EP 56
By loop
อาหารมังสาวิรัตที่เตาปิงทำมีรสชาติที่อร่อย
เธอพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อรักษารสชาติดั้งเดิมของส่วนผสมที่เธอใส่ลงไป เธอยังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสร้างรสชาติที่แตกต่างขณะที่ควบคุมระดับน้ำมันที่เธอใช้ การปรุงอาหารอย่างพิถีพิถันของเธอและการควบคุมไฟที่คล่องแคล่ว ทำให้แม้แต่อาหารทั่วไปเช่นกะหล่ำปลีจีนและมันฝรั่งนั้นอร่อยขึ้นมาได้
หลิงรันได้ลิ้มรสผักผัดสตูว์และผักนึ่งไม่กี่จานเขาก็รู้สึกว่ามันอร่อยจนมันติดคอขณะกินอยู่ ไม่นานก่อนที่เขาจะดื่มซุปผักโขมซุปเห็ดและซุปหน่อไม้ก่อนที่จะไปนอนบนโซฟาราวกับว่าตัวเขาเป็นนักยิมนัสติก เขาแตะหัวของเณรน้อยก่อนที่จะเปิดโทรทัศน์และกดสุ่มๆหาช่องรายการทีวีดู
ดงเฉินนั่งขัดสมาธิบนโซฟาโดยที่ร่างกายของเขาตั้งตัวตรงอย่างน่าเคารพ ทันใดนั้นเขาก็ตบหัวตัวเองแล้วพูดว่า "อาตมาลืมเอาธูปมาที่นี่"
"ธูป?"
"ใช่! โยมสามารถจุดมันเพื่อปลอบประโลมจิตใจและความคิดของโยม อาตมารวบรวมสิ่งของทั้งหมดบนภูเขาด้วยตัวเอง" ดงเฉินกล่าวอย่างจริงจัง "แต่อาตมาได้เรียนรู้วิธีที่จะทำให้พวกโยมได้ผ่อนคลายลงจากความเครียดได้บ้าง... "
"มันเป็นความคิดที่นับว่าดีเลย" เตาปิงกล่าวอย่างมีความสุขและนั่งลงใกล้กับเณรน้อยก่อนจับหัวของเขา
ดงเฉินกล่าวว่า "เจ้าอาวาสของอาตมาบอกว่า ตั้งแต่ที่พวกโยมให้ที่อยู่กับอาตมา อาตมาเดินทางลงมายังไม่เห็นใครที่จะนับถือศาสนาพุทธเลย เนื่องมาจากอาตมาค่อนข้างเคร่งศาสนา"
วัดน้ำพุสิบสองแห่ง ตั้งอยู่บนภูเขาสิบสองน้ำพุที่ชานเมืองด้านนอกของเมืองหยุนหัว การเดินทางระหว่างวัดเขาสิบสองแห่งและคลินิคตระกูลหลิง ใช้เวลาสามชั่วโมงโดยรถบัสและมันลำบากมากสำหรับดงเฉินที่จะเดินทางไปและกลับ นี่คือเหตุผลที่เตาปิงอนุญาตให้ดงเฉินพักหนึ่งคืนก่อนจะกลับไปพร้อมยารักษาในวันรุ่งขึ้น
หลิงโจวก็ไม่มีข้อคัดค้านเช่นกัน เพราะดงเฉินเป็นเณรที่น่ารักจริงๆและก็ต้องเผชิญกับความยากลำบากเช่นกัน ซึ่งบ้านของเขาก็ยังมีห้องว่าง
ในทางตรงกันข้ามมันเป็นเพราะคลินิกขนาดเล็กทำงานได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้นเมื่อเทียบกับโรงพยาบาล ตลอดสองสามสิบปีที่ผ่านมาตระกูลหลิงทำงานที่คลินิค พวกเขาอนุญาตให้ลูกค้าชำระเงินโดยใช้เครดิตและอนุญาตให้ลูกค้าใช้ของมีค่าเป็นเงินมัดจำ ในปีที่ผ่านมาผู้อยู่อาศัยบางคนยังนำเฟอร์นิเจอร์มาเพื่อชำระค่ารักษาพยาบาล ตระกูลหลิงไม่มีทางเลือกนอกจากเลือกที่จะรับของพวกนั้น
เมื่อวีแชทเริ่มเสนอระบบการชำระเงินในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาคลินิกตระกูลหลิงก็สมัครใช้ QR code ของตนเองและตั้งให้เปิดการเก็บเงินด้วยเช่นกัน ในทำนองเดียวกันพวกเขายังสนับสนุนการใช้บัตรเครดิตซึ่งต้องการค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมในส่วนของพวกเขาสำหรับบางเวลา
หลิงโจว พร้อมที่จะยอมรับมันหากธนาคารเริ่มใช้บริการบัตรเครดิตที่อนุญาตให้มีการอนุมัติการชำระเงินแบบผ่อนชำระ - เหมือนในละครเกาหลี - สักวันหนึ่ง
กระบวนการคิดของเตาปิงนั้นตื้นเขินมาก เธอลูบหัวของดงเฉินอย่างมีความสุขและพูดว่า "ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะรับของขวัญของเณรน้อยด้วยหัวใจที่ศรัทธาในศาสนาพุทธล่ะกัน"
"อาตมาทำไม้ขีดด้วยตนเอง โยมสามารถใช้มันเพื่อจุดธูปได้" ดงเฉินเต็มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อสิ่งที่เขาทำมาให้ ได้รับการยอมรับ เรื่องนี้ทำให้เณรน้อยดูเชื่อฟังมากขึ้นสิ่งที่เขานำมาให้ ก็เช่นอะแลสกามารามิว อาหารมังสวิรัตเมื่อเตาปิงนำไปปรุงอาหารมันก็น่าจะมีรสชาติที่อร่อยเช่นกัน
เตาปิงรับสิ่งของเหล่านั้น และจำทำการจุดธูป
มันเป็นความเพลิดเพลินสไตล์จีนมาก ๆ เพื่อให้มีควันธูปอยู่ในห้อง มันก็เป็นพฤติกรรมที่เหมาะสมมากสำหรับผู้ทรงปัญญา เตาปิงจะจุดธูปและจุดประกายหัวใจของเธอเมื่อเธอดื่มชาเล่นกับการเล่นกับไข่มุกของเธอและเครื่องสังคโลกหรือใช้เวลาในการอ่านหนังสือและตัดแต่งกิ่งไม้จากกระถางเล็กๆของเธอ
กระถางธูปที่เธอใช้บ่อยที่สุดในวันธรรมดาคืองานตกแต่งทำด้วยไม้มะเกลือ มันถูกแกะสลักเป็นรูปทรงของเชลโลขนาดเล็กและที่ที่ะถูกทำให้เป็นโพรงกลวงออกเพื่อปักธูป - ซึ่งวางอยู่ในแนวนอนด้านใน - และมีแสงจากธูปออกมาอย่างสวยงาม
เต่าปิงจุดไฟ หลังจากที่เปลวไฟทรงตัวเธอค่อยๆนำเปลวไฟใกล้กับปลายด้านบนของธูป เธอจุดธูปติด ด้วยวิธีนี้ธูปจะเผาไหม้อย่างช้าๆแทนการเผาไหม้ทั้งหมดในครั้งเดียวและทำให้ไม่สิ้นเปลือง
"มันดีกว่าของที่ฉันซื้อเองเสียอีก" เตาปิงย่นจมูกของเธอด้วยความประทับใจ
หลิงรันและหลิงโจวมองหน้ากัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้มีความต้องการเหมือนเธอ
แต่นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วไปในชีวิตของพวกเขาซึ่งไม่มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากังวล
เณรน้อยเอาฝ่ามือมารวมกันแล้วพูดว่า "ท่านอาจารย์บอกว่าอาตมามีพรสวรรค์มากเมื่อพูดถึงการทำธูปด้วย ถ้าโยมชอบอาตมาจะเอามาอีกครั้งในคราวหน้า
"ดีเลย เณรน้อยนี้ช่างมีความสร้างสรรค์จริงๆ"
เตาปิงลูบหัวของเณรน้อยแล้วพูดว่า "แต่เณรไม่ต้องนำมากเกินไป ฉันจะจุดไฟครั้งเดียวทุกสองสามวัน"
"เอาล่ะ." เณรน้อยหาวเล็กน้อยขณะที่เขาพูด
“นี่เป็นเวลานอนของเณรใช่มั้ยเดียวขึ้นไปนอนได้แล้ว เณรต้องเตรียมห้องเองนะ” นี่คือเมื่อเตาปิงเขาไม่ได้ทำหน้าที่เหมือนโฮสต์
เณรน้อยขอบคุณเธออย่างอย่างสุภาพราวกับว่าเขาคุ้นเคยกับสถานการณ์แบบนี้ เขาเดินขึ้นไปที่ห้องพักชั้นบนด้วยตัวเองหยิบแผ่นออกวางผ้าปูเตียงและปลอกหมอน ...
เขาค่อนข้างคุ้นเคยกับห้องรับรองแขกของตระกูลหลิงแล้ว
วันต่อมา
ทันทีที่เขาตื่นขึ้นหลิงรันได้ยินคนที่กวาดลานบ้าน เขายกคอของเขาเพื่อดู ตามที่คาดไว้เขาเห็นดงเฉินในจีวร กวาดลานอย่างขยันขันแข็ง นอกจากนี้ยังมีแอ่งน้ำข้างดงเฉินซึ่งใช้เพื่อกันฝุ่นไม่ให้เข้ามาหาคนในบ้าน
ดงเฉินโบกไม้กวาดซึ่งมีขนาดเท่ากันกับเขาด้วยความชำนาญ
เขาตื่นแต่เช้าทุกครั้งที่เขาอยู่กับครอบครัวหลิง เพื่อทำความสะอาดให้กับพวกเขา เขาปฏิบัติงานต่างๆเช่นขัดราวบันไดและกรอบประตูเหมือนเมื่อเขาอยู่ที่วัดสิบสองน้ำพุ
หลิงรันวิ่งลงไปชั้นล่างหลังจากล้างหน้าล้างตา เขาไปที่ร้านอาหารเช้าในตรอกเพื่อซื้อแป้งทอดและนมถั่วเหลืองหลังจากลูปหัวของดงเฉิน แน่นอนเมื่อหลิงรันกลับมาและเรียกให้ดงเฉินมาทานด้วยกันดงเฉินก็ตามมาอย่างเชื่อฟัง
เมื่อเปรียบเทียบกับอาหารมังสวิรัติที่เตาปิงทำดงเฉินชอบแป้งทอดมันและเต้าหู้พุดดิ้งซึ่งเต็มไปด้วยเครื่องเทศ
"ถ้ามันไม่อิ่มเณรสามารถกินเต้าหูของลุงหลิงได้เลย"
เตาปิงยิ้ม
หลิงโจวตกใจขณะที่เขากำลังกินข้าวอย่างเพลิดเพลิน
"ทำไมเธอไม่เอาของเธอให้เณรน้อยล่ะ"
"อย่างงั้นคุณก็มาดื่มของฉันถ้ามันไม่พอสำหรับคุณ"
หลิงโจวมีประกายรอยยิ้มอย่างพึงพอใจทันที
ดงเฉินไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขาไตร่ตรองสักพักหนึ่งแล้วพูดว่า "เจ้าอาวาสบอกว่าอาตมาจะได้รับเงินเดือนหลังจากเรียนที่สถาบันการศึกษาทางพระพุทธศาสนาจากนั้นอาตมาจะพาพวกคุณไปกินพุดดิ้งเต้าหู้
"ได้เลยเณรน้อย" เตาปิงพูดอย่างมีความสุข จากนั้นเธอก็สะกิดให้หลิงรันแล้วพูดว่า "ลูกจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแล้วทำไมลูกไม่ดูแลพวกเราโดยทำพุดดิ้งเต้าหู้ให้พ่อกับแม่กินล่ะ?"
หลิงรันค่อยๆวางทัพพีลงและพูดกับแม่ของเขาว่า "ผมเป็นคนหนึ่งที่ไปซื้อชามเต้าหู้พุดดิ้งที่แม่ทานอยู่ตอนนี้"
"อ่า…" ใบหน้าของเตาปิงชาไปครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็เริ่มตะโกนว่า "แม่ไม่ได้ถ่ายรูปของขวัญชิ้นแรกที่ลูกชายของเราซื้อให้เราตั้งแต่ได้งานเลย!".