MS บทที่ 14 ทุกคนที่เข้ามา
MS บทที่ 14 ทุกคนที่เข้ามา
เสียงการเข่นฆ่าหยุดลง
ผู้คนที่ด้านหน้าทางเข้าต่างก็ไมได้ยินหรือรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นภายในนั้นทั้งสิ้น
หม่าจุนวูยังคงลังเลที่จะเข้าไปช่วยดีหรือไม่
ผู้พิพากษาจะเอาชนะได้จริงๆหรือ?
จนกระทั่งเขาตัดสินใจที่จะเลือกเดินเข้าไป
ทันใดนั้นก็มีควบม้าดังมาจากด้านหลังของเขา
ทหารม้ากว่า 500 นายภายใต้การบัญชาของเฉิงหลงซิงมาถึงที่นี่แล้ว
“หม่าจุนวู ผู้พิพากษาไปอยู่ไหนเสียล่ะ?” เขาถามชายไว้หนวดจากระยะไกล
“ท่านเฉิง ท่านหลีมู่เพิ่งจะเข้าไปข้างในนั้น...” หม่าจุนวูตอบกลับด้วยความเคารพ ด้วยตำแหน่งที่ต่ำกว่าเฉิงหลงซิง
“แล้วทำไมเจ้ายังอยู่ตรงนี้ล่ะ? ตามข้ามาสหาย ไปช่วยท่านผู้พิพากษาของเรากัน!” เฉิงหลงซิงตะโกนปลุกใจและพุ่งเข้าไปในฐานที่มั่น
เฉิงหลงซิงก็มาด้วยเหรอ?
หลายๆคนที่คอยสืบเรื่องเหล่านี้จากเงามืดค่อยๆทยอยออกมาช่วยงั้นเหรอ? หมายความว่ายังไงกัน?
ทุกคนรู้ดีว่าคนที่คอยหนุนหลังพวกเฉินหนงก็คือเฉิงหลงซิง แล้วทำไมเขาถึงยังแสดงท่าทีจะมาช่วยหลีมู่ด้วยล่ะ?
บางคนที่ฉลาดอาจจะเดาได้ไม่ยากซักเท่าไหร่ ว่าพวกเฉินหนงนั้นกำลังจะถูกกวาดล้าง ซึ่งนั่นหมายความว่าอำนาจส่วนหนึ่งของเฉิงหลงซิงกำลังจะถูกโค่นลง
การที่เฉิงหลงซิงรีบมายังที่เกิดเหตุนี้ก็เพื่อที่จะทำลายพวกมันให้ราบคาบจะได้ไม่เป็นขอครหาของชาวเมืองนี้
แต่ทว่า มันจะง่ายขนาดนั้นเลยหรือ?
ไม่ใช่แค่เพียงเฉิงหลงซิงเท่านั้นที่รีบมายังที่นี่ ด้านหลังกองกำลังของเขาเองก็มีเสียงฝีเท้าจำนวนมากกำลังมาสมทบ
โชวหวูเองก็พาทหารม้าจำนวน 300 นายเข้ามาเสริม พร้อมด้วยข้ารับใช้ทั้งสองของหลีมู่ ชิงเฟิงและหมิงหยู่
ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขามาด้วยกันได้อย่างไร
“หม่าจุนวู ผู้พิพากษาอยูที่ไหน?” โชวหวูตะโกนถาม
เขาชี้ไปที่ประตูทางเข้าที่พังทลายลงแต่ยังไม่ได้พูดอะไร
วูบ!
เสียงลมพัดผ่านตัวเขาไป
“นายน้อย! นายน้อยเจ้าคะ! ยังมีชีวิตอยู่รึเปล่าเจ้าคะ? ตายไปแล้วรึยังเจ้าคะ?” หมิงหยู่ตะโกนอยู่ตลอดเวลาผิดกับชิงเฟิงที่ดูเหมือนว่าจะกำลังกลัวจนเหงื่อไหลเต็มตัว ทั้งสองคนวิ่งเข้าไปโดยไม่รีรอโชวหวูเลยแม้แต่น้อย
ระ เร็วโคตร!
หม่าจุนวูตะลึง
เด็กคนนั้นกินอะไรมาเนี่ย ทำไมถึงรวดเร็วได้ขนาดนี้?
“เดี๋ยวนะ ท่านเฉิงเข้าไปก่อนหน้านี้แล้วงั้นเรอะ?... มาเถอะ เราต้องรีบไปช่วยท่านผู้พิพากษา!” โชวหวูไม่ยอมให้เฉิงหลงซิงแย่งความดีความชอบใส่ตัวคนเดียวแน่ๆ เขารีบควบม้าตามเข้าไปทันที
ใบหน้าของโชวหวูแสดงสีหน้าที่ตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด ใครที่ไม่รู้ก็คงคิดว่าเขาคงกังวลเกี่ยวกับเด็กคนนั้นมากเกินไป ซึ่งที่จริงแล้วตรงกันข้าม
ในเวลานี้หม่าจุนวูเลิกลังเลและเริ่มวิ่งตามเขาไป
และทุกคนก็เห็นความพินาศข้างในป่านั่น
“พระเจ้าช่วย...”
สภาพของที่นี่นั้นพังทลายอย่างสิ้นเชิง ราวกับว่ากำลังเกิดแผ่นดินไหวทำลายล้างก็ไม่ปาน
ทุกสิ่งทุกอย่างเละเทะไม่เหลือเค้าเดิม พื้นดินที่แตกร้าว,เสาหินที่โค่นลง,ร่างกายที่ถูกบดขยี้ หรือแม้แต่เศษกระดูกที่กระจายไปทั่ว
ศพของพวกสี่หลิงกงถูกเก็บไปด้วยทหารที่เข้ามาก่อนหน้านี้แล้ว ร่างของสมาชิกส่วนใหญ่มักจะแหลกสลายไม่มีชิ้นดีซักคน
หลายคนที่เห็นภาพนี้ก็ได้แต่ตัวสั่น ไม่มีใครคาดคิดว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะเกิดการทำลายล้างได้ขนาดนี้
แม้โชวหวูจะได้ยินข่าวลือนี้จากข้ารับใช้ของเขามาก่อน แต่ก็ไม่นึกว่าจะรุนแรงได้ขนาดนี้ พลังของหลีมู่นั้นเป็นสิ่งที่ใครต่อใครก็ไม่อาจจินตนาการได้ ราวกับว่าเป็นร่างอวตารของอสูรกายในคราบของเด็กอายุ 15 ปี
โชวหวูพยายามเก็บความรู้สึกตื่นตระหนกไว้ในใจและหันไปหาเฟิงหยวนซิงเพื่อกระซิบบอกเขา
เฟิงหยวนซิงพยักหน้าและออกคำสั่งให้ทหารกระจายกำลังกันออกไป
หม่าจุนวูเลือกที่จะอยู่ใกล้กับโชวหวูไว้ก่อน
ยิ่งเข้าไปลึกเท่าไหร่ ร่องรอยการต่อสู้ก็ยิ่งโหดร้ายมากขึ้น
หม่าจุนวูสังเกตเห็นเสาหินขนาดยักษ์ที่พังทลายลงมาพร้อมด้วยรอยฝ่ามือบนนั้น แค่คิดภาพตามก็สยองแล้ว ใครมันจะมีเรี่ยวแรงและกำลังมหาศาลขนาดนั้นได้กัน?
แม้แต่ระดับปราณร่วมยังไม่มีความสามารถขนาดนี้เลย
โชวหวูยังคงสีหน้าดังเดิมเอาไว้ เขาเองก็เป็นถึงระดับจ้าววรยุทธ์และรู้ได้แน่นอนว่าตัวเขาเองไม่มีทางทำได้แบบนี้แน่
เฉินหนงถือว่าเป็นหนึ่งในสี่กลุ่มที่ทรงพลังในไถไป๋ และเป็นที่ยากลำบากในการเผชิญหน้าที่สุดเพราะพวกสมาชิกมักจะใช้พิษในการต่อสู้
โชวหวูรู้ดีว่าการที่เฉินหนงล่มสลายนั้นไม่สามารถทำลายเสาอำนาจของเฉิงหลงซิงลงได้หรอก ดีที่สุดก็แค่อาจทำให้แค่เกิดความไม่มั่นคงของอำนาจที่เขามีก็เท่านั้น
แต่การที่ทั้งฝ่ายสามารถถูกทำลายลงได้ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง
แค่คิดเขาก็รู้สึกหนาวไปถึงสันหลังแล้ว
ทหารที่ตามหลังเขามาก็ล้วนแล้วแต่หวาดผวากับภาพตรงหน้านี้เช่นกัน เศษเครื่องในและชิ้นส่วนมนุษย์ปะปนไปกับกลิ่นคาวเลือดมันช่างไม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่
กลุ่มคนอีกมากมายกำลังพุ่งตรงมายังประตูทางเข้าของกลุ่มเฉินหนง
แต่น่าแปลกที่เฉิงหลงซิงและทหารของเขากลับเลือกที่จะยืนอยู่ตรงปากทางเข้า ไม่ได้คิดจะเข้าไปข้างใน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะลังเลกันอยู่
เฉิงหลงซิงหันไปด้านหลังก็พบกับกลุ่มของโชวหวูและพรรคพวกด้วยสีหน้าดูแค้นเคือง
ทว่าสีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปกลายเป็นรอยยิ้มเพื่อกลบเกลื่อนใบหน้าเดิมทันที
เฉิงหลงซิงหัวเราะ “ท่านโชวช่างมาได้รวดเร็วยิ่ง ท่านเองก็ระแคะระคายเรื่องพวกนี้ด้วยสินะ”
โชวหวูเองก็ขำออกมาและเดินมาทำความเคารพชายตรงหน้าและพูด “ยังไงข้าก็ต้องมาอยู่แล้ว เพราะท่านผู้พิพากษากำลังมีภัยจะให้ข้านิ่งเฉยได้อย่างไร... ฮ่าฮ่า ท่านเฉิงนั่นแหละที่มาเร็วกว่าที่ข้าคิดไว้เสียอีก”
“โฮ่ ข้าน่ะเป็นถึงนายทวารประตูเชียวนะ ข้าต้องรับผิดชอบทหารใต้บัญชาของข้าสิ” เฉิงหลงซิงยิ้ม
พวกเขาคุยกันอย่างเพลิดเพลินและเป็นกันเอง
หลายๆคนที่ไม่รู้เรื่องราวเบื้องลึกก็อาจจะคิดว่าพวกเขาเป็นสหายสนิทกันแน่ๆ
“แล้วถ้างั้นทำไมท่านถึงไม่เข้าไปข้างในเสียล่ะ?”
ชายวัยกลางคนยิ้มแต่ไม่ได้ตอบอะไร
เขามาถึงที่หน้าประตูนี่นานแล้ว แต่ก็ยังเลือกที่จะไม่เข้าไปข้างในนั้นด้วยเหตุผลที่ว่า ข้างในนั้นเงียบกริบผิดปกติมาก แม้ว่าเขาจะพยายามเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีใครตอบกลับมา แถมทหารที่ไปลาดตระเวนของเขาก็ไม่พบร่องรอยการไล่ล่าเลยแม้แต่น้อย เฉิงหลงซิงจึงคิดได้ว่าฉีกงจิ้งกับหลีมู่น่าจะอยู่ข้างในนั้น
บางที... อาจจะตายไปแล้วทั้งคู่ก็ได้?
เขารู้จักฉีกงจิ้งเป็นอย่างดีว่าหมอนั่นเป็นคนยังไง เขาเป็นคนที่โหดร้ายแต่ก็หลักแหลม ทำให้เขามีไพ่ตายจำนวนมากที่อาจจะใช้แล้วทำให้พวกเขาตายทั้งคู่ก็ได้
“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็อาจจะดีกว่าก็ได้”
เฉิงหลงซิงกำลังรอสังเกตการณ์อยู่นาน เขากังวลว่าถ้าเกิดหลีมู่ยังไม่ตายเขาอาจจะต้องเป็นคนลงมือสังหารหลีมู่เอง
โชวหวูเองก็ลังเลที่จะตัดสินใจและนึกตามความคิดของเฉิงหลงซิงทัน
ถ้าเกิดหลีมู่ตายข้างในถ้ำ นั่นยิ่งเป็นข้อดีสำหรับโชวหวู ตราบเท่าที่เขาจะสามารถใช้เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นข้อต่อรองและโค่นล้มอำนาจของเฉิงหลงซิงลงได้ อำนาจของทั้งมณฑลไถไป๋ก็คงจะไม่หนีเขาไปไหนไกล
นี่เป็นโอกาสที่สวรรค์ส่งมาให้เขาชัดๆ
ดังนั้น โชวหวูจึงภาวนาให้หลีมู่ตายอยู่ข้างในถ้ำนั่นไปเสีย
ทหารทั้งสองกลุ่มยืนอยู่ข้างหน้าถ้ำด้วยความเงียบเชียบ ไม่มีใครกล้าส่งเสียหรือขยับใดๆทั้งนั้น
จากนั้นจึงมีเสียงร้องดังมาจากข้างในถ้ำ
“นายน้อย? เกิดอะไรขึ้นขอรับ? นายน้อย...”
ชิงเฟิงร้องตะโกน
ทั้งเขาและหมิงหยู่รีบเข้าไปในถ้ำโดยไม่สนใจว่าใครจะขวางอยู่ทั้งนั้น สังเกตได้จากน้ำเสียงอันเศร้าสร้อยของทั้งสอง นั่นหมายความว่ามีโอกาสสูงที่หลีมู่จะถูกฆ่าตายไปแล้วข้างในนั้น
โชวหวูกับเฉิงหลงซิงเริ่มมีสีหน้าที่ชื่นมื่นขึ้น
“ไปกันเถอะ! ไปช่วยท่านผู้พิพากษากัน”
“ไปกันเลย!”
ด้วยคำสั่งนั่น ทหารทุกนายก็รีบพุ่งเข้าไปข้างในถ้ำทันที