ตอนที่แล้วตอนที่ 404 นางจากไปเสียแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 406 ไสหัวไปซะ!

ตอนที่ 405 ภูเขาเข็มทิศ


* นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Novel Kingdom (หจก.โนเวล คิงด้อม) *

**ไม่อนุญาตให้ดัดแปลง แก้ไขหรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนทาง หจก. จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด**

“หลงเฉิน ?”

  

หลังจากที่คนทั้งสองนั้นพบกับหลงเฉิน พวกเขาก็ดีใจดวงตาเป็นประกายขึ้นมา

  

ทั้งสองคนนี้เป็นศิษย์ฝ่ายอธรรมที่อยู่ในขอบเขตปรือกระดูกมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง ลมปราณภายในร่างกายพรั่งพรูดวงตาทั้งคู่เกิดแสงเป็นประกายออกมา

“ฮ่าฮ่า แท้จริงแล้วก็ยังอยู่แค่ขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็นเท่านั้น ฆ่ามัน !!” หนึ่งในนั้นกล่าวออกมาพร้อมพุ่งตัวเข้าไปที่หลงเฉิน

“อย่าให้ถึงตาย ยังไงก็ต้องให้ยังมีลมหายใจอยู่” อีกคนกล่าวเตือนสติ พร้อมกับตามคนแรกไป

ศิษย์ฝ่ายอธรรมทั้งสองที่พุ่งตัวเข้าหาหลงเฉินนั้น เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังกดดันอันแข็งแกร่งของขอบเขตปรือกระดูก ข้อได้เปรียบของยอดฝีมือขอบเขตปรือกระดูกคือจะมีพลังกดดันที่สามารถกดดันผู้ฝึกยุทธ์ที่ต่ำกว่าขอบเขตปรือกระดูกได้

ในครั้งก่อนที่หลงเฉินอยู่หมู่ตึกนั้น ผู้อาวุโสซุนก็เคยใช้พลังกดดันกระดูกเพื่อกดดันหลงเฉิน ซึ่งในขณะนั้นอีกเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้นกระดูกของหลงเฉินก็เกือบจะถูกกดจนแหลกแล้ว

  

แต่ครั้งนี้เขาไม่ใช่หลงเฉินคนเดิมแล้ว ก่อนหน้านี้ที่เขาได้เผชิญหน้ากับยอดฝีมือเผ่านักรบคนเถื่อนและปีศาจสองปีกก็ยังไม่สามารถกดดันเขาได้  เพียงแค่พลังกดดันของพวกเขาสองนี้จึงเทียบไม่ได้แม้แต่นิดเดียว

หากพูดถึงความแตกต่าง พลังกดดันของพวกเขาก็คงจะเป็นดั่งกับลมที่ถูกผายออกมาจากบั้นท้ายเพียงเท่านั้น

  

“กร๊อบบบ”

ทันใดนั้นเสียงกระดูกแขนหลุดก็ดังขึ้น เป็นแขนของสุดยอดฝีมือทั้งสองคนนั้นที่ถูกบิดออก พวกเขาอดไม่ได้ที่จะแผดเสียงออกมาด้วยความเจ็บปวด

  

“ปัง”

  

ทว่าเสียงที่ร้องออกมานั้นดังได้เพียงครึ่งเดียวก็หยุดชะงักลง ศรีษะของพวกเขาทั้งสองนั้นถูกชนเข้าด้วยกันราวกับลูกแตงโมที่ระเบิดออก

  

“พลัวะ”

ร่างไร้วิญญาณทั้งสองค่อยๆล้มลงไปอยุ่ที่พื้น หลงเฉินมองที่มือของตัวเองด้วยความตกตะลึง เขาไม่คิดว่ายอดฝีมือขอบเขตปรือกระดูกที่แข็งแกร่งนั้นจะถูกกำจัดได้ง่ายๆเช่นนี้

  

หลงเฉินเคยกลัวพวกยอดฝีมือขอบเขตปรือกระดูก เขาจึงไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะสามารถฆ่าพวกเขาได้อย่างอย่างดายเช่นนี้

“ดูเหมือนว่าข้าจะสบประมาทพลังของดาราแปรแสงมากเกินไปแล้ว”

หลงเฉินอดไม่ได้ที่จะพูดพึมพำกับตัวเอง หลังจากที่เบิกดาราแปรแสงออกมาแล้ว เขาก็ยังไม่ได้ประลองฝีมือกับใครจึงไม่เคยรู้เลยว่าพลังการสู้ของเขาในตอนนี้เป็นอย่างไร

ตอนที่อยู่ในเหวลึกปีศาจ เขาต้องเจอปีศาจสองปีกกับยอดฝีมือชนเผ่าคนเถื่อน ที่จู่โจมจนเขาเกือบจะถูกฆ่าตายในนั้น  

ทำให้หลงเฉินลืมพลังการต่อสู้ของตัวเองไป ไม่ใช่ว่าพลังต่อสู้ของเขายังไม่แข็งแกร่งพอแต่เป็นเพราะระดับศัตรูของเขานั้นแข็งแกร่งกว่าในระดับที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

ยอดฝีมือฝ่ายอธรรมสองคนนี้ ได้แลกชีวิตของตนเองเพื่อบอกเรื่องนี้ให้เขารู้

  

หลังจากที่สองคนได้เพิ่มระดับถึงขั้นขอบเขตปรือกระดูก ในตอนแรกต้องไหลเวียนพลังเพื่อบวงสรวงกระดูกแขนที่แข็งแกร่งของตัวเอง ทว่าในสายตาของหลงเฉินนั้นกลับเป็นเหมือนดั่งฟองสบู่ที่บอบบาง

  

เขาเก็บแหวนมิติของทั้งสองคนนี้ขึ้นมาจากประเป๋าเก็บของ ก็ได้ค้นพบแหวนมิติอีกสิบกว่าวง

  

ความจริงแล้วหนึ่งคนจะมีแหวนได้แค่วงเดียว เพราะแหวนมิติระดับสูงจะมีพื้นที่เก็บที่กว้างถึงหกลี้

  

ช่องว่างที่ใหญ่ขนาดนี้ ต่อให้มีสมบัติเท่าไหร่ก็สามารถใส่เข้าไปได้หมด ขอแค่ไม่เอาภูเขาทั้งลูกมาเป็นสมบัติก็พอ

แหวนเยอะขนาดนี้จะต้องฆ่าปล้นทรัพย์มาจากคนอื่นแน่แท้ แสดงว่าหลังจากที่สองคนนี้ได้เข้าถึงขอบเขตปรือกระดูกแล้ว คงเริ่มที่จะออกเดินทางปล้นฆ่าหาสมบัติจากทั่วทุกสารทิศ ไม่เช่นนั้นก็คงจะไม่มีจำนวนมากเช่นนี้

หลงเฉินเก็บแหวนขึ้นมาใส่ลงไปในถุงเล็ก ซึ่งในถุงใบนี้ยังมีแหวนมิติอยู่อีกจำนวนร้อยกว่าวง

  

แหวนมากมายเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้อื่น'ส่งมอบ'ให้หลงเฉินทั้งสิ้น ทำให้เขาอดหดหู่ไม่ได้ ไม่เพียงมอบแหวนมิติให้ยังเอาชีวิตมาให้เขาอีกด้วย เขาจะรู้สึกไม่ดีหากไม่รับเอาไว้

  

“ปังปัง”

หลงเฉินที่เดินทางมาได้กว่าครึ่งวันแล้ว ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงจากข้างหน้า ในเวลาเดียวกันก็มีเสียงโอดครวญออกมาไม่รู้ว่าใครถูกฆ่าเพราะเสียงฟังดูเจ็บปวดมาก

เขารีบวิ่งตามเสียงนั้นไปจนเข้าใกล้ แต่ยังไม่ทันได้เห็นก็ได้ยินเสียงมาก่อน

“เจ้าทึ่มของหมู่ตึกที่หนึ่งร้อยแปด หากเจ้าอยากจะตายคงจะยากหน่อย พวกข้าต้องทำให้เจ้ามีชีวิตอยู่เหมือนกับตายไปแล้ว  ” น้ำเสียงดุดันของคนหนึ่งพูดขึ้น

หลงเฉินคิดในใจแวบนึงว่าแท้จริงแล้วเป็นศิษย์ของหมู่ตึกที่หนึ่งร้อยแปดกำลังตกอยู่ในอันตราย หลงเฉินรีบเร่งฝีเท้าวิ่งไป

  

เขามองเห็นสุดยอดฝีมือเจ็ดคนที่กำลังยืนล้อมรอบศิษย์คนหนึ่งไว้ พลังสภาวะของทุกคนนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังเป็นถึงยอดฝีมือขอบเขตปรือกระดูกที่แข็งแกร่งอีกด้วย  

ที่บนพื้นมีศพอยู่แล้วจำนวนห้าศพ หนึ่งในนั้นคงเป็นพวกที่ส่งเสียงร้องก่อนหน้านี้ เพียงแค่เขาได้เห็นคนที่ถูกล้อมอยู่นั้น ร่างกายที่กำยำแข็งแกร่ง ในมือถือหอกยาวสีทอง เนื้อตัวโชกไปด้วยเลือด มีบาดแผลจำนวนมากบนร่างกายของเขา ทว่าเขาดูราวกับไม่ได้หวาดกลัวอะไรในการที่ถูกรุมล้อมด้วยสุดยอดฝีมือทั้งเจ็ด ทั้งยังกัดฟันสู้แลกด้วยชีวิตทั้งหมดที่มี

“กู่หยาง”  

หลงเฉินอดไม่ได้ที่จะดีใจ คนคนนั้นคือกู่หยาง

  

“หึ กลุ่มพวกเจ้ามันเป็นพวกเลวทรามที่รังแกพวกเดียวกัน พวกเจ้ามาต่อต้านหมู่ตึกที่หนึ่งร้อยแปดอย่างพวกข้า หากหลงเฉินรู้เข้าพวกเจ้าก็คงจะหนีไปได้ยากแล้วล่ะ” กู่หยางชักดาบยาวออกมาพร้อมกับกัดฟันกล่าว

“หลงเฉิน ? เหอะเหอะ ไม่ได้ข่าวคราวมาสามเดือนกว่าแล้ว ไม่รู้ว่าไปตายอยู่ที่หลุมไหนแล้ว

หรือหากเขายังมีชีวิตอยู่แล้วจะมีประโยชน์อะไรกัน เพราะขณะนี้หานเทียนหวู่ก็กำลังตามไล่ล่าฆ่าเขา เพียงแค่เขาออกมาปรากฎให้เห็นก็คงต้องถูกหานเทียนหวู่ตัดหัวหลุดในทันที”

  

“งั้นหรือ ใครอยากจะตัดหัวข้า รบกวนเจ้าช่วยพูดอีกครั้งสิ”

ทันใดนั้นน้ำเสียงอันเย็นเยือบก็ดังขึ้นมา คนเหล่านั้นถึงกับพากันตกตะลึงก้าวถอยหลังออกไป

  

“หลงเฉิน”

  

กลุ่มคนพวกนั้นกำลังตกตะลึง มีเพียงเสียงของกู่หยางเพียงคนเดียวที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจที่เห็นหลงเฉินยังปลอดภัย

  

“ฮ่าฮ่า เป็นเพียงแค่ขยะขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็นระดับกลางเท่านั้น  ฆ่าขยะนี่ก่อนเลยแล้วกัน”

  

“ตูม”

แสงสีทองสายหนึ่งสว่างจ้าขึ้น ทำให้ศรีษะของคนผู้นั้นก็กระเด็นลอยขึ้นไป พร้อมกับโลหิตที่พุ่งทะลักกระจายออกไปโดยรอบ

“ตุบ”

ร่างไร้ศรีษะของคนผู้นั้นล้มลงไปนอนอยู่ที่พื้น คนที่เหลือเกิดอาการตกตะลึงจนหน้าถอดสี พวกเขาไม่รู้ว่าหลงเฉินใช้วิธีอะไรถึงฆ่าคนผู้นั้นได้ในพริบตาเดียว 

 

บันทึกแผ่นทองในมือของหลงเฉินยังเคลื่อนอยู่บนปลายนิ้วของเขาไม่หยุด มองไปที่คนกลุ่มนั้นด้วยความเย็นชา “ล้วนเป็นศิษย์ฝ่ายธรรมะ อีกทั้งสามคนนั้นยังเป็นศิยษ์ในสำนักเดียวกัน ทีเรื่องการไล่ฆ่าศิษย์สำนักเดียวกันนี่ช่างถนัดนัก  แต่พอเกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ของธรรมะและอธรรมนั้น พวกสุนัขอย่างพวกเจ้ากลับกลัวจนหางจุกตูด แค่เห็นหน้าพวกเจ้าก็ทำให้ข้ารู้สึกคลื่นไส้แล้ว”

“สวบ”

บันทึกแผ่นทองในมือของหลงเฉินพุ่งออกไปที่คอของคนผู้หนึ่ง คนผู้นั้นรีบกระโดดหลบออกไปด้านข้าง

  

“พรวด”

  

การหลบของเขาไม่ได้มีสิ่งใดผิดปกติ ในทันทีที่บันทึกแผ่นทองออกจากมือของหลงเฉิน เขาก็หลบไปทางด้านข้างทันที แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงก็คือ แม้คนผู้นั้นจะหลบไปด้านข้าง แต่ก็ยังคงถูกบันทึกแผ่นทองตัดจนคอขาด ราวกับว่าบันทึกแผ่นทองนั้นพุ่งไปทางที่เขากระโดดออกไปอยู่เเล้ว ถ้าหากเขายืนเฉยๆก็คงรอดไปแล้ว จึงทำให้ทุกคนเกิดอาการขนลุกขึ้นมา

ราวกับเป็นภาพที่ย้อนกลับของเมื่อสักครู่ พวกเขาได้เห็นศรีษะของคนลอยขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เลือดแดงสดพุ่งขึ้นและไหลพลั่งพรูออกมา แล้วร่างนั้นก็ค่อยๆล้มลงกับพื้นดั่งเช่นคนก่อนหน้า

  

“หนีสิ”  

ไม่รู้ว่าเป็นเสียงของใคร แต่คนอื่นๆที่เหลืออีกห้าคนก็รีบวิ่งหนีออกไปเพื่อเอาชีวิตรอด  ฝีมือของหลงเฉินนั้นน่าหวาดกลัวจนทำให้ผู้คนต่างก็หวาดผวา

ตั้งเเต่ต้นสีหน้าของเขาเฉินก็ยังคงเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ช่างเป็นใบหน้าที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่าใบหน้าของพวกคนเถื่อนเสียอีก ราวกับว่าชีวิตพวกเขาอยู่ในมือหลงเฉินที่อยากจะบีบให้ตายเมื่อไรก็ได้

“ให้ข้าส่งพวกเจ้าแล้วกัน” คลื่นฝ่ามือของหลงเฉินถูกส่งออกไป เกิดเป็นเเสงสีเขียวปรากฎขึ้นมา ซึ่งนั่นก็คือเกล็ดย้อนของมังกรขนาดเท่าฝ่ามือ

  

“พรวด”

  

ทันทีที่พุ่งออกไปมันก็ขยายใหญ่ขึ้นจนมีขนาดขนาดกว้างกว่าสิบจั้ง แม้แผ่นเกล็ดย้อนของมังกรจะยังไม่ทันได้ชนเข้ากับร่างพวกเขา แต่พลังที่น่าหวาดกลัวก็ทำให้พวกเขาถูกบดขยี้จนเป็นชิ้นๆ

“ตูม”

หลังจากที่แผ่นเกล็ดมังกรได้สังหารยอดฝีมือทั้งห้าคนนั้นไปแล้ว มันก็ยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น มันยังพุ่งเข้าชนกับภูเขาลูกใหญ่ จนภูเขาลูกใหญ่ทั้งลูกถูกตัดแบ่งออกเป็นสองส่วน

  

“ช่างเป็นพลังที่น่ากลัวเกินไปแล้ว”

หลงเฉินตกใจขึ้นมา แม้ว่าเขาจะค้นหาวิธีใช้แผ่นเกล็ดนี้ แต่ว่าหลงเฉินเองก็ยังไม่เคยได้ใช้มันในการต่อสู้จริงมาก่อน

เมื่อเห็นพวกเขาวิ่งหนีไป หลงเฉินเพียงแค่อยากจะลอง ไม่ได้คิดว่าผลลัพธ์จะทำให้เขาตกตะลึงได้ถึงเพียงนี้

  

“แย่ล่ะสิ”

หลงเฉินรีบวิ่งไปดูบริเวณด้านข้างของศพเหล่านั้น บนพื้นดินนั้นสะอาดหมดจนไม่มีอะไรตกลงมา แม้แต่เลือดสักหยดก็หาไม่เจอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแหวนแห่งมิติ

  

การโจมตีของหลงเฉินในครั้งนี้ อย่างน้อยก็ทำลายแหวนมิติไปแล้วถึงห้าวง ในนั้นมีผู้เหนือขอบเขตที่แข็งแกร่งถึงสองคนที่ดูเหมือนว่า ครอบครัวจะร่ำรวยมากด้วย ช่างน่าเสียดายจริงๆ

“พี่หลง ท่านไม่เป็นอะไร ....ดีจริงๆเลย” กู่หยางเห็นหลงเฉินแล้ว ก็อดไม่ได้ทั้งตกใจและดีใจ

หลงเฉินรีบเข้ามาข้างหน้าช่วยพยุงกู่หยางไว้ พร้อมกับนำโอสถรักษาออกมาเพื่อรักษากู่หยาง

ในเวลานี้กู่หยางที่เป็นยอดฝีมือขอบเขตปรือกระดูก เมื่อได้มาเจอกับยาโอสถของหลงเฉิน ก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาก แต่ทันใดนั้นใบหน้าของกู่หยางก็เต็มไปด้วยความกังวลขึ้นมา

“พี่หลง ท่านรีบไปช่วยหว่านเอ๋อเสี่ยวเจี่ยเถอะ”

  

“เกิดอะไรขึ้น ?” หลงเฉินตกใจขึ้นมา

“หว่านเอ๋อเสี่ยวเจี่ยอยู่ที่ภูเขาเข็มทิศ ตอนนี้ถูกล้อมโจมตีอยู่ ข้าตั้งใจจะไปช่วยแต่ดันถูกกลุ่มสวะพวกนี้มาต้านไว้ก่อน ท่านรีบไปก่อนเถอะ” กู่หยางพูดด้วยความเร่งรีบ

  

“ได้ งั้นเจ้า......ไม่เป็นไรใช่หรือไม่?” หลงเฉินมองดูร่างกายที่บาดเจ็บของกู่หยาง

“ข้าไม่เป็นไร พักสักเดี๋ยวก็หาย พี่หลงท่านไปก่อน เดี๋ยวข้าจะตามไป” กู่หยางกล่่าว

  

“งั้นข้าไปก่อนแล้ว”

หลงเฉินรีบนำแผนที่ออกมา หาภูเขาเข็มทิศที่กู่หยางบอกพร้อมกับรีบวิ่งไปยังสถานที่นั้นทันที

  

หลังจากที่เสี่ยวเสว่ยกลืนโอสถภายในของสัตว์ร้ายแห่งวายุเข้าไปแล้ว มันก็หลับลึกจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ฟื้นขึ้นมา หลงเฉินจึงทำได้เพียงพึ่งพาตัวเอง

'ภูเขาเข็มทิศ' ที่มันถูกเรียกด้วยชื่อนั้นก็เพราะว่ามันมีรูปร่างเหมือนเข็มทิศที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบร้อยลี้  มันไม่ใช่สถานที่ที่มีชื่อเสียงแต่เพราะความโดดเด่นของรูปร่างมัน จึงทำให้ง่ายต่อการจดจำ มันถูกวาดลงแผนที่เป็นสัญลักษณ์ของสถานที่แบ่งแยกได้อย่างชัดเจน

รอบๆของภูเขาเข็มทิศนี้ มียอดฝีมือจำนวนไม่น้อยกำลังสังเกตุการณ์อยู่ เพราะบนเขาลูกนี้ กำลังเกิดการประทะกันครั้งใหญ่อยู่

สุดยอดฝีมือสามคนที่อยู่บนภูเขาเข็มทิศต่อสู้กันอย่างดุเดือด เงาดาบและคมวายุปะทะกันอย่างบ้าคลั่ง จนทำให้ภูเขาลูกนี้เเทบจะถล่มลงมา

  

หนึ่งในสามคนนั้นคือถังหว่านเอ๋อ สองอีกคนที่เป็นฝ่ายตรงข้ามนั้น คนหนึ่งคือศัตรูเก่าหานเทียนเฟิง ทั้งสองคนนี้ในครั้งก่อนได้เคยต่อสู้กันมา แต่ตอนนั้นนางไม่สามารถสู้กับหานเทียนเฟิงได้ โชคดีที่มีม่อเนียนมาช่วยเอาไว้

  

ในครั้งนี้หลังจากที่ถังหว่านเอ๋อเลื่อนระดับถึงขั้นขอบเขตปรือกระดูกแล้ว ก็มาพบกับหานเทียนเฟิงอีกครั้ง หานเทียนเฟิงมาพร้อมกับหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นคนที่หลงเฉินเคยต่อสู้ด้วยคือยินหวูซวง คนที่เคยเกือบถูกหลงเฉินไล่ฆ่าจนต้องรีบหลบหนีไป

  

ในตอนนี้ยินหวูซวงเองก็เลื่อนขั้นถึงระดับขอบเขตปรือกระดูกแล้วเช่นกัน แค่นางคนเดียวก็ทำให้ถังหว่านเอ๋อยากที่จะรับมือได้แล้ว

  

ยิ่งในตอนนี้ทั้งสองคนนั้นได้ร่วมมือกัน ทำให้ถังหว่านเอ๋อกลายเป็นคนที่ถูกล้อมโจมตี จำนวนการโจมตีนั้นส่วนใหญ่ก็มาจากสองคนนั้น ในตอนนี้ถังหว่านเอ๋อจึงต้องคอยหลบการโจมตีจากคนทั้งสอง 

 

“ไปตายซะ”

ดาบยาวสีเงินในมือยินหวูซวงเปล่งแสงออกมา ใช้จังหวะที่ถังหว่านเอ๋อต้านการโจมตีของหานเทียนเฟิงอยู่ นางก็ฟันเข้าไปที่กลางลำตัวของถังหว่านเอ๋อ

.

.

.

* นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Novel Kingdom (หจก.โนเวล คิงด้อม) *

**ไม่อนุญาตให้ดัดแปลง แก้ไขหรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนทาง หจก. จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด**

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด