ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปโปรเพลเยอร์วัยเกษียณ (SMRiaG) บทที่ 1 สัมภาษณ์กับตำนาน [อ่านฟรี]

โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ (SMRiaG) อารัมภบท [อ่านฟรี]


บทที่ 0 – อารัมภบท

แคปซูล เป็นเกมคอนโซลที่ปฏิวัติวงการโลกแห่งเกมซึ่งเป็นผลงานจากการสรรสร้างของไพร์มอินดัสทรีสถาบันวิจัยและพัฒนาโลกเสมือนจริง(วีอาร์)ชั้นนำของโลก พร้อมกับการเปิดตัวแอปพลิเคชัน : โลกแห่งเวทมนต์ ที่ทำงานบนแคปซูล

โลกแห่งเวทมนต์เป็นเกมบทบาทสมมุติออนไลน์ขนาดใหญ่ซึ่งมีทั้งโลกแห่งดาบรวมทั้งเวทมนต์ถูกตั้งค่าไว้ในตัวเกมด้วย จุดขายที่โดดเด่นที่สุดของตัวเกมเห็นจะเป็นความเป็นไปได้ต่าง ๆ ที่ผู้เล่นจะได้รับ นอกจากที่สามารถปรับแต่งรูปลักษณ์ได้ตามใจชอบแล้วยังมี เผ่า เพศ และอีกมากมายที่ผู้เล่นต้องการทำ

ปกป้องประเทศจากอันตรายโบราณเพื่อจะได้เป็นฮีโร่ของประเทศหรือทำลายอันตรายโบราณนั่นเพื่อกลายเป็นความพินาศ หรือในขณะที่เหล่าฮีโร่และปีศาจกำลังต่อสู้กันอยู่นั้น ท่านเพียงนั่งอยู่กับที่และสนุกกับการรังสรรค์อาวุธที่แข็งแกร่งที่สุด ประติมากรรมที่งดงามที่สุด หรือแม้แต่จะเป็นเสื้อผ้าที่สวยที่สุดก็ย่อมได้

ไม่ว่าหัวใจจะเพรียกหาสิ่งใดที่ท่านต้องการก็ล้วนแต่สามารถเกิดขึ้นจริงได้ในโลกเสมือนแห่งนี้

ผู้เล่นจะก้าวเข้าไปในโลกนี้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงและเติบโตอย่างต่อเนื่องกับเอ็นพีซี(ผู้เล่นที่ไม่มีบทบาทใด ๆ)อีกมากมาย มนุษย์ที่ถูกจำลองขึ้นมาเหล่านี้แทบจะไม่ต่างอะไรไปจากคนทั่วไปเลย และผู้เล่นบางคนก็ตกหลุมรักกับเอ็นพีซีเหล่านี้และสร้างครอบครัวกัน ชีวิตเหล่านี้สามารถเกิด แก่ เจ็บ และตายได้ พวกเขาเรียนรู้และลืมได้ สิ่งนี้นำไปสู่การมอบประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำเดิมให้แก่ผู้เล่นที่แม้จะอยู่ในเกมเดียวกันก็ตาม

ผู้เล่นดาวรุ่งและมีความสามารถคนหนึ่งเล่นได้นั่งในแคปซูลเพื่อเล่นเกมนี้เป็นครั้งแรก ในอดีตนั้นเขาเคยเป็นผู้เล่นที่ติดอับดับ1ใน10ผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดในหลาย ๆ ตัวเกมยอดนิยม แต่เมื่อโลกแห่งเวทมนต์เปิดตัวทำให้ตอนนี้เกมเหล่านั้นสูญเสียความนิยมไปอย่างรวดเร็วรวมถึงเกมปัจจุบันที่เขาเล่นอยู่ด้วย เขาจึงตัดสินใจเล่นเกมนี้และถึงเวลาแล้วที่จะกลับมาทวงจุดสูงสุดของผู้เล่นที่แข็งแกร่งอย่างที่เขาเคยทำ

ขณะที่ชีวิตจริงนั้นเขาเป็นเพียงชายแก่คนหนึ่ง แต่เมื่ออยู่ในเกม อายุน่ะเหรอ? มันก็เป็นเพียงแค่ตัวเลข เขาปรับแต่งรูปแบบตัวละครให้เป็นเวอร์ชั่นที่สมบูรณ์แบบในสไตล์ของตัวเอง ทำให้อ่อนวัยลง30ถึง40ปี ผมสีบลอนด์ยาวมีเสน่ห์ โครงใบหน้าดีและหล่อ พร้อมกับกล้ามเนื้อและหุ่นลีนตามที่ใฝ่ฝัน

เพื่อที่จะทำให้การเริ่มต้นเกมนั้นเป็นไปอย่างง่ายดายมากขึ้น เขาเปลี่ยนเงินจริงเป็นสกุลเงินในเกมเพื่อจะได้ซื้อสิ่งของที่ดีที่สุดหลายชิ้นเท่าที่ซื้อได้ ตอนนี้ทุกอย่างก็พร้อมแล้วสำหรับการเดินทางไปสู่โลกใบใหม่ใบนี้ในฐานะ เทค นักรบผู้ยิ่งใหญ่!

หลังจากที่มาถึงหมูบ้านเล็ก ๆ ในเมืองคัลทร่า หนึ่งในเมืองเริ่มต้นแห่งจักรวรรดิยุโรปตะวันตก สิ่งแรกที่เขาต้องทำคือเปลี่ยนคลาสเป็นนักรบผ่านคลาสเทรนเนอร์

เขาเห็นผู้คนมากมายที่เดินเตร่ไปทั่วตามท้องถนน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนที่เล่นหยอกล้อกันหรือแม้แต่คู่รักที่มาเดทกัน เนื่องจากทั้งสองสิ่งที่กล่าวถึงเป็นสิ่งที่เทคไม่เคยประสบมาก่อนเลยในชีวิต นักรบที่เพิ่งเกิดใหม่อย่างเขาจึงทำเสียงจิ๊จ๊ะและพูดเสียดสีกับผู้คนเหล่านี้ว่าเสียเวลาชีวิตเปล่า ๆ

“เสียทั้งเวลา เสียทั้งความพยายามอะไรเช่นนี้ อีกไม่นานหรอกจะแซงให้หมด” เขาขบคิดในใจขณะเดินไปตามถนนสายหลักเพื่อหาร้านค้าอาวุธและชุดเกราะ ร้านแรกที่เขาเจอก็คือ “การปกป้องจากสวรรค์” ชัดเจนว่าเป็นร้านที่ดูเหมือนจะขายเพียงแค่เครื่องป้องกันระดับสูงเท่านั้น

เทคซื้อชุดเกราะทองคำพร้อมกับโล่ ช่างน่าเสียดายที่ร้านนี้ไม่ได้ขายอาวุธที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับชุดเกราะที่ซื้อมา เขาออกมาจากร้านและเดินต่อไปตามถนน ขณะที่เขากำลังมองหาร้านดี ๆ สักร้านเพื่อซื้อดาบ เขาก็สังเกตถึงบางอย่างที่แปลกไป อาวุธที่ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ กายเขาถืออยู่นั้นมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน : รูปค้อนที่ถูกสลักไว้บนอาวุธชนิดนั้น ๆ

เทคเดินไปหาคนที่อยู่ใกล้ ๆ โดยไม่ลังเล ชายคนนั้นถือของที่มีรอยสลักที่ว่าอยู่ เทคถามที่มาของอาวุธเหล่านั้น หลังจากที่เดินตามเด็กหนุ่มผมสีเขียวยาวไปยังร้านค้าที่ว่า เทคก็เดินเข้าไปในตรอกหนึ่งที่ทอดยาวออกมาจากถนนสายหลัก ตรอกนี้เป็นที่ที่ไม่ควรย่างเข้ามาเมื่อตกกลางคืน และแล้วเทคก็พบกับร้านค้าร้านหนึ่งที่มีสัญลักษณ์สลักรูปค้อนตามที่หาอยู่หน้าร้าน

เขาเดินเข้าไปอย่างมั่นใจ ภายในร้านมีอาวุธหลากชนิดให้เลือกสรรและแม้แต่ชุดเกราะด้วยเช่นกัน ซึ่งดูเหมือนว่าระดับจะต่ำกว่าชุดเกราะที่เขามีอยู่แล้ว

“สวัสดีค่ะ สวัสดี~! มีอะไรให้เรารับใช้คะคุณลูกค้า~?” อีกฟากหนึ่งของตัวร้านมีเด็กสาวน้อยตัวเล็ก ๆ ผู้มีผมเปียสีชมพูยกตัวเองขึ้นมาเหนือเคาน์เตอร์เพื่อดูลูกค้ารายใหม่ที่เพิ่งเข้ามา ข้างเธอนั้นมีเด็กหนุ่มที่ดูอายุไล่เลี่ยกัน เขามีผมสั้นสีฟ้าและหน้าตาที่ไม่เป็นมิตร

“ฉันต้องการอาวุธ” เทคตอบกลับสั้น ๆ มันยังเป็นความรู้สึกแปลก ๆ สำหรับเขาที่ต้องมาสนทนากับเอ็นพีซี ซึ่งพวกนี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากโค้ดธรรมดาแค่ “1” กับ “0”

“ก็เห็นอยู่ตำตา เกราะกับโล่ก็มีแล้ว จะอยากได้อะไรเสียอีกล่ะถ้าไม่ใช่อาวุธ?” เด็กหนุ่มผมสีฟ้าพูดเสียดสีและหันกลับไปนั่งลงบนเก้าอี้และอ่านหนังสือต่อ

การกระทำนั่นเริ่มทำให้เทคกัดฟันแน่น “ไอ้เปี๊ยกนี่คิดว่าตัวเองเป็นใคร? ก็แค่หุ่นจำลอง! แกถูกสร้างมาให้ผู้เล่นได้เล่นสนุกคั่นเวลาและเพื่อใช้เป็นประโยชน์จากแกก็แค่นั้นแหละ”

“ขอดาบที่แข็งแกร่งที่สุดให้ฉัน” เทคออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ เด็กสาวผมสีชมพูรีบพยักหน้าและเผยรอยยิ้มสดใส จากนั้นก็กระโดดมาอยู่หน้าเคาน์เตอร์และตรงไปยังหน้าจอหนึ่งและหยิบดาบยาวธรรมดา ๆ ออกมาเล่มหนึ่ง เมื่อเทียบกับอาวุธอื่น ๆ ที่เขาเห็นตามท้องถนนแล้ว ดาบยาวเล่มนี้ดูไม่ได้แข็งแกร่งสำหรับเทค ด้วยความโกรธ เทคจึงคว้าดาบมาจากมือเธอและขว้างมันไปด้านข้างทันที “ฉันบอกว่าให้เอาดาบที่แข็งแกร่งที่สุดมาให้ฉันไง!” เทคกำหมัดแน่น พยายามที่จะไม่ทำลายกฎข้อสำคัญที่สุดที่ผู้เล่นทุกคนมีติดตัว คือการไม่สื่อสารในรูปแบบใด ๆ ที่เหล่าเอ็นพีซีเป็นส่วนหนึ่งของเกมวีอาร์ที่มีความทรงจำและไม่ได้มีชีวิตจริง ๆ หากแต่เป็นแค่โปรแกรม

เทคชี้ไปยังดาบใหญ่สีดำดูคมและเป็นประกายสีขาวเล็กน้อยเล่มหนึ่งที่อยู่เหนือเคาน์เตอร์ขึ้นไป

เด็กหนุ่มส่ายหน้าพร้อมพูดส่อเสียดขึ้นมาอีกครั้ง “ไม่ได้หรอกเพื่อนยาก ดาบเล่มนั้นไม่ได้มีไว้ขาย”

“ไสหัวไปเสียไอ้หนู ฉันบอกว่าต้องการดาบ เอามาให้ฉัน ไม่อย่างงั้นได้เสียใจแน่”

คิ้วของเขาขมวดติดกันเป็นปม เด็กหนุ่มผมสีฟ้าวางหนังสือลงและก้าวออกมายืนตรงหน้า เงยหน้ามองเขา “ผมบอกว่าดาบนั่นไม่ได้มีไว้ขายไง”

เทคค่อย ๆ ยกมือขึ้นอย่างช้า ๆ พร้อมที่จะเหวี่ยงกระแทกกับใบหน้าของเด็กหนุ่ม เขาเหวี่ยงมือออกไปและทันทีที่รู้สึกว่าฝ่ามือกระแทกเข้ากับแก้มของเด็กหนุ่ม ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ความเจ็บปวดนั้นแล่นผ่านขึ้นมาถึงสมองและแสดงออกมาทางสีหน้าจนเขาแข็งทื่อไป

“อะไรวะ...?!” เขาตะโกนออกมาตามสัญชาติญาณและผงะถอยหลังออกมา

“เฮ้ย แกคิดว่าแกมาทำอะไรของแกในร้านฉัน?” น้ำเสียงลึกครึ้มถามเขา เทคไม่ทันสังเกตว่าเสียงนั่นมาจากใครเพราะมัวแต่สนใจมือข้างที่เจ็บอยู่ นักรบหันมาและมองชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ถึงแม้ว่าเขาจะปรับให้ตัวเองค่อนข้างสูงแล้ว แต่ชายคนนี้นั้นสูงกว่า กล้ามเนื้อใหญ่เด่นออกมาจากท่อนแขนทั้งสองข้างและเส้นเลือดที่ปูดขึ้นมาทำให้แผลเป็นตามตัวของเขาดูเด่นขึ้นมาเช่นกัน ร่างกายท่อนบนของเขาถูกคลุมด้วยผ้ากันเปื้อนหนัง เป็นภาพลักษณ์ที่ชัดเจนของช่างตีเหล็กโบราณ ผมที่ยาวผันเปลี่ยนเป็นสีขาวสะอาดตามอายุที่เพิ่มขึ้นของเขาถูกมัดรวบเป็นจุกไว้ด้านหลังและมีเคราที่สีเดียวกับผม มันทำให้ดูไม่เหมือนว่าเขาทำงานสายนี้ เขาเปล่งเสียงออกมาดั่งความรู้สึกโดยแท้ของลูกผู้ชายร่างกำยำ

“ต้องการอะไรไม่ทราบตาเฒ่า?!” แม้ว่าอายุเทคจะดูไม่ได้น้อยไปกว่าเอ็นพีซีที่อยู่ตรงหน้าอย่างที่ควรจะเป็นสักเท่าไหร่ แต่ก็สัมผัสถึงสติปัญญาที่ล้นเหลือออกมาจากตัวเขา เขายืนกอดอกและก้มมองเทคด้วยความโกรธ

“ฉันเป็นคนที่ถามแกไง ว่าแกคิดว่าแกเข้ามาทำอะไรในร้านของฉัน?” ช่างตีเหล็กถามอีกครั้ง น้ำเสียงของเขาสื่อว่าการถามครั้งต่อไปจะไม่เกิดขึ้นอีก เทคทำเสียงจิ๊จ๊ะใส่เอ็นพีซีจอมกวนประสาทแถมยังยืนกอดอกให้อีก

“ฉันต้องการดาบเหนือเคาน์เตอร์นั่น เดี๋ยวนี้” เขาพูดอย่างมั่นใจ ขณะเงยหน้ามองชายที่ยืนตรงหน้า

ช่างตีเหล็กโพล่งเสียงหัวเราะดังออกมา “อยากได้ดาบงั้นเหรอ? ไอ้หนู นั่นมันดาบฉัน มันยังเร็วไปเป็นร้อยปีที่แกคิดจะจับและยกดาบนั่น”

“ชิ...ถ้าฉันทำได้ล่ะ?”

“ฮ่า ๆ ไอ้หนู ฉันจะบอกอะไรให้ฟังนะ ถ้าแกยกดาบนั่นได้ ฉันจะยกอาวุธทุกชนิดในร้านให้แกเลย แต่ถ้าทำไม่ได้ แกก็ซื้อสักอันแล้วไสหัวไปเสีย เข้าใจไหม?” ชายแก่จับมือเทคยืนขึ้นและรอเขาตอบตกลงข้อเสนอ หลังจากนักรบยอมรับข้อเสนอ ชายแก่ก็เอื้อมมือขึ้นไปหยิบดาบลงมาด้วยมือเดียว

“รับไปสิไอ้หนู” เขายิ้มเยาะเผยให้เห็นฟันขาวเรียงสวย เทคแบมือและกำรวบด้ามดาบอย่างมั่นใจ ทันใดนั้นน้ำหนักที่มีก็ขึงแขนของเขาจนตึง เทคต้องใช้สมาธิอย่างมากเพราะพวกเขาเองก็ไม่ยอมง่าย ๆ

“ว่าไง ยกได้ไหม? ฉันจะปล่อยแล้วนะ”

“หา?” เทคพึมพำออกมาหลังจากที่ได้ยินคำพูดของชายแก่ และก่อนที่เขาจะมีโอกาสตอบโต้ ข้อนิ้วของเขาก็ถูกกดลงกับพื้นด้วยแรงมหาศาล “อะไรกันวะ?! หนักอะไรขนาดนี้?”

ชายแก่ยังคงหัวเราะออกมาเสียงดังไม่หยุดและตบลงที่หลังเทคเป็นเหตุให้ความเจ็บปวดแพร่ผ่านทั่วร่างกายของเขา “คิดอะไรของแก ไอ้หนู? แค่เลเวลหนึ่งยังไม่พ้นเลย ดาบนั่นต้องการค่าความแข็งแกร่งที่มากกว่าพวกเลเวลร้อยมีกัน เอาล่ะ แกจะเอาดาบที่แม่สาวนั่นแนะนำให้แกไป หรือว่าจะออกไปให้พ้นร้านฉัน แบบตลอดกาล”

เทคประสบกับการคุกคามที่ทำให้เขารู้สึกลึกลงไปถึงกระดูก เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นเขาจึงต้องปล่อยมือออกจากใต้ดาบอันยิ่งใหญ่และดาบเล่มแรกที่เขาปฏิเสธไว้แทน หลังจากอ่านป้ายราคา เขาก็โยนเหรียญทองคำหนึ่งเหรียญลงบนพื้นตรงหน้าช่างตีเหล็ก

เทคพรวดพราดออกจากร้านและไปที่ประตูเมืองทันทีโดยไม่มีแม้แต่โอกาสได้ตอบโต้ใด ๆ

“แล้วจะได้เห็นดีกัน! หลังจากที่เลเวลเพิ่ม ฉันจะคว้าดาบนั่นแล้วฆ่าไอ้เฒ่าหงำเหงือกให้ตายด้วยมือ!” เทคออกจากประตูเมืองมาด้วยความโกรธจากนั้นก็ตรงไปยังดันเจี้ยนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับเมือง

“นี่ ได้ยินเรื่องนั้นยัง? มีข่าวลืมว่าหนึ่งในกลุ่มผู้บุกเบิกอยู่ในเมืองนี้!” เขาได้ยินหนึ่งในผู้เล่นที่กำลังมุ่งหน้าไปดันเจี้ยนเป็นคนบอกเพื่อนของเขา ด้วยความตกใจเพื่อนของเขาจึงหยุดเดินและหันมามอง “ล้อกันเล่นหรือเปล่า?” “รู้ไหมว่าคนไหน?”

“ได้ยินว่าเป็นไอเซ็นนะ! มีคนเห็นคนสวมสร้อยคออันนั้น!”

“หา? ของปลอมมีถมเถไป... สัญลักษณ์ของเขาเป็นที่รู้จักกันดีเพราะเขาใช้มันกับทุกอาวุธที่เขามี...”

“ฉันเดาว่า...พวกเขาคงไปหมดแล้วในเมืองหลวง ใช่ไหม? ...หรืออาจจะเป็นของปลอมอีกชิ้น?”

“ก็อาจจะ...งั้นไว้ค่อยเช็คทีหลังแล้วกัน!”

“อื้อ!”

เทคทำเสียงจิ๊จ๊ะให้กับบทสนทนาของชายสองคนนั้นและมองแถวของฝูงชนที่เข้าคิวกันหน้าดันเจี้ยน เทคโยนถุงที่มีเหรียญทองคำอยู่สองสามเหรียญให้แก่ผู้คุมเพื่อติดสินบนให้เขาได้แซงคิวเข้าดันเจี้ยนก่อนโดยไม่ต้องรอ

เทคเมินเฉยต่อเสียงคนที่ตะโกนใส่เขาเพราะแซงคิว เขาเดินต่อไปตามทางเดินตรงหน้า

เทคบ่นกับตัวเองพึมพำและเดินต่อไปเรื่อย ๆ หลังจากนั้นไม่กี่นาทีเขาก็พบกับปีศาจตัวแรก เขายกโล่ขึ้นตั้งและชี้ปลายดาบไปที่จมูกของปีศาจเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมกับการต่อสู้ที่กำลังจะเริ่มขึ้น มันคล้ายกับหมาล่าเนื้อตัวใหญ่ที่มีฟันแหลมคมและกรงเล็บที่ยาวกว่ากริช

“มาหาพ่อมา ไอ้ตัวน่ารังเกียจ!” เทคตะโกนและเคาะโล่ด้วยดาบเพื่อยั่วยุอสูรร้าย เมื่อเห็นว่าได้ผล เขาก็เตรียมพร้อมเข้ารับการปะทะ อสูรร้ายกระโจนเข้าใส่และฟันนักรบที่อยู่ตรงหน้ามันแทบจะทันทีทันใด เป็นผลให้เขากระเด็นไปอีกฝั่งของพื้นที่ทันที

“อะไรวะ?! ควรจะเป็นดันเจี้ยนสำหรับมือใหม่ไม่ใช่เหรอ?” เขาตะโกนออกมาและหันไปมองปีศาจอีกครั้ง ขณะที่กำลังครุ่นคิดเรื่องการใช้หนึ่งในทักษะพื้นฐานที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็ปลดล็อคแล้วได้ เขาถอยห่างออกมาเรื่อย ๆ แต่ก็ต้องทึ่งเมื่อได้เห็นเลเวลของมัน

[อสูรร้ายแห่งดันเจี้ยนมีชีวิต | เลเวล100]

“เวร เวร เวร เวรเอ้ย! ต้องตายแน่ ๆ! จะต้องเสียทั้งเงิน เสียทั้งของที่ซื้อมา! ได้โปรด อย่า ฉันอยากมีชีวิตต่อ!” ความกลัวที่มีเริ่มมากขึ้น หลังจากที่พลังชีวิตหายไปเกือบหมด เทคค่อย ๆ คลานห่างออกมาจากปีศาจอย่างช้า ๆ ตัวเขาสั่นรุนแรงจนไม่อาจควบคุมได้เนื่องจากสัมผัสถึงลมหายใจร้อน ๆ ของอสูรร้ายที่ต้นคอ ตัวเขาแข็งทื่อ เตรียมพร้อมที่จะถูกฉีกร่างออกเป็นชิ้น ๆ

แต่แล้ว...กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดูเหมือนปีศาจจะหายไปแล้วเมื่อพิจารณาจากอากาศร้อนชื้นที่ไม่ได้สัมผัสโดนตัวเขาอีกต่อไป เขาค่อย ๆ หันมามองกับภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า

ปีศาจที่เกือบจะฆ่าเขาถูกฟันขาดครึ่ง ร่างของมันจมกองเลือดที่นองอยู่เต็มพื้น ‘เกิดอะไรขึ้นกับมัน...?’ เทคคิดในใจ

“ฮ่า ๆ ไอ้หนู ดูเหมือนจะโชคไม่ค่อยเข้าข้างนะ หา? ไม่มีใครบอกแกหรือไงว่าดันเจี้ยนมีชีวิตน่ะอยู่ในเมือง?” น้ำเสียงอันลึกครึ้มฟังคุ้นหูถูกส่งไปยังนักรบ

“กะ-แก...? แกมาทำอะไรที่นี่?!” เทคตะโกนใส่ชายที่ยืนอยู่รงหน้าเขา ชายแก่จากร้านขายอาวุธกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา ในมือถือดาบใหญ่ที่ถูกพาดอยู่บนบ่ามีเลือดสีแดงฉานหยดลงพื้นตามแรงโน้มถ่วง

ตอนนั้นเองเขาก็สังเกตเห็นบางอย่างที่เขาไม่ทันสังเกตเมื่อตอนที่อยู่ในร้านขายอาวุธ เหรียญสีดำและแดงถูกห้อยล้อมรอบคอของชายแก่ในรูปแบบของสร้อยคอ มีสัญลักษณ์รูปค้อนถูกสลักอยู่

“คุณไอเซ็นคะ~? คุณช่วยเขาทำไม~? เขาพยายามจะทำร้ายพี่ของฉันนะ...” เด็กสาวผมสีชมพูถามชายแก่ด้วยความสับสน

“หา? อ๋อ เปล่านี่! ฉันไม่ได้ช่วยมันสักหน่อย! ฉันไม่ได้อยากให้ดาบฉันต้องเสียคมหรอกนะ! ดาบอีโก้น่ะทำยากจะตาย! ฉันเองก็อยากเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเราให้ดาบนี้แก่คนที่มีวิญญาณเน่าเฟะแบบหมอนี่ไป แต่ก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดีถ้าหมอนี่เกิดตายและหายไปก่อนที่จะได้ใช้มัน” ชายแก่หัวเราะดังลั่นและหนักมากเสียจนต้องเอามือประคองที่หน้าท้องก่อนจะเดินไปหาเทคและดึงดาบในมือเขาออก

“ฉันคิดว่าแกดูดีนะตอนที่เดินเข้ามาในร้านฉัน แต่ถึงยังไง ใครล่ะที่จะใส่ชุดเกราะสีสันที่มัณฑนากรตกแต่งเพื่อใช้ต่อสู้? ก็ดูเหมือนจะมั่นใจในความแข็งแกร่งอยู่หรอกนะ แต่ที่แท้ก็ไม่มีน้ำยา ฮ่า ๆ ๆ ๆ”

“ดะ-เดี๋ยว! ได้โปรดช่วยผมด้วย! ผมเอาเงินมาลงทุนกับเกมนี้แทบจะทั้งหมดแล้ว!” เทคตะโกนออกไปหวังจะให้ชายแก่ตรงหน้าช่วยเหลือเขา แต่เขาเพียงแค่หยุดหัวเราะและหันกลับมา เผยรอยยิ้มอันน่ากลัว กลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งยิ่งดึงดูดให้บรรดาปีศาจมาที่นี่ แต่พวกมันก็หลีกเลี่ยงชายผู้แข็งแกร่งคนนี้ที่ฆ่าพี่น้องของพวกมันตามสัญชาติญาณ และเริ่มฉีกทึ้งเทคที่นอนกองกับพื้นออกเป็นชิ้น ๆ จนไม่เหลือซาก ไอเซ็นไม่ได้สนใจเสียงกรีดร้องของชายที่ถูกฆ่าที่อยู่ข้างหลัง เขาหันหลังกลับและพร้อมจะเดินจากไป จากนั้นก็ทิ้งคำพูดสุดท้ายก่อนที่เทคจะถูกบังคับให้ออกจากระบบ

“ไสหัวไปเสีย ไอ้หนู!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด