ตอนที่ 380 นกมายาขนม่วง
* นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Novel Kingdom (หจก.โนเวล คิงด้อม) *
**ไม่อนุญาตให้ดัดแปลง แก้ไขหรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนทาง หจก. จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด**
เงาร่างใหญ่มหึมาราวกับภูเขาลูกหนึ่งได้กดทับลงมายังหลงเฉินด้วยความรวดเร็ว ในขณะที่หลงเฉินกำลังตอบโต้กลับไปนั้น ปากของเจ้านกร่างยักษ์นี้ก็ได้กัดเข้ามาที่พวกเขา
ปากนั้นมีขนาดใหญ่เกินกว่าจะหาสิ่งใดมาเปรียบ แม้ว่าตัวของเสี่ยวเสว่ยจะใหญ่เพียงใด แต่ก็ยังสามารถถูกปากนั้นกลืนกินเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
“ระวัง !”
หลงเฉินจับม่งฉีผลักหลบออกไป ในเวลาเดียวกันก็เรียกวงแหวนแห่งเทพให้ปรากฏออกมา ภายในดวงตาคู่นั้นปรากฎดวงดารานับล้าน คมของดาบทลายมารมุ่งตรงไปยังปากของนกร่างยักษ์นั้น
“ตูม”
ดาบยาวของหลงเฉินที่มีขนาดหลายสิบจั้งฟันเข้าไปที่ปากของนกร่างยักษ์นั้นอย่างโหดเหี้ยม จนเกิดเสียงดังกึกก้องไปทั่ว หลงเฉินและเสี่ยวเสว่ยถูกพลังอันน่ากลัวของนกร่างยักษ์จนถึงกับต้องกระเด็นลอยออกไปไกลกว่าร้อยจั่ง
หลงเฉินรับรู้ได้ถึงความชาที่เกิดขึ้นบริเวณแขนของเขา อดไม่ได้ที่จะหวาดกลัว จึงหันกลับไปมองร่างที่ปะทะกับพวกเขา เมื่อได้เห็นร่างนั้นอย่างชัดเจนหลงเฉินก็รู้สึกขนลุกชันขึ้นมาทันที
มันคือนกยักษ์ที่มีขนาดสูงใหญ่กว่าร้อยจั้ง ลำตัวคล้ายกับนกยูง มีกรงเล็บราวกับนกอินทรีย์ ขนเป็นสีม่วงเงางามและเปล่งประกายราวกับอัญมณี
“นกมายาขนม่วง” หลงเฉินถึงกับตกตะลึง
นี่คือนกมายาขนม่วง สัตว์มายาระดับห้าที่โตเต็มวัยแล้วและมีความว่องไวในการบินดังสายฟ้า
นกมายาขนม่วงนั้นยังไม่หยุดที่จะโจมตีพวกเขา ทันใดนั้นก็อ้าปากกว้างพ่นเพลิงกาฬออกมา ครอบคลุมเป็นบริเวณลานกว้างทันที
หลงเฉินและเสี่ยวเสว่ยยังไม่ทันจะได้ตอบโต้ ก็ถูกเพลิงกาฬสีม่วงล้อมรอบ จนม่งฉีที่หลบอยู่ห่างๆตื่นตกใจจนหน้าถอดสี
“หลงเฉิน”
ม่งฉีกำลังจะเข้าไปช่วย ทันใดนั้นเพลิงกาฬที่ครอบคลุมไปทั่วบริเวณก็สลายหายไป ร่างกายของหลงเฉินที่ถูกล้อมรอบด้วยเพลิงกาฬสีม่วงก็มาปรากฎตรงหน้า แต่กลับไม่พบเห็นเสี่ยวเสว่ยแล้ว
“เจ้านี่หาที่ตายแล้ว”
ดวงตาของหลงเฉินเต็มไปด้วยความโทสะ พลังโจมตีของสัตว์มายาระดับห้านั้นแข็งแกร่งเกินไป เพลิงกาฬก็ยากเกินกว่าจะไปสู้ได้ หากเขาส่งเสี่ยวเสว่ยไปยังช่องว่างของจิตวิญญาณไม่ทันเวลา เสี่ยวเสว่ยจะต้องตกอยู่ในอันตรายถึงตายแน่ๆ
แต่ถึงอย่างนั้น เสี่ยวเสว่ยก็ถูกไฟเพลิงกาฬแผดเผาจนผิวหนังดำไหม้ ได้รับบาดเจ็บไม่ใช่น้อย
“ซูม”
เสียงที่ดังขึ้นพร้อมกับการปรากฎของดาบเล่มใหญ่ในมือของหลงเฉิน พุ่งตรงเข้าฟันไปที่นกมายาขนม่วงอย่างโหดเหี้ยม
นกมายาขนม่วงขยับปีกมหึมาราวกับก้อนเมฆ แรงจากปีกทำให้ดาบของหลงเฉินลอยกลับมา
“ตูม”
เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวอีกครั้งจนเป็นเกิดรอยร้าวขึ้นที่พื้นดิน หลงเฉินถูกพลังอันน่าหวาดกลัวพัดจนลอยไกลออกไป
นกมายาขนม่วงตัวนั้นใช้ปีกฟาดเข้ามาที่หลงเฉิน ขนของมันหลุดออกมาเพียงไม่กี่เส้น ดาบของเขาไม่สามารถทำอะไรมันได้แม้แต่น้อย
“หลงเฉินอย่าไปสู้ต่อ นั่นเป็นสัตว์มายาระดับห้า พวกเราไม่อาจที่จะต้านพลังของมันได้” เมื่อเห็นหลงเฉินสู้อย่างไม่กลัวตาย ม่งฉีก็อดไม่ได้ที่จะกระวนกระวาย
หลงเฉินเองก็ทราบดี ในเวลานี้ยิ่งหลบหลีกไปไกลเท่าไรก็ยิ่งดี แต่ทว่าเสี่ยวเสว่ยถูกไฟคลอก จนได้รับบาดเจ็บ ทำให้จิตใจของเขาเจ็บปวดจนอดไม่ได้ที่จะต่อสู้เพื่อล้างแค้นให้เสี่ยวเสว่ย
“ตูมตูมตูม”
ดาบยาวในมือของหลงเฉินมุ่งตรงไปยังนกมายาขนม่วงอย่างบ้าคลั่ง ปีกใหญ่ของมันเองก็ฟาด ไปยังหลงเฉินอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน
เมื่อทราบถึงการต่อสู้ของหลงเฉินและนกมายาขนม่วง ฉู่เหยาและลู่ฟางเอ๋อก็รีบมาทันที พวกนางเห็นดวงตาสีแดงที่เปี่ยมไปด้วยโทสะของหลงเฉิน ในขณะที่ต่อสู้อยู่กับนกมายาขนม่วง อย่างบ้าคลั่ง ก็อดไม่ได้ที่จะกังวลใจ
“เจี่ยเจียทำอย่างไรดี” ฉู่เหยาถามม่งฉี
ม่งฉีเองก็กระวนกระวายใจ สัตว์มายาระดับห้านั้นเกินกำลังที่หลงเฉินจะไปต่อสู้ด้วยได้ อย่างไรก็ไม่มีทางที่จะชนะได้
ทว่าขณะนี้โทสะของหลงเฉินลุกขึ้นมาแล้ว ทำให้เขาไม่ได้ยินคำเตือนของพวกนาง เขายังคงต่อสู้กับสัตว์มายาระดับห้าอย่างสุดชีวิต
“พวกเราไปช่วยกัน ฉู่เหยาเจ้าไปช่วยหนุนด้านหลังหลงเฉิน ข้ากับฟางเอ๋อจะใช้พลังแห่งจิตวิญญาณไปหลอกล่อมัน ดูสิว่าจะมีทางที่จะสามารถฆ่ามันได้หรือไม่” มาถึงขั้นนี้แล้วทำให้พวกนางจำต้องเสี่ยง
ฉูเหย่าพยักหน้า พวกนางเข้าไปใกล้กับจุดที่หลงเฉินอยู่ ลู่ฟางเอ๋อเรียกสิงโตแดงอัคคีออกมา จัดการกับสัตว์มายาระดับห้าที่แข็งแกร่ง แม้ว่าจริงๆแล้วจะไม่สามารถช่วยอะไรได้ และอาจจะเป็นอันตรายได้อีกด้วย
“หมื่นบุบผาแห่งการกำเนิด”
ฉู่เหยายื่นมือเรียวยาวออกมาพร้อมกับเชื่อมตราประทับ ภายในมีพลังแห่งมวลไม้ไหลเวียนอย่างบ้าคลั่ง ทันใดนั้นพื้นดินก็เกิดรอยร้าวขึ้น กิ่งก้านสีทองนับพันผุดขึ้นมาจากพื้นดิน ราวกับหนวดของสัตว์ประหลาด ทำให้กรงเล็บทั้งสองข้างของนกมายาขนม่วงติดอยู่กิ่งไม้จนไม่สามารถขยับได้
“ศรผลาญวิญญาณ”
ม่งฉีและลู่ฟางเอ๋อรีบผสานมือเพื่อเชื่อมตราประทับ ลูกศรแห่งจิตวิญญาณที่โปร่งใสพุ่งตรงไปยังส่วนหัวของนกมายาขนม่วงทันที
ลูกศรแห่งจิตวิญญาณเป็นการโจมตีที่เจาะจงไปยังจิตจิญญาณของอีกฝ่าย เมื่อถูกลูกศรยิงเข้าไปถึงสองคัน นกมายาขนม่วงก็ส่งเสียงร้องครวญครางออกมา แสดงให้เห็นว่าการโจมตีประเภทนี้ รับมือได้ยากเป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะลูกศรแห่งจิตวิญญาณของม่งฉีนั้นมีพลังโจมตีที่แข็งแกร่งกว่าลู่ฟางเอ๋อหลายเท่า
นกมายาขนม่วงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด การโจมตีเช่นนี้สัตว์มายาก็ยากที่จะต้านทานได้
“หลงเฉินตอนนี้แหละ”
ฉู่เหย่าใช้ไม้กักขังเอาไว้แล้ว นกมายาขนม่วงก็ถูกลูกศรแห่งจิตวิญญาณโจมตี ตอนนี้ถือเป็น โอกาสดีที่สุดในการจัดการมัน
“เบิกสวรรค์”
เสียงตะโกนอันเย็นเฉียบถึงขึ้นมาสายหนึ่ง เสียงตะโกนนั้นราวกับดังมาจากสวรรค์ชั้นเก้า ภาพของดาบฟันลงไปที่หัวของนกมายาขนม่วงราวกับดาบแห่งสวรรค์
“ตูม”
เสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ นกมายาขนม่วงถูกฟันจนตกลงมากระแทกกับพื้นดินอย่างรุนแรง พลังอันน่าหวาดกลัวนี้ ทำให้หญิงสาวทั้งสามถูกซัดจนกระเด็นออกไป
บนพื้นดินเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ ร่างของนกมายาขนม่วงใช้กำลังที่เหลืออยู่ ประคับประครองตัวเองให้ลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง
นี่ทำให้หลงเฉินมีอาการเย็นเยียบไปทั่วร่างกาย ส่วนหัวของนกมายาขนม่วงมีเลือดสดๆ ไหลทะลักออกมา แต่ก็ไม่ได้บาดเจ็บสาหัสแต่อย่างใด
นั่นเป็นการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของหลงเฉินแล้ว ขนาดใช้ประลองพลังกับยอดฝีมืออันดับหนึ่งอย่างหยินหลอได้ จนถึงขั้นบาดเจ็บสาหัสทั้งสองฝ่าย
แต่ว่าตอนนี้พลังของเขากลับทำร้ายนกมายาขนม่วงให้บาดเจ็บได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น นี่ทำให้หลงเฉินเรียกสติกลับคืนมาได้ไม่น้อย
“พวกเจ้าหนีไปก่อน เดี๋ยวข้าจะตามไป”
หลงเฉินเห็นนกมายาขนม่วงเริ่มอ้าปากอีกครั้ง แล้วมุ่งตรงมาที่ตนพร้อมส่งเสียงร้องออกมา หลังจากนั้นเขาก็วิ่งอย่างบ้าคลั่งไปยังม่งฉีและคนอื่นๆ
“ซูม”
เพลิงกาฬสีม่วงพุ่งตรงมากลืนกินหลงเฉินอย่างรวดเร็ว เพลิงกาฬสีม่วงที่น่าหวาดกลัวแผดเผา จนทำให้พื้นดินกลายเป็นเถ้าถ่าน แม้แต่ก้อนหินเองก็ยังละลาย
“ตูม”
พื้นดินแตกราวกับเถ้าถ่าน ร่างของหลงเฉินถูกปกคลุมไปด้วยเพลิงกาฬสีม่วงอีกครั้ง อันที่จริง เมื่อครู่นี้หลงเฉินต้องการที่จะหันความสนใจของนกมายาขนม่วง เพื่อไม่ให้เพลิงกาฬลามไปถึงพวกนางทั้งสาม
เมื่อเห็นหน้าพวกนางที่เต็มไปด้วยความกังวล ไม่กล้าที่จะหนีไป หลงเฉินจึงกล่าวด้วยเสียงดังว่า “สัตว์มายานี้พวกเราคงสู้ไม่ได้ รีบหนีไปก่อน ข้าจะหลอกล่อหันเหความสนใจของมัน แล้วเดี๋ยว ข้าจะตามพวกเจ้าไป”
“แต่มันเป็นสัตว์มายาที่สามารถบินได้นะ” ม่งฉีตะโกนบอกด้วยใบหน้าขาวซีด
ถ้าหากสัตว์มายานั้นทำได้เพียงเดินก็คงจะสลัดให้หลุดไปได้ แต่นี่มันสามารถบินได้ การจะหลอกล่อมันคงไม่ต่างกับการฆ่าตัวตายเท่าไร
“วางใจเถิด ข้าจัดการได้” หลงเฉินแสดงท่าทางมั่นใจต่อหน้าทุกคน พร้อมกับวิ่งไกลออกไป
นกมายาขนม่วงกระพือปีกตามหลงเฉินไป พร้อมกับใช้กรงเล็บมุ่งจับหลงเฉิน
หลงเฉินที่วิ่งไปรอบๆโดยไม่หันหลังกลับไปมอง ในมือก็ได้กวัดแกว่งทลายมารฟาดฟัน ไปที่กรงเล็บขนาดใหญ่
ทันใดนั้นก็รู้สึกได้ถึงความรุนแรงของพลัง เขารู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า ด้วยพละกำลังของนกมายาขนม่วงตัวนั้น หลงเฉินรีบพุ่งตัวหลบหลีกออกไปอย่างรวดเร็ว ดุจดั่งคลื่นมหาสมุทรที่ซัดเข้าฝั่ง
นกมายาขนม่วงส่งเสียงร้องออกมาพร้อมกับกระพือปีก เพียงชั่วพริบตาเดียวก็สามารถตามหลงเฉินทัน ความเร็วของสัตว์มายามีปีกช่างน่ากลัวเหลือเกิน
“ไปซะ”
หลงเฉินรวบรวมพลังแห่งจิตวิญญาณและพลังปราณที่แข็งแกร่ง อัดเข้าไปในบันทึกแผ่นทอง จนมันเปล่งแสงสีทองออกมา เขาใช้มันฟันไปที่หัวของนกมายาขนม่วง
บันทึกแผ่นทองเปิดหนังหัวของนกมายาขนม่วง ผ่ากลางเข้าไปที่กระโหลกด้วยความโหดเหี้ยม
เมื่อเห็นผลของโจมตีเขาก็อดไม่ได้ที่จะดีใจ ความคมกริบของหน้าบันทึกแผ่นทองนั้นสามารถตัดหยกทองให้หักจากกันได้เลย และก็คมพอที่จะสามารถตัดกระโหลกของเจ้านกมายาขนม่วงให้แหลกสลายได้
หลังจากนั้นใบหน้าของหลงเฉินก็เปลี่ยนสีทันที เขาตื่นตระหนกกับปัญหาใหม่ที่เกิดขึ้น นั่นก็คือหลังจากที่บันทึกแผ่นทองหายเข้าไปภายในร่างกายของนกมายาขนม่วงแล้ว พลังทำลายของมันกลับอ่อนลงอย่างรวดเร็ว
หลงเฉินตกใจรีบไหลเวียนพลังแห่งจิตวิญญาณเพื่อนำบันทึกแผ่นทองออกมา แต่ทว่าในเวลานี้ หลงเฉินก็พบว่าบันทึกแผ่นทองที่อยู่ภายในหัวมันในตอนนี้ มันฝังลึกเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายนกมายาขนม่วงแล้ว
บันทึกแผ่นทองถูกฝังอยู่ภายในกระโหลกของนกมายาขนม่วงลึกมาก จนเขาไม่มีปัญญา ที่จะดึงออกมาได้
“ตูม”
นกมายาขนม่วงพ่นเพลิงกาฬสีม่วงออกมาอีกครั้ง หลงเฉินเรียกเพลิงปราณคุ้มกายออกมาคลุมทั่วทั้งร่างกาย แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงความร้อนระอุของผิวหนังที่ถูกไฟเผา จนเกิดเป็นแผลพุพองไม่น้อย ทำให้หลงเฉินต้องกัดริมฝีปากเอาไว้แน่นด้วยความเจ็บปวด
ฆ่านกมายาขนม่วงก็ไม่สำเร็จ แถมบันทึกแผ่นทองก็ยังถูกฝังติดอยู่ในกระโหลกของมันอีก หลงเฉินโกรธแค้นจนอยากจะด่าทอออกมา ไม่ได้ชำระความแค้นให้เสี่ยวเสว่ยไม่พอ ยังต้องสมบัติล้ำค่าอีก
หลงเฉินเองก็ทำให้เจ้านกมายาขนม่วงโกรธแค้น จนมันเองก็มีท่าทีไม่เลิกราหากไม่สามารถฆ่าหลงเฉินได้เช่นกัน
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือไม่ว่าหลงเฉินจะเพิ่มความเร็วเพียงใด เพียงแค่นกมายาขนม่วงขยับปีกเล็กน้อย ก็สามารถตามเขาได้อย่างง่ายดาย กว่าจะสลัดมันให้หลุดพ้นออกไปได้ฟ้าก็คงมืดพอดี
“คงต้องใช้มันแล้วล่ะ”
เขากัดฟันพร้อมกับกลั้นหายใจรอเวลาและโอกาสที่เหมาะสม ขณะนั้นหน้าอกนกมายาขนม่วง ก็ปูดขึ้นมาเล็กน้อย มือของหลงเฉินสั่นไหว สิ่งที่มีขนาดเท่ากับไข่นกพิราบลอยตรงเข้าไป ยังปากของนกมายาขนม่วง
หลังจากที่สิ่งนั้นลอยออกมา ทั่วทั้งอากาศก็ฟุ้งไปด้วยลมที่เหม็นคลุ้ง ก่อนสิ่งนั้นจะลอยเข้าไป นกมายาขนม่วงก็กำลังอ้าปากเพื่อจะพ้นเพลิงกาฬออกมาพอดี
ยังไม่ทันที่มันจะพ่นออกมา สิ่งเล็กๆสิ่งนั้นก็ได้เข้าไประเบิดอยู่ในปาก เป็นน้ำที่มีสีเขียวอ่อน สาดเข้าไปยังปากของมัน กลิ่นเหม็นเกินกว่าจะหาสิ่งใดเปรียบ ครู่เดียวก็มีกลิ่นโชยออกมา
“ตูม”
นกมายาขนม่วงวิ่งเตลิดอย่างบ้าคลั่ง ล้มไปยังพื้นดิ้นอย่างทุรนทุราย พื้นดินที่อยู่บริเวณนั้น ถูกมันขุดจนกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่
นกมายาขนม่วงสำรอกออกมาไม่หยุด กลิ่นเหม็นคลุ้งโชยเป็นทวีคูณยิ่งขึ้น ขณะนี้เจ้านกมายาขนม่วง ไม่ได้สนใจหลงเฉินอีกต่อไปแล้ว เป็นโอกาสดีของหลงเฉินที่จะวิ่งหนีไปด้วยความเร็ว
เมื่อหลงเฉินมาเจอกับม่งฉีและคนอื่นๆ ทั่วทั้งร่างกายของเขาที่ถูกเผาไหม้จนกลายเป็นสีดำราวกับถ่านช่างดูน่าเวทนาเสียจริง แต่เพียงเห็นหลงเฉินยังมีชีวิตรอดกลับมา พวกนางทุกคนก็ถอนหายใจออกมาเบาๆด้วยความโล่งอก
หลงเฉินเรียกเสี่ยวเสว่ยที่อยู่ในช่องว่างจิตวิญญาณออกมา ขนสีขาวโพลนของเสี่ยวเสว่ย ที่มีก่อนหน้านี้ ตอนนี้ไม่หลงเหลือให้เห็นแล้ว ผิวหนังดำไหม้มีเลือดแดงสดไหลออกมาช้าๆ อาการบาดเจ็บช่างรุนแรงยิ่งนัก
“ให้ตายเถอะ ข้าต้องกลับไปเอาคืนแน่” หลงเฉินกัดฟันกรอด มองดูเสี่ยวเสว่ยที่น่าสงสาร ทำให้จิตใจของเขาก็โกรธแค้นขึ้นมา
ฉู่เหยารีบไหลเวียนพลังปราณเพื่อรักษาเสี่ยวเสว่ย เมื่อมีฉู่เหยาอยู่อาการบาดเจ็บของเสี่ยวเสว่ย ก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไร เพียงแต่เห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะตกใจเท่านั้นเอง
นางใช้เวลาหนึ่งชั่วยามกว่าๆ แผลของเสี่ยวเสว่ยก็เริ่มสมานและไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่อะไร แต่ขนสีขาวของเสี่ยวเสว่ยนั้นอาจจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ถึงจะสามารถงอกออกมาใหม่ได้
“เสี่ยวเสว่ย ไปเถอะ พวกเราไปที่รังของพวกมันกัน” หลงเฉินให้เสี่ยวเสว่ยดมกลิ่นเพื่อไปหาที่ ซ่อนของนกมายาขนม่วง
ตอนนี้เขาไม่เพียงแต่ต้องแก้แค้นแทนเสี่ยวเสว่ยให้ได้แล้ว บันทึกสีทองที่อยู่กับมัน เขาต้องแย่งกลับคืนมาให้จงได้ จนตอนนี้เขายังไม่ทราบเลยว่าภายในบันทึกสีทองนั้นจดบันทึกอะไรเอาไว้
สามวันต่อมา เสี่ยวเสว่ยได้พาหลงเฉินและทุกคนมาถึงเชิงเขา พวกเขามองเห็นรังนกขนาดใหญ่ อยู่ไกลออกไปประมาณร้อยลี้
“เหอะเหอะ ดี ในที่สุดก็เจอที่ซ่อนตัวของมันจนได้ พวกเจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ ข้าจะขึ้นไปจัดการกับสัตว์เดรัจฉานตัวนั้นเอง”
พูดจบหลงเฉินก็ฝากให้พวกนางทั้งสามช่วยดูแลเสี่ยวเสว่ย ส่วนตนเองก็มุ่งหน้าไปยังเป้าหมายเพียงลำพัง
* นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Novel Kingdom (หจก.โนเวล คิงด้อม) *
**ไม่อนุญาตให้ดัดแปลง แก้ไขหรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนทาง หจก. จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด**