ตอนที่ 69 ขีดจำกัด
แผนกวิจัยและพัฒนาที่มักมีชีวิตชีวากลับเงียบสงัดราวกับหากพวกเขาทำเข็มตก เสียงคงดังไปทั่วห้องปฏิบัติการ
สมาธิทุกคนต่างจดจ่อกับนักโทษภายในตู้กระจก
สิ่งที่พวกเขาเห็นคือคนใกล้ตายที่พลันคืนชีพกลับมา การเต้นของหัวใจเขาเต้นเป็นจังหวะราวกับเขาได้รับลมหายใจคืน
เขายังไม่ตาย!
เส้นประสาทในร่างของนักโทษได้รับความเสียหายจนหมด และนักวิจัยทุกคนก็ตัดสินใจให้เขาตายแล้ว ยาใดก็ไม่มีประโยชน์ เขาทำได้เพียงรอสูดลมหายใจสุดท้าย
โดยไม่คาดฝัน เด็กใหม่นี่ดูเหมือนจะได้ยาอมตะมาและคว้าชายคนนั้นกลับมาจากเงื้อมมือของเฮดีส
ทุกคนตกตะลึง บีบตัวกันมาสังเกตปฏิกิริยาของนักโทษอย่างระมัดระวัง บางคนใช้ชิปเพื่อเริ่มการบันทึกและรวบรวมข้อมูลล้ำค่านี้
สมาชิกทุกคนของแผนกวิจัยแสดงสีหน้าหลงใหล พวกเขาดูคลุ้มคลั่ง ไม่สนใจแม้กระทั่งท่าทางไม่พอใจของหัวหน้าทีมไอค์
แขนขาของชายเปลือยสั่นไม่หยุด ตาเขาเบิกกว้าง มันเปลี่ยนจากสีหน้าใกล้ตายเป็นคนที่เต็มไปด้วยความแข็งกร้าว เกลียดชัง คุกคามและเศร้าโศรกพลางจ้องคนรอบเขา สีหน้าเขาไม่ต่างกับวิญญาณร้ายที่คืนชีพจากนรกและถูกนำกลับมาโลก ทั้งหมดที่เขาต้องการคือฉีกกระชากทุกคนรอบตัวเขา กินเนื้อทั้งเป็นและดื่มเลือด
ด้วยสีหน้าดุร้าย นักวิจัยรอบๆกลับไม่แสดงปฏิกิริยาอะไร พวกเขาคุ้นเคยกับสีหน้าเช่นนี้ พวกเขาไม่เคยมองหนูทดลองว่าเป็นคน
ใครจะสนใจความเกลียดของหนูทดลอง
สิ่งที่พวกเขาสนใจคือปฏิกิริยาของหนูทดลอง!
คนที่เคยระบบประสาทล้มเหลวกลับมามีชีวิตอีกครั้งหลังกินยา
นี่จะไม่น่าตกใจได้ยังไง?
พวกเขาสนใจอย่างมาก หากพวกเขาสามารถทำได้ พวกเขาคงผ่าร่างของนักโทษเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม
อุปกรณ์วัดติดตั้งอยู่ภายใต้ตู้กระจกกระพริบไม่หยุด มันกำลังแสดงข้อมูลและตัวชี้วัดต่างๆ
“ดูนั่น คลื่นไฟฟ้าหัวใจเขาสูงขึ้น พลังชีวิตเขากำลังฟื้นตัว!”
“คลื่นสมองเขาก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน มันเพิ่มขึ้นถึงร้อยหน่วย!”
“ยาอะดรีนาลีนรุ่นพัฒนาสำเร็จจริงๆ เด็กใหม่น่าทึ่งมาก!”
…
พวกเขารวมตัวกันเพื่อคุยถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับนักโทษในระหว่างการทดสอบ ส่วนใหญ่ชื่นชมสูตรพัฒนาของเฟิงหลิน ไม่แม้แต่จะสังเกตว่าใบหน้าของไอค์นั้นบิดเบี้ยว
อึก อึก อึก...
ราวกับเขาคือเป็ดที่ถูกรัดคอ ชายในตู้กระจกดิ้นรนครั้งสุดท้าย ในเวลาเดียวกัน นักวิจัยกมาลรุมล้อม ร่างกายของผู้ต้องขังสั่นอย่างไม่อาจควบคุมและทันใดนั้นก็หยุดเคลื่อนไหว เขาดิ้นรนจนกระทั่งหายใจไม่ออก
ทุกคนถอนหายใจ ไม่มีใครแปลกใจ
ระบบประสาทของบุคคลนี้ตายไปแล้ว เขาอยู่ในสภาพใกล้ตายตลอดเวลา และร่างเขาก็พังเกินกว่าจะซ่อมแซม
ร่างกายมนุษย์เป็นระบบซับซ้อน ร่างกายของหนูทดลองนี้ถูกทดลองมานับไม่ถ้วนจนถึงจุดที่แม้แต่น้ำยาอะดรีนาลีนเกรดสูงก็ช่วยแค่ให้เขาได้หายใจนานขึ้น
ร่างเขาพังเกินกว่าจะซ่อมและไม่อาจทนต่อความตื่นเต้นสั้นๆ
น้ำยายีนมีผลน่าตกใจมาก แม้กระทั่งน้ำยาไร้เกรดก็ไม่อาจดื่มได้โดยคนทั่วไป
โดยรวมแล้ว ผลของน้ำยาอะดรีนาลีนของเฟิงหลินนับว่าเกินกว่าจินตนาการของทุกคนในแผนก นี่แสดงให้เห็นว่าสูตรนั้นสำเร็จอย่างแน่แท้
ทุกคนอดมองหัวหน้าทีมไอค์ไม่ได้ และเจอแค่สีหน้าซับซ้อนของเขา
เห็นได้ชัดว่าการทดสอบนี้แค่ข้ออ้างที่ไอค์วางไว้ แต่ทว่า เจ้าเด็กใหม่กลับทำสำเร็จ
พวกเขาอยากรู้ว่าหัวหน้าทีมจะตอบสนองยังไง
แผนกวิจัย ภายในแรงกดดันระยะยาวและการจัดการของหัวหน้าทีมที่มักกดขี่ แต่ตอนนี้เมื่อเห็นเขากำลังทำให้ตัวเองเป็นคนโง่ พวกเขาจึงลอบหัวเราะอยู่ภายใน แต่ก็ไม่กล้าแสดงให้เห็นบนใบหน้า
เมื่อรับรู้ถึงสายตาที่กำลังเยาะเย้ยเขา สีหน้าของไอค์ก็ยิ่งน่ากลัว
หลังเงียบอยู่สักพัก เขาก็พูดอย่างไม่เต็มใจ“เฟิงหลินพัฒนาน้ำยาอะดรีนาลีนสำเร็จ ด้วยผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง เขาจะได้รับโบนัสเดือนนี้1แสนเหรียญดารา!”
เขามอบให้เฟิงหลินถึงแสนเหรียญดาราในครั้งเดียว นี่เทียบกับเงินเดือนสองเดือนของเฟิงหลิน!
เมื่อเห็นว่าไอค์พูดไปกัดฟันไป มันก็เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เต็มใจแค่ไหน แต่เขาก็ไม่อาจทำอะไรได้
ยาอะดรีนาลีนเป็นหัวข้อวิจัยสำคัญมากสำหรับแผนกวิจัยและพัฒนา มันสามารถกระตุ้นระบบประสาทภายในร่างกายมนุษย์ เพิ่มพลังงานทางจิตและช่วยให้เกิดการวิวัฒนาการชีวิตขึ้น
การพัฒนาของเฟิงหลินถือเป็นแนวหน้าในหมู่แผนกวิจัยเลยก็ว่าได้
คนที่มีความสามารถย่อมสมควรได้รับรางวัล
หลังทำความดี เขาก็ต้องได้รับรางวัล
นี่คือกฏของบริษัท หากเขาละเมิดกฏนี้ในฐานะหัวหน้าทีม เขาคงยากจะรักษาตำแหน่งได้
ความรู้สึกของการไม่อาจรับมือกับคนที่เขาไม่ชอบทำให้ไอค์ลำบากใจ
เขาลังเลที่จะอยู่นานกว่านี้สักวินาที ไอค์กล่าวแสดงความยินดีง่ายๆและรีบเดินออกไป เขาแค่อยากอยู่ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้
เสียงหัวเราะดังไล่หลังเขา
เพื่อนร่วมงานภายในแผนกวิจัยมีการแสดงออกต่างกันไป บางคนดูอยากรู้ ชื่นชมหรือกลัว...
เหนือสิ่งอื่นใด มันหาได้ยากที่ใครบางคนจะทำให้หัวหน้าทีมไอค์ต้องเสียหน้า
เฟิงหลินไม่สนใจคนเหล่านี้ เขาหันหลังและจากไป
งานที่มอบให้เขาลุล่วงแล้ว และคนเหล่านี้ก็ไม่พูดอะไร
เสียงเท้าเขาไม่หยุดเมื่อเดินออกแผนกวิจัย เขาตรงไปส่วนนั่งเล่นด้วยสีหน้าหนักหน่วง
แม้เขาจะทำภารกิจลุล่วงแล้ว แต่เขาก็ไม่มีความสุขบนหน้าเลย สายตาของมนุษย์ในหลอดแก้วที่กำลังดิ้นรนยังฉายซ้ำในหัวเขา
แม้เขาจะไม่มีเจตนาฆ่านักโทษ ความตายเขาก็ยังถือว่าเป็นความผิดของเฟิงหลินส่วนหนึ่ง
เฟิงหลินไม่อ่อนแอ หากเขาต้องการฆ่าเป้าหมาย เขาก็จะไม่ลังเล แต่การจะทำแบบนั้น เป้าหมายต้องเป็นศัตรูเขา
หัวข้อการทดลองไม่ได้ขัดแย้งกับเฟิงหลิน แต่เมื่อเห็นคนตายหลังดื่มยาเขา มันจึงทำให้ลึกๆในใจเขาไม่สบายใจ คนปกติทุกคนย่อมรู้สึกแบบนั้น
หากกระต่ายตาย จิ้งจอกก็จะเศร้า(สำนวน)
ระบบสุริยจักรวาลเป็นภูมิภาคดาราแสนโกลาหล อันตรายมีอยู่ทั่ว มันเป็นสังคมที่กดดันและมืดมน
พลัง!
เขาต้องมีพลังระดับหนึ่งเพื่อช่วยตัวเอง เขาไม่อาจพึ่งพาคนอื่นได้
ไม่อย่างนั้น เขาก็จะอยู่ใต้อาณัติคนอื่น
หากเขาไม่มีพลัง วันหนึ่งเขาก็จะกลายเป็นหนูทดลอง ถึงตอนนั้น เขาจะถูกเอาเปรียบ และชีวิตคงไม่ดีไปกว่าความตาย
นี่คือสิ่งที่เฟิงหลินอยากหลีกเลี่ยง
เมื่อกลับไปส่วนนั่งเล่น เฟิงหลินก็เริ่มบ่มเพาะ
ครั้งรี้ เขาเติมพลังชีวิตที่ใช้จนหมด แน่นอน เขาวางแผนเพิ่มระดับยีนเขาถึงแต้มสูงสุด
เขาไม่ได้ดื่มน้ำยาแห่งชีวิตอีกเพราะเขาดื่มยาอะดรีนาลีนก่อนหน้าไปมากพอแล้ว
แม้ยาอะดรีนาลีนจะถูกใช้เพื่อกระตุ้นยีนอะดรีนาลีน แต่มันก็อุดมไปด้วยสารอาหาร
เฟิงหลินยังคงบ่มเพาะต่อและรีบย่อยสารอาหารภายในตัว
หายใจออก...หายใจเข้า...
เฟิงหลินหลับตาพลางหายใจอย่างมั่นคง ลมหายใจเขาสงบและยาวมาก ปล่อยเป็นจังหวะ กระแสความร้อนไหลผ่านร่างกายเขา บำรุงทุกส่วน
ศักยภาพพันธุกรรม+20% +19% +18%...
ศักยภาพพันธุกรรมของเฟิงหลินเพิ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ทะลวงผ่าน1000% และมากถึง1021%
พลังชีวิต3.7เขาค่อยๆเพิ่มขึ้น จาก3.8 3.85 3.9 3.95...
ปึก!
ร่างของเฟิงหลินสั่นสะท้านเมื่อเขาทะลุผ่านอีกระดับ มันราวกับเขารู้สึกถึงร่างเขาจากภายนอก!
พลัง4.1%
พลังชีวิตเขาทะลุขีดจำกัดพลังที่4แล้ว
พลังชีวิตแต่ละหน่วยคือขั้นพลัง
เฟิงหลินสามารถรับรู้ได้ถึงพลังที่ขับออกจากร่างเขา มันเหมือนภูเขาไฟที่ใกล้ปะทุ
แต่นี่ไม่ใช่ส่วนสำคัญสุด
เพื่อให้ตัวเองได้รับพลังอย่างรวดเร็ว เขาจึงใช้พลังชีวิตที่มีอยู่ส่วนใหญ่เพื่อเพิ่มระดับยีนเขา แต่ทว่า ในที่สุดเขาก็เติมพลังชีวิตคืนให้ได้แล้ว
มันเป็นความรู้สึกคล้ายกับการชำระหนี้ก้อนโต ภูดขาใหญ่ถูกยกออกจากบ่าเขาทันที
เฟิงหลินสูดหายใจลึก ตอนนี้เขาไม่มีอะไรให้กังวลแล้ว เขาสามารถเสริมพลังยีนเขาต่อไป
เขามีจุดพันธุกรรมมากมายและสามารถเพิ่มยีนเขาได้ทุกเมื่อ แต่เขาเก็บรั้งไว้เพราะพลังชีวิตที่ต่ำ หลังทนอยู่นาน ในที่สุดเขาก็ฟื้นตัวเต็มที่
โดยไม่รีรอ เขาเริ่มทันที
ด้วยความคิด ศักยภาพพันธุกรรมของเฟิงหลินพลันลดลงไป100%
กลุ่มดาวหนึ่งที่เป็นตัวแทนของจุดพันธุกรรมในแผนที่พันธุกรรมของตันเถียนระเบิดทันที มันเปลี่ยนเป็นพลังงานและฉีดเข้าไปในยีนหิน ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นจาก8เป็น9เงียบๆ
สิ่งที่ทำให้เฟิงหลินประหลาดใจมากสุดคือพลังชีวิตเขาที่พุ่งทะยานจาก4.1เป็น4.9 มันไม่ได้เพิ่มขึ้นแค่0.1 แต่มากถึง0.8 มันคือแปดเท่าของก่อนหน้า
ดูเหมือนว่าสารอาหารที่เขาบริโภคจะไม่ได้ไร้ประโยชน์
เฟิงหลินยินดี เส้นทางที่เขาเลือกมั่นคงและปลอดภัย อนาคตเขาดูสดใสมาก
หลังฟื้นพลังเขาด้วยความยากลำบาก มันก็มากพอให้เขาเสริมพลังมันเล็กน้อย
เฟิงหลินผู้ลิ้มรสว่ามันเป็นยังไงถึงกับตื่นตัว
ความรู้สึกของการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดช่างน่าหลงใหลยิ่งนัก
เฟิงหลินไม่ลังเลและเพิ่มแต้มต่อ
ยีนหินกระพริบอีกครั้ง มันเพิ่มขึ้นเป็น10แต้มทันที ทำลายผ่านขีดจำกัดพันธุกรรมตามทฤษฏี
ทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่นเหมือนสายน้ำ
ยีนหินมีแต้มเต็ม
ยีนหินมีแต้มเต็ม
สิ่งเดียวที่หลงเหลือคือการวิวัฒนาการพวกมันเป็นยีนลิงหิน