EP21
By Loop
ภารกิจต่อเนื่อง
หลิงรันซ่อนเซรั่มพลังงาน ที่ได้มาใหม่ในไว้ในชั้นสามของกล่องอาหารกลางวัน ก่อนกลับไปที่ห้องรักษา
จากนั้นหมอโจวก็ทำให้ผู้ป่วยรายอื่นจนเสร็จ เขาเงยหน้าขึ้นมองเห็นหลิงรันที่เดินกลับมา ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า เขาก้าวไปข้างหน้าทันทีและพูดว่า "เอาล่ะฉันเสร็จแล้ว! ที่เหลือก็ของนายแล้ว เย็บแผลคนป่วยทั้งหมดในตอนนี้"
เมื่อเขาพูดจบ หมอโจวก็ปลอบโยนผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว "หลิงรัน! เขาถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเย็บแผลของแผนกฉุกเฉินของเรา เขาทำมันได้ดีกว่าผมเสียอีก และมันจะเป็นเรื่องง่ายมากขึ้นถ้าคุณนอนเอนหลังตรงนี้"
ผู้ป่วยไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกต่อไปหลังจากฉีดยาชาเฉพาะที่ แต่จากนั้นอีกครั้งการเห็นเข็มยาวที่มีปลายที่โค้งฝังอยู่ที่ตัวมันทะลุเข้าไปในผิวของผู้ป่วย ใครเห็นก็ต้องตกใจ"มีอะไรอย่างอื่นที่ผมสามารถทำได้ไหม?"
ในขณะที่ดวงตาของเขากรอกไปมา ขณะที่เห็นใบหน้าอ่อนเยาว์ของหลิงรัน ผู้ป่วยที่ดูเหมือนจะอยู่ในวัยกลางคนดูจะไม่พอใจเล็กน้อย เขาพูดว่า "หนุ่มน้อย! คุณแน่ใจนะว่าคุณรักษามันได้?"
หลิงรันไม่ได้แสดงความสนเกี่ยวกับทัศนคติของผู้ป่วยมากนัก เขาตอบอย่างสุภาพว่า "ผมสามารถใช้เทคนิคการเย็บแผลแบบแยกส่วน และเทคนิคการเย็บที่นอนแบบแนวตั้ง แบบขัดจังหวะได้ ผมรับรองว่ามันจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นอย่างแน่นอน"
เทคนิคที่เขาเชี่ยวชาญคือเทคนิคการเย็บแผลหกพื้นฐานระดับกลาง และเทคนิคการเย็บที่นอนแนวตั้งระดับผู้เชี่ยวชาญ โดยคำว่า ' ระดับเชียวชาญ' เป็นเพียงทักษะเดียวที่เขาสันนิฐานว่าเป็นทักษะระดับสูงสำหรับเขา เทคนิคการเย็บที่แนวตั้งที่ถูกขัดจังหวะของเขาอาจเป็นระดับผู้เชี่ยวชาญ และสูงกว่าระดับกลางเพียงหนึ่งระดับ แต่ก็ดีกว่าหมอส่วนใหญ่ในโรงพยาบาลหยุนหัว
ผู้ป่วยไม่เข้าใจสิ่งที่หมอพูด เขาถามด้วยความงุนงง "การเย็บสองอย่างนี้มันมีชื่อที่ประหลาดอย่างมาก แล้วการเย็บเหล่านี้มันแตกต่างกันตรงไหน?"
หลิงรันตอบคำถามอย่างเต็มใจหากผู้ป่วยอยากรู้เกี่ยวกับการรักษา ซึ่งเขาครุ่มคิดสักครู่หนึ่งและคิดคำตอบให้ง่ายสำหรับคนทั่วไป "หากคุณถูกมีดบาดทั่วไป เราจะใช้เทคนิคการเย็บแผลแบบแยกส่วนแต่หากคุณโดนเศษเหล็กหรือของแข็งบาดเข้าบริเวณร่างกาย เราจะใช้เทคนิคการเย็บที่แนวตั้งแบบขัดจังหวะ"
"โดนเศษเหล็กหรือของแข็งบาดเข้าบริเวณร่างกาย?" ผู้ป่วยวัยกลางคนบีบขาของเขาเข้าหากัน แล้วดูหมอโจวเพื่อความสบายใจ
หมอโจวดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างแล้วเขาก็ยิ้มอย่างลึกลับ
"มาที่แผนกฉุกเฉินอีกสองสามครั้ง แล้วคุณจะเข้าใจว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่นี่"
"ทำไมผมถึงต้องงมาที่แผนกฉุกเฉินอีกครั้ง ถ้าผมไม่เป็นไร ... คุณ ...หรือว่า " ทันใดนั้นผู้ป่วยก็ดูเหมือนจะตกใจในเรื่องที่ได้ยินนี้
หลิงรันเย็บได้รวดเร็วเหมือนเคย
นักเล่นเกมที่มีประสบการณ์รู้ดีว่า นักพัฒนาเกมที่ไร้ยางอายจะตั้งใจจำกัดขอบเขตและขีดจำกัดของภารกิจและรางวัล เพื่อควบคุมความเร็วในการทำภารกิจของผู้เล่น ซึ่งช่วยให้พวกเขารักษาสมดุลที่เรียกว่าการเล่นในเกม
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมทุกภารกิจจึงเป็นพรที่ไม่ควรได้รับอนุญาต หนึ่งต้องไม่ลังเลแม้แต่เมื่อมีเหตุการณ์ที่นำเสนอให้พวกเขาหรืออื่น ๆ พวกเขาจะจบลงด้วยการเสียใจที่พลาดโอกาสทำสำเร็จ
หลิงรันไม่รู้ว่ามีข้อจำกัดดังกล่าวอยู่ในสถานการณ์ปัจจุบันของเขาหรือไม่ แต่เขามีความรู้สึกว่าเขาไม่ควรเสียโอกาสที่เขาได้รับในวันนี้
การกระทำที่เกิดจากระบบนั้นไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นหลิงรันต้องพึ่งพาตัวเองและทำงานอย่างหนักเพื่อบรรลุภารกิจของเขา
นอกจากนี้ภารกิจที่ระบบให้เขานั้นยังเกิดขึ้นพร้อมกับเหตุการณ์ต่างๆ สถานที่ และกลุ่มคนที่เหมาะสม
แผนกฉุกเฉินไม่ได้ยุ่งทุกวันนี้
เมืองหยุนหัวถึงแม้จะเกิดอุบัติเหตุมากมายหลายครั้ง แต่เหตุการณ์ที่โรงงานจะระเบิดก็ไม่ได้เกิดกันง่ายๆ
หากเป็นวันอื่น ๆ แผนกฉุกเฉินอาจะไม่มีอะไรให้หลิงรันฝึกฝีมือได้เพียงพอ
หมอประจำบ้านพวกเขามีคุณสมบัติที่จะหยิบคีมเฉพาะเมื่อแผนกฉุกเฉินอยู่ในช่วงเวลาที่คับคันที่สุดเท่านั้น แต่พวกเขาจะยังไม่สามารถจับมีดผ่าตัดได้เพราะนี้ถือว่าเป็นคุณสมบัติของแพทย์ระดับสูงเท่านั้น
เมื่อใดก็ตามที่มีผู้ป่วยบาดเจ็บจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามา พวกเขาส่วนมากก็จะเลือกโรงพยาบาลขนาดใหญ่เช่นโรงพยาบาลหยุนหัวเป็นอันดับแรกเสมอ
ท้ายที่สุดการที่รถพยาบาลห้าคันนั้นเข้ามาซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานโรงพยาบาลหยุนหัว แม้แต่โรงพยาบาลขนาดเล็กก็จะถูกตัดงานทั้งหมดออก หากพวกเขามีผู้ป่วยสองคนที่อยู่ในภาวะวิกฤติมาอยู่ที่หน้าประตูโรงพยาบาล
โรงพยาบาลขนาดใหญ่ทั้งหมดได้เข้าครอบครองอย่างเต็มที่แล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะต้องทำให้มีที่ว่างสำหรับผู้ป่วยมากขึ้น แม้แต่งานที่ต้องใช้มือมากที่สุดก็ต้องเข้าร่วมด้วยมือที่มีอยู่ ในบางครั้งมือเหล่านี้จะเป็นของคนที่อายุน้อยกว่ามาก
เมื่อใกล้จะถึงเวลาสิ้นสุดการทำงาน หลิงรันได้ทำทรีทเม้นท์ยี่สิบครั้ง และเขาได้รับหีบสมบัติขั้นพื้นฐานที่สองของเขา และเซรั่มพลังงานสีเขียวตัวที่สามของเขาอย่างราบรื่น
หลังจากเห็นผู้ป่วยออกมาจากห้องเล็กๆ หลิงรันเหยียดแขนจนสุดในขณะที่เขาหยุดพักความคิดของเขา 'ฉันต้องรักษาให้เร็วกว่านี้'
แผนกฉุกเฉินตอนนี้เต็มไปด้วยหัวหน้าแผนก และผู้ที่เกี่ยวข้องเองก็กำลังยุ่งอยู่กับผู้ป่วยวิกฤติ และปล่อยให้ผู้ป่วยจำนวนมากที่เหลือเป็นหน้าที่ของหมอมือใหม่
ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังต้องรับมือกับปริมาณการเคลื่อนคนในแผนกฉุกเฉินจำนวนมากอยู่ดี
หัวหน้าแผนกและผู้ร่วมผ่าตัดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแพทย์อาวุโสหรือแม้แต่หมอประจำบ้าน เมื่อมีเหตุการณ์ที่วิกฤติและน่ากังวลเกิดขึ้น พวกเขาจะรักษาจนมั่นใจได้ว่าผู้ป่วยอยู่ในสภาวะปลอดภัย ก่อนที่จะนำพวกเขาออกมาจากห้องรักษาเพื่อส่งให้แผนกอื่นดูแลต่อไป ซึ่งถ้าผู้ป่วยยังไม่อยู่ในสถานะปลอดภัยและให้ย้ายไปแผนกอื่นผู้ป่วยเหล่านั้นอาจเสียชีวิต
"หมอโจว! ผมจะขอให้คุณช่วยผมในการรักษาใครบางคนได้ไหม?" หลิงรันร้องขอความช่วยเหลือ
"ช่วยหรอ? ต้องการให้ช่วยอะไร?" หมอโจวจิบน้ำเปล่า แพทย์วัยกลางคนเหล่านี้เติบโตขึ้นมาจากการดูละครหรือภาพยนต์ที่เกี่ยวกับทางการแพทย์
ในญี่ปุ่น การดื่มน้ำต้มเป็นบรรทัดฐานมาตรฐานสำหรับพวกเขา แต่ใบหน้าที่ไม่พอใจเล็กน้อยของเขาทำให้กระบวนการทั้งหมดดูค่อนข้างเคอะเขิน
หลิงรันหยิบแก้วอุ่น ๆ น้ำที่ประดับด้วยมะนาวฝานเป็นรูปดาวจากนางพยาบาลหวัง เขาจิบอึกใหญ่ก่อนที่จะเทครึ่งแก้ว ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจยาวและพูดว่า "ผมต้องการผู้ชายสองคนในการทำงานและให้ความร่วมมือกับผม คนหนึ่งจะวิเคราะห์การรักษาในขณะที่อีกคนจะแต่งบาดแผลในขณะเดียวกันผมจะเย็บแผล เราจะสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว ด้วยวิธีนี้เหมือนกับที่เราทำกันตอนนี้ "
หลิงรันไปพบผู้ป่วยทันที หมอโจวแสดงความไม่พอใจในตอนนี้ หลังรันใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการเย็บแผลจนเสร็จ และใช้ยาประกอบกับผ้าพันแผลและสิ่งอื่นๆ หากมีคนอื่นอยู่ที่นั่นเพื่อรับตำแหน่งของเขาและเริ่มตกแต่งบาดแผล…พูดง่ายๆในเวลานั้นไม่ว่าผู้ป่วยจำนวนมากเท่าไรที่จะเข้ารับการรักษาในแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลหยุนหัว พวกเขาก็ยังคงมีไม่เพียงพอสำหรับหลิงรันที่จะรักษาจนกว่าเขาจะเสร็จภารกิจ
'อืม! จะทำอย่างไรดีถ้าเราไม่มีผู้ป่วย ... ?'
หลิงรันกลับมานั่งคิดอีกครั้ง
ในทางกลับกัน ใบหน้าของหมอโจวหม่นหมอง
"นายกำลังคิดว่าจะให้ฉันช่วยในการเย็บแผลแบบดีบาย ใช่ไหม?"
หมอทั่วไปและหมอประจำบ้านเกลียดการเย็บแผล มีผู้ป่วยจำนวนสี่คนในตอนนี้ เขาเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ 'หมอฝึกหัดคนนี้ต้องการให้หมอประจำบ้านช่วยเขาทำการเย็บแผล’
“เดี๋ยวก่อน! คุณเต็มใจช่วยผมจริงหรือเปล่า”
หลิงรัน ลูบคางของเขาด้วยความประหลาดใจ
หมอโจวรู้สึกประหลาดใจไม่แพ้กัน
"นายไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นเหรอ?"
"ผมคิดว่าจะขอให้หมอฝึกงานสักสองสามคนเข้าช่วยผม" หลิงรันไม่ได้คิดว่าหมอที่ขี้เกียจคนนี้จะกระตือรือร้นที่จะช่วยเขา
โจวตกตะลึงไปครู่นึ่ง จากนั้นเขาพูดว่า "นายกำลังคิดว่าจะให้โอกาสกับนักศึกษาคนอื่นใช่ไหม? ดังนั้นนายกำลังมองหาหมอชายหรือหมอหญิงล่ะ"
เมื่อคำพูดถูกพูดออกมาพยาบาลหวังมีแววตาที่กังวลมองไปที่หลิงรัน
"มันไม่สำคัญหรอก"
หลิงรันพูดคำว่า 'โอกาส' สักครู่หนึ่ง จากนั้นเขาพูดว่า "แค่เพื่อนร่วมห้องของผม"
ในขณะที่เธอได้ยินว่าหลิงรันต้องการเพียงเพื่อนผู้ชายของเขา พยาบลหวังรู้สึกโล่งใจ จากนั้นเธอก็พูดกับหลิงรันว่า "จำนวนผู้ป่วยที่มาในวันนี้มีมากกว่าปกติ เรามักจะได้รอรับจากหมอที่รออยู่ข้างนอกเพื่อโอกาสในการฝึกฝนของหมอฝึกหัดด้วยเช่นกัน"
หมอโจวเดินออกไปและบ่นพึมพำ "ไม่เป็นไร! เรียกพวกเขาเข้ามาเลย แต่นายต้องอธิบายให้หมอผู้ควบคุมดูแผนกของหมอเหล่านั้นให้เข้าใจสิ่งที่เรากำลังทำ ... "
เมื่อใดก็ตามที่แผนกฉุกเฉินยุ่ง หมอประจำบ้านและหมอฝึกหัดจากหน่วยงานอื่นมักจะรีบไปช่วย พวกเขา ทุกคนมีสิทธิในการทำงานเท่าเทียมกัน
เฉินวันห่าวและพยาบาลหวัง ดีใจเมื่อได้ยินดังนั้น
มันเป็นเรื่องยากอย่างแท้จริงสำหรับหมอฝึกงานที่จะได้รับโอกาสฝึกฝนฝีมือ ไม่กี่วันที่ผ่านมาได้บอกพวกเขาทั้งหมดว่าพวกเขาจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับข้อเท็จจริงนี้
พวกเขาสองคนยังคงถูกเกณฑ์ในแผนกของตนเองโดยไม่ทำอะไรนอกจากชงชา และเขียนรายงานทางการแพทย์ทุกวัน พวกเขาสามารถฝันถึงการสัมผัสผู้ป่วยในช่วงเวลาสั้นๆในตอนท้ายของการหมุนเวียนในแผนกเท่านั้น ตอนนี้พวกเขามีโอกาสฝึกฝนอย่างเต็มที่ พวกเขาสามารถเปรียบเทียบได้กับหมอประจำบ้านโดยห้องของเขาเป็นเพียงห้องพักเล็กๆ แต่เมื่อเขาผ่านจุดนั้นไปแล้วจะได้รับการอัพเกรดเป็นห้องสวีทแบบประธานาธิบดีในโรงแรมหรูหรา
ช่วงเวลาที่เฉินวาน มองเห็นหลิงรัน เขาเดินไปหลบมุมและกระซิบอย่างอย่าง
หูฟังสีแดงสามเอ็ม ยังคงแขวนอยู่บริเวณหน้าอกของเฉินวาน
โดยปกติแล้วหูฟังของแพทย์นั้นไร้ประโยชน์ อย่างไรก็ตามเขาได้รับฉายา 'หูฟังสีแดง' ในแผนกของเขา แต่เขาไม่ค่อยสนใจฉายานั้นซ่ะเท่าไร แต่เขาสนใจที่จะเข้าร่วมกับทีมที่จะกลายเป็นที่หมอฝึกงานที่โดดเด่นที่สุดในโรงพยาบาล
หลิงรันพูดว่า "มันไม่ใช่แค่เรื่องคน แต่มันเกี่ยวข้องกับงานที่ส่งให้ด้วย"
"ไม่มีปัญหาใช้ไหม?"
"นายจะทำงานได้ไหม? ถ้าฉันส่งงานต่อให้?" หลิงรันโต้กลับ
เฉินว่านหาวถูกจับตามองด้วยคำถาม
ในที่สุดเขาก็หัวเราะด้วยความเย้ยหยันและพูดว่า "ฉันคิดว่าไม่มีปัญหา"
เขาหยิบกล้องของขวัญสีแดงไปเก็บไว้ใต้เกะและเริ่มแสดงอาการลังเล
เมื่อหลิงรันเห็นว่าเขาไม่มีคำถามอีกต่อไป เขาพูดอีกครั้งว่า "ฉันต้องการใครซักคนที่ประเมินอาการบาดแผลก่อนการเย็บ และอีกคนจะเป็นคนตกแต่งตัวบาดแผล นายสามารถเลือกก่อน ... "
จวงยองรีบพูดว่า "สภาพแผลหลังจากการรักษานี้ดูแย่จัง"
"ผมทำหน้าที่ในการตรวจอุจาระอยู่ในห้องปฏิบัติการมานานแล้ว จะมีอะไรน่าขยะแขยงมากกว่าที่ผมทำแล้ว?" เฉินวันห่าวแสดงสี้หน้าไม่ชอบใจ เขามักจะทำหน้าขยะแขยงจนติดนิสัย ใส่ไปที่หมอยอง
จวงยองอยู่ในโหมดคร่ำครวญจากนั้นเขาก็ใช้น้ำเสียงที่ได้ยินกันเป็นประจำคล้ายน้ำเสียงในสารคดี ก่อนที่หมอยองจะพูดว่า "เมื่อคุณพบว่าคุณอยู่กลับสิ่งสกปรกมากยิ่งขึ้น คุณจะเชื่อมโยงมันไปกับทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณเห็นจนรู้สึกว่ามันอยู่รอบตัวเราไปส่ะทั้งหมด?
"นาย ... " เฉินวันห่าวรู้สึกประหลาดใจด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมของหมอตรงหน้า
"เมื่อถึงตาของนายที่จะต้องย้ายไปอยู่ที่ห้องแล๊ป นายจะรู้ว่าฉันกำลังหมายถึงอะไร"
เสียงของจวงยองทำให้เขาดูเหมือนกับนักปราชญ์ที่คิดเสียงดัง เขาพึมพำว่า“แค่คิดว่าเราเป็นหมอฝึกงานในห้องแล๊ปก็ทำให้ดูเหมือนว่าเราเป็นแรงงานชั้นต่ำ เพราะไม่มีหมอคนใดอยากเข้าไปทำงานที่นั้นเลย”
“นายคงจิตนาการไม่ออกใช่ไหม?”
เฉินวันห่าวรู้สึกเย็นเล็กน้อยเมื่อหลังของเขาถูกแนบด้วย อุปกรณ์ตรวจร่างกายอย่าง“หูฟังสีแดง”
"ผู้ป่วยกำลังมา" พยาบาลหวังก้าวเข้ามาพูดตัดบท
คนที่เดินตามมาอย่างใกล้ชิดด้านหลังพยาบาล เป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่ได้เกิอุบัติเหตุหกล้มลงเมื่อเขาขึ้นไปเก็บรังนก มีเข็มสนและกากตะกอนจากบาดแผลตรงบาดแผล อย่างไรก็ตามเขาดูเหมือนจะไม่ได้มีเลือดออกมาก
หมอโจวรีบนั่งตัวตรงพร้อมกับมองหน้าอย่างจริงจัง ก่อนอื่นเขายืนยันว่าชายหนุ่มไม่ได้บาดเจ็บที่ศีรษะ เขาโล่งใจเมื่อมันไม่เป็นเช่นนั้น เขาจึงเดินออกไป
ด้วยความช่วยเหลือของหลิงรัน เฉินวันห่าวเริ่มแสดงความกังวลออกมาเล็กน้อย แม้แต่ดวงตาของเขาจะเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความสุขก็ตาม
ผู้ป่วยนั้นหัวของเขาถูกทุบด้วยหิน ที่แขนของเขาถูกกระทบด้วยกิ่งไม้ และที่ต้นขาถูกเจาะด้วยลูกสน ...
ผู้ที่ไม่เคยเป็นหมออยู่ในแผนกฉุกเฉิน จะพบว่ามันยากมากที่จะจินตนาการถึงความหลากหลายของการบาดเจ็บที่คนๆหนึ่งจะสามารถเป็นได้ และความแปลกประหลาดของแผลเหล่านั้น
เฉินวันห่าวและจวงยองมีความเชี่ยวชาญในงานของพวกเขามากขึ้น ในทางกลับกันหลิงรันเองก็ได้โชว์วิธีการเย็บแผลที่รวดเร็วของเขา
'กระบวนการรักษา'สำหรับการเย็บถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วระหว่างพวกเขาทั้งสาม
ใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมงกว่าที่ภารกิจของหลิงรันจะกระโดดจากยี่สิบคนไปที่สามสิบคน
"เก็บมันไว้!" หลิงรันได้รับเซรั่มพลังงานอีกครั้งและทำภารกิจต่อไป
เขาตั้งใจจะเคลียร์คนไข้ออกครึ่งหนึ่งในขณะที่คนอื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส
หมายเหตุผู้แปล:
1ชนชั้นกลาง: ชั้นกลางเล็ก ๆ น้อย ๆ มันเป็นคำภาษาฝรั่งเศสที่อ้างถึงกลุ่มชนชั้นกลางตอนล่าง