลงหรอ?”
"ฉันเนี่ยนะจะทำได้แย่ลง?“เสี่ยวตงหัวเราะและตอบอย่างมั่นใจ:” นายคิดว่าฉันเหมือนนายหรือยังไง? นอกเหนือจากคำถามเชิงตรรกะ 2 ข้อที่ฉันรู้ว่า ฉันผิดและคำถามความรู้ทั่วไปสองสามข้อที่ฉันไม่มั่นใจ นอกนั้นฉันมั่นใจว่าฉันตอบคำถามที่เหลือได้ ทั้งหมด และก่อนที่ฉันจะส่งเอกสารคำตอบของฉัน ฉันก็ได้คำนวณข้อที่ถูกคราวๆแล้วและฉันมั่นใจว่าคำถามที่ฉันทำผิดจะไม่เกินเจ็ดเปอร์เซ็น ฮึ่ม! แล้วนายล่ะ? ฉันคิดว่านายควรจะผิดอย่างน้อย 40 ถึง 50 ข้อ”
ดงซูบินยิ้ม:“ไม่ต้องห่วงฉัน หากนายมั่นใจว่าสอบผ่าน ฉันก็ไมน่าจะมีปัญหา”
“หยุดทำหน้าทำตาอย่างงั้นสักที” เสียวตงไม่รู้ความหมายของดงซูบินที่กำลังจะสื่อ
หลังจากการสอบครั้งแรก ดงซูบินรู้สึกโล่งใจ แต่เมื่อเขาคิดถึงการสอบเรียงความในภายหลังเขาก็กังวลอีกครั้ง
ดงซูบินยังไม่ได้ทานข้าวกลาววันเลย
ฉูยวนและป้าซูรอคอยพวกเขา และพวกเธอไม่ได้ถามพวกเขาเกี่ยวกับการสอบ พวกเธอไม่ต้องการให้พวกเขามีความเครียดเพิ่มขึ้น พวกเขาทานอาหารกลางวันอย่างรวดเร็วที่ร้านเกี๊ยวใกล้โรงเรียนและไม่นานก็ถึงเวลาสอบภาคบ่าย
กลับมาที่โรงเรียนมัธยมหมายเลข 15 เสี่ยวตงดูสงบและมั่นใจ
ดงซูบินไม่มีความมั่นใจเลย แต่เขายังคงพยายามให้กำลังใจตัวเอง:“ทำได้ๆ”
“หืมม!” เสี่ยวตงกลับไปที่ห้องสอบของเขา
การเขียนเรียงความการทดสอบเป็นเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง
13:30 - 16:00 น.
การทดสอบข้อเขียนนี้เป็นการทดสอบผู้สมัครใน 7 ด้าน การอ่านเพื่อความเข้าใจ ทักษะการวิเคราะห์ ทักษะการแก้ปัญหา ภาษาการเขียน ความรู้เรื่องการเมืองในปัจจุบัน และทักษะการบริหาร ไม่มีคำตอบที่คงที่และผู้สมัครต้องตอบคำถามสั้น ๆ
ดงซูบินเขียนเรียงความที่ต้องวิจารณ์ได้ไม่ดี อย่างไรก็ตามเขาได้ฝึกฝนมาเล็กน้อยภายใต้การแนะนำของคุณปู่หูในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ดงซูบินรู้ว่าเขายังไม่ดีพอที่จะสอบในรอบนี้ ที่จริงแล้วดงซูบินวางแผนที่จะใช้ “ย้อนกลับ” ในระหว่างการทดสอบเรียงความหากการทดสอบตอนเช้าไม่ยากเกินไป
แต่แผนของเขาล้มเหลว การสอบตอนเช้านั้นยากเกินไปและเขาต้องใช้ “ย้อนกลับ” ไปแล้วในตอนนั้น เขาไม่มีแผนกสำรองอีกแล้ว
“ฉันจะทำยังดีล่ะที่นี้?”
หากการสอบเรียงความอยู่ในมาตรฐานเดียวกันกับการสอบตอนเช้า ดงซูบินก็รู้ตัวเองเลยว่าเขาคงไม่รอดแน่ๆ
‘อาจจะเป็นความโชคร้ายที่ฉันจะไม่ได้เป็นข้าราชการ’
ครึ่งชั่วโมงก่อนเริ่มการทดสอบ ห้อง 026 อีกครั้งดงซูบินจะรู้สึกถึงความตึงเครียดในอากาศ ทุกคนได้รับผลกระทบจากความยากลำบากในการทดสอบตอนเช้าและพวกเขาก็ขมวดคิ้ว
ดงซูบินถอนหายใจและเคาะแก้มของเขา ในใจเขาสวดอ้อนวอน
ตอนนี้เขาไม่ได้หวังที่จะตอบคำถามทุกข้อ เขาเพียงแต่อธิษฐานว่าคะแนนของเขาจะไม่ต่ำเกินไป เขาอาจยังคงสามารถผ่านข้อสอบข้อเขียนที่ต้องทำเครื่องหมายได้ นี่คือความปรารถนาเดียวของเขา
13:30 น. เริ่มการทดสอบ
ดงซูบินยกปากกาขึ้นมาและเริ่มคำถามแรกทันที
เขาอ่านบทความที่ให้มาแล้วดูคำตอบที่ต้องการ เขารู้สึกสั่นเทา การสอบนี้ก็ยากเช่นเดียวกับการทดสอบตอนเช้า ดงซูบินอ่านบทความสองครั้งและไม่เข้าใจว่าบทความเกี่ยวกับอะไร ไม่มีทางที่เขาจะตอบคำถามได้
‘เอาล่ะ’
‘ดีกว่าไม่ได้ทำอะไร’
ดงซูบินยิ้มแย้มแจ่มใสและตอบสิ่งที่เขารู้โดยหวังว่าจะได้คะแนนที่เขาหวังสักเล็กน้อยก็ยังดี เขาพลิกสมุดคำถามไปยังคำถามที่สอง
“จีนมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ในทะเลโดยรอบ แต่รายได้ต่อหัวของเราต่ำ ทะเลบ่อเป็นทะเลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน มันมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ…”
เอ๊ะ ?! ดงซูบินไม่เชื่อสายตาของเขา ทำไมคำถามนี้จึงคุ้นเคยกันดี
เขาพลิกไปที่คำถามที่สาม
“เขียนข้อเสนอแนะถึงหัวหน้าสำนักการท่องเที่ยวเกี่ยวกับการท่องเที่ยวของจีนในต่างประเทศ คำตอบที่ต้องการจะต้องเกี่ยวข้องและนำไปปฏิบัติได้ ต้องกระชับและไม่เกิน 400 คำ… ...”
ดงซูบินตกตะลึงและอ้าปากค้างออกมาดัง ๆ :“เอ๊ะ?”
“เกิดอะไรขึ้นกับคุณ” คณะกรรมการคุมสอบมองเขา “ทำการทดสอบของคุณอย่างเงียบ ๆ และอย่าทำเสียงดัง”
ดงซูบินพูดทันที:“ผมขอโทษ” เขามองคำถามอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าดวงตาของเขาไม่ได้ฝาดไป เขารู้สึกประหลาดใจและดีใจเมื่อเห็นคำถามที่สี่ เขาไม่รู้วิธีอธิบายความรู้สึกของเขา
‘คำถามนี้จริงๆหรอเนี่ย’
‘คำถามนี้จริงๆหรอเนี่ย’
‘คำถามนี้จริงๆหรอเนี่ย’
ดงซูบินถามตัวเองด้วยคำถามเดียวกันสามครั้ง เขาแทบจะไม่เชื่อสิ่งที่เขาเห็น
การสอบผ่านไปครึ่งชั่วโมงและ ดงซูบินไม่สามารถที่จะอยู่ในความงุนงงได้ เขาหยิบปากกาของเขาอีกครั้งและเริ่มตอบ
ดงซูบิน เขียนคำตอบของเขาอย่างราบรื่นโดยไม่หยุดเลย
กรรมการคุมสอบเฝ้าดูดงซูบินและเขาสงสัยว่าดงซูบินต้องแอบทำอะไรอยู่แน่ เขาเดินไปที่ดงซูบินและยืนอยู่ข้างหลังเขาเพื่อดูเขา เขาจ้องที่แผ่นคำตอบของดงซูบิน ไม่กี่นาทีต่อมาและคณะกรรมการคุมสอบรู้สึกประหลาดใจ เขายืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งระฆังประกาศการสิ้นสุดของการทดสอบดังขึ้น เขาและคณะกรรมการคุมสอบคนอื่น ๆ รวบรวมคำตอบทั้งหมดจากผู้สมัครและผนึกไว้ในซอง
เมื่อดงซูบินกำลังจะออกจากห้องคณะกรรมการคุมสอบคนนั้นมองเขาและพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
ดงซูบินรู้สึกประหลาดใจและยิ้มกลับมา เขาค่อยๆเดินออกจากห้องไป ‘เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดคำถามเรียงความทั้งหมดจึงเหมือนกับคำถามที่คุณปู่หูสอนฉัน’
สามารถได้ยินเสียงบ่นของผู้สมัครเมื่อพวกเขากำลังจะออกจากโรงเรียน “เฮ้อ ... ฉันตาย. คำถามนั้นยากเกินไป”
"ถูกตัอง. เอเอทีครั้งนี้ก็ยังยากเหมือนเดิม และการสอบเรียงความก็ยากขึ้น โดยเฉพาะคำถามที่สาม มีพวกเรากี่คนที่จะตอบได้”
“ฉันรู้ว่าฉันได้ตอบผิดแล้ว เฮ้อ! ... คิดว่าฉันต้องมาใหม่อีกครั้งในปีหน้า”
ผู้สมัคร 9 จาก 10 คนกำลังดึงหน้าด้วยความเครียด
ด้านนอกประตูโรงเรียนแม่ของเขาและฉูยวน กำลังรออยู่ใต้ร่มไม้ ดงซูบินเองยังคงอยู่ในความงุนงง เมื่อเขาเห็นแม่ของเขาและฉูยวนรอเขาอยู่เขายกมือขึ้นทันที:“รอผมอยู่หรอ! ตอนนี้ผมต้องการไปที่ๆหนึ่งแบบเร่งด่วนมาก”
ก่อนที่แม่ของเขาและฉูยวนซวนจะตอบ ดงซูบินก็เรียกแท็กซี่
“ไปส่งผมที่โรงพยาบาลมะเร็งด้วย” ดงซูบินบอกผู้คนขับ
ที่หอผู้ป่วยมะเร็ง ดงซูบินรู้สึกประหลาดใจที่พบว่าหอผู้ป่วยของคุณปู่หูว่างเปล่า ไม่มีกระเป๋าเดินทางและเขาถามพยาบาลคนหนึ่งซึ่งเป็นคนดูแล โดยเขาได้คำตอบว่า คุณปู่หูได้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อคืน ซึ่งดงซูบินมาช้าไปนิดหน่อย มันทำให้ดงซูบินโทรหาเบอร์ของปู่หูที่เคยโทรมาหาเขาทันที่ มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งตอบว่า:“สวัสดีโรงพยาบาลมะเร็งหอผู้ป่วยมะเร็ง”
‘นี่ไม่ใช่หมายเลขของคุณปู่หูหรอ เขาใช้โทรศัพท์ของโรงพยาบาลเพื่อโทรหาฉันในวันนั้น?’
ดงซูบินวิ่งไปที่สถานีพยาบาลเพื่อพยายามหาทางติดต่อและที่อยู่ของคุณปู่หู แต่พยาบาลที่นั่นบอกเขาว่าพวกเขาไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของผู้ป่วยได้
ดงซูบินยืนอยู่ที่ทางเดินมองไปที่หอผู้ป่วยที่ว่างเปล่า
‘คุณปู่หูน่าจะอยู่อีกไม่กี่วัน เมื่อวานนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นเขา’
ดงซูบินอยู่ที่หน้าหอผู้ป่วยที่ว่างเปล่าและโค้งคำนับถึง 3 ครั้ง
เขาเข้าใจว่าทำไมคุณปู่หูบอกเขาว่าเขาจะต้องได้คะแนนสูงสำหรับการสอบเรียงความ เขาตระหนักว่าทำไมคุณปู่หูไม่อนุญาตให้เขาเปิดเผยสิ่งที่เขาสอนให้ผู้อื่น อาจเป็นลูกชายของเขาที่ตั้งคำถามหรือบางทีเขาอาจรู้คำถามผ่านคนรู้จักของเขา คุณปู่หูสอนเขาถึงวิธีการตอบคำถามเกือบ 70% ในการสอบเรียงความ
‘หากดงซูบินยังไม่ได้คะแนนสูงสำหรับการสอบนี้เขาอาจต้องฆ่าตัวตายเช่นกัน!’
ตอนนี้ในเพจลงถึงตอนที่ 26 แล้วนะ