GE332 ท่านจะไปไหนไม่ได้ [ฟรี]
หลังจากบุรุษปริศนาปรากฏตัวเป็นชั่วครู่ หลินซูถูกสังหาร สองชายชราในขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลงหวาดกลัว
บุรุษผู้นั้นคือผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นสูง!
สองชายชราสัมผัสได้ว่า บุรุษผู้นี้บาดเจ็บจนระดับพลังลดลงมา
“ระดับพลังของมันอยู่ระดับไหนกันแน่!”
“เราจะยั่วยุมันไม่ได้!”
สองชายชรารับหน้าที่ให้ช่วยหลินซูชิงดาราจักรพรรดิ แต่เมื่อหลินซูตาย พวกมันจึงไม่จำเป็นต้องชิงดาราจักรพรรดิต่อ
“นี่… กุญแจอยู่ในนี้”
สองชายชรานำไข่ใบยักษ์ออกมาและวางไว้ จากนั้นป้องมือที่สั่นเทากล่าวด้วยความหวาดกลัว
“กุญแจอยู่ในไข่ใบนี้ ผู้เยาว์ของอภัยที่ล่วงเกิน ผู้อาวุโสโปรดเมตตาด้วย!”
พวกมันหวังว่าจะออกไปจากที่นี่ได้ง่ายๆ และกลับไปนิกายปีศาจขาวอย่างปลอดภัย เพียงแต่… พวกมันกลับสังหรณ์ใจไม่ดี
“อืม… มีกลิ่นอายของอสูรที่ยิ่งใหญ่หลับไหลอยู่จริง แต่เท่าที่เห็น อสูรตนนั้นถูกกินโดยอสูรไร้ดัดแปลงตัวนี้...”
บุรุษผู้นั้นก้าวย่าง ปรากฏกายบนไข่ขนาดยักษ์พลางกล่าวอย่างเรียบเฉย
“กุญแจวังดาราสมควรอยู่ในร่างของหมาป่าตนนี้… ในเมื่อพวกเจ้ายอมมอบกุญแจให้ข้าแล้ว… พวกเจ้าทุกคนก็ได้เวลาตาย!”
บุรุษผู้นั้นเอื้อมมือไปเบื้องหน้า ทำท่าคว้าจับอากาศ ก่อนที่พายุมิติอันรุนแรงจะปรากฏ
มันต้องการฆ่าทุกคนที่นี่เพื่อปกปิดให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นกลายเป็นความลับ แม้เป็นลู่เจี่ยเฟินและซูฉวนก็ไม่เว้น!
หากตกอยู่ท่ามกลางพายุมิติ ผู้ที่มีระดับพลังต่ำกว่าขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลงจะถูกสังหารตายในทันที
สีหน้าสองชายชราแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
“เจ้ากลับคำ! พวกข้าบยอมส่งกุญแจให้ ทำไมเจ้าไม่ปล่อยพวกข้าไป!”
“ไร้สาระ! ข้าแค่บอกให้พวกเจ้าส่งกุญแจมา.... ไม่ได้บอกจะไว้ชีวิตพวกเจ้าเสียหน่อย! ในอดีตยามที่ข้าแข็งแกร่งที่สุด มีเพียงผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกและกึ่งเซียนเท่านั้นที่คู่ควรต่อรองกับข้า แต่พวกกึ่งไร้ดัดแปลงอย่างพวกเจ้าไม่คู่ควร!”
พลังมิติล้อมกรอบ ลู่เจี่ยเฟิน ซูฉวน และสองชายชราไม่อาจหลบหนี บุรุษผู้นั้นเคลื่อนไหว จู่โจมทั้งสี่ในพริบตา
แม้จะเป็นเพียงการขยับตัวเล็กน้อย แต่การจู่โจมของบุรุษผู้นี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นที่จู่โจมเต็มกำลัง
ซูฉวนเร่งนำเกราะเพลิงทองคำสวมคุ้มกาย แต่เมื่อสัมผัสกับการจู่โจมของบุรุษผู้นั้น เกราะกลับปริแตก
ในช่วงเวลาชีวิตและความตาย ซูฉวนเร่งนำหยกออกมาแผ่นหนึ่ง บดขยี้สร้างเป็นม่านพลังคุ้มกันที่สามารถต้านทานการโจมตีของขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นได้
แต่ถึงย่างนั้น การป้องกันของมันยังไม่อาจต้านทานการจู่โจม จนมันได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ยังไม่ถึงชีวิต
สองชายชราย่ำแย่ยิ่งกว่า พวกมันถูกทาสและมังกรทมิฬของหนิงฝานจู่โจม ถูกแรงกระแทกจากหมัดของหนิงฝานจู่โจม ทำให้ได้รับบาดเจ็บอยู่ก่อนไม่น้อย ดังนั้น สิ่งที่มันพอจะทำได้คือเค้นสมบัติที่มีทั้งหมดออกมา
“เกราะเต่าทมิฬ!”
“ขวดวายุหิมะ!”
สมบัติทั้งสองอยู่ในระดับกึ่งไร้ดัดแปลง แต่เมื่อสัมผัสกับการจู่โจม มันกลับแตกเป็นเสี่ยงๆ ร่างกายได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรงจนร่วงกระแทกพื้นดังสนั่น
จะมีก็เพียงลู่เจี่ยเฟินที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ มันนำกระจกม่วงของมันออกมาต้านรับ เค้นแก่นโลหิตผสานกับกระจก กระตุ้นให้กระจกทรงพลังยิ่งขึ้น และสร้างม่านพลังปกคลุมพื้นที่เป็นวงกว้างเพื่อรับการจู่โจม
แต่ถึงแม้จะรับการจู่โจมของบุรุษผู้นั้นได้ แต่พายุมิติที่ยังพัดพา กระหน่ำเข้าจู่โจมม่านพลังของมันอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กระจกม่วงเริ่มรับแรงไม่ไหวกระทั่งปริแตก
ถึงลู่เจี่ยเฟินจะไม่บาดเจ็บ แต่มันต้องเสียสมบัติล้ำค่าไป
“แค่จู่โจมเล็กน้อยแต่กลับกระชากมิติจนขาดสะบั้น… น่ากลัวจริงๆ!” แม้มันจะหวาดกลัว แต่นั่นก็ยิ่งทำให้มันอยากบรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลง แต่ดูเหมือนบุรุษผู้นั้นจะไม่ยอมให้มันสมหวัง
“องค์ชายซูฉวน หนีเร็ว!”
ลู่เจี่ยเฟินไม่ยอมตาย มันไม่ยอมให้ความพยายามทั้งหมดต้องสูญเปล่า มันสัมผัสกระเป๋า นำแผ่นข่ายอาคมสีทองแผ่นหนึ่งออกมาแล้วชูขึ้นฟ้า
การกระทำของมันทำให้บุรุษผู้นั้นขมวดคิ้ว
“คาดไม่ถึงว่าจะมีข่ายอาคมระดับไร้แบ่งแยกอยู่...”
แม้เห็นว่าลู่เจี่ยเฟินกำลังจะหนี แต่บุรุษผู้นั้นกลับกล่าวอย่างเรียบเฉย “คิดว่าจะรอดงั้นเหรอ?”
มันเอื้อมทำท่าคว้าจับอากาศ เกิดเป็นกรงเล็บปราณขนาดยักษ์ข่วนเข้าใส่ข่ายอาคม ข่ายอาคมสั่นสะท้านอย่างรุนแรงจนเกือบจะพังทะลาย แต่ไม่พังทะลาย
ลู่เจี่ยเฟินยิ้มพลางกระตุ้นข่ายอาคม ส่งร่างของมันหายไปอย่างไร้ร่องรอย
บุรุษผู้นั้นตกตะลึงเล็กน้อย “ข่ายอาคมแหวกมิติ… เปิดช่องว่างมิติด้วยพลังไร้ลักษณ์ ส่งร่างของผู้ใช้ไกลออกไป 10 ล้านลี้… คาดไม่ถึงว่าพวกมันจะมีของระดับนั้น ช่างเถอะ… ถือว่าข้าประมาทจนปล่อยให้มันหนีไปได้”
ลู่เจี่ยเฟินหนีไปได้ จะเหลือก็เพียง 2 ชายชราแห่งนิกายปีศาจขาวที่กำลังซ่อนตัว และซูฉวนที่หมดสภาพ
“ซ่อนตัวอยู่ในสมบัติที่อยู่อาศัยงั้นเหรอ? พวกเจ้าคงคิดว่าหากซ่อนตัวอยู่ในสมบัติ ไม่ว่าศัตรูจะเป็นผู้ใดย่อมไม่อาจทำอันตรายเจ้าได้… น่าขำจริงๆ! ต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงแล้ว สมบัติพวกนั้นเป็นเพียงของเด็กเล่น! ทำลาย!”
บุรุษผู้นั้นทะยานขึ้นไปบนท้องนภา สองมือยื่นไปเบื้องหน้าแล้วทำท่าแหวกอากาศ มิติเบื้องหน้าถูกฉีกกระชาก เสียงของบางสิ่งระเบิดดังสนั่น!
สองชายชราปรากฏตัวพลางกระอักโลหิต แววตาเผยความหวาดกลัวสุดขีด
“เป็นไปไม่ได้ ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงก็ไม่อาจทำลายมิติของสมบัติข้าได้… มนุษย์ไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้ได้… เจ้ามันเป็นอสูร!”
“รู้มากนักนะ… งั้นก็ตายได้แล้ว!”
บุรุษผู้นั้นขยับนิ้วเป็นท่าทาง พลังในร่างปะทุ เข้ากดดันสองชายชรา บีบขับให้ดวงจิตของพวกมันหลุดออกจากร่างและเก็บเข้ากระเป๋าไป
ยามนี้จะเหลือก็เพียงซูฉวนที่ยังไม่ถูกสังหาร มันได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้ปราณในร่างก็ไม่อาจโคจร
เมื่อสองชายชราถูกสังหาร และบุรุษผู้นั้นพุ่งเป้ามาที่ตน ซูฉวนเร่งขบปลายลิ้น พ่นโลหิตสีทองออกมา
“วิชากิเลนทองคำ! โลหิตหลบหนี!”
โลหิตสีทองถูกกระตุ้น มันเปล่งแสงเจิดจ้าจนบุรุษผู้นั้นมองไม่เห็น ก่อนที่ร่างของซูฉวนจะกลายเป็นลำแสงทะยานขึ้นสู่ท้องนภา
“ครั้งหน้าที่พบกันจะเป็นวันตายของเจ้า!” ซูฉวนกล่าวคำทิ้งไว้ก่อนจะจากไป
เมื่อซูฉวนจากไป บุรุษผู้นั้นขมวดคิ้ว “ไอ้เด็กอวดดี! ถ้าไม่เพราะเห็นแก่เผ่ากิเลนทองคำของเจ้า ไม่เพราะเห็นแก่ความเป็นสหายกับเทพกษัตริย์แห่งโลกอสูร ข้าฆ่าเจ้าไปแล้ว!”
เมื่อทั้งหมดจากไป บุรุษผู้นั้นก็มุ่งความสนใจไปที่กุญแจวังดารา หากมันได้กุญแจวังดารา มันก็จะรอให้เป่ยเหยามาติดกับ และสังหารนาง
มันซัดฝ่ามือเข้าใส่ไข่อสูรขนาดยักษ์ อานุภาพของฝ่ามือบดขยี้ไข่ใบนั้นได้อย่างง่ายดาย
จ้าวดาราหมาป่าโหยนับเป็นอสูรที่โชคร้ายที่สุดตนหนึ่ง แม้ว่ามันจะดูดกลืนเลือดเนื้อของลู่หวู่ เก็บตัวเพื่อหวังจะกลายเป็นอสูรที่สมบูรณ์ แต่มันกลับถูกหนิงฝานสังหารและชิงทุกสิ่งไป
แต่นอกเหนือจากมันที่โชคร้ายแล้ว… บุรุษผู้นี้ก็โชคร้ายเช่นเดียวกัน
เมื่อน้ำแข็งพังทะลาย ร่างของหมาป่าโหยปรากฏ สีหน้าของบุรุษผู้นั้นแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
“มันตายแล้ว! ทำไมในขณะที่หลับไหลถึงตายได้! หืม? โลหิตถูกดูดซับไปจนหมด!” มันเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดี จึงเร่งซัดฝ่ามือทำลายร่างของจ้าวหมาป่าตรกลายเป็นหมอกโลหิต แต่กลับไม่มีกุญแจอย่างที่มันคาดหวังไว้
“ไม่มีกุญแจ! เป็นไปไม่ได้!”
มันรู้สึกราวกับตนเองถูกหลอก ความแค้นลุกโชนราวกับเพลิง มันเร่งนำดวงจิตของสองชายชราออกมาแล้วกล่าวถาม
“กุญแจอยู่ที่ไหน!”
[ ** ประกาศ หนิงฝาน มีเว็บส่วนตัวแล้วครับ https://laosoofung.com/
มีการขายเหมือนที่นี่ แต่ราคาถูกกว่าเพียงตอนละ 1.5 บาท หากสนใจเชิญได้ที่เว็บ https://laosoofung.com/
หรือแฟนเพจ "ผู้ใหญ่บ้านเล่าสู่ฟัง" ข้างล่างครับ
แม้พวกมันจะบาดเจ็บสาหัสและเหลือเพียงดวงจิต แต่สติสัมปชัญญะของพวกมันยังอยู่ครบ
“กุญแจ? ย่อมอยู่กับจ้าวหมาป่า...”
“เจ้าโกหกข้า!”
*เพล๊ง!*
ดวงจิตของหนึ่งในชายชราแตะสลาย
“ผู้อาวุโสใจเย็นก่อน… พวกข้าชิงไข่จ้าวหมาป่ามาได้ กุญแจสมควรอยู่ในตัวมัน...”
ชายชราที่รอดหวาดกลัว มันรู้ว่าคำตอบของมันไม่ได้ทำให้บุรุษผู้นี้พึงพอใจ
เมื่อความตายย่างกราย สมองของมันราวกับถูกกระตุ้นเต็มกำลัง ทำให้มันเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
มันจำได้ว่าก่อนที่พวกมันจะเอาไข่หนีออกมาได้ หนิงฝานได้ฝ่าเข้ามาในพายุ ยืนอยู่ด้านบนของไข่แล้วชกหมัดใส่พวกมันอย่างรุนแรง
“ต้องเป็นลู่เป่ยแน่! มันเอากุญแจไป! มิน่าที่พวกข้าได้ไข่ แต่มันกลับไม่ไล่ตามมา… ที่แท้มันได้กุญแจไปแล้ว!”
แม้จะไม่มั่นใจนัก แต่หนิงฝานเป็นเพียงคนเดียวที่เข้าถึงไข่ ดังนั้นชายชราจึงคิดว่าเป็นเพราะหนิงฝาน
“ลู่เป่ยเป็นใคร!” บุรุษผู้นั้นกล่าวถามอย่างเย็นชา
“ลู่เป่ยคือ...”
มันคิดว่าหากบอกความจริงทั้งหมด มันจะรอดพ้นจากความตาย แต่น่าเศร้าที่มันดูแคลนบุรุษผู้นี้เกินไป
“เสียเวลา! ไม่จำเป็นต้องพูดแล้ว ข้าจะดูจากความทรงจำของเจ้า!”
สัมผัสเทพที่ทรงพลังแทรกเข้าไปยังทะเลสติของชายชรา จนทำให้ดวงจิตของมันแตกเป็นเสี่ยงๆ
แม้ดวงจิตของชายชราจะถูกทำลายจากการอ่านความทรงจำ แต่นั่นกลับทำให้บุรุษผู้นี้ดวงตาเบิกกว้าง
“เจอตัวนางแล้ว! คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะอยู่ข้างกายลู่เป่ย!”
จากความทรงจำที่ได้ มันยังไม่รู้ว่ากุญแจวังดาราอยู่ที่ไหน แต่มันรู้ว่าเป่ยเหยาอยู่ที่ไหน
มันเห็นสตรีที่สวมผ้าปิดคลุมใบหน้ายืนอยู่หลังลู่เป่ย นางคือเป่ยเหยาที่มันตามหา!
“ครั้งนี้เจ้าหนีข้าไม่พ้นแน่! เจ้าลู่เป่ย!”
ไม่มีเรื่องใดที่ทำให้มันมีความสุขไปกว่าการที่ได้พบตัวเป่ยเหยา หากสังหารนางได้ ภารกิจของมันก็สำเร็จ
มันหลับตา แผ่สัมผัสที่ทรงพลังยิ่งกว่าผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกไปทั่ว มันขยับมือเป็นท่าทางพลางใช้วิชา “วิชาสัมผัสโลก!”
มันกระอักโลหิต ระดับพลังลดลงเหลือของไร้ดัดแปลงขั้นกลาง
วิชาที่สามารถผสานสัมผัสเทพของมันเข้ากับจิตวิญญาณของโลกได้ ตราบใดที่ยังอยู่ที่นี่ มันจะสัมผัสได้ถึงทุกสิ่งในโลก!
“เจอแล้ว!”
มันลืมตาพลางผสานร่างตนเองไปกับมิติ มุ่งหน้าไกลออกไป 2 แสนลี้ในชั่วพริบตา
“ลู่เป่ย… ดูซิว่าพวกเจ้าหนีไปได้สักกี่น้ำ!”
มันมุ่งหน้าไล่ตามไปยังทิศทางที่หนิงฝานมุ่งไปด้วยความเร็วสูง
อีกด้านของพลังมิติ คนจากแดนสวรรค์ต่างเร่งพยายามทะลวงเข้าไปในวังดารา โดยที่พวกมันไม่รู้ว่าเรื่องเลวร้ายได้เกิดขึ้น
“ได้ยินข่าวว่าหลินซูแห่งนิกายปีศาจเข้าไปในวังดาราได้แล้ว มันประกาศว่าจะสังหารลู่เป่ยให้ได้ ดูท่าลู่เป่ยคงไม่รอดแล้ว!” ผู้เยาว์ร่างเล็กคนหนึ่งกล่าวพลางถอนหายใจ
“จริงเหรอ? ถึงข้าไม่รู้ว่าลู่เป่ยเป็นใคร แต่การที่มันเอาชนะซื่อฉวนได้ มันย่อมไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกเราแน่นอน บางทีหลินซูอาจจะเอาชนะไม่ได้ง่ายๆ” ผู้เยาว์ร่างอ้วนกล่าว
“ข้าไม่เชื่อหรอก! เจ้าลู่เป่ยเป็นแค่มดชั้นต่ำ ที่มันเอาชนะซื่อฉวนได้ก็เพราะแค่โชคช่วย แต่หลินซูแข็งแกร่งกว่าซื่อฉวน มันไม่มีทางเอาชนะได้แน่!” ผู้เยาว์ร่างเล็กกล่าวอย่างมั่นใจ
แต่ทันทีที่มันกล่าวจบ เสียงของอสูรที่ทรงพลังกลับดังสะท้อนมา
“ลู่เป่ย… ดูซิว่าพวกเจ้าหนีไปได้สักกี่น้ำ!”
จากน้ำเสียงดูราวกับจะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส
จากแรงกดดันที่แฝงมา ก่อนหน้าที่จะบาดเจ็บ สมึวรเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังมาก่อน
“ขอบเขตเซียน! แค่เสียงของมันก็ทำให้วังดาราสั่นสะเทือน… มันสมควรเป็นเซียนที่บาดเจ็บสาหัส! ถ้าเราเข้าไปในนั้นก็เท่ากับรนหาที่ตาย!”
“จากน้ำเสียงของมันดูเหมือนมันกำลังไล่ล่าลู่เป่ยอยู่!”
“ลู่เป่ย! คนที่เอาชนะซื่อฉวนได้หน่ะเหรอ? มันแค่ขอบเขตตัดวิญญาณขั้นต้น ทำไมมันถึงยั่วยุเซียนได้!”
“ดูเหมือนตอนนี้เซียนผู้นั้นยังคงตามล่าอยู่ แสดงว่าลู่เป่ยหลบหนีจากเซียนได้ นี่มันเก่งกาจขนาดไหนกัน!”
ขุมกำลังนับร้อนที่พยายามทะลวงเข้าไปในวังดาราต้องหยุดชงัก เพราะพวกมันได้ยินเสียงที่โกรธแค้นของเซียน!
“ลู่เป่ยเป็นใคร!”
ผู้เยาว์ของแต่ละขุมกำลังสีหน้าแปรเปลี่ยน บ้างตกตะลึง บ้างนับถือและอยากพบ เพราะแม้เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ แต่กลับหนีรอดจากเซียนได้
ผู้เยาว์ร่างเล็กขบคิด หากเซียนไล่ล่าลู่เป่ย… นั่นหมายความว่าหลินซูที่เข้าไปในนั้นอาจถูกสังหารไปแล้ว!
“เจ้าพูดจาใหญ่โต ดูซิเจ้าดูแคลนศัตรูไว้ขนาดไหน หากมันรอดออกมาจากวังดาราได้ มันอาจมาหาเจ้าเป็นคนแรก!” ไม่ไกลจากผู้เยาว์ร่างเล็ก บุรุษผู้หนึ่งกล่าวหยอกล้อ
“ท่านแม่! ท่านพ่อพูดจากไร้สาระอีกแล้ว จะมีใครที่รอดพ้นกการตามล่าของเซียนได้!”
“ข้าแค่พูดล้อเล่นกับเจ้าเท่านั้นแหละ….”
เสียงของบุรุษผู้นั้นดังสะท้อนไปทั่วทั้งวังดารา ระลอกคลื่นเสียงทำให้เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง มิติเริ่มพังทะลาย
หนิงฝานที่อยู่บนรถเพลิงทองคำ กำลังมุ่งหน้าไปยังไปยังใจกลางของวังสวรรค์เองก็ได้ยินเสียงเช่นเดียวกัน
วังสวรรค์ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด มิติเริ่มพังทะลายไล่หลังรถเพลิงทองคำ หากรถเพลิงทองคำหยุด จะถูกพายุมิติดูดกลืนหายเข้าไปทันที
“พี่ลู่เป่ย… เจ้าของเสียงเป็นใคร มันแข็งแกร่งมาก… ข้ากลัว! ทำไมมันถึงไล่ล่าเรา!” ซีหลายกล่าวน้ำเสียงสั่นเครือ
“มันคืออสูรมิติ!”
คำกล่าวของหนิงฝานทำให้วู่หยาน ซีหลาน และเยว่หลิงคงตกตะลึง
“อสูรมิติ… อสูรที่คอยจู่โจมเซียนในมิติเพื่อดูดซับพลัง! ทำไมมันถึงไล่ล่าเรา!”
“เป็นเพราะข้า… ข้าขอโทษ ลู่เป่ยปล่อยข้าไปเถอะ ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องติดร่างแหไปด้วย… เมื่อครู่มันใช่วิชาสัมผัสโลก มันสัมผัสได้ทุกสิ่งที่อยู่ในโลกใบนี้ หากข้าไป มันจะพุ่งเป้ามาที่ข้าแทน”
เป่ยเหยาขมวดคิ้ว นางรู้ว่าตอนนี้นางทำอะไรมันไม่ได้ นางต้องเร่งถอยห่างจากหนิงฝานเพื่อให้เขาปลอดภัย
“ไร้สาระ! ข้าบอกแล้วว่าจะปกป้องท่าน!”
หนิงฝานขมวดคิ้ว เขาไม่อาจปล่อยนางไปได้
“ข้าไม่อยากให้เจ้าติดร่างแหไปด้วย...”
“ถ้าจะหนีก็ต้องหนีไปด้วยกัน!”
หนิงฝานตัดสินใจเด็ดเดี่ยว แววตาหนักแน่นมั่นคง ทำให้นางรู้สึกอบอุ่นหัวใจ
“ข้าขอโทษ ข้าให้เจ้าเข้ามาพัวพันไม่ได้จริงๆ...”
นางจ้องมองหนิงฝานเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะตัดสนใจกระโดดลงจากรถเพลิงทองคำ!
“เป่ยเหยา!”
“พี่เป่ยเหยา!”
สตรีคนอื่นๆตกใจ พวกนางร้องเรียกพร้อมเพรียง ราวกับเป่ยเหยาเป็นพี่สามแท้ๆของพวกนาง
“ไม่ได้!”
หนิงฝานขมวดคิ้ว เขาคว้าแขนของนางได้ทันและจับไว้แน่นไม่ปล่อย
“ท่านจะไปไหนไม่ได้!”...