ตอนที่แล้วMS บทที่ 13 ชัยชนะเหนือกลุ่มเฉินหนง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMS บทที่ 15 เกือบลืมสิ่งสำคัญ

MS บทที่ 14 ทุกคนที่เข้ามา


MS บทที่ 14 ทุกคนที่เข้ามา

เสียงการเข่นฆ่าหยุดลง

ผู้คนที่ด้านหน้าทางเข้าต่างก็ไมได้ยินหรือรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นภายในนั้นทั้งสิ้น

หม่าจุนวูยังคงลังเลที่จะเข้าไปช่วยดีหรือไม่

ผู้พิพากษาจะเอาชนะได้จริงๆหรือ?

จนกระทั่งเขาตัดสินใจที่จะเลือกเดินเข้าไป

ทันใดนั้นก็มีควบม้าดังมาจากด้านหลังของเขา

ทหารม้ากว่า 500 นายภายใต้การบัญชาของเฉิงหลงซิงมาถึงที่นี่แล้ว

“หม่าจุนวู ผู้พิพากษาไปอยู่ไหนเสียล่ะ?” เขาถามชายไว้หนวดจากระยะไกล

“ท่านเฉิง ท่านหลีมู่เพิ่งจะเข้าไปข้างในนั้น...” หม่าจุนวูตอบกลับด้วยความเคารพ ด้วยตำแหน่งที่ต่ำกว่าเฉิงหลงซิง

“แล้วทำไมเจ้ายังอยู่ตรงนี้ล่ะ? ตามข้ามาสหาย ไปช่วยท่านผู้พิพากษาของเรากัน!” เฉิงหลงซิงตะโกนปลุกใจและพุ่งเข้าไปในฐานที่มั่น

เฉิงหลงซิงก็มาด้วยเหรอ?

หลายๆคนที่คอยสืบเรื่องเหล่านี้จากเงามืดค่อยๆทยอยออกมาช่วยงั้นเหรอ? หมายความว่ายังไงกัน?

ทุกคนรู้ดีว่าคนที่คอยหนุนหลังพวกเฉินหนงก็คือเฉิงหลงซิง แล้วทำไมเขาถึงยังแสดงท่าทีจะมาช่วยหลีมู่ด้วยล่ะ?

บางคนที่ฉลาดอาจจะเดาได้ไม่ยากซักเท่าไหร่ ว่าพวกเฉินหนงนั้นกำลังจะถูกกวาดล้าง ซึ่งนั่นหมายความว่าอำนาจส่วนหนึ่งของเฉิงหลงซิงกำลังจะถูกโค่นลง

การที่เฉิงหลงซิงรีบมายังที่เกิดเหตุนี้ก็เพื่อที่จะทำลายพวกมันให้ราบคาบจะได้ไม่เป็นขอครหาของชาวเมืองนี้

แต่ทว่า มันจะง่ายขนาดนั้นเลยหรือ?

ไม่ใช่แค่เพียงเฉิงหลงซิงเท่านั้นที่รีบมายังที่นี่ ด้านหลังกองกำลังของเขาเองก็มีเสียงฝีเท้าจำนวนมากกำลังมาสมทบ

โชวหวูเองก็พาทหารม้าจำนวน 300 นายเข้ามาเสริม พร้อมด้วยข้ารับใช้ทั้งสองของหลีมู่ ชิงเฟิงและหมิงหยู่

ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขามาด้วยกันได้อย่างไร

“หม่าจุนวู ผู้พิพากษาอยูที่ไหน?” โชวหวูตะโกนถาม

เขาชี้ไปที่ประตูทางเข้าที่พังทลายลงแต่ยังไม่ได้พูดอะไร

วูบ!

เสียงลมพัดผ่านตัวเขาไป

“นายน้อย! นายน้อยเจ้าคะ! ยังมีชีวิตอยู่รึเปล่าเจ้าคะ? ตายไปแล้วรึยังเจ้าคะ?” หมิงหยู่ตะโกนอยู่ตลอดเวลาผิดกับชิงเฟิงที่ดูเหมือนว่าจะกำลังกลัวจนเหงื่อไหลเต็มตัว ทั้งสองคนวิ่งเข้าไปโดยไม่รีรอโชวหวูเลยแม้แต่น้อย

ระ เร็วโคตร!

หม่าจุนวูตะลึง

เด็กคนนั้นกินอะไรมาเนี่ย ทำไมถึงรวดเร็วได้ขนาดนี้?

“เดี๋ยวนะ ท่านเฉิงเข้าไปก่อนหน้านี้แล้วงั้นเรอะ?... มาเถอะ เราต้องรีบไปช่วยท่านผู้พิพากษา!” โชวหวูไม่ยอมให้เฉิงหลงซิงแย่งความดีความชอบใส่ตัวคนเดียวแน่ๆ เขารีบควบม้าตามเข้าไปทันที

ใบหน้าของโชวหวูแสดงสีหน้าที่ตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด ใครที่ไม่รู้ก็คงคิดว่าเขาคงกังวลเกี่ยวกับเด็กคนนั้นมากเกินไป ซึ่งที่จริงแล้วตรงกันข้าม

ในเวลานี้หม่าจุนวูเลิกลังเลและเริ่มวิ่งตามเขาไป

และทุกคนก็เห็นความพินาศข้างในป่านั่น

“พระเจ้าช่วย...”

สภาพของที่นี่นั้นพังทลายอย่างสิ้นเชิง ราวกับว่ากำลังเกิดแผ่นดินไหวทำลายล้างก็ไม่ปาน

ทุกสิ่งทุกอย่างเละเทะไม่เหลือเค้าเดิม พื้นดินที่แตกร้าว,เสาหินที่โค่นลง,ร่างกายที่ถูกบดขยี้ หรือแม้แต่เศษกระดูกที่กระจายไปทั่ว

ศพของพวกสี่หลิงกงถูกเก็บไปด้วยทหารที่เข้ามาก่อนหน้านี้แล้ว ร่างของสมาชิกส่วนใหญ่มักจะแหลกสลายไม่มีชิ้นดีซักคน

หลายคนที่เห็นภาพนี้ก็ได้แต่ตัวสั่น ไม่มีใครคาดคิดว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะเกิดการทำลายล้างได้ขนาดนี้

แม้โชวหวูจะได้ยินข่าวลือนี้จากข้ารับใช้ของเขามาก่อน แต่ก็ไม่นึกว่าจะรุนแรงได้ขนาดนี้ พลังของหลีมู่นั้นเป็นสิ่งที่ใครต่อใครก็ไม่อาจจินตนาการได้ ราวกับว่าเป็นร่างอวตารของอสูรกายในคราบของเด็กอายุ 15 ปี

โชวหวูพยายามเก็บความรู้สึกตื่นตระหนกไว้ในใจและหันไปหาเฟิงหยวนซิงเพื่อกระซิบบอกเขา

เฟิงหยวนซิงพยักหน้าและออกคำสั่งให้ทหารกระจายกำลังกันออกไป

หม่าจุนวูเลือกที่จะอยู่ใกล้กับโชวหวูไว้ก่อน

ยิ่งเข้าไปลึกเท่าไหร่ ร่องรอยการต่อสู้ก็ยิ่งโหดร้ายมากขึ้น

หม่าจุนวูสังเกตเห็นเสาหินขนาดยักษ์ที่พังทลายลงมาพร้อมด้วยรอยฝ่ามือบนนั้น แค่คิดภาพตามก็สยองแล้ว ใครมันจะมีเรี่ยวแรงและกำลังมหาศาลขนาดนั้นได้กัน?

แม้แต่ระดับปราณร่วมยังไม่มีความสามารถขนาดนี้เลย

โชวหวูยังคงสีหน้าดังเดิมเอาไว้ เขาเองก็เป็นถึงระดับจ้าววรยุทธ์และรู้ได้แน่นอนว่าตัวเขาเองไม่มีทางทำได้แบบนี้แน่

เฉินหนงถือว่าเป็นหนึ่งในสี่กลุ่มที่ทรงพลังในไถไป๋ และเป็นที่ยากลำบากในการเผชิญหน้าที่สุดเพราะพวกสมาชิกมักจะใช้พิษในการต่อสู้

โชวหวูรู้ดีว่าการที่เฉินหนงล่มสลายนั้นไม่สามารถทำลายเสาอำนาจของเฉิงหลงซิงลงได้หรอก ดีที่สุดก็แค่อาจทำให้แค่เกิดความไม่มั่นคงของอำนาจที่เขามีก็เท่านั้น

แต่การที่ทั้งฝ่ายสามารถถูกทำลายลงได้ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง

แค่คิดเขาก็รู้สึกหนาวไปถึงสันหลังแล้ว

ทหารที่ตามหลังเขามาก็ล้วนแล้วแต่หวาดผวากับภาพตรงหน้านี้เช่นกัน เศษเครื่องในและชิ้นส่วนมนุษย์ปะปนไปกับกลิ่นคาวเลือดมันช่างไม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่

กลุ่มคนอีกมากมายกำลังพุ่งตรงมายังประตูทางเข้าของกลุ่มเฉินหนง

แต่น่าแปลกที่เฉิงหลงซิงและทหารของเขากลับเลือกที่จะยืนอยู่ตรงปากทางเข้า ไม่ได้คิดจะเข้าไปข้างใน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะลังเลกันอยู่

เฉิงหลงซิงหันไปด้านหลังก็พบกับกลุ่มของโชวหวูและพรรคพวกด้วยสีหน้าดูแค้นเคือง

ทว่าสีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปกลายเป็นรอยยิ้มเพื่อกลบเกลื่อนใบหน้าเดิมทันที

เฉิงหลงซิงหัวเราะ “ท่านโชวช่างมาได้รวดเร็วยิ่ง ท่านเองก็ระแคะระคายเรื่องพวกนี้ด้วยสินะ”

โชวหวูเองก็ขำออกมาและเดินมาทำความเคารพชายตรงหน้าและพูด “ยังไงข้าก็ต้องมาอยู่แล้ว เพราะท่านผู้พิพากษากำลังมีภัยจะให้ข้านิ่งเฉยได้อย่างไร... ฮ่าฮ่า ท่านเฉิงนั่นแหละที่มาเร็วกว่าที่ข้าคิดไว้เสียอีก”

“โฮ่ ข้าน่ะเป็นถึงนายทวารประตูเชียวนะ ข้าต้องรับผิดชอบทหารใต้บัญชาของข้าสิ” เฉิงหลงซิงยิ้ม

พวกเขาคุยกันอย่างเพลิดเพลินและเป็นกันเอง

หลายๆคนที่ไม่รู้เรื่องราวเบื้องลึกก็อาจจะคิดว่าพวกเขาเป็นสหายสนิทกันแน่ๆ

“แล้วถ้างั้นทำไมท่านถึงไม่เข้าไปข้างในเสียล่ะ?”

ชายวัยกลางคนยิ้มแต่ไม่ได้ตอบอะไร

เขามาถึงที่หน้าประตูนี่นานแล้ว แต่ก็ยังเลือกที่จะไม่เข้าไปข้างในนั้นด้วยเหตุผลที่ว่า ข้างในนั้นเงียบกริบผิดปกติมาก แม้ว่าเขาจะพยายามเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีใครตอบกลับมา แถมทหารที่ไปลาดตระเวนของเขาก็ไม่พบร่องรอยการไล่ล่าเลยแม้แต่น้อย เฉิงหลงซิงจึงคิดได้ว่าฉีกงจิ้งกับหลีมู่น่าจะอยู่ข้างในนั้น

บางที... อาจจะตายไปแล้วทั้งคู่ก็ได้?

เขารู้จักฉีกงจิ้งเป็นอย่างดีว่าหมอนั่นเป็นคนยังไง เขาเป็นคนที่โหดร้ายแต่ก็หลักแหลม ทำให้เขามีไพ่ตายจำนวนมากที่อาจจะใช้แล้วทำให้พวกเขาตายทั้งคู่ก็ได้

“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็อาจจะดีกว่าก็ได้”

เฉิงหลงซิงกำลังรอสังเกตการณ์อยู่นาน เขากังวลว่าถ้าเกิดหลีมู่ยังไม่ตายเขาอาจจะต้องเป็นคนลงมือสังหารหลีมู่เอง

โชวหวูเองก็ลังเลที่จะตัดสินใจและนึกตามความคิดของเฉิงหลงซิงทัน

ถ้าเกิดหลีมู่ตายข้างในถ้ำ นั่นยิ่งเป็นข้อดีสำหรับโชวหวู ตราบเท่าที่เขาจะสามารถใช้เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นข้อต่อรองและโค่นล้มอำนาจของเฉิงหลงซิงลงได้ อำนาจของทั้งมณฑลไถไป๋ก็คงจะไม่หนีเขาไปไหนไกล

นี่เป็นโอกาสที่สวรรค์ส่งมาให้เขาชัดๆ

ดังนั้น โชวหวูจึงภาวนาให้หลีมู่ตายอยู่ข้างในถ้ำนั่นไปเสีย

ทหารทั้งสองกลุ่มยืนอยู่ข้างหน้าถ้ำด้วยความเงียบเชียบ ไม่มีใครกล้าส่งเสียหรือขยับใดๆทั้งนั้น

จากนั้นจึงมีเสียงร้องดังมาจากข้างในถ้ำ

“นายน้อย? เกิดอะไรขึ้นขอรับ? นายน้อย...”

ชิงเฟิงร้องตะโกน

ทั้งเขาและหมิงหยู่รีบเข้าไปในถ้ำโดยไม่สนใจว่าใครจะขวางอยู่ทั้งนั้น สังเกตได้จากน้ำเสียงอันเศร้าสร้อยของทั้งสอง นั่นหมายความว่ามีโอกาสสูงที่หลีมู่จะถูกฆ่าตายไปแล้วข้างในนั้น

โชวหวูกับเฉิงหลงซิงเริ่มมีสีหน้าที่ชื่นมื่นขึ้น

“ไปกันเถอะ! ไปช่วยท่านผู้พิพากษากัน”

“ไปกันเลย!”

ด้วยคำสั่งนั่น ทหารทุกนายก็รีบพุ่งเข้าไปข้างในถ้ำทันที