EP 58
By loop
นับตั้งแต่เขามารับหน้าที่ในฐานะแพทย์ หมอลู่ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในคนเก่งของแผนกฉุกเฉิน
ร่างกายของเขาแข็งแรง และสูงถึงห้าจุดเก้าฟุต ถ้าเขาสวมรองเท้า แม้ว่าเขาจะไม่ได้ผอมเพรียวพอที่จะเปิดเผยกล้ามท้องของเขาหลังจากผ่านการเข้าฟิตเนสมาหลายปี แต่ความหนาของกล้ามเนื้อหน้าอกก็เพียงพอที่จะป้องกันไม่ให้คีมห้ามเลือดเจาะเขามาเส้นเลือดใหญ่ของเขา ความแข็งของกล้ามเนื้อสะโพกของเขาเพียงพอที่จะทำลายเข็มสำหรับฉีดยา
นอกเหนือจากผิวที่หยาบกร้านและขนที่อยู่บนผิวหน้าของเขา ใบหน้าที่ไม่สมมาตรจมูกที่ไม่โด่งดวงตาไม่ใหญ่และผมทรงแปลกๆของเขา ขาที่โค้งงอและเท้าที่เหม็นเล็ก หูที่กางเด่น คอสั้นริมฝีปากหนาบุคลิกภาพที่ดูค่อนข้างแย่ เงินเดือนไม่มาก ไม่มีรถยนต์ บ้าน และเงินในบัญชีธนาคารของเขา
โดยอายยุมาตรฐานของคนที่ทำงานในแผนกฉุกเฉินมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ไม่เกินสามสิบห้าปี โดยไม่มีเป็นคนพิการใดๆ และผู้ที่มีทักษะในระดับหนึ่งถือว่าเป็นแผนกที่ใหญ่แผนกหนึ่งของหยุนหัว ดังนั้นทุกคนในแผนกจะดูแลหมอลู่เป็นพิเศษ เมื่อใดก็ตามที่แพทย์จะเข้ารักษาในห้องปฏิบัติการพวกเขาก็จะเรียกหาหมอลู่
หมอลู่เป็นคนที่มีความกระตือรือร้นตลอดเวลา เขาสามารถใช้ตัวรีเทรเตอร์ในห้องผ่าตัดเป็นเวลาอย่างน้อยสองหรือสามชั่วโมง
ในระหว่างการผ่าตัดจำเป็นต้องผ่าผิวหนังเป็นเส้นตรงโดยใช้มีดผ่าตัด เราจะต้องดึงกล้ามเนื้อออกจากกันโดยใช้ตะขอแบนพิเศษไปที่ด้านใดด้านหนึ่งหรือทั้งสองข้างเพื่อขยายมุมมองของศัลยแพทย์บนร่างกายของผู้ป่วย
การใช้เครื่องรีเทรเตอร์นั้นถือว่าต้องใช้แรงที่หมาศาลในการใช้มันเนื่องจากกล้ามเนื้อเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในร่างกาย ดังนั้นกล้ามเนื้อของผู้ป่วยจะหดกลับไปที่กึ่งกลางของแผลเมื่อใช้เครื่องรีเทรเตอร์ ดังนั้นแพทย์ประจำแผนกและแพทย์ฝึกงานที่ใช้รีเทรเตอร์มักจะต้องมีแขนที่แข็งแรงหลังจากอยู่ในห้องผ่าตัดเป็นเวลานาน
ผลลัพธ์ของความพยายามของหมอลู่ในการรักษาร่างกายของผู้ป่วย ไม่เพียงแต่ได้รับการยอมรับในห้องผ่าตัดเท่านั้น เมื่อเขาอยู่ในห้องฉุกเฉินหรือในห้องรักษา แพทย์และพยาบาลมักจะขอความช่วยเหลือจากเขาอยู่เสมอ
การเดินวนไปมารอบๆเหมือนวัชพืชที่ขึ้นตามต้นไม้ระหว่างแผนกต่างๆเดิมทีชะตากรรมของหมอลู่ในฐานะแผนกย่อย
สิ่งที่เขามีความสุขที่สุดในตอนนี้คือในที่สุด คือการฝึกงานที่แสนทรมานได้จบลง ไม่จำเป็นต้องให้เขาเดินไปมาระหว่างแผนกต่างๆอีกต่อไป ในที่สุดเขาก็สามารถบรรจุอยู่ในแผนกย่อยของแผนกปกติและเติบโตขึ้นภายใต้การดูแลของหัวหน้าผู้มีชื่อเสียงผู้ช่วยแพทย์และหัวหน้าแพทย์ผู้ช่วยแพทย์และหัวหน้าแพทย์
หมอลู่หายใจเข้าลึกๆขณะที่เขาแยกแยะกลิ่นของโพวิโดนไอโอดีนอย่างระมัดระวังและกลิ่นที่แตกต่างกันถึงแปดสิบสี่ประเภท เมื่อแสงของดวงอาทิตย์ส่องบนใบหน้าของเขาขนทุกเส้นบนใบหน้าของเขาก็มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น
"หมอลู่" ผู้อำนวยการฮวงกวักมือเรียกเขามา
หมอลู่ดูเหมือนกวางเรนเดียร์เขาร่าเริงและวิ่งไปหาซานต้า "ผู้อำนวยการแผนก"
"ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปนายจะได้เรียนรู้เทคนิคเอ็มถังจากหลิงรัน ไม่ว่านายจะเรียนรู้เรื่ออะไรเกี่ยวกับเทคนิคนี้ก็ตาม" ผู้อำนวยการฮวง หันหลังแล้วก็ออกไปหลังจากเขาพูดจบเขาไม่ให้เวลาหมอลู่ตอบกลับใดๆ
เมื่อหมอลู่กลับมาถึงเขามีความรู้สึกบางอย่างกับหัวหน้าของเขา ทันใดนั้นผู้อำนวยการฝ่ายดู่ ได้เดินมาผ่านมาเจอกับเขาแล้ว เขายิ้มกล่าวว่า "เด็กน้อยลู่ ขอแสดงความยินดีกับการเข้าร่วมเทคนิคเอ็มถังด้วย มันเป็นโครงการขนาดใหญ่ในแผนกฉุกเฉินของเรา แม้แต่ในจังหวัดก็เป็นโครงการระดับสูงด้วยเช่นกันมันจะเป็นสิ่งที่ที่ช่วยสร้างอนาคตสำหรับนาย การได้รับเลือกจากผู้อำนวยการฮวงในเวลานี้ถือว่าเป็นความท้าทายและโชคดีเช่นกัน นายต้องรักษาทัศนคติที่ดีทำงานหนักและหาสาระสำคัญที่แท้จริงของเทคนิคนี้ "
ดูเหมือนจะมีความสับสนในสายตาของหมอลู่เขายังไมทันจะถามคำถามของเขากับผู้อำนวยการฮวงเขาจึงถามผู้อำนวยการดู่ว่า "ผู้อำนวยการฮวงจะให้ผมไปเป็นผู้ช่วยของแพทย์ฝึกงานใช่ไหม"
"หัวหน้าศัลยแพทย์คือผู้อำนวยการฮวง, หลิงรันเป็นเพียงศัลยแพทย์แรกที่ได้รับการรับรอง คุณเป็นศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญรายที่สอง" ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายดู่ได้แก้ไขความเข้าใจของหมอลู่
“แต่ - แต่นี่มันแปลกเกินไป”
"มีอะไรแปลกๆเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง สังคมทุกวันนี้ไม่ได้ตัดสินฮีโร่จากใบรับรองการศึกษาของเขาหรือเธออีกต่อไปแล้ว นายคิดว่าคุณควรจะเป็นผู้ช่วยศัลยแพทย์คนแรกและหลิงรันควรเป็นศัลยแพทย์ผู้ช่วยคนที่สอง หมอประจำบ้านในขณะที่เขาเป็นแค่หมอฝึกหัด? " ผู้อำนวยการแผนกดู่ รู้สึกกระตือรือร้นมากที่จะเสริมว่าจอมพลเทียนเพ็ง [1] สามารถเป็นเพื่อนฝึกหัดคนที่สองให้กับอาจารย์ของเขาได้ อย่างไรก็ตามเพื่อหลีกเลี่ยงที่จะรบกวนผู้อำนวยการดู่ไปมากกว่านี้ เขาตัดสินใจที่จะเก็บความลับนี้ไว้จนกว่าถึงตอนเย็น
หมอลู่ดูงุนงงในขณะที่เขาพูดว่า "ผมไม่สนหรอกว่าจะเป็นศัลยแพทย์คนแรกหรือคนที่สอง แต่ ... "
"จากนั้นทุกอย่างควรจะดี" รองผู้อำนวยการฝ่ายดู่ตบไหล่ของหมอลู่ แล้วพูดว่า "นายไม่จำเป็นต้องรู้สึกว่าเป็นภาระของนายเพราะนายยังเด็ก นายอยู่ในขั้นตอนของการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ คุณต้องคิดแบบนี้: ถ้าคุณควรจะเชี่ยวชาญ เทคนิคด้านเทคนิคเอ็มถัง นายคิดว่านายจะต้องกังวลเกี่ยวกับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นแพทย์ที่เข้าร่วมหรือไม่นี่เป็นโอกาสที่ดีที่แพทย์คนอื่นจะไม่ต่อสู้เพื่อแม้ว่าพวกเขาจะต้องการก็ตาม "
หมอลู่กระซิบเบาๆ "จากนั้นให้แพทย์คนอื่นทำ"
รองผู้อำนวยการแผนกดู่ ได้ไอสองครั้งแล้วพูดว่า "ผู้อำนวยการฮวง ได้สร้างจินตนาการให้กับนายและฉันไม่มีทางเลือกในเรื่องนี้เราแค่ปล่อยให้เป็นไปแบบนี้"
เมื่อเขาพูดจบเขาก็หันหลังกลับและหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
หมอลู่ไม่คิดว่าเขาจะต้องไปขอความช่วยเหลือจากใคร...
เพราะว่าไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน แพทย์ประจำแผนกก็จะเดินหนีเขาเหมือนเขาเป็นตัวแพร่เชื้อโรค
สำหรับในฐานนะแพทย์หมอลู่ไม่กล้าที่จะไปมีปัญหากับพวกเขา
"หมอลู่เราตามหาคุณ" พยาบาลหวังรีบเข้ามาและรีบจับมาตัวหมอลู่จากนั้นเธอถามว่า "คุณไม่ได้อยู่ในสำนักงานหรือห้องผ่าตัด คุณไปอยู่ไหนมา"
"ผม - ผมไม่รู้เหมือนกัน" หมอลู่พูดคำสองสามคำนี้อย่างไม่มั่นใจว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วเขาก็ถามว่า "คุณรู้หรือไม่ว่าผู้อำนวยการหวัง อยู่ที่ไหน"
"ผู้อำนวยการฮวง ไปติดต่อศูนย์การจัดการผู้ป่วย"
"เขากำลังไปเคสผู้ป่วยเหรอ?"
"ตอนนี้มีเคสของผู้ป่วยที่มีเอ็นกล้ามเนื้อฉีกบริเวณนิ้วหัวแม่มือในเมืองหลานไถ่ แผนเดิมคือการจะต้องตัดนิ้วของผู้ป่วยอย่างไรก็ตามผู้อำนวยการแผนกได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้เขาจึงติดต่อผู้ป่วยเขาต้องผู้ป่วยหลายนี้มารักษาที่แผนกฉุกเฉินของเราโดยผ่าตัดด้วยเทคนิคเอ็มถังแทน ตอนนี้เขาพยายามเกลี้ยกล่อมผู้ป่วยอยู่ " พยาบาลหวังตอบคำถามที่ถามโดยหมอลู่และเธอก็ยังพูดต่อไปว่า" หมอหลิงอยู่ในห้องเก็บของเก่าเขาบอกฉันเขาขอให้คุณไปเจอเขาที่นั้นเพื่อความเข้าใจกับการผ่าตัดก่อน"
"รอ ... เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน คุณพูดเร็วเกินไป ผู้อำนวยการฮวงพยายามเกลี้ยกล่อมผู้ป่วยอย่างงั้นรึ?" หมอลู่สับสนเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามพยาบาลหวังนั้นไม่ได้เป็นพยาบาลมือใหม่แล้ว เธอยังกล่าวต่อไปว่า“ผู้ป่วยวางแผนที่จะเข้ารับการผ่าตัดเนื่องจากการพิจารณาทางด้านการเงินค่าใช้จ่ายสำหรับการผ่าตัดในโรงพยาบาลขนาดใหญ่เกรดบี ใช้เงินถึงสามพันหยวนแต่ถ้าเขาเปลี่ยนมารักษากับเราโดยใช้เทคนิคเอ็มถัง มันจะมีราคาอยู่ที่หกพันหยวน สำหรับการผ่าตัดผู้อำนวยการฮวงเลยพยายามเสนอให้ลดค่าใช้จ่ายลงครึ่งหนึ่งโดยหวังว่าผู้ป่วยจะยอมรับคำเชิญเพื่อรับการผ่าตัดด้วยเทคนิคเอ็มถัง”
"แสดงว่าในตอนแรกผู้ป่วยยอมให้ตัดนิ้วเพราะว่าประหยัดเงินกว่า?" หมอลู่ยังแพทย์มือใหม่ที่เพิ่งผ่านการฝึกอบรมทางการแพทย์ เขาตกใจมาก เขาคิดกับตัวเองแล้วพูดว่า "ตั้งแต่ผู้อำนวยการฮวงเสนอให้ลดค่าธรรมเนียม ผู้ป่วยน่าจะสนใจเขามารับการรักษากับเรา แต่ทำไม่เขาถึงยังต้องไปเกลี้ยกล่อมผู้ป่วยอยู่"
"ค่ารักษาพยาบาลไม่เหมือนกับการผ่าตัด" พยาบาลหวังเป็นพยาบาลมาหลายปีแล้ว เธอเห็นคนไข้มากกว่าหมอลู่ดังนั้นเธอจึงกล่าวว่า "ผู้ป่วยต้องเช่ารถยนต์ราคาหนึ่งพันหยวน เพื่อเดินทางจากเมืองหลานไถ่มายังหยุนหัวไม่ต้องพูดถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลมันสูงเกินไปสำหรับเขาซึ่งมากกว่าโรงพยาบาลในเมืองของเขา นอกจากนี้หลังการผ่าตัดผู้ป่วยสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ในไม่ช้าและกลับไปทำงานได้ แต่ระยะเวลาพักฟื้นสำหรับการซ่อมแซมเอ็นกล้ามเนื้อจะยาวขึ้นเมื่อผู้ป่วยไม่มีประกันสุขภาพ ตอนนี้ค่ารักษาพยาบาลของเขาจะเพิ่มขึ้น แต่รายได้ของเขาจะลดลง ดังนั้นผู้อำนวยการฮวงจึงจำเป็นต่อไปต่อรองกับผู้ป่วยเพื่อให้เขายินยอมมารักษากับเรา "
หมอลู่มีคำถามมากมาย แต่เขาไม่สามารถที่จะถามมันออกมาได้อีก
"เร็วหน่อยหมอหลิงกกำลังรออยู่" พยาบาลหวังอ้อนวอนเขา
หมอลู่ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องตามเธอไปที่ห้องเก็บของเก่าก่อน
ห้องเก็บของเก่าตั้งอยู่ในสถานที่ซึ่งแผนกผู้ป่วยในได้ทำการรวบรวมอุปกรณ์ต่างๆ ปัจจุบันมันถูกใช้เพื่อเก็บเก็บรักษาน้ำมันดิบและสินค้าเก่าที่ไม่ได้เคลื่อนย้ายไปไหนบ่อย หมอลู่อยู่ในแผนกฉุกเฉินมาเป็นเวลาสองสามปี แต่เขาเคยนำของเข้าไปเก็บเพียงแค่สองครั้งเท่านั้น
เมื่อพวกเขามาถึงสถานที่และผลักประตูเปิดสิ่งแรกที่เห็นในสายตาของเขาคือขาหมูแถวหนึ่ง
ขาหมูดิบสีขาวแขวนอยู่ใต้โคมไฟขนาดใหญ่ หลิงรันยืนอยู่ตรงกลางห้อง นอกจากบรรยากาศที่ดูมืดกับห้องที่สภาพโทรมและฉากหลังของห้องเหมือนกำลังจะทำพิธีแปลกประหลาดที่เคยเห็นในภาพยนต์
"หมอหลิง เรามาถึงแล้ว" พยาบาลตะโกนเพื่อกระตุ้นตัวเองกับสถานที่ที่เขาได้เห็น
ใบหน้าของหมอลู่ใบหน้าของเขาดูซีดลงเล็กน้อยก่อนที่เขาจะถามว่า "ขาหมูนี้มาอยู่ในห้องเก็บได้อย่างไร??"
"ผมซื้อมาเอง" หลิงรันเงยหน้าขึ้นและที่หมอลู่ในขณะที่เขาพูดว่า "หมอลู่ผมจะใช้เอ็นกล้ามเนื้องอในกล้ามเนื้อหลังเท้าหมูเป็นตัวอย่างทดลองเราจะลองทำงานกันเป็นทีมไหม?"
ที่จริงแล้วหลิงรันนั้นอยากที่จะปล่อยให้ หมอลู่ทดลองกับขาหมูด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นมันจะสร้างปัญหาให้เขาถ้นำผู้ช่วยผ่าตัด ที่ไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับเทคนิคเอ็มถังเข้าไปด้วย
หมอลู่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกลังเลเล็กน้อย
"ฉันเคยตัดเอ็นที่ลึกลงไปในข้อต่อของข้อต่อระหว่างกระดูกฝ่าเท้า[2] ในแนวนอน" หลิงรันถือมีดผ่าตัดขณะชี้ไปที่ขาหมูข้างหน้าเขา "โดยพื้นฐานแล้วมันเทียบเท่ากับอาการบาดเจ็บสำหรับการซ่อมแซมเอ็นกล้ามเนื้องอที่พบในโซนสองของข้อต่อที่ใหญ่ที่สุดบริเวณที่มือ [3] ตอนนี้ผมจะแสดงให้เห็นโดยทำการเย็บหนึ่งชุดให้คุณดูก่อน"
หลิงรันไม่ได้ขอความเห็นจากหมอลู่เขาเพิ่งเริ่มอธิบายการเตรียมการก่อนหน้านี้ของเขากับหมอลู่
หลังจากนั้นไม่นานหลิงรันวางมีดผ่าตัดและหยิบที่ใส่เข็มขึ้นมา
"แล้วเราควรทำอย่างไรถ้าผู้อำนวยฮวงไม่สามารถชักชวนผู้ป่วยได้? หมอลู่ถาม
การเคลื่อนไหวของหลิงรันไม่ได้แสดงให้เห็นแม้แต่สัญญาณลังเลเล็กน้อย เขาบอกว่า "ตั้งแต่เราเริ่มมองหาคนไข้แล้วไม่มีทางที่เราจะไม่สามารถหาได้เราจะรออย่างสงบและทุกอย่างจะดำเนินไปด้วยดี"
ในขณะที่เขาพูดเข็มที่เขาถืออยู่ในมือของเขาได้เจาะไปที่เอ็นกล้ามเนื้อปลายเท้าหลังของหมูแล้ว
เย็บลงไปหนึ่งครั้งหลังจากนั้นอีกหนึ่งครั้ง ...
หลิงรันวิ่งทำต่อไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ อย่างไรก็ลักษณะการรักษาถูกปรับให้เข้าใจงานมากขึ้นเพื่อเหมาะสมสำหรับการสร้างเข้าใจในการรักษาให้กับหมอลู่
หมอลู่กลืนน้ำไหลอย่างเงียบๆ.
หมายเหตุผู้แปล:
1. จอมพลเทียนเพ้ง: หมายถึงผู้บัญชาการกองทัพเรือแห่งสวรรค์ในเรื่องจีนที่ชื่อว่า 'Journey to the West'
2. ข้อต่อ Metatarsophalangeal: ข้อต่อระหว่างกระดูกฝ่าเท้าของเท้าและกระดูกใกล้เคียงของเท้า (ที่มา: Wikipedia)
3. ข้อต่อ Metacarpophalangeal: ข้อต่อที่ใหญ่ที่สุดของมือตั้งอยู่ระหว่างกระดูก metacarpal และ phalanges ใกล้เคียงของตัวเลข