ตอนที่ 19 สามภารกิจที่วางกับดักโฮสต์
ตอนที่ 19 สามภารกิจที่วางกับดักโฮสต์
อืมม...
จะว่าไปภารกิจใหม่ทั้งสามนี้ก็ค่อนข้างดีจริงๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเขาอ่านภารกิจแรก
[
ภารกิจ 1 : ไม่มีทางหยุดการวิจัย
คำอธิบาย : ระเบิดสถาบันวิจัยของเมือง
รางวัล : ค่าประสบการณ์ที่ได้รับในแต่ละสาขาวิชาจะขึ้นอยู่กับผลงานวิจัยของสถาบัน (ต่ำสุด 5000) แต้มทั่วไปขึ้นอยู่กับปริมาณการสูญเสียทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น (ต่ำสุด 5000) ตั๋วเสี่ยงโชค 1 ใบ (ขยะ 85% ตัวอย่าง 15%)
]
"เชี่ยอะไรเนี่ย?" ลู่โจวอดบสถเสียงดังไม่ได้
ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมระบบไฮเทคถึงให้ภารกิจวิ่งไกลกับเขา
(ผู้แปล : ภารกิจวิ่งจากตอน2)
มันก็เพื่อฝึกฝนร่างกายของเขาให้พร้อมกับภารกิจประเภทนี้
แม้ว่ารางวัลแต้มค่าประสบการณ์ของภารกิจนี้จะเย้ายวนมาก แต่ลู่โจวก็ไม่นับมันเป็นตัวเลือกโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
[
ภารกิจ 2 : ไม่มีเม็ดทรายแม้แต่เม็ดเดียวในสายตาของท่าน
คำอธิบาย : คอรัปชั่นเป็นรากฐานของการขัดขวางความก้าวหน้าทางวิชาการ การเสียเงินทุนเพื่อวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในสังคมมนุษย์โดยสูญเปล่านำไปสู่การบริโภคทรัพยากรในสังคมเพื่อสิ่งที่ไร้ความหมายแทนที่จะนำไปพัฒนาเพื่ออนาคต สังคมวิชาการก็ต้องการวินัยเช่นกัน ลุยเลย ชายหนุ่ม!
สิ่งที่ต้องทำ : รวบรวมหลักฐานการทุจริตและล้มล้างศาสตราจารย์ทุกคน (ระดับต้องเหนือกว่าผู้ช่วยศาสตราจารย์) ใช้ทุกวิธีการเพื่อยุติอาชีพทางการศึกษาของเขา
รางวัล : แต้มประสบการของแต่ละสาขาวิชาขึ้นอยู่กับระดับการทุจริตของเป้าหมาย (ต่ำสุด 3000) 1000 แต้มทั่วไป รางวัลตัวอย่าง (โดรนลาดตระเวนขนาดเล็ก)
]
ตามหลักศิลธรรม มันถูกต้อง แต่ขอโทษ ฉันอยากเรียนจบ!
ลู่โจวตัดภารกิจนี้ทิ้งโดยไม่ลังเล
มันไม่มีทางเลยที่เขาจะเก็บหลักฐานมาได้มากพอ แม้ว่าเขาจะมีหลักฐาน แต่มันก็จะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ประตูแห่งโลกวิชาการก็จะปิดใส่เขา สุดท้ายแล้วมหาลัยต้องการเกียรติยศ พวกเขาจะไม่พอใจกับผู้ปลุกปั่นอย่างเขา
ส่วนเรื่องรายงานแบบไม่ประสงค์จะออกชื่อ มันไร้ประโยชน์ดีกว่าเดิมอีก
เรื่องนี้ไม่ใช่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ลู่โจวรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนที่มีคุณธรรมนัก เขาใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ อย่างมากสุดเขาก็มีมโนธรรมเล็กน้อยเท่านั้น
การกระทำศาลเตี้ยแบบนี้ควรปล่อยให้คนที่มีอุดมคติสูงส่งทำไป
ลู่โจวกำลังจะอ่านต่อ แต่แล้วจู่ๆหัวใจเขาก็บีบรัด
เดี๋ยวนะ ฉันปฏิเสธไปแล้วสองภารกิจ งั้นมันก็เหลือภารกิจให้เลือกเพียงภารกิจเดียวเท่านั้น?
ก่อนหน้านี้ ภารกิจทั้งสามมันค่อนข้างแย่ แต่ส่วนใหญ่มันยังพอยอมรับได้ เขากระทั่งมีการเลือกภารกิจโดยขึ้นอยู่กับรางวัลภารกิจ
แต่ครั้งนี้...
มันเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ
โปรดอย่าเอาภารกิจแย่ๆให้ฉันเลย!
ลู่โจวกลืนน้ำลายแล้วอ่านต่อ
[
ภารกิจ 3 : กลายเป็นโคลมถล่มในโลกวิชาการ
คำอธิบาย : เนื่องจากท่านไม่อยากเป็นแม่น้ำไหลเชี่ยวในโลกวิชาการ ท่านก็กลายเป็นโคลมถล่มซะ! มาทำให้ทั้งโลกวิชาการสั่นไหวภายใต้สายน้ำที่เกรี้ยวกราดของท่านกันเถอะ!
สิ่งที่ต้องทำ : ประสบความสำเร็จในการส่งวิทยานิพนธ์SCI 10 ฉบับภายในสองเดือนและผ่านกระบวนการตรวจสอบ ถ้าหากวิทยานิพนธ์ทั้ง 10 ไม่เสร็จภายในสองเดือน ภารกิจจะล้มเหลวและรางวัลจะถูกยกเลิก การเสร็จสิ้นภารกิจก่อนเวลากำหนดจะมีการปรับปรุงการประเมิณผล
รางวัล : รางวัลวิทยานิพนธ์ทุกฉบับจะมีรางวัลตายตัวที่ 100 แต้มประสบการณ์ต่อสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องในวิทยานิพนธ์ แต้มทั่วไป 800 แต้ม ตั๋วเสี่ยงโชค 1 ใบ (ขยะ 90% ตัวอย่าง 9% พิมพ์เขียว 1%)
]
ลู่โจว "..."
เขาไม่มีทางเลือก ดังนั้นเขาจึงฝืนรับภารกิจที่สาม
กรณีที่เลวร้ายที่สุดก็คือภารกิจของเขาล่าช้าไปสองเดือน อย่างไรก็ตามระบบไม่ได้เอ่ยถึงการลงโทษเมื่อภารกิจล้มเหลว ถ้าเขาทำภารกิจล้มเหลว ทั้งหมดที่เขาเสียก็คือแต้มทั่วไป 200 แต้ม
อย่างไรก็ตามเขาสามารถใช้แต้มทั่วไป 200 แต้มเพื่อแลกวิทยานิพนธ์มากมาย!
บางครั้งเขาก็คิดจริงๆว่าจุดประสงค์ของระบบไม่ใช่เพื่อช่วยเขา แต่เป็นแก้แค้นสังคม
โดยทั่วไปแล้วนอกจากสาขาวิชาแปลกๆหรือนักวิจัยที่ขยัน การตีพิมพ์วิทยานิพนธ์สองฉบับในหนึ่งปีก็ถือว่าไม่เลวแล้ว
ถ้ามีคนตีพิมพ์วิทยานิพนธ์มากกว่าห้าสิบฉบับต่อปี ไม่ว่าจะเป็นสาขาวิชาไหน มันก็เป็นงานคุณภาพต่ำแน่นอน
ถ้าศาสตราจารย์ถังรู้ว่าลู่โจวตีพิมพ์วิทยานิพนธ์SCIสิบฉบับในสองเดือน เขาต้องโกรธมากแน่นอน
ไม่ ฉันปล่อยให้เขารู้ไม่ได้!
ลู่โจวออกจากมิติของระบบด้วยความรู้สึกตึงเครียดแล้วล้มตัวนอนบนเตียง เขาคิดถึงภารกิจอยู่พักหนึ่ง
ฉันพึ่งใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อส่งวิทยานิพนธ์เพียงฉบับเดียว ตอนนี้ฉันต้องส่งอีกสิบฉบับ! มันไม่มากไปหน่อยเหรอ?
หลังจากคร่ำครวญเล็กน้อย จู่ๆเขาก็มีความคิดดีๆ
อันที่จริงเมื่อเขาคิดเรื่องนี้ดีๆ การยอมรับภารกิจนี้อาจไม่ใช่เรื่องเลวร้าย
แต้มทั่วไป 800 แต้มค่อนข้างน่าดึงดูด นอกจากนี้วิทยานิพนธ์แต่ละฉบับยังมีค่าประสบการณ์คงที่อยู่ที่ 100 แต้ม เขาสามารถเลือกสาขาวิชาในการเขียนวิทยานิพนธ์ ถ้าอยากอยากได้แต้มประสบการณ์คณิตศาสตร์ เขาก็สามารถส่งวิทยานิพนธ์คณิตศาสตร์ได้ ถ้าเขาอยากได้แต้มประสบการณ์วิทยาการสารสนเทศ เขาก็แค่ส่งวิทยานิพนธ์ที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์
กล่าวอีกนัยนึง เขาสามารถจัดการแต้มประสบการณ์ที่ได้รับด้วยตนเอง!
เขาสามารถตีพิมพ์วิทยานิพนธ์คณิตศาสตร์หนึ่งฉบับและตีพิมพ์วิทยานิพนธ์คอมพิวเตอร์เก้าฉบับ! ด้วยวิธีนี้แต้มประสบการณ์วิทยาการสารสนเทศของเขาจะถึง 1000 แต้มซึ่งมันเพียงพอทำให้เลื่อนระดับ! และในขณะเดียวกันคณิตศาสตร์ของเขาก็จะไปถึงระดับ 1 มันเหมือนเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!
ยิ่งกว่านั้นระบบนี้ไม่ได้มีข้อกำหนดที่เข้มงวดสำหรับคุณภาพของวิทยานิพนธ์ และรางวัลภารกิจไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณค่าทางวิชาการของวิทยานิพนธ์ นี่หมายความว่าไม่ว่าวิทยานิพนธ์จะน่าเบื่อแค่ไหน ตราบใดที่มันผ่านการตรวจสอบและได้รับการยอมรับในวารสารSCIก็พอแล้ว
แววตาของลู่โจวเปล่งประกาย
เขาปีนลงบันไดพร้อมกับโน๊ตบุ๊คในมือทันทีแล้วยัดมันใส่กระเป๋าสะพาย จากนั้นเขาก็คว้าเสื้อยืดมาใส่
หลิวรุ่ยเหลือบมองลู่โจวแล้วเห็นว่าหนังสือคณิตวิเคราะห์ของลู่โจวยังอยู่บนโต๊ะอยู่เลย เขาจึงถาม "ลู่โจว นายไม่เรียนคณิตวิเคราะห์เหรอ? พรุ่งนี้จะสอบแล้ว"
ลู่โจวเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าประตู ขณะที่เขาสวมรองเท้า เขาก็กล่าว "ฉันมีเรื่องต้องทำที่ห้องสมุด เดี๋ยวฉันจะกลับมาดูว่าฉันมีอารมณ์เรียนไหม"
หลิวรุ่ยสงสัย เขาถาม "ห้องสมุดมีอะไรทำ? ในหอพักก็มีไวไฟไม่ใช่เหรอ?"
"ไวไฟในหอพักโหลดวิทยานิพนธ์จากเว็บวารสารไม่ได้ ช่วงนี้ฉันเข้าร่วมการแข่งขันสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ มีหัวข้อเฉพาะหลายอย่างที่ไม่สามารถหาเจอได้ในไป่ตู้"
เห็นได้ชัดว่าลู่โจวจะไม่เปิดเผยว่าเขากำลังค้นคว้าหัวข้อของวิทยานิพนธ์ ดังนั้นเขาจึงกล่าวอ้างออกไป เพราะยังไงถ้าหลิวรุ่ยรู้ว่าเขาตีพิมพ์ในวารสารSCIขณะที่พวกเขาอ่านหนังสือสอบ หัวเขาต้องระเบิดแน่
ลู่โจวยังคงเป็นกังวลกับสภาพจิตของเพื่อนร่วมหอ
เมื่อได้ยินเรื่องการแข่งขันสร้างแบบจำลองทางวิทยาศาสตร์ หวงกวงหมิงที่ยังทำแบบฝึกหัดอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมาตะโกนอย่างฉับพลัน "เชี่ย! โจว นายเจ๋งมาก! ถ้านายได้เงินรางวัล นายต้องเลี้ยงข้าวฉันด้วย"
"โอเคๆ เรียกฉันว่าพี่ใหญ่โจวแล้วฉันจะเลี้ยงนาย!"
หลังจากตอบกลับ ลู่โจวก็เดินออกนอกประตูทันที เขาไม่ให้โอกาสเลยและทิ้งหวงกวงหมิงไว้ข้างหลัง
"พี่ใหญ่โจว! พี่ใหญ่โจว! อย่าพึ่งไป! ฉันพูดแล้ว!"
เมื่อเผชิญหน้ากับหนังสือแบบฝึกหัดเล่มหนา สีหน้าของหลิวรุ่ยก็ดูฝืนๆและสับสนเล็กน้อย
การแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ระดับประเทศ?
เขาเคยให้ความสนใจกับการแข่งขันนี้มาก่อนเช่นกัน เขากระทั่งเคยปรึกษาเรื่องรายละเอียดการแข่งขันกับรุ่นพี่ที่ชนะเลิศรอบก่อน เขารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งเพราะเขาขาดความสามารถ เดิมทีเขาเตรียมเข้าร่วมเมื่อขึ้นปีสอง เขาไม่คิดเลยว่าเจ้าโง่ลู่โจวจะสมัคร...
แม้ว่าความเป็นไปได้จะต่ำ แต่ถ้าเขาชนะการแข่งขันขึ้นมา...
ไม่มีทาง
หลิวรุ่ยหายใจเข้าลึกๆและกำหมัดแน่น เขาตัดสินใจแล้ว
ฉันยังมีเวลาอีกสามเดือนกว่าจะถึงกันยายน
หลังจากสอบคณิตวิเคราะห์เสร็จ ฉันจะสมัครด้วย!