EP23
By loop
รถตู้สีน้ำตาลผสมกับสีเหลืองอ่อนกำลังเลื่อนเข้าไปในถนนวอเตอร์
มอเตอร์ไซค์ฮอนด้าสีดำที่ค่อยๆเลี้ยวมาเบาๆและจอดข้างๆกับรถตู้
ลูหลิงยกมือขึ้นแล้วถอดหมวก ดวงตาของเธอจ้องมองที่ร้านคาราโอเกะที่มีชื่อแปะไว้ว่าตู้ทองคำ มันมี สีนีออนเหมาะแก่การเต้นรำและมีสีแดงสีเหลืองและสีเขียว ปรากฏอยู่ในดวงตาของเธอ
สติกกี้ทรู จอดรถและโดดออกมาจากรถตู้ของเขา
"จ้าวกวาง เราไม่เคยร่วมงานกับพวกนี้นะ พวกเราควรดูอย่างเดียวละกัน อย่าเข้ามาวุ่นวายกับงานของพวกนั้นเลย"
“ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น” ลูหลิงพูดและไม่แม้แต่จะมองหน้าคนขับ
"เฮ้! ฉันบอกเธอแล้วว่าเธอไม่ต้องมากับพวกเรา เดียวหลังจากข้ามถนนเส้นนี้ไปฉันจะโทรหาพี่ของเธอ"
สติกกี่ทรู เป็นนักเลงที่มีประสบการณ์อย่างโฉกโฉนในการทำงานด้านนี้โดยเฉพาะ เขาอายุยี่สิบแปดปีแล้วในปีนี้ แม้ว่าเขาจะติดตามลูหลิงทุกวัน แต่เขาก็ยังพูดกับเธอว่าจ้าวกวาง หน้าที่หลักของเขาคือแจ้งการเคลื่อนไหวของเธอให้พี่ชายของเธอและทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ของเธอ
สติกกี้ทรู อาศัยอยู่แถวตลาดปลาเมื่อตอนเขาอายุสิบสาม สถานที่นั้นถูกเรียกว่าตลาดขายส่งอาหารทะเล เจ้านายในตลาดคือ สตกกี้คิง ลูกน้องของเขาคือปากเหม็น, ขาเหม็น, ต้นขาเหม็น, มือเหม็น, ปลาเหม็น, กุ้งตุ้งติ้ง, งูเหม็นและกลุ่มคนอื่น ๆ สติกกี้ทรู ไม่สามารถใช้ชื่อของ สติกกี้ ได้ เขาจึงตั้งชื่อเขาเป็น สติกกี้ทรู และกลายเป็นที่รู้จักจนถึงปัจจุบันนี้
หลังจากนั้น ... ตำรวจก็ได้จับแก๊งค์ของสติกกี้ทรูได้ตอนที่เข้ายังอายุน้อยๆ แต่เขาก็หนีออกมาได้และงานของพวกก็เริ่มไม่ค่อยมี
เมื่อเขาโตขึ้น เขาเริ่มมองหางานที่มั่นคงที่บ้านตระกูลลู เขามีหน้าที่ส่งสินค้าและเร่ขายปลา ในบางที่เขาก็มีการออกไปข่มขู่พวกคนขายแผงเร่ขายปลาเพื่อความสนุกของเขา
อย่างไรเขาไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับลูชางมาก่อน แต่เขาก็ไม่เลือกที่จะเป็นนักเลงเพื่อหาเลี้ยงชีพดังนั้นเขาจึงถูกทางตระกูลลูให้มาดูแลลูหลิงแทน
ลูหลิงนั่งบนมอเตอร์ไซค์ของเธอเหมือนนั่งม้านั่ง เธอนั่งเอาขาเหยียดไปทางเดียวกันทั้งสองข้างบนมอเตอร์ไซค์ ในขณะที่สายลมพัดผ่านเส้นผมของเธอ เธอรูดซิปแจ๊คเก็ตลงพร้อมกับรอยยิ้มของเธอ
"นายคิดว่าฉันจะมาทันเวลาไหม? "
“ตราบใดที่เราไม่ทำให้เกิดปัญหา ราชากวาง สามารถจัดการทุกสิ่งได้ด้วยการเพียงการโทรเพียงครั้งเดียว” สติกกี้ทรูพูดอย่างอ่อนโยน ฟังดูเหมือนมันไม่ใช่เรื่องที่กล้าหาญเอาเสียเลย
ลูหลิง ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายจาก สติกกี้ทรู ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่แสงสีฉูดฉาดของร้านเพลงตรงหน้าเท่านั้น
"คนคนนั้นมีชื่อว่า ขาปลาเน่า แต่ทำไมเขาถึงยังอยู่ตรงนี้?"
“จริงแล้วขาปลาเน่าสมควรที่จะถูกยกขึ้นไปบนรถแต่ตอนนี้ฉันติดงานอื่น” สติกกี้ทูกล่าว
ลู่หลิงรู้สึกเบื่อ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นและยืนรอเกือบครึ่งชั่วโมง ก่อนจะเห็นขาปลาเน่าเดินออกมากับชายผมสีแดง
ในขณะนั้นอาจได้ยินเสียงดังออกมาจากร้านเพลง
"พวกเราควรเข้าไปไหม?"
ขาปลาเน่ารู้สึกตื่นเต้นมากเกินปกติ
"อย่าแม้แต่จะคิดเลยนะ!"
สติกกี้ทรู พึมพำ "เรามาดูอะไรกัน?"
"ถ้าเรามาเพื่อดูจริง! อย่างงั้นก็ต้องไปดูแล้วล่ะ"
เท้าของขาปลาเน่ากระทืบลงไปกับพื้น และแสดงความกระตือรือร้นออกมาในการสร้างชื่อเสียง ซึ่งดูแล้วจะกระตือรือร้นมากเกินไป
ตอนนี่ถือเป็นเวลาที่ดี เพราะเขาอายุยังไม่มากในการสร้างชื่อเสียง
มือของ สติกกี้ทรู ลูบไล้พุงของเขาก่อนที่เขาจะพูดอย่างพอใจขณะเขย่าพุ่งเล็กน้อย "ขาปลาเน่า ถ้าแกกล้าก้าวเท้าเข้าไปในร้านคาราโอเกะ ฉันจะทำให้แกไม่กล้าทำมันอีกเป็นครั้งทีสอง และฉันจะแสดงให้แกเห็นในวันนี้"
ลูหลิงอยู่อย่างเงียบ ๆ กับโทรศัพท์ของเธอ บางครั้งเงยหน้าขึ้นมองประตูร้านตรงหน้า
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เสียงของการทะเลาะกันก็ดังขึ้นมา
ลูหลิงลุกขึ้นยืนดู และเธอก็เห็นชายกลุ่มหนึ่งยื่นกล่องบางอย่างออกมาจากร้านคาราโอเกะ
นอกจากกลุ่มนั้นก็มีส่วนหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บวิ่งหนีออกมา และสะดุดขาตัวเองล้ม
"ไปกันเถอะ ... " ลูจินหลิงขับรถตู้ออกไปและชี้ไปที่แม่แรงพาเลทที่ใช้ขนอาหารทะเล มันเป็นคำสั่งที่เงียบ ๆ ที่มีขาปลาเน่าและ สติกกี่ทรู นำมาให้
แม้พวกเขาไม่เข้าใจว่าจะทำสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร เพราะสิ่งที่เขาทำมามีการปฏิบัติกันมาอย่างเนินนานแล้ว การดึงแม่แรงแท่นวางสินค้าเป็นสิ่งที่พวกเขาทำทุกวันในตลาด
ลูหลิง เดินผ่านลานจอดรถ ขาเรียวยาวทำให้เธอเดินได้เร็วขึ้น มันใช้เวลาไม่นานก่อนที่เธอจะมาถึงหัวขโมยที่ยืนพิงเสาอยู่ ร่างกายครึ่งหนึ่งของโจรถูกอาบไปด้วยเลือดหน้าตาของเขาดูเหนื่อยล้า
"พาเขาออกไป." ลูจินหลิงชี้นิ้วในนำตัวหัวขโมยไป
"อะไร?" สติกกี้ทรูและขาปลาเน่ามึนงงกับสิ่งที่เธอทำ
“ยกเขาขึ้นไปที่แม่แรงพาเลทแล้วพาเขาออกไป” ลูหลิงกล่าว
"เกิดอะไรขึ้น!" สติกกี้ทรูกำลังสับสน หากลูหลิงต้องการดูการชกต่อยของพวกอันธพาล ดูเหมือนกับการดูมวยนั้นไม่มีปัญหาอะไร แต่การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งนี้คงไม่ใช้เรื่องดีแน่
ลูหลิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะสรุปว่าการดึงผู้บาดเจ็บลงบนแจ็คพาเลทนั้นโง่เกินไป เธอเข้าหาชายที่อ่อนแอและพูดว่า "ฉันมีรถตู้! ฉันสามารถส่งนายไปที่โรงพยาบาลได้ นายมีเงินเพื่อไปหาหมอหรือเปล่า?"
“คุณคือ…จ้าวกวางเหรอ?”
ชายผู้บาดเจ็บรู้จักลูหลิงและมองไปรอบ ๆ ก่อนที่เขาจะถามว่า "ราชาแห่งกวางมาแล้วเหรอ?"
"เพียงตอบคำถามของฉัน! นายต้องการไปโรงพยาบาลไหม?"
ลูหลิงเริ่มหงุดหงิด
"โทร ... โทรหาพี่ชายของฉัน พวกเขาจะจ่ายแทนฉัน"
เสื้อยืดอันธพาลถูกปกคลุมไปด้วยโคลนและเลือด เขาใช้ความพยายามอย่างมากในการดึงโทรศัพท์อออกมาจากเสื้อ
"โอ้! นี้มันมือถือแอปเปิ้ลรุ่นใหม่นี่! ราคามันแพงมากเลยนะ!!" ลูจินหลิงพยักหน้าเธอ
"ขาปลาเน่า ค้นในกระเป๋าเงินของผู้บาดเจ็บ"
"มีเงินอยู่ในนี้" ขาปลาเน่ารู้สึกว่าเขาเข้าใจสิ่งที่ลูหลิงทำ และเขาจึงเร่งรีบในการทำตามคำสั่ง
"สติกกี้ทรูนายทำตั๋วเงินที่เราเหมือนกับต่อไปส่งปลามาให้เขาที่ มันน่าจะมีราคาอยู่ราวๆ 2000หยวนได้ ฉันมีส่วนลดอีก 20% ดังนั้นมันคือ 1,600 ถ้านายเต็มใจจะรับค่ามัดจำนี้ แต่ถ้าไม่ ฉันจะเอาเงินนี้ให้คนอื่น" ลูหลิงทำงานในร้านพี่ชายของเธอประมาณสามปี เธอเป็นนักบัญชีที่ยอดเยี่ยม มีความสามารถในการเขียนแม้ในขณะที่เธอพูด
สติกกี้ทูค่อนข้างคุ้นเคยกับการเขียนตั๋วเงินประเภทนี้ ด้วยการเตรียมตั๋วเงินไม่กี่น่าทีเขาก็ยืนตั๋วเงินให้กับชายที่กำลังบาดเจ็บ
"ฉันควรจะพูดกับคุณยังไงพี่ชาย"
"ไก่งวง."
"ชื่อจริงของนายคืออะไร คุณช่วยบอกหมายเลข ไอดี ของคุณให้ฉันรู้??"
ไก่งวงจ้องมองไปที่สองคนนั้นด้วยความลังเล
มันจบแล้ว ตอนนี้มีบางคนหนีรอดไปได้ ไม่มีการบอกว่าฝ่ายไหนชนะได้
ผู้บาดเจ็บนอนกองบนพื้น รอให้ญาติของเขาโทรเรียกรถพยาบาล หรือแท๊กซี่ให้ ไม่งั้นก็แค่รอรถตำรวจมาถึง
เรียกรถพยาบาลราคาไม่ถูกเลยเริ่มต้นคือ 50 หยวนและทุก ๆ กิโลเมตรต่อไปคือ 7 หรือ 10 หยวน แม้จะต้องจ่ายค่าเสียงภัยและค่ารถไปกลับ หากรถพยาบาลเหล่านี้นำแพทย์และพยาบาลมาด้วยพวกเขาจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการปรึกษาเพิ่มอีก
รถแท็กซี่และรถลาดตระเวนมันไม่ค่อยแพง แต่ถ้าเลือดดันไปเปื้อนที่เบาะรถคงจะต้องเสียค่าทำความสะอาดมหาศาลแน่
ไก่งวงมีสีหน้าที่เจ็บปวด เลือดไหลออกจากร่างกายของเขามากขึ้น เขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่เข้าร่วมการชกต่อยครั้งนี้ เขาแสดงความอึดอัดใจเป็นอย่างมาก
"ฉันชื่อ หวังหลิง บัตรประจำตัวประชาชนของฉันอยู่ในกระเป๋าเงินของฉัน" ไก่งวงบอกกับลูหลิง
สติกกี้ทรู ยิ้มอย่างรู้เท่าทัน เขากรอกใบเรียกเก็บเงินและให้เขาเซ็นชื่อพร้อมด้วยฝ่ามือ
“ขาปลาเน่าไปทำงาน” สติกกี้ทูตะโกนและรู้สึกว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลังงาน
"รับทราบ!" ขาปลาเน่าตอบกลับอย่าน่าประทำใจ
“ธุรกิจขนส่งผู้เจ็บป่วยทำไมถึงรายได้ดีเช่นนี้... ' รถเขนถูกผลักไปที่ลานจอดรถอย่างรวดเร็วเหมือนกับที่พวกเขาผลักปลาบ่อยครั้ง พวกเขาพับเบาะหลังของรถตู้ลงและโยนไก่งวงเข้าไปก่อนที่จะปิดประตู
ในขณะนั้น สติกกี้ทรูทำใบเก็บเงินใบที่สองเสร็จ เขามอบมันให้กับนักเลงหัวร้อนที่บาดเจ็บและให้เขาเซ็นมัน
ขาปลาเน่าส่งคนเข้าไปในรถตู้มากขึ้น สตติกกี้ทรู มีความตื่นเต้นและตื่นเต้นมากไปอีก เขาตามหลังลูหลิงและพูดอย่างสุภาพ "ลูกพี่กวางทอง นี่เป็นมันความคิดที่ยอดเยี่ยม เรารับคนเพียงสามถึงสี่คนขึ้นบนรถตู้ แต่กับได้เงินมากกว่าหมื่นหยวนนอกจากนี้ เราสามารถสร้างรายได้มากขึ้นด้วย โทรศัพท์และนาฬิกาทุกเรือนใช้แทนเงินประกัน "
ริมฝีปากของ ลู่หลิง ขดตัวเป็นสิ่งที่คล้ายกับคำราม “นายเรียกฉันว่าจ้าวกวางก่อนหน้านี้ และตอนนี้นายมาเรียกฉันว่าลูกพี่กวางทอง เพราะเห็นแกเงินเนี่ยนะ?”
"ฉันปฏิบัติต่อเธอเสมอในฐานะนายหญิงของฉัน ลูกพี่กวางทอง เธอนะมีจิตใจที่ดีแต่ทำไมเราไม่หาเงินจากการรับผู้ป่วยแทนที่จะไปส่งปลาล่ะ มันมีรายได้ดีกว่ามากเลยนะ"
สติกกี่ทรูพูดออกไปตรงๆว่าสิ่งเหล่านี่มันน่าอับอายตรงไหน?ตราบใดที่ได้เงินมันก็ดูเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจ? ที่สำคัญกว่านั้น ลูหลิงเป็นผู้ที่ได้รับเงินนี้
รถตู้และกำลังคนนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ถึงแม้จะรู้รายละเอียดของรหัสมันก็ยังเป็นเรื่องรองลงมา ตั๋วเงินที่พวกเขาเขียนมีคนเซ็นชื่อเหล่าเนี่ย เขาสามารถหารายได้จากเงินฝากของคนเหล่านี่สถานะคล้ายกับราชากวางที่สนับสนุนการกระทำของพวกเขา
อันธพาลอาจไม่นำเงินสดมาด้วยเมื่อเขาออกไปทำธุรกิจ การเรียกเก็บเงินที่ลงนามตอนนี้อาจไม่ได้รับการยอมรับในภายหลัง
แต่ด้วยการสนับสนุนของ ราชากวาง ค่าธรรมเนียมเพียงไม่กี่พันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธการจ่ายเงิน พวกเขายังต้องการแสดงความเคารพต่อเขา
ราชากวาง น่าจะสนับสนุนสิ่งนี้เพราะเห็นว่าจะช่วยให้ ลูหลิง น้องสาวของเขาสามารถทำมาหากินจากสิ่งนี้ได้
"ต้องเลือกคนที่เจ็บน้อยที่สุด"
ลูหลิงชี้ไปที่คนที่ถูกเฉือนต้นขา
แผลดูรุนแรง แต่จริงๆแล้วมันง่ายที่สุดที่จะใช้งาน ลูหลิงเชื่อว่าตอนนี้หลิงรันเป็นเพียงแพทย์ฝึกงาน บาดแผลที่ยุ่งเหยิงจะดูมากเกินความสามารถเขาสำหรับเขา
สติกกี้ทรู รับฟังและพยักหน้า "อาการบาดเจ็บเล็กน้อยเป็นสิ่งที่ดี เราไม่ต้องเสี่ยงกับการที่ผู้คนเสียชีวิตบนรถของเรา และเราก็สามารถประหยัดพื้นที่ในรถได้อีกด้วย และยังสามารถรับอีกสองถึงสามคน"
ปกติแล้วรถตู้คันนี้ใช้ในการส่งปลา แต่ตอนนี้มีอันธพาลห้าคนที่บาดเจ็บและตอนนี้พวกเขากำลังเดินทางบนทางหลวงไปยังตัวเมือง
"ถึงโรงพยาบาลหยุนหัวแล้ว"
ลูจินหลิงล็อครถมอเตอร์ไซด์ของเธอขึ้นแล้วชูขาปลาเน่าที่ด้านหลังของรถตู้ ชายคนนั้นถูกบังคับให้ต้องเบียดเสียดกับชายผู้มีเลือดด้านหลังขณะที่เธออ้างว่านั่งข้างคนขับ
สติกกี้ทรู เหยียบคันแร่ง เขาชำเลืองมองกระจกมองหลังและพูดกับคนไม่กี่คนที่ด้านหลังรถ “ลูกพี่กวางทอง เธอเป็นผู้หญิงที่ใจดีอย่างมาก เธออาจโยนพวกคุณเข้าไปในโรงพยาบาลที่น่ากลัวที่มีราคาสูงถึงสองพันหยวน คุณเห็นด้วยกับฉันไหม”
ไม่กี่คนที่อยู่ด้านหลังรถไม่ได้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ในขณะนั้นพวกเขาจ้องมองกันพร้อมที่จะปะทะกัน
"โดยวิธีการจะต้องจ่ายเงินฝาก ถ้านายต้องการที่จะได้รับการรักษาฉุกเฉิน กรุณากรอกใบเรียกเก็บเงินเหล่านี้ จากฉันนั่นจะเป็นห้าพันต่อครั้งรักษามันนั้นเป็นเงินกู้จากฉัน"
ลูหลิงก็คิดเรื่องนี้ในทันใด ในใจของแธอ เธอพูดว่า 'โชคดีที่ฉันคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว หลิงรันเองเป็นแพทย์ที่มาจากโรงพยายาหยุนหัว”
เมื่อสติกกี้ทรูได้ยินเรื่องนี้ดวงตาของเขาก็สดใสขึ้น และเขาก็ชื่นชมเธออีกครั้ง "ลูกพี่กวางทองเป็นผู้หญิงที่ใจดีมาก เธอช่วยคุณเมื่อคุณมีปัญหาด้วยการให้ยืมเงินกับพวกคุณเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของคุณ 40% และคุณมีเวลาสามเดือนในการจ่ายคืนมีเหตุผลใช่ไหม ใครไม่เต็มใจในสัญญานี้ก็ลงจากรถไปได้เลย "
ผู้ชายที่ได้รับบาดเจ็บในการส่งมอบตู้ปลาบ่นสั้น ๆ พวกเขายากจนแล้ว แต่พวกเขายังต้องการใช้เงินเพราะต้องใช้ในการรักษาอาการบาดเจ็บ และการได้รับเงินที่นี่ก็เหมือนกับการเอาเงินไปที่อื่น พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากจะใช้บริการกับเธอ
"ขับเร็วกว่านี้ได้ไหม!!"
ขาปลาที่เน่ามีความกังวล สติกกี้ทรู หัวเราะด้วยใบหน้าของเขายิ้มแย้มแจ่มใส ราชากวาง นั้นมี บริษัท สินเชื่อขนาดเล็กภายใต้ชื่อของเขา และจะมีการจ่ายค่าคอมมิชชั่นสำหรับทุก ๆ สินเชื่อที่ประสบความสำเร็จ
ลูจินหลิงยิ้มกว้าง ยิ่งเธอทำมากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งเห็นหน้าหลิงรันลอยเข้ามาใกล้มากขึ้นเท่านั้น นั่นคือ…เป้าหมายของเธอ เธอดูดีใจมากๆ