บทที่ 98: ต่อสู้บนท้องถนน
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)
••••••••••••••••••••
บทที่ 98: ต่อสู้บนท้องถนน
“เส้นทางวายุ เร็วแสง!” จางหู่ยังคงดึงความสนใจของหนูตายักษ์ออกไปอย่างรวดเร็ว ปากที่ชุ่มไปด้วยเลือดของมันอ้าออกเมื่อได้พบกับเหยื่อรายใหม่ ตอนนี้จางหู่ใช้คาถาเวทลมระดับที่สองแล้ว จางหู่นั้นเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วหลบหลีกรถต่างๆที่จอดขวางถนนอย่างลื่นไหล เมื่อไหร่ก็ตามที่หนูตายักษ์มาถึงตัวของเขา ขากรรไกรของมันกัดได้เพียงสายลมจางๆเท่านั้น ซึ่งนั่นยิ่งทำให้มันโกรธและเริ่มไล่ตามเขาอย่างบ้าคลั่ง
“ระวัง มันมีอีกตัว!” โม่ฝานปีนขึ้นไปบนรถบัสแล้ว ด้วยการกวาดสายตาไปรอบๆอย่างรวดเร็วเขาเห็นขนฟูฟ่องของมันอีกตัวที่หลบอยู่หลังป้ายรถเมล์
ในตอนนี้จางหู่กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุดที่เขาสามารถทำได้เพื่อหนีการไล่ล่าของหนูตายักษ์ด้านหลังอยู่ แล้วเช่นนี้เขาจะสามารถรับรู้ตำแหน่งของหนูตายักษ์อีกตัวได้อย่างไรกัน?
โม่ฝานนั้นใช้ผงสะกดรอยอสูรออกไปอย่างมากในสถานการณ์เช่นนี้
อสูรเวทพวกนี้ล้วนแต่เคยอาศัยอยู่ในสถานที่ที่คนแข็งแกร่งจะกลืนกินคนอ่อนแอ วิธีการของพวกมันนั้นเป็นสิ่งที่อันตรายต่อมนุษย์อย่างมาก นักเวทที่ไม่เคยผ่านการล่าอสูรที่แท้จริงจะถูกสังหารได้อย่างง่ายดายดั่งเช่นจางหยิงเว่ย ซึ่งเธอเป็นนักเวทธาตุลมแต่กลับไม่รู้ว่าจะต้องเชื่อมต่อดวงดาวเวทของตนเองไว้ตลอดเวลา…
“ดูนั่น คอของมันยืดออกมา!” ซูมินรีบบอกโม่ฝานทันทีเมื่อเห็นว่ามีหนูตายักษ์ตัวหนึ่งโผล่ออกมาจากหลังป้ายรถเมล์
ในขณะที่เขาเห็นเช่นนั้น โม่ฝานได้แต่สาปแช่งตัวเองภายในใจ
ความสามารถของหนูตายักษ์ไม่ใช่ฟันและกรงเล็บที่แหลมคมของมันเท่านั้น แต่มันยังสามารถยิงลำแสงสีแดงออกมาจากดวงตาได้อีกด้วย ซึ่งพลังทำลายของมันนั้นรุนแรงอย่างมากสามารถฉีกขาดร่างกายมนุษย์ได้อย่างง่ายดาย
เวลานั้นดวงตาของอสูรร้ายได้ล็อคเป้าไว้ที่จางหู่อย่างแม่นยำ!
“ตาบอดไปซะ!” ในขณะที่โม่ฝานกำลังวิตกอย่างหนักกับสถานการณ์ตรงหน้า ชุ่ยมู่เชิงตะโกนออกมาอย่างรวดเร็วพร้อมด้วยพลังที่ถูกปลดปล่อยออกไปในทันที
ลูกบอลสีขาวน้ำนมถูกปล่อยออกไปทันที มันลอยอยู่เบื้องหน้าของหนูตายักษ์ที่กำลังชูคอเพื่อชาร์จพลังโจมตี
มันเปล่งประกายเจิดจ้า ลำแสงพิฆาตราวกับว่าต้องการแผดเผาทุกสิ่งได้สำแดงอิทธิฤทธิ์อย่างน่าเกรงขาม นักเรียนที่เห็นภาพตรงหน้าจำเป็นต้องรีบปิดตาอย่างรวดเร็วเพราะไม่เช่นนั้นดวงตาของพวกเขาก็คงจะถูกเผาไหม้ไปด้วย!
ลำแสงนั้นแผดเผาทุกสิ่งและมันกำลังลอยอยู่เบื้องหน้าของหนูตายักษ์ ดวงตากลมโตของมันในตอนนี้ถูกแผดเผาอย่างดุเดือด กระจกตาของมันเริ่มไหม้และมันเริ่มส่งเสียงร้องอันเจ็บปวดทันทีหลังจากดวงตาของมันมืดบอด!
มันไม่สามารถปลดปล่อยลำแสงสีแดงออกมาจากดวงตาได้อีกต่อไป ตอนนี้มันเริ่มคลั่งและวิ่งออกไปอย่างไร้ทิศทาง พุ่งเข้าชนกับสิ่งกีดขวางอย่างน่าสมเพช
จางหู่เห็นถึงตำแหน่งของหนูตายักษ์อีกตัวทันทีเมื่อมันวิ่งโซเซอยู่ที่ป้ายรถเมล์ เขาจึงเปลี่ยนตำแหน่งของตนและเพิ่มความเร็วขึ้นเพื่อวิ่งกลับมาหาทุกคน
“ขอบคุณครับอาจารย์ชุ่ย!” จางหู่กล่าวด้วยน้ำเสียงหอบหนัก
ลำแสงนี้นั้นสามารถเผาทำลายดวงตาของหนูตายักษ์ได้ แต่ทว่ามันก็ส่งผลต่อทุกคนด้วยเช่นกัน แต่ในตอนนี้ยังมีหนูตายักษ์อีกมากที่รอพวกเขาอยู่ ทุกคนล้วนแต่เชื่อมต่อดวงดาวเวทเอาไว้อย่างพร้อมเพรียง จากตรงนี้ไปจะไม่มีสิ่งใดขวางพวกเขาได้อีก!
คนที่เริ่มร่ายเวทคนแรกของกลุ่มคือโม่ฝาน เขาเชื่อมต่อเส้นทางดวงดาวได้รวดเร็วที่สุดในกลุ่มและด้วยคาถาระดับสามของเขานั้นไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวหนูตายักษ์ที่กำลังหลบซ่อนอยู่ตรงหน้าเลย เขาปลดปล่อยบอลเพลิงออกไปหมายที่สังหารหนูตายักษ์ที่ฆ่าจางหยิงเว่ยเมื่อกี้ทันที!
บี๊บ บี๊บ บี๊บ บี๊บ บี๊บ ~
ด้วยพลังอันน่ากลัวของบอลเพลิงทมิฬ ทำให้สัญญาณกันขโมยจากรถทุกคันดังขึ้น แรงระเบิดทำให้กระจกรถแตกละเอียดในทันที
หนูตายักษ์ถูกส่งให้ลอยไปไกลจากแรงระเบิดเมื่อครู่ ขนของมันไหม้เกรียมและร่างกายของมันถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ ประตูเหล็กที่พังเสียหายพุ่งเข้าเสียบร่างกายของมันอย่างน่าสยดสยอง
ชุ่ยมู่เชิงหันไปรอบๆพร้อมกับได้เห็นฉากที่โม่ฝานสังหารหนูตายักษ์เมื่อครู่ด้วยเพียงการโจมตีครั้งเดียว ดวงตาของเขาเปล่งประกายความหวังออกมาในทันที
สมแล้วที่เป็นพลังของบอลเพลิงทมิฬ ซึ่งเป็นเวทมนตร์ระดับสาม ตราบใดที่กลุ่มแนวหน้านั้นมีนักเรียนที่แข็งแกร่งอย่างเช่นโมฝ่าน พวกเขาจะต้องทำสำเร็จอย่างแน่นอน!
“ไอ้สัตว์ประหลาดสารเลว ฉันจะถลกหนังมัน!” หวังซานฟ่าและจางหู่ในตอนนี้อุทานออกมาพร้อมกันด้วยความโกรธ
เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว เพื่อนสาวของพวกเขาได้ถูกสัตว์ประหลาดน่าเกลียดเช่นนี้ฆ่าตาย ทั้งที่อีกไม่กี่วันข้างหน้าเธอจะได้ก้าวเข้าสู่มหาลัย มีชีวิตที่สดใส… แต่ต้องกลัวถูกอสูรเวทที่น่ารังเกียจฆ่าเช่นนี้น่ะหรือ? เพียงแค่คิดถึงประเด็นตรงนี้ ทั้งสองก็ไม่อาจอดกลั้นความโกรธที่มีเอาไว้ได้เลย!
“อย่าไป มันยังไม่ตาย!” โม่ฝานคำรามออกมาทันทีเมื่อเห็นท่าทีของเพื่อนทั้งสอง
ในขณะที่หวังซานฟ่ากำลังจะเดินไปแก้แค้นให้กับจางหยิงเว่ย หนูตายักษ์ที่สภาพใกล้ตายเมื่อครู่ได้กระโดดขึ้นมาอย่างฉับพลัน จิตสังหารของมันพวยพุ่งออกมาพร้อมกับกระโดดเข้าหาหวังซานฟ่าอย่างรวดเร็ว
การโต้ตอบของเขารวดเร็วมาก เด็กหนุ่มม้วนตัวออกไปด้านข้างได้อย่างยอดเยี่ยม
แต่ทว่าเขายังไม่เร็วมากพอ ฟันที่แหลมคมของมันกัดเอาไหล่ของหวังซานฟ่าไปได้ ทุกคนที่ได้เห็นภาพตรงหน้าได้แต่ขากรรไกรค้างอย่างช่วยไม่ได้
“ไอ้บัดซบ ไปตายซะ!” ภายใต้ความโกรธจัดของฉือจ้าวติง แส่สายฟ้าขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้นพร้อมกับเฆี่ยนตีไปที่หนูตายักษ์อย่างโหดเหี้ยม
แน่นอนว่าอสนีบาตแส่คลั่งนั่นเป็นคาถาที่ดุร้าย ตอนนี้มันทุบตีที่หนูตายักษ์อย่างโกรธจัด ไฟฟ้าสถิตย์วิ่งไปทั่วร่างกายของอสูรร้ายอย่างอิสระ สร้างความเจ็บปวดและส่งผลให้กล้ามเนื้อของมันกระตุกอย่างรุนแรง
หวังซานฟ่าคลานกลับมาที่รถบัส เลือดไหลออกมาจากหัวไหล่เขาไม่หยุดหย่อน ใบหน้าของเขาซีดขาวไร้โลหิต สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างถึงขีดสุด
สำหรับตอนนี้ฉือจ้าวติง ซูมินและจางซูฮั่วกำลังปลดปล่อยพลังใส่หนูตายักษ์กันอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่าพวกเขาต้องการจะฉีกมันเป็นชิ้นๆให้จงได้!
ในตอนนี้หนูตายักษ์ได้ตายตกไปแล้ว จนไม่รู้ว่ามันจะสามารถตายได้มากกว่านี้หรือไม่… แต่อย่างไรก็ตามใบหน้าของทุกคนไม่ได้ผ่อนคลายเลยแม้แต่น้อย
‘พวกมันคืออสูรเวทจริงๆงั้นเหรอ??’
พวกมันใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการสังหารผู้คน เพียงแค่ประมาทในชีวิตเพียงนิดเดียว พวกมันเหล่านี้สามารถส่งนักเวทไปสู่ภพหน้าได้อย่างง่ายดาย!
“ดะ-ดีมาก ขอบคุณที่เตือนพวกเรา ไม่อย่างนั้นหวังซานฟ่าก็คงจะมีจุดจบอย่างเช่นจางหยิงเว่ย” ฉือจ้าวติงกล่าวกับโม่ฝานด้วยใบหน้าที่ตกใจและเหนื่อยอ่อน
ชุ่ยมู่เชิงนั้นได้แต่พยักหน้าเห็นด้วยซ้ำๆ แม้ว่าเขาจะไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะต้องสร้างกองกำลังแนวหน้าขึ้นในหมู่นักเรียนเช่นนี้ แต่นี่ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมมาก แต่ถึงอย่างไรในตอนนี้มีคนตายตกไปแล้ว อีกทั้งในทีมยังมีคนเจ็บจากการเผชิญหน้ากับอสูรเวทครั้งแรกอีกด้วย!
“โม่ฝาน ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจในพฤติกรรมของอสูรเวทอย่างลึกซึ้ง ทำไมเธอไม่ลองเป็นผู้นำทีมและออกคำสั่งบ้างล่ะ? ฉันกับเหย่วหยู่จะดูแลในการป้องกันเอง อ่า เหย่วหยู่อย่าได้คิดมากเกี่ยวกับสถานการณ์เช่นนี้มากจนเกินไปเลย เธอก็เห็นว่าเมื่อครู่จางหยิงเว่ยถูกฆ่าตายได้อย่างไร ในตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะนั่งร้องไห้ให้กับคนที่จากไปแล้วหรอกนะ ไม่ว่ายังไงก็ตามในตอนนี้เธอสามารถร่ายคาถาธาตุน้ำได้ไหม เพื่อช่วยทีมของเราในครั้งต่อไปที่ต้องเผชิญหน้ากับอสูรเวทน่ะ ถ้าเธอไม่สามารถทำได้ พวกเราอีกเก้าคนก็คงจะไม่สามารถไปถึงพื้นที่ปลอดภัยได้หรอกนะ… อีกทั้งสี่พันคนที่กำลังเดินตามเรามาก็คงจะสูญเสียเช่นเดียวกับพวกเรา!” ชุ่ยมู่เชิงเดินหน้าเข้าไปหาเหย่วหยู่อย่างอ่อนโยน เขาปลอบใจเธอและพยายามดึงความสามารถของเธอออกมา เหย่วหยู่ในตอนนี้สติหลุดไปแล้ว ร่างกายของเธอสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวและความเสียใจได้ครอบงำจิตใจของเธออย่างไม่สามารถสลัดทิ้งไปได้เลย
“ฉัน… ฉันขอโทษ ฉันขอโทษนะทุกคน ฉัน… ฉันไม่สามารถเชื่อมต่อดวงดาวเวทได้เลย…” ใบหน้าของเหย่วหยู่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา ซึ่งความจริงแล้วเธอกลัวอย่างมากว่าตนเองจะมีจุดจบเหมือนกับจางหยิงเว่ย
“เธอทำได้แน่ ตราบใดที่เธอสามารถใช้คาถากำแพงวารีได้ นั่นหมายความว่าเธอสามารถช่วยชีวิตของทุกคนได้อย่างแน่นอน ฉันเชื่อว่าเธอทำได้!” ชุ่ยมู่เชิงกล่าวออกมาอย่างอ่อนโยน
••••••••••••••••••••
••••••••••••••••••••