บทที่ 14
ผู้แปล loop
สองวันต่อมาในตอนเช้า
ห้องนั่งเล่นในอพาร์ทเมนท์ของฉูยวน
ดงซูบินและแม่ของเขาต้องการชวนฉูยวนไปร้ายขายของชำที่อยู่ทางใต้ของเมือง มันมีเนื้อสัตว์และผักราคาถูก แต่เมื่อพวกเขาเข้าไปในอพาร์ทเมนต์ของเธอ พวกเขาเห็นเสียวตงและป้าซูนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นคุยกับฉูยวนอยู่ แม่ของดงซูบินจึงดึงเก้าอี้มาพื่อเข้าร่วมในการสนทนา ครอบครัวดงและซูนั้นไม่ค่อยชอบหน้ากันเท่าไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งดงซูบินและเสี่ยวตง แต่คนปักกิ่งนั้นมีศักดิ์ศรีและพยายามทำตัวให้ดีต่อหน้ากันไว้ก่อน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบหน้ากันก็ตาม แต่พวกเขาจะยังคงคุยอยู่พักหนึ่งเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาพบกัน
“นางลวน! ฉันได้ยินมาว่าลูกชายของเธอ ซูบินพึงเริ่มกลับมาอ่านหนังสือสอบอีกครั้งใช้หรือเปล่า”
"ถูกตัอง. การสอบข้าราชการพลเรือนแห่งชาติจะเริ่มอีกประมาณ 6 เดือน แล้วเสี่ยวตงของเธอเป็นอย่างไรบ้าง?”
“เขากำลังทำการทบทวนอยู่เช่นกัน หากคำถามไม่ยากเกินไป เขาน่าจะสามารถตอบได้แน่ๆ”
“เฮ้อ!…เธอไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับลูกชายของเธอเหมือนฉันหรอก ซูบินของฉันเรียนไม่ค่อยเก่งตั้งแต่ตอนเป็นเด็กแล้ว”
ดงซูบินก็นั่งอยู่ที่นั่นอย่างเงียบ ๆ ดื่มโค้กที่ฉูยวนนำมาให้เขา เขาไม่ได้มีส่วนร่วมในการสนทนาของพวกเธอสองคนเลย เขารู้ว่าโอกาสของเขาในการสอบสัมภาษณ์นั้นน้อยมาก ผู้สัมภาษณ์หลักมีปัญหาบางอย่างกับเขา และเป็นไปได้ว่าเขาจะไม่ผ่านในการสัมภาษณ์ ดงซูบินรู้สึกแย่เขาเก็บตัวเงียบมากสำหรับสองวันที่ผ่านมา
“ดื่มช้าๆ” ฉูยวนหยิบกระดาษทิชชู่และช่วยเช็ดปากของดงซูบิน “นายกำลังคิดอะไรอยู่?”
เสี่ยวตงเห็นฉูยวนเช็ดปากของดงซูบิน ทำให้เขาจ้องมองที่ดงซูบินด้วยสายตาเขม่น
ดงซูบิน ยิ้ม:“ฉันกำลังคิดถึงการสอบ”
ฉูยวนถอนหายใจ “อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป ฉันเป็นห่วงนายนะ”
อยู่ดีๆป้าซูก็พูดขึ้นมาว่า:“ถูกต้อง! ฉันเคยพูดไปแล้ว โอกาสของพวกจบระดับปริญญาตรีต่อปีจะสอบผ่านข้าราชการนั้นต่ำมาก เธอควรหางานทำเก็บประสบการณ์การทำงานในช่วงนี้ไปก่อน หลังจาก 2 ถึง 3 ปีเธอสามารถลองสอบอีกครั้งได้ ลูกคนหนึ่งของเพื่อนร่วมงานของฉันเข้าสอบระดับชาติใช้เวลาสองถึงสามปีหลังจากที่เขาเรียนจบ”
ฉูยวนไม่ชอบวิธีที่เธอพูด “คุณแน่ใจแล้วใช่ไหม?”
นางซูพยักหน้า “ถ้าเธอโชคดี! เธออาจสอบเขียนเรียงความผ่านหลังจากผ่านไปสองสามครั้ง”
ฉูยวนลูบหัวของดงซูบินและกล่าวว่า“ซูบินเป็นเด็กที่ฉลาดมาก เขาควรจะสามารถสอบระดับชาติครั้งต่อไปได้แน่อยู่แล้ว”
เสี่ยวตงละสายตาจากฉูยวน และมองไปที่ดงซูบินหลังจากหนึ่งเดือนที่เขาฟื้นความมั่นใจมาได้ “ผลการสอบข้อเขียนของฉันออกมาหมดแล้ว ฉันได้ 85 คะแนนสำหรับการสอบศักยภาพของข้าราชการพลเรือน ฉันได้ยินมาว่ามีผู้สมัครเพียงไม่กี่คนที่ได้คะแนนมากกว่า 90 คะแนนในปีนี้ นายได้เท่าไหร่” 85 คะแนนสำหรับ เอเอที นั่นหมายความว่าเสี่ยวตงไม่ได้คะแนนใด ๆ สำหรับการทดสอบเรียงความเลย ถ้าไม่งั้นเขาจะได้คะแนนขั้นต่ำ 100 คะแนนจึงจะมีคุณสมบัติสำหรับการถูกเรียกสัมภาษณ์
ดงซูบินตอบกลับโดยไม่แม้แต่จะมองเขา "ฉันลืมนะ."
เสี่ยวตงหัวเราะเยาะ “คะแนนนายไม่ดีหรือยังไง นายอยากให้ฉันติวให้นายบ้างไหม?”
"ไม่จำเป็น. ฉันสามารถอ่านมันด้วยตัวเองได้” ดงซูบินทำท่าที่ไม่สนใจ
อาจเป็นเพราะฉูยวนอยู่ใกล้ ๆ และ ดงซูบินพยายามที่จะทิ้งความประทับใจไว้ที่เขาสอบผ่านข้อเขียน:“โอเค! นายสามารถถามฉันได้ตลอดเวลาหากนายมีปัญหาในการตอบคำถามใด ๆ”
นางซูยิ้มอย่างมีความสุขและตบเสี่ยวตงที่หลัง:“ลูกชายของฉันเก่งมากในการทดสอบศักยภาพคะแนนขนาดนี้ ฉันถามเพื่อนบ้านทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ว่ามีเด็กคนไหนได้ไปสอบบ้าง และไม่มีใครทำคะแนนได้มากกว่า 80 คะแนน ที่ดีที่สุดคือเพียง 65 คะแนน แต่เสี่ยวตงของฉันทำคำถามเรียงความของเขาไม่ค่อยดีนัก อย่างน้อยเขาก็ยังดีกว่าผู้คนมากมาย หลายคนไม่ได้รับคะแนนเลยก็มี”
แม่ของดงซูบินถอนหายใจ:“ลูกชายของเธอจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน เหมือนกับหัวหน้าส่วนซูในอนาคต”
นางซูหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ:“ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต”
ดริ๊งๆ ……มือถือของดงซูบินดังขึ้น เขาหยิบมันออกมาจากกระเป๋าของเขาและตอบว่า: "สวัสดีครับ?"
“สวัสดี! คุณดงซูบินหรือเปล่า?” มันเป็นเสียงของผู้ชายที่ผ่านมาจากโทรศัพท์ ดงซูบินไม่สามารถบอกอายุของเขาได้ เขาอาจอยู่อายุ 40, 50 และแม้กระทั่งอาจจะ 60 ปี
"ใช่ๆผมเอง. ตอนนี้ใครกำลังถือสายอยู่ครับ”
“ผมโทรจากสำนักงานสาขาความมั่นคงแห่งรัฐของเขตตะวันตกเขตการเมือง สำนักงานเทศบาลได้ส่งผลการสมัครของคุณในตอนเช้า ผมโทรมาเพื่อแจ้งให้คุณทราบ คุณจะต้องมารายงานตัวต่อสำนักความมั่นคงแห่งรัฐของเขตตะวันตก ในวันจันทร์หน้าเวลา 9.00 น. คุณสามารถจดที่อยู่ เขตฉีอินตะวันตก ถนนตะวันออกเมื่อคุณมองไปทางทิศใต้ของถนนประมาร 50 เมตร คุณจะเห็นอาคารที่ไม่มีป้าย เนื่องจากเราเป็นหน่วยพิเศษ เราจะไม่ออกหนังสือแจ้งให้คุณทราบ คุณจะต้องนำบัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน เอกสารต้นฉบับ และสำเนาใบรับรองการศึกษาของคุณมากด้วย”
ดงซูบินตกตะลึง “แอมป์? คุณกำลังหมายถึง……หมายถึง……”
ชายในโทรศัพท์พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น:“คุณผ่านการทดสอบและสัมภาษณ์ข้าราชการพลเรือน เรากำลังขาดกำลังคน นี่คือเหตุผลที่เราต้องการให้คุณรายงานเร็วกว่าแผนกอื่น หากคุณมีเหตุผลอื่นที่ทำให้คุณไม่สามารถรายงานได้ ให้คุณแจ้งเราให้เร็วที่สุดภายในวันศุกร์ เราจะทำการยกเลิกใบสมัครของคุณทันที”
ดงซูบินพูดอย่างใจจดใจจ่อ:“ไม่ ๆ ผมไม่มีปัญหา ผมจะไปที่นั้นแน่นอนในวันจันทร์”
“ดีมาก” เสียงของกระดาษทำให้เกิดเสียงกรอบแกรบได้ยินได้ทางโทรศัพท์ “ส่วนที่คุณกำลังจะไปทำงานคือสำนักงานทั่วไป คุณจะรู้รายละเอียดเมื่อคุณไปรายงานตัวในวันจันทร์” สำนักความมั่นคงของรัฐแตกต่างจากหน่วยงานรัฐบาลอื่นๆ ผู้สมัครสำหรับหน่วยงานอื่นๆ สามารถเขียนส่วนเฉพาะหรือแผนกในแบบฟอร์มใบสมัคร แต่มาถึงสำนักความมั่นคงของรัฐผู้สมัครสามารถเขียน“ฝ่ายบริหาร” หรือข้อกำหนดทั่วไปอื่นๆ มันขึ้นอยู่กับสำนักงานจะมอบหมายหน้าที่ให้กับผู้สมัคร
"ได้ .ได้ ขอขอบคุณ."
“นั่นคือทั้งหมดที่จะแจ้งให้ทราบ” ……สายถูกตัดออก
ดงซูบินเก็บโทรศัพท์ของเขาและกลับไปยังที่นั่งของเขา มือของเขาสั่น
แม่ของดงซูบินมองเขาอย่างกังวล:“ลูกหางานทำได้แล้วเหรอ? บริษัทอะไร เงินเดือนเท่าไร?”
นางซูกล่าวว่า“ก็ดีนะ! รับงานภายนอกขณะที่พยายามสอบอีกครั้ง ฉันขอพูดตรงไปตรงมากับเธอเลยนะ แม้ว่าเธอจะไม่สามารถเป็นพ่อแม่คนได้ แต่อย่างน้อยเธอก็ยังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้”
เสี่ยวตงมองดู ดงซูบินอย่างหยิ่ง:“เงินเดือนของนายมากกว่า 2,000 หยวนไหม?”
ดงซูบินไม่สนใจเขาเท่าไร เขาหันไปมองหน้าแม่ของเขา “แม่! ผมมีอะไรจะบอก!”
แม่ของเขามองเขา:“ลูกจะบอกอะไรนะ?”
ดงซูบินล้างคอของเขา “เอิ่ม! ... ผมสอบผ่านแล้วตอนนี้ผมได้เป็นข้าราชการแล้ว”
แม่ของดงซูบินเกือบจะสำลักน้ำชา เธอไอและวางถ้วยน้ำชา "ลูกพูดอะไร? ลูกกำลังพูดถึงอะไร?”
“ผมบอกว่าผมได้เป็นข้าราชการแล้ว”
“ไร้สาระ” แม่ของดงซูบินจ้องที่เขา “ลูกคิดว่ามันตลกหรือไงที่จะหลอกแม่”
ฉูยวนได้บีบแขนของดงซูบิน “นายยังไม่ได้ถูกเรียกให้ไปสัมภาษณ์เลย นายจะเป็นข้าราชการได้อย่างไร ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่นายมีอารมณ์ขัน ทุกอย่างปกติดีใช่ไหม. นายสามารถไปสอบอีกครั้งได้ แค่ทำงานให้หนักขึ้นและหยุดคิดถึงการสอบที่ผ่านมาทุกอย่างจะดีขึ้น”
ดงซูบินเปล่งเสียงของเขา “ฉูยวน! ฉันเคยเป็นคนโกหกด้วยหรอ? ฉันสอบผ่านจริงและตอนนี้พวกเขาแจ้งฉันทางโทรศัพท์แล้ว”
“อ้า?” แม่ของซูบิน ฉูยวน นางซูและเสี่ยวตงล้วน แต่กำลังตกตะลึง
......
ตอนนี้ในเพจลงถึงตอนที่ 26 แล้วนะ