EP 78
By loop
"หมอหลิงอยู่ที่นี่แล้ว" หมอลู่ซึ่งพึงมาถึงโรงพยาบาลเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนพยายามแสดงให้เห็นว่าเขาทำงานหนักแค่ไหนคู่กับหลิงรัน
อาชีพแพทย์ไม่ว่าจะหน้าตาแบบไหน ไม่ว่าหน้าตาดี หล่อเหลาหรือแม้กระทั้งหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวแต่พวกเขาจะได้รับการปฏิบัติอย่างเห็นใจ และอบอุ่นเสมอถ้าพวกเขาแสดงความขยันในการปฏิบัติงานออกมา
ทักษะที่ดีไม่ได้เกิดจากการเกิดจากพรสวรรค์เท่านั้น แต่ยังมาจากการหล่อหลอมผ่านการทำงานหนักด้วยเช่นกัน
แพทย์ที่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ดี ยิ่งเป็นแพทย์ที่ยู่ในตำแหน่งสูงนั้นๆยิ่งเข้าใจดีที่สุด
หมอลู่ มั่นใจว่าเขาจะไม่มีวันประทับใจในพรสวรรค์ของหลิงรันท่าไร แต่เขาสามารถชดเชยให้ได้ด้วยการทำงานหนัก
หมอลู่ เป็นคนที่แข็งแรง ซึ่งเขาออกจากงานตอนสามทุ่มและเดินไปที่โรงยิมในอาคารเทคโนโลยีทางการแพทย์โดยเขาใช้เวลาออกกำลังกายถึงสี่สิบนาทีต่อวัน เมื่อสังเกตดูที่มือของเขานั้นมีขนาดถึงห้าฟุตและนิ้วที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ อีกทั้งแขนของเขายังมีกล้ามเนื้อไบเซปหนาถึงสิบสี่นิ้วโดยที่เมื่อเขายื่นอยู่บริเวณประตูของสำนักงานที่มีขนาดใหญ่ตัวของเขาแทบจะบังประตูจนมิด
เขายิ้มด้วยรอยยิ้มที่สดใสก่อนจะถามหลิงรันว่า"หลิงรัน ผมพร้อมแล้ว วันนี้พวกเราต้องเข้ารอบวอร์ดใช่ไหม?"
"ทำเสร็จไปแล้วล่ะ" หลิงรันหาวเบา ๆ เนื่องจากเขาตื่นอนมาตอนตีสี่ และตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบสี่ชั่วโมงแล้วเพราะเขาไม่ได้ใช้เซรั่มพลังงานเลยมันจึงเป็นสาเหตุที่เขาแสดงอาการง่วงออกมาให้เห็น
หมอลูตัวแข็งทื่อเหมือนรูปปั้นก่อนที่จะกระซิบ "คุณยังจะเข้ารอบวอร์ดล่วงหน้าอีกรึเปล่าเนี่ย?"
“วันนี้ผมมาก่อนเวลาปกติสองชั่วโมง และผมก็คงจะเวลาตามวันนี้แหละสำหรับวันพรุ่งนี้” หลิงรานระบุตามความจริง
'สองชั่วโมง' เมื่อได้ยินอย่างงั้นมันทำให้หูของหมอลู่เหมือนมีคนโยนระเบิดใส่หูของเขาหูเขารู้สึกอื้อไปหมด
"แสดงว่านายมาตอนตีห้าใช่ไหม?" หมอลู่เหมือนลิ้นของเขาชาชั่วขณะ
หลิงรันพยักหน้า "จริงๆแล้วก็ประมาณตีสี่นะ"
หมอลู่รู้สึกอึกอัดใจและรู้สึกช๊อคซึงเขาเริมมีความวิตกกังวลเกิดขึ้นในหัวของเขา
'ถ้ามีคนดีกว่านาย นายควรทำอย่างไร
ถ้าเขาขยันมากกว่านาย นายควรทำอย่างไร
'ถ้าเขาหล่อกว่านาย นายควรทำยังไงดี?
'ฉันควรทำอย่างไร?
'ฉันควรทำอย่างไร?!'
หลิงรันส่งบันทึกทางการแพทย์ที่มาจากรอบวอร์ดไปที่หมอลู่แล้วพูดว่า
หมอลู่มีอาการนิ่งไปชั่วขณะ ณ ขนาดนั้นมาหยานลินเดินอ้อมออกมาจากข้างหลังของหมอลู่ และเอื้อมมือไปหยิบหนังสือบันทึกทางการแพทย์ และเขาบอกว่าเขาจะคัดแยกบันทึกให้ ซึ่งเขาอเริ่มแบ่งบันทึกที่ได้รับมาไว้บนตู้เก็บเอกสารของสำหนักงาน
ในสำนักงานของแพทย์ แพทย์จะมีแบบฟอร์มค่าใช้จ่ายอยู่เต็มตู้สำนักงาน ตัวอย่างเช่น 'แบบฟอร์มให้ความยินยอมที่ได้รับการบอกกล่าว' 'การแจ้งให้ทราบถึงการเจ็บป่วยที่สำคัญ' และ 'คำแนะนำในการจำหน่าย บันทึกทางการแพทย์ของผู้ป่วยบันทึกรอบหอผู้ป่วยและอื่น ๆ จะรวมอยู่ในนั้นด้วย โดยปกติมีการสุ่มตรวจโดยกรรมการและผู้จัดเก็บ เมื่อใดก็ตามที่โรงพยาบาลต้องให้คะแนนโรงพยาบาลทั้งหมดจะเริ่มต้นการมอบหมายงานและการตรวจสอบงานของแพทย์ ซึ่งโรงพยาบาลทั้งหมดมักใช้เวลาเกือบครึ่งปีในการเขียนรายงานที่ยังไม่ได้เขียนขึ้นมาหรือเขียนออกมาไม่ดี
กระบวนการนี้คล้ายกับโรงเรียนประถมที่ใช้การคัดลอกแผนการสอนเพื่อส่งให้ทางส่วนกลางตรวจ หรือ แม้กระทั้งพรรคการเมืองที่พยาบามจะคัดลอกนโยบายของพรรคข้างๆเพื่อให้ตนเองถูกเลือก
หมอลู่ เป็นคนที่ทำอะไรรวดเร็ว แต่เขาก็ยังช้ากว่าแพทย์ประจำบ้านคนนี้ ตอนนี้เขารู้สึกโกรธมากเหมือนในการ์ตูนที่หน้าของเขาเริ่มแดงและลมออกหู สิ่งที่เขาทำต่อไปคือ เขารีบพูดว่า "ในระหว่างรอบวอร์ดเมื่อวานนี้มีเตียง 3 และ 7 มีอาการผิดปกติเล็กน้อย ผมเลยให้ยาและให้คำแนะนำกับผู้ป่วยไปโดยที่ผมแนะนำว่า ผู้ป่วยต้องยกขาที่บาดเจ็บขึ้นและนำไปแช่ในน้ำร้อนส่วนเตียงที่ 9 ผู้ป่วยบ่นว่าตนมีอาการวิงเวียนศีรษะผมจึงปรึกษากับคุณหมอโจวโดยเขาแนะนำว่าให้คนไข้นอนพักเยอะๆ ... "
“ผู้ป่วยเย็บแผลเมื่อวันก่อนและเมื่อวานนี้ไม่มีอาการผิดปกติหลังจากการทำการดมยาสลบ” มาหยางลินพูดตัดบทเขา
"ดีเลบ นี้เป็นการวินิจฉัยโรคที่ดีมาก" หมออลู่ก้มหัวลง โดยที่ความวิตกกังวลที่เกิดจากความซับซ้อนถึงสิ่งที่ด้อยกว่าเมื่อพูดถึงความสามารถ ความขยันและหน้าตามันคงจะไม่หายไปง่าย แต่อย่างไรก็ตามชีวิตและงานยังต้องดำเนินต่อไป
เขาเป็นหมอประจำบ้านและเขาทำหน้าที่ของแพทย์ประจำบ้าน การตรวจดูรอบ ๆ หอผู้ป่วยและให้ความสนใจกับสภาพของผู้ป่วยเป็นงานพื้นฐานที่สุดของพวกเขา ซึ่งในโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่การแพทย์ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยมากที่สุดคือแพทย์ประจำบ้านและพยาบาล
ความถี่ของแพทย์หลายคนที่เดินตรวจรอบหอผู้ป่วยโดยปกติจะพบว่าแพทย์จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาเป็นแพทย์ที่แผนกศัลยกรรม หลายครั้งแพทย์ในแผนกนี้จะจำได้ชื่อของผู้ป่วยได้แค่ตอนพวกเขาจะผ่าตัดเท่านั้น
ผู้ป่วยรอบๆวอร์ดจะพบกับหัวหน้าแพทย์เป็นระยะๆเท่านั้นซึ่งถือเป็นเรื่องยากที่จะได้พบ อีกทั้งการเดินรอบวอร์ดทั้งหมดนั้นจะเกิดขึ้นเพียงสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น เพราะอัตราการหมุนเวียนเตียงในโรงพยาบาลปัจจุบันผู้ป่วยมีจำนวนมากและพวกเขามีระยะเวลาที่จะได้ออกจากโรงพยาบาลเฉลี่ยภายในสามถึงสี่วัน
หลิงรันยังเดินตรวจรอบวอร์ดสองถึงสามรอบก่อนหน้านี้และจุดประสงค์หลักของการตรวจรอบวอร์ดของเขาก็เพื่อจะสังเกตผู้ป่วยหลายคนที่เขาได้รักษาหลังจากที่พวกเขาได้รับการผ่าตัดไปแล้วและในท้ายที่สุดสิ่งที่เขาได้รับมามีเพียงวิธีการใช้เทคนิค เอ็มถังเท่านั้นซึ่งเมื่อถามถึงผู้อำนวยการฮวงเขามีกิจวัตร์อื่นๆที่จะต้องทำอยู่เสมอไม่มีเวลาเดินตรวจอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามตอนนี้หลิงรันมีทักษะการตรวจร่างกายระดับผู้เชี่ยวชาญทำให้เขามีประโยชน์มากกว่าแพทย์ประแผนก
"เตียงที่ 3 และเตียงที่ 7 อาการของแผลทั้งสองเตียงเอ็นกล้ามเนื้อที่ผ่าตัดมีการยึดเกาะกันได้ดีมากชึ้นและอาการของพวกเขาควรจะดีเพิ่มขึ้นซึ่งไม่ต้องกังวลว่าแผลจะฉีก เพราะผมได้เตือนคุณแล้ว และนี้ก็เป็นรอบที่สองในการมาตรวจอาการมันก็ดูปกติดี"หลิงรานกล่าว
"โอเค" มาหยานลินเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เขามายื่นอยู่ต่อหน้าหมอลู่
"ใช่”หมอลู่ผู้มาทำงานตั้งแต่เช้าตรูเขาค่อยๆลุกขึ้นยืน
"นอกจากนั้นยังมีความจำเป็นที่จะต้องมีโปรแกรมการตรวจเพิ่มเติมสำหรับผู้ป่วยหลายรายโดยเฉพาะเตียงสิบเอ็ดให้เขาทำเขาไปตรวจจอาการด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงเพราะผมสงสัยว่าเขามีของเหลวในช่องท้อง” สำหรับตอนนี้หลิงรนยังเป็นแพทย์ฝึกงานอยู่ เขาไม่สามารถสั่งยาหรือให้คนไข้เข้าโปรแกรมการรักษาใดๆได้ เขาต้องสั่งผ่านหมอลู่
นี่คือเหตุผลที่ผู้อำนวยการฮวงบังคับอย่างแรงในการมอบหมายแพทย์ประจำแผนกให้เป็นผู้ช่วยหลิงรัน
หมอลู่พยักหน้า เขาสามารถจัดการกับอาการป่วยง่าย ๆ และกำหนดยาตามแนวทาง แต่เขาไม่สามารถจัดการกับกี่ตัดสินที่ต้องใช้ความรัดกุมอย่างสูงได้
หลิงรันการเดินตรวจสรุปสองชั่วโมงในสองสามคำโดยสิ่งที่เขาทำมันก็เหมือนกันกับหมอประจำแผนกส่วนใหญ่และมันก็ไม่น่าสนใจอีกทั้งยังเสียเวลาเหมือนกับงานประจำของคนทำงานออฟฟิศ
วันนี้มีผู้ป่วยกี่คน? หลิงรันสอบถามเกี่ยวกับการผ่าตัดตามกำหนดของเขา
มันเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาสนใจมากที่สุด
“โอ้ผมเพิ่งดูมา จนถึงตอนนี้ก็มีอยู่สามคน” หมอลู่ รีบไปรับเอกสารประวัติและมองหาเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ภายใน
"เทคนิค เอ็มถังมีอัตราความสำเร็จสูงและเสริมกับการวินิจฉันที่ดีมันทำให้โรงพยาบาลมักอ้างถึงผู้ป่วยของเราซึ่งมันจะได้รับการดูแลและส่งเสริมจากโรงพยาบาลเป็นพิเศษสำหรับการรักษาด้วยเทคนิคเอ็มถัง"
หลิงรันก้มศีรษะลงเพื่อดูบันทึกทางการแพทย์
สำหรับแพทย์ตราบใดที่ทักษะการแพทย์ของพวกเขานั้นดีจะทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาน้อยมาก
เมื่อพูดถึงการอ้างอิงโรงพยาบาลระดับล่างก็ไม่มีอำนาจเทียบกับโรงพยาบาลระดับสูงได้ พวกเขาไม่สามารถติดตามผู้ป่วยได้ในช่วงเวลาส่วนใหญ่ แต่แพทย์โรงพยาบาลระดับสูงมักมองว่าโรงพยาบาลระดับล่างด้วยสายตาที่ดูถูกเหยียดหยามและเย้ยหยันโดยบอกว่าพวกเขาไม่สมควรที่จะถูกเรียกว่าแพทย์
ถึงกระนั้นโรงพยาบาลระดับล่างก็ตระหนักถึงช่องว่างในทักษะและยอมรับสถานะของพวกเขาอย่างเงียบ ๆ
แพทย์จะเป็นผู้แนะนำแต่จะไม่ติดตามอาการของผู้ป่วยแต่ละราย แต่ถ้าผลลัพธ์ออกมาน่าพึงพอใจพวกเขาก็จะบอกกับผู้ป่วยโดยแพทย์จะกล่าวว่าจะส่งผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาลอื่นๆต่อไปอยู่บ่อยครั้ง หากมีปัญหาหลายอย่างเกิดขึ้นหลังจากที่ส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลอื่นพวกเขาจะหยุดส่งต่อผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาลซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติ ที่พวกเขาจะย้ายผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาลระดับสูงอีกแห่งหนึ่ง
โรงพยาบาลขนาดเล็กในพื้นที่เล็ก ๆ มีอยู่ทั่วไป แพทย์และผู้ป่วยมีแนวโน้มที่ใกล้ชิดกันมาก แม้ว่าแพทย์จะย้ายผู้ป่วยไปโรงพยาบาลขนาดใหญ่เพื่อการรักษาและความเชี่ยวชาญที่ดีขึ้น แต่พวกเขาก็หวังว่าผู้ป่วยจะได้รับการรักษาที่ดีที่สุด ในกรณีเดียวกันกับคลินิคตระกูลหลิงมักจะส่งผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาลหยุนหัว หากในขณะนั้นหัวหน้าหยาง ไม่พบกับหลิงรันก่อน หลิงโจวผู้เป็นพ่อ จะรีบจัดการส่งหัวหน้าหยางไปโรงพยาบาลหยุนหัวทันที มันจะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของเขาว่าเขาควรส่งต่อผู้ป่วยรายต่อไปคือหยุนหัวหรือโรงพยาบาลประจำจังหวัด
ขอบคุณ ผู้อำนวยการฮวง และ บริษัท การแพทย์จังหวัดฉางซีทำให้โรงพยาบาลขนาดเล็กเหล่านี้สนใจที่จะส่งผู้ป่วยมาให้ แต่ไม่ได้อยู่ในระดับที่จริงจังมาก โรงพยาบาลบางหลายแห่งส่งผู้ป่วยไปเพื่อแผนกศัลยกรรมมือโรงพยาบาลหยุนหัวเท่านั้น
ณ ตอนนี้มีบางสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย
เทคนิค เอ็มถังของแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลหยุนหัวมีคุณภาพที่สุด โดยผู้ป่วยของแผนกฉุกเฉินและตัวแทนทางการแพทย์ต่างก็มีความเห็นเหมือนกัน ด้วยวิธีนี้โรงพยาบาลสามารถส่งต่อผู้คนไปยังแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลหยุนหัวได้อย่างมั่นใจ
ถึงแม้มันจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ยังเป็นข้อสงสัยอยู่ แต่ออย่างไรก็ตามโรงพยาบาลขนาดเล็กรู้สึกเชื่อมั่นแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลหยุนหัวมากขึ้นซึ่งปัจจุบัน แผนกฉุกเฉินไม่ปฏิเสธผู้ป่วยจากอาการเอ็นกล้ามเนื้อฉีกมันทำให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาก
ซึ่งโรงพยาบาลขนาดเล็กหลายแห่งตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรม และไม่มีแผนกศัลยกรรมมือโดยที่พวกเขาจะไม่ส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลในระดับที่เท่ากันแต่จะส่งไปที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่กว่าเท่านั้น
แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลหยุนหัวมีข้อเสนอการอ้างอิงอย่างต่อเนื่องและผลลัพธ์ก็ดี โดยธรรมชาติแล้วพวกเขากลายเป็นตัวเลือกแรกของหลาย ๆ คน และหลายโรงพยาบาล
“ทั้งสามเคสได้มีการเขียนการวินิจฉัยก่อนผ่าตัดและส่งให้ผู้อำนวยการฮวงทันทีที่เขามาถึง” หลิงรันนำเอกสารทางกานแพทย์ส่งกลับไปที่หมอลู่
"สามรายอีกแล้วหรอ?" สิ่งนี้ทำให้หมอลู่เหนื่อยขึ้นทั้งที่ที่เห็นรายงานทางกายแพทย์
“มันน่าจะมีมากกว่านั้น” หลิงรานยิ้มและพูดว่า
"จะมีคนเข้ามามากขึ้นในเวลาอาหารกลางวันลองมองดูอีกครั้ง"
หมอลู่เพิ่งหยุดทำงานไปหนึ่งวัน แต่ก่อนเขาได้รับการพักผ่อนที่ดีและทำให้เขาสดชื่น แต่ในเวลานั้นเขารู้สึกประหม่าและอึดอัดทันที
หลิงรันรู้สึกสะดวกสบายและผ่อนคลาย
ความแตกต่างระหว่างวันที่มีการผ่าตัดและวันที่ไม่มีการผ่าตัดมันเหมือนกลางคืนกับกลางวันที่ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง
"โดยที่สองเคสบาดเจ็บหนึ่งนิ้ว และ อีกเคสหนึ่งบาดเจ็บสองนิ้ว เราสามารถทำทุกอย่างให้เสร็จภายในตอนเช้าได้…เรามาทำแผลที่มีบาดเจ็บสองนิ้วก่อน เมื่อเราเสร็จแล้วเราจะเรียกผู้ป่วยรายใหม่ ซึ่งเราควรจัดการการทำงานของเราให้เชื่อมโยงกันและประหยัดเวลา "หลิงรันนดูเหมือนจะทำแผนเพื่อพิสูจน์คนโง่และความสุขก็เปล่งประกายออกมาจากร่างกายของเขา”
หน้าของ หมอลู่ มีอาการหน้าซีดเหมือนขาดเลือด
"ผมจะรอจนกว่าการผ่าตัดครึ่งหลังจะออกมาและถาม ... "
"ผมสามารถรับผิดชอบในการติดต่อโรงพยาบาลอื่น ๆได้ " มาหยางลินใช้โอกาสนี้ก้าวเข้ามา
หมอลู่ต้องการโต้แย้งกับสิ่งนั้น แต่กับนิ่งเงียบในที่สุด
หลิงรันนั้นขาดผู้อำนวยการฮวงไปซึ่งเขามีหน้าที่รับผิดชอบในการติดต่อผู้ป่วยก่อนหน้านี้ แต่อย่าคาดหวังกับผู้อำนวยการแผนกมากนักเพราะเขาไม่สามารถทำงานเหล่านี้ได้ทั้งหมดเนื่องจากภาระงานที่มีมากของเขา
มาหยางลิ แอบกำกำปั้นของเขา เขาต้องการที่จะมีส่วนร่วมกับเทคนิคเอ็มถัง แทนที่จะทำงานที่น่าเบื่อเหมือนหมอคนอื่น
"อย่างไรก็ตามหมอหลิง ฉันพึงเห็นชื่อของคุณอยู่ติดอยู่ใน 'บุคคลทางแพทย์แผนจีนที่สำคัญ' ชื่อของคุณอยู่ในนั้น 'การควบคุมการตกเลือดด้วยมือเปล่าโดยไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์ในการผ่าตัด ในหน้าแรก "
มาหยานหลินรอให้หลิงรันนั่งลงก่อนที่เขาจะก้มลงหยิบสมุดบันทึกให้เขา
แน่นอนว่าเขาไม่ได้เห็นมันเอง แต่เขาก็บอกเหมือนกันโดยการฝึกงานในแผนกบริหาร โรงพยาบาลมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการตีพิมพ์บทความแพทย์ โดยที่ทุกเดือนพวกเขาจะนับจำนวนคนที่ตีพิมพ์บทความบทความที่ตีพิมพ์และปัจจัยที่จะได้รับการอ้างอิงในการตีพิมพ์บทความและอื่น ๆ ซึ่งผู้ที่จะได้รับมอบหมายให้ทำงานส่วนใหญ่เป็นเด็กฝึกงานที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับมาหยานหลิน
หลิงรันหยิบหนังสือของ 'Chinese Critical Care Care' ด้วยความประหลาดใจ เขาเปิดมันและเห็นว่ามุมล่างขวาของบทความของเขาถูกพับและถูกทำเครื่องหมาย
คำว่า 'โรงพยาบาลหยุนหัวแผนกฉุกเฉินหลิงรัน' ตั้งอยู่ใต้หัวข้อบทความ และสามารถมองเห็นได้อย่างรวดเร็ว
การแจ้งเตือนจากระบบโผล่ขึ้นมาตรงเวลา
[ภารกิจเสร็จสมบูรณ์: ทำวิทยานิพนธ์ให้สำเร็จ]
[รางวัล: หีบสมบัติระดับกลาง]