GE330 หมื่นคนไม่อาจทัดเทียม [ฟรี]
“ฮ่าฮ่า นายกองเป่ยแข็งแกร่งจริงๆ แค่ขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลาง ไม่ใช่ทาสช่วย ยังแข็งแกร่งจนข้าไม่อาจเอาชนะได้… แต่ข้าขอแนะนำว่าให้พวกเราร่วมมือกันดีกว่า ไม่ควรขัดแย้งกันเอง”
ลู่เจี่ยเฟินกล่าว นับเป็นครั้งแรกที่มันเริ่มหวาดกลัวหนิงฝาน
เดิมทีที่มันกลับมาเพราะอยากจะหาเรื่องหนิงฝาน แต่ตอนนี้ มันไม่กล้าเป็นศัตรูกับหนิงฝานแล้ว
“เป็นเพียงขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลาง แต่กลับทำให้ขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลงบาดเจ็บสาหัสได้… หากมันบรรลุตัดวิญญาณขั้นสูงหรือขั้นสูงสุด นอกจากขอบเขตไร้ดัดแปลงขึ้นไปแล้ว คงไม่มีใครสู้มันได้อีก… หากข้าไม่ทะลวงขอบเขตไร้ดัดแปลง ข้าไม่ควรมายั่วยุมัน!” ลู่เจี่ยเฟินขบคิด มันเป็นผู้ที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก การที่ถูกหนิงฝานชิงผลไม้แห่งเต๋าหมาป่าโลหิตไป ทำให้มันโกรธแค้นและเฝ้าหาหนทางแก้แค้น
ลู่เจี่ยเฟินมีชีวิตมานาน ผ่านการต่อสู้มากมายนับไม่ถ้วนในทะเลไร้สิ้นสุด สำหรับมันแล้ว ศัตรูที่ต้องกำจัดมีไม่มาก เพราะมันเห็นประโยชน์เป็นสำคัญ
เมื่อเห็นว่าลู่เจี่ยเฟินกริ่งเกรงหนิงฝาน ซูฉวนที่มองอยู่จึงกล่าว “ข้าและนายกองลู่เป่ยไม่ได้มีความแค้นใดต่อกัน ข้าเพียงต้องการร่วมมือกับท่านเพื่อชิงดาราจักรพรรดิและสังหารจ้าวหมาป่าเท่านั้น”
มุมมองของซูฉวนได้เปลี่ยนไป เดิมมันคิดว่าหนิงฝานคือศัตรูที่น่ากลัวที่สุด แต่ยามนี้ หนิงฝานกลายเป็นผู้ที่มันต้องก้าวข้าม
“ลู่เป่ยคือผู้ที่ข้าให้การยอมรับ เป็นผู้ที่ข้าต้องก้าวข้าม… อีกไม่กี่ปีข้างหน้า ชื่อเสียงของมันคงดังกระฉ่อนไปทั่วทั้งโลกพิรุณ” ซูฉวนกล่าวในใจ
แม้ซูฉวนและลู่เจี่ยเฟินจะร่วมมือกับหนิงฝาน แต่คนจากนิกายปีศาจขาวกลับดูจะไม่เป็นเช่นนั้น
“ฮึ่ม! จนกว่าจะสังหารจ้าวหมาป่านั่นได้ ข้าหลินซูจะยอมร่วมมือกับเจ้าไปก่อน”
สิ่งที่มันกล่าวบ่งบอกอย่างชัดเจนว่า หลังสังหารจ้าวหมาป่าเสร็จ พวกมันจะจัดการหนิงฝานต่อ
“ไม่รู้ว่านายกองลู่เป่ยคิดจะร่วมมือกับพวกข้าหรือเปล่า!” ลู่เจี่ยเฟินยิ้มพลางกล่าว
“เหตุใดข้าต้องปฏิเสธพวกเจ้า? คนยิ่งเยอะยิ่งดี แต่หากสังหารจ้าวหมาป่าแล้ว เราจะแบ่งกุญแจกันยังไง? แล้วหากในระหว่างร่วมมือมีคนคิดทรยศข้า จะทำยังไง?”
“ฮ่าฮ่า หากสังหารราชาหมาป่าได้ เรื่องกุญแจก็ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคน… นายกองเป่ยคิดว่ายังไง?” ลู่เจี่ยเฟินกล่าว เรื่องเช่นนี้ไม่มีวิธีการที่ตายตัว เพราะการร่วมมือจะสิ้นสุดลงหลังจากสังหารจ้าวหมาป่าได้เท่านั้น
พวกมันยังไม่รู้ว่ากุญแจอยู่ในมือหนิงฝาน แต่หนิงฝานแสร้งทำสีหน้าเป็นกังวล
“ข้ารู้ว่าท่านกังวล ข้าเองก็กังวลเช่นเดียวกัน ที่เราทั้งหมดร่วมมือก็เพราะต้องการสังหารจ้าวหมาป่า หากระหว่างนั้นมีผู้ใดคิดทรยศ ข้าจะเป็นผู้แรกที่ฆ่ามัน!” ลู่เจี่ยเฟินหมายถึงนิกายปีศาจขาว
หลินซูขมวดคิ้วพลางแค่นเสียง ชายชราทั้งสองคนเดินมาข้างหลังมันพลางกล่าว “พวกเจ้าไม่ต้องกังวล พวกข้ารู้จุดยืนของตนดี เรื่องสังหารจ้าวหมาป่าสำคัญกว่า หวังว่าจะไม่มีใครหักหลัง”
ชายชราทั้งสองเองก็กลัวว่าทาสของหนิงฝานจะลอบจู่โจม
“หวังว่าจะเป็นอย่างเจ้าว่า… เอาหล่ะตอนนี้เลิกคุยเรื่องนี้ได้แล้ว”
หนิงฝานนำทาสที่อยู่ในกระเป๋าออกมาหมดยกเว้นทหารศิลา เขาไม่กลัวที่คนอื่นๆจะรู้ เพราะทาสเหล่านี้เขาเป็นผู้ยกระดับพวกมันขึ้นด้วยตนเอง
เมื่อเหล่าทาสปรากฏตัว สีหน้าสองชายชรา ซูฉวน ลู่เจี่ยเฟิน และนายกองคนอื่นแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
ทาสในขอบเขตตัดวิญญาณ 9 ตน ตนที่อ่อนแอที่สุดอยู่ในขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลาง ซึ่งเก่งกาจเทียบเท่าเหล่านายกองที่อยู่ทุกคนที่นี่
“คาดไม่ถึงว่าลู่เป่ยจะมีทางในขอบเขตตัดวิญญาณมากขนาดนี้”
ซูฉวนมีผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณติดตามมา 7 คน ลู่เจี่ยเฟินมีเพียงตนเอง นิกายปีศาจขาวมีหลินซูและสองชายชรา ที่เหลือเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม
ลู่เจี่ยเฟินร่างจริงได้รับบาดเจ็บไม่น้อย ดังนั้นมันจะไม่มาร่วมด้วย เรื่องทะลวงขอบเขตไร้ดัดแปลงของมันสำคัญกว่า
ฝั่งของนายกองอสูร ยามนี้มีด้วยกันทั้งหมด 8 คน แต่ถึงอย่างนั้น แค่หนิงฝานเพียงลำพังก็ไม่อาจเอาชนะหนิงฝานได้
“เจ้าช่างแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่...” ลู่ตู้เฉินถอนหายใจ
ด้วยเวลาเพียงไม่นานหลังจากเข้าสู่แดนสอง หนิงฝานสั่งสมขุมกำลังของตนได้ ในแดนสอง เผ่าทั้งหมดล้วนยอมสยบให้หนิงฝาน ในทะเลส่วนนอก ขุมกำลังทั้ง 13 แห่งก็ไม่มีผู้ใดเอาชนะเขาได้
หลินซูมองหนิงฝานด้วยสายตาอิจฉา
มันลงมาจากแดนสวรรค์เพื่อชิงดาราจักรพรรดิ ทำสิ่งต่างๆมากมายติดตัวมาเพื่อเพิ่มโอกาส แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับหนิงฝาน มันกลับไม่อาจเทียบเคียงได้
วู่หยานและเยว่หลิงคงตกตะลึงกับความแข็งแกร่งของหนิงฝาน แต่ซีหลานและเป่ยเหยากลับไม่เป็นเช่นนั้น
ในมุมมองของซีหลาน นางมีความสุข นางชอบที่จะได้เห็นหนิงฝานยิ่งใหญ่ และแสดงแสนยานุภาพของตน
เป่ยเหยาสังเกตุทาสที่ปรากฏ นางรู้ว่าทาสเหล่านี้ผ่านการยกระดับมา
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสะพรึงกลัว เพราะการที่ทาสจะยกระดับได้นั้น ต้องได้ดวงจิตของผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณเป็นจำนวนมาก นั่นหมายความว่า หนิงฝานสังหารผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณเป็นจำนวนมาก!
“ผู้เชี่ยวชาญที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นทาสเหล่านั้นล้วนเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ หากเทียบในแดนสวรรค์ ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้นับเป็นผู้มีพรสวรรค์ แต่พวกเขากลับถูกเปลี่ยนให้เป็นทาส ถูกเปลี่ยนให้เป็นอาหารเพื่อเสริมพลังให้แก่ทาสของ
ลู่เป่ย? ลู่เป่ยทำแบบนั้นได้ยังไง? น่าเสียดายที่เขาไม่ได้อยู่ในแดนสวรรค์...”
สีหน้าของผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณที่ติดตามซูฉวนมาสีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
“ทำไมข้ารู้สึกคุ้นกับทาสเหล่านั้นนัก… ไม่ผิดแน่ หนึ่งในนั้นคือคนของเผ่าวิญญาณ พวกมันถูกลู่เป่ยสังหารและทำให้กลายเป็นทาส...”
หนิงฝานหันมองหลินซู เหตุที่เขาเผยความลับของตนก็เพื่อไม่ให้พวกมันกล้าลงมือ
เขาจะนำพาคนทั้งหมดบุกรังของจ้าวหมาป่า ทำลายพวกมันสิ้นซาก ยิ่งลงมือได้เร็วได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
หนิงฝานใช้วิชาทำนายอย่างลับๆเพื่อดูว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรไม่คาดฝันบ้าง ไม่นาน เขาก็ได้ทราบว่าอันตรายร้ายแรงบางอย่างกำลังใกล้เข้ามา ผู้ที่นำภัยเข้ามานั้น คืออสูรที่ทรงพลัง เขาจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
ดังนั้น หนิงฝานจึงนำคนทั้งหมดมุ่งหน้าไปที่รังของจ้าวหมาป่า
ลู่เจี่ยเฟินนำกระจกของมันออกมา พร้อมให้เหล่าคนของนิกายปีศาจขาวและซูฉวนขึ้นมาด้วย
หนิงฝานนำรถเพลิงทองคำออกมา โดยสารคนของตนและเหล่านายกองอสูรไปด้วย
ณ ยอดเขาสูงเสียดฟ้าแห่งหนึ่ง หมาป่าจำนวนมากเฝ้าสังเกตุการณ์ อากาศบริเวณนั้นหนาวเย็นผิดธรรมดา ทำให้ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มของนิกายปีศาจขาวหลายคนแข็งตาย
หากเข้าไปในภูเขาลูกนั้นได้ และสังหารหมาป่าที่อยู่ในนั้นทั้งหมด ก็จะมีโอกาสลอบสังหารจ้าหมาป่า
แสงสีทองและม่วงวาบผ่าน มุ่งตรงเข้ายังตำแหน่งที่เป็นหุบเขา หมาป่านับล้านที่อยู่ในนั้นตกตะลึง เหล่าหมาป่าในขอบเขตตัดวิญญาณทราบเจตนา ตะโกนบอกกล่าวอสูรตนอื่นๆ
“พวกมันจะเข้ามาสังหารท่านจ้าวหมาป่า! ฆ่าพวกมันให้หมด!”
จ้าวดาราหมาป่าได้แบ่งดวงจิตของมันออกส่วนหนึ่ง เมื่อดวงจิตได้ผสานกับพลังดาราในโลกใบนี้ จึงให้กำเนิดเป็นอสูรหมาป่าโหยกลุ่มหนึ่งขึ้นมา ก่อนที่พวกมันจะขยายพันธุ์กันเองจนถึงปัจจุบัน
หมาป่านับล้านเห่าหอนพลางวิ่งตะบึงเข้าใส่รถเพลิงทองคำและกระจกม่วงราวกับคลื่นคลั่ง
การประสานพลังและเจตนาสังหารของพวกมันทำให้อัสนีฟาดผ่า แผ่นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ซ้ำยังทำให้หลินซูและคนของนิกายปีศาจขาวหวาดกลัว
แม้พวกมันจะมาจากแดนสวรรค์ แต่พวกมันไม่เคยผ่านสงครามเปื้อนเลือดเช่นนี้
สงครามของอสูร ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ควรสอดมือ เหตุการณ์เช่นนี้พันปีจึงจะเกิดครั้ง
ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มของนิกายปีศาจขาวหวาดกลัวจนตัวสั่น ลู่เจี่ยเฟิน ซูฉวน และคนอื่นๆล้วนกังวล
หมาป่าดาราตัดวิญญาณ 10 ตนนำทัพหมาป่า 5 แสนเข้าล้มลู่เจี่ยเฟินและคนอื่นๆ
ส่วนฝั่งหนิงฝานถูกล้อมด้วยหมาป่าดาราตัดวิญญาณ 13 ตน พร้อมกับทัพหมาป่าอีก 5 แสน
ไม่นาน เสียงร้องอันน่าเวทนาดังมาจากฝั่งของนิกายปีศาจ วู่ยานจึงเป็นกังวล
“ลู่เป่ย หมาป่าพวกนั้นมีจำนวนมากเกินไป เจ้าระวังด้วย”
“วางใจเถอะ!” หนิงฝานกล่าวตอบอย่างเรียบเฉย
ฉากทัพอสูรจำนวนมหาศาลบุกจู่โจม พวกนิกายปีศาจขาวเพิ่งเคยเห็น
แต่สำหรับหนิงฝานแล้ว เขาเห็นมานักต่อนัก
ในป่าภูติพราย หนิงฝานเคยสังหารภูติผีมานับไม่ถ้วน
ที่วังดารา หนิงฝานก็สังหารอสูรไปมากมายเช่นเดียวกัน
ดังนั้น กองทัพหมาป่าเพียง 5 แสนจึงไม่นับเป็นอันใด
“ตาย!” หนิงฝานกล่าวอย่างแผ่วเบา สัมผัสกระบี่สีดำกวาดผ่าน สังหารหมาป่าที่เข้าประชิดรถเพลิงทองคำ ทำให้พวกมันกว่า 5 พันตัวตายไปในพริบตา
ปราณปีศาจของหนิงฝานแผ่ปกคลุม ดวงตะวันทอแสงถูกบดบัง
กองทัพหมาป่าที่อยู่ในรัศมีหมื่นลี้สั่นสะท้าน พวกมันไม่กล้าเข้าใกล้หนิงฝาน ที่สำคัญ ยามนี้พวกมันราวกับสูญสิ้นสติ ไม่อาจหยัดยืนร่างได้
[ ** ประกาศ หนิงฝาน มีเว็บส่วนตัวแล้วครับ https://laosoofung.com/
มีการขายเหมือนที่นี่ แต่ราคาถูกกว่าเพียงตอนละ 1.5 บาท หากสนใจเชิญได้ที่เว็บ https://laosoofung.com/
หรือแฟนเพจ "ผู้ใหญ่บ้านเล่าสู่ฟัง" ข้างล่างครับ
เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะพวกมันไม่อาจต้านทานเจตนาสังหารของหนิงฝานได้!
“พวกเจ้า 5 แสนตัวยังไม่พอที่จะต้านทานเจตนาสังหารของข้าได้!” แม้คำกล่าวจะดูราวกับเกินจริง แต่มันคือเรื่องจริง
เมื่อกองทัพหมาป่าสิ้นท่า จึงเหลือหมาป่าดาราในขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูง 8 ตัว ขั้นสูงสุด 3 ตัว และกึ่งไร้ดัดแปลงอีก 2 ตัว
หมาป่ากึ่งไร้ดัดแปลงทั้งสองตัวนั้น หนิงฝานยกให้เป็นหน้าที่ของทาสและมังกรทมิฬ หมาป่าตัดวิญญาณขั้นสูงสุด 3 ตน หนิงฝานเป็นผู้จัดการ ส่วนที่เหลือ เป็นของเยว่หลิงคงและคนอื่นๆ
หิมะโปรยปรายหนาวเหน็บ ปราณปีศาจน่าขนลุก หนิงฝานกระชับกระบี่มังกรโลหิตในมือ ทำให้ตัวเขาในยามนี้ไม่ต่างจากเทพอสูรที่น่าสะพรึงกลัว
เมื่อหมาป่าดาราที่ล้อมหนิงฝานเห็นใบหน้าหนิงฝานชัดๆ พวกมันจำได้
“เป็นเจ้าที่สังหารสหายของข้าและดูดกลืนเข้าไป!”
“ครั้งนั้นเข้าคงแค่โชคดี แต่ครั้งนี้อย่าได้คิดว่าจะทำได้อีก!”
หมาป่าทั้งสามพุ่งเป้าเจตนาสังหารมาที่หนิงฝานคนเดียว
หนิงฝานจ้องมองพวกมัน ดวงตาแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงโลหิต กระบี่มังกรโลหิตอยู่ในสถานะถูกกระตุ้นและพร้อมใช้งาน
แต่ถึงอย่างนั้น กระบี่กลับปฏิเสธการควบคุมของหนิงฝาน ราวกับมันยังไม่ยอมรับ
“ถ้าเจ้าไม่ยอมสยบให้ข้า ข้าจะทำลายเจ้าซะ!” หนิงฝานกล่าวกับกระบี่
“โฮก!” เสียงมังกรคำรามออกมาจากกระบี่ มันเป็นถึงกระบี่มังกรที่เคยอยู่ในแดนสวรรค์ แต่ยามนี้ มันกลับต้องมาสยบให้ผู้เชี่ยวชาญจากโลกเบื้องล่าง
แต่ถึงอย่างนั้น ด้วยเจตนาสังหารที่รุนแรงของหนิงฝาน มันจึงไม่กล้าต่อต้านอีก
เมื่อมันยอมสยบให้ จากที่มันเคยปิดกั้นพลังจนระดับของมันอยู่เพียงกึ่งไร้ดัดแปลง ยามนี้ มันทะลวงระดับกลายเป็นกระบี่ระดับไร้ดัดแปลง!
“สมบัติไร้ดัดแปลง!”
หมาป่าทั้งสามเผยสีหน้าอิจฉา พวกมันอยากได้กระบี่ในมือหนิงฝาน เพราะสำหรับพวกมันแล้ว สมบัติระดับนี้ล้ำค่าเป็นอย่างมาก
“ข้าจะชิงกระบี่นั่นมาให้ได้!” พวกมันทะยานเข้าหาหนิงฝานเต็มกำลัง
“เชิญ!”
หนิงฝานยื่นมือไปเบื้องหน้า หิมะที่โปรยปรายรอบข้างถูกดูดเข้ามาไว้ในมือ ทำให้แรงกดดันของเขายกระดับถึงขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูง
มือขวาถือกระบี่มังกรโลหิต มือซ้ายถือกระบี่แยกสวรรค์ สองกระบี่ร่ายรำเป็นกระบวน เกิดเป็นเส้นแสงราวกับใยไหมหมุนวนรอบกาย
“กระบี่อยู่ที่ใจ!”
วิชากระบี่นี้หนิงฝานไม่ได้ใช้มานานแล้ว ยามนี้เขาแข็งแกร่งขึ้น บรรลุเจตจำนงค์กระบี่ในระดับที่สูงขึ้น อานุภาพของวิชาสมควรน่าสะพรึงกลัวขึ้นมาก
“บัดซบ!”
สีหน้าหมาป่าทั้งสามแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง เพลงกระบี่ของหนิงฝานทะลวงตำแหน่งหัวใจของพวกมัน!
แม้จะเป็นเพลงกระบี่ระดับดวงจิตแรกเริ่ม แต่กลับทำให้หมาป่าในขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูงสุดทั้งสามบาดเจ็บสาหัส!
ในจังหวะที่พวกมันตกตะลึง กระบี่แยกสวรรค์ในมือซ้ายบั่นศีรษะของหมาป่าตนหนึ่ง กระบี่มังกรโลหิตในมือขวาชูสูง ตวัดผ่าร่างของหมาป่าอีก 2 ตัว ทั้งยังสลายร่างของพวกมันเป็นธุลี
พวกมันทั้งหมดถูกหนิงฝานสังหารในพริบตา เหลือเพียงดวงจิตของพวกมันเท่านั้น
หลินซู ลู่เจี่ยเฟิน และหมาป่าระดับสูงตัวอื่นๆที่เห็นสีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
หากเปลี่ยนพวกมันเป็นหนิงฝาน กว่าพวกมันจะเอาชนะหมาป่าเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
แม้ร่างกายจะถูกทำลาย แต่ดวงจิตที่เหลือหวังจะหลบหนี หนิงฝานจึงตวัดกระบี่แยกสวรรค์ในมือซ้าย ส่งปราณกระบี่ที่บางเบาไล่ตามไป แต่ก่อนที่ปราณกระบี่จะได้สัมผัสดวงจิต หนิงฝานใช้มือซ้ายชี้ไปยังพวกมัน ก่อนที่พวกมันจะไม่อาจขยับไปไหนได้อีก
ดรรชนีตรึงสวรรค์!
“บัดซบ หนีไม่ได้!”
ปราณกระบี่เบาบางพันธะนาการดวงจิตทั้งสาม ก่อนจะถูกกระชากกลับเข้าหาหนิงฝานแล้วหายไป
หนิงฝานหันมองหมาป่ากึ่งไร้ดัดแปลงสองตัวที่อยู่ไม่ไกล
พวกมันทั้งสองกำลังต่อสู้กับทาสและมังกรทมิฬของหนิงฝานอย่างดุเดือด จนไม่มีเวลาให้ใส่ใจกับสิ่งต่างๆรอบข้าง
แต่ชั่วพริบตาหนึ่ง พวกมันรู้ราวกับว่าหนิงฝานกำลังจ้องมองพวกมัน สีหน้าพวกมันแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง เพราะพวกมันพบว่าหมาป่าตัดวิญญาณขั้นสูงสุดทั้งสามถูกสังหารจนไม่เหลือซากแล้ว
“สารเลว! เจ้ากล้าฆ่าพวกพ้องข้า หากนายท่านตื่น พวกเจ้าไม่รอดแน่!”
“พวกเจ้าคงไม่มีโอกาสนั้น!”
หนิงฝานเก็บกระบี่แยกสวรรค์และกระบี่มังกรโลหิต พลางตรงเข้าหาหมาป่าทั้งสองตัวนั้น
แม้หนิงฝานจะก้าวเท้าไม่เร็วนัก แต่ทุกอย่างก้าวกลับส่งให้ร่างของเขาเคลื่อนไหวไปไกลหลายลี้ในพริบตา จนแทบจะไม่มีผู้ใดมองร่างของเขาได้ชัด
“ร่างวิญญาณ!”
หมาป่าสองตัวนั้นคาดไม่ถึงว่าหนิงฝานจะมีร่างวิญญาณ หมาป่าสองตัวนั้นถอยห่างจากทาสและมังกรทมิฬ พวกมันเปล่งเสียงคำรามลั่นปลุกกองทัพหมาป่า 5 แสนตนที่ไม่ได้สติ ให้เข้าขวางกั้นหนิงฝาน
แต่เมื่อเงาร่างของหนิงฝานเข้าประชิดพวกมัน หมาป่าจำนวนแสนตัวเปล่งเสียงร้องโหยหวนก่อนที่พวกมันจะถูกสังหารไป
เงาร่างของหนิงฝานเคลื่อนผ่านกองทัพอสูรอย่างรวดเร็ว กระทั่งเพียงพริบตา กองทัพอสูรนับ 5 แสนถูกสังหาร ซากร่างและโลหิตไหลนอง
หนิงฝานในร่างวิญญาณเปล่งกดดันกึ่งไร้ดัดแปลงออกมา!
“นี่มันวิชาร่างวิญญาณอะไรกัน! บ้าเอ้ย! แบบนี้นายท่านเป็นอันตรายแน่!”
หมาป่ากึ่งไร้ดัดแปลง 2 ตัวเร่งทะยานมุ่งไปยังส่วนลึกของภูเขา
หมาป่าทั้งสองรู้ว่าพวกมันสู้หนิงฝานไม่ได้ เพราะลำพังพวกมันก็แทบจะสู้ทาสและมังกรทมิฬของหนิงฝานไม่ได้แล้ว
“ต่อให้ข้าต้องตาย ก็จะไม่ให้พวกเจ้าทำร้ายนายท่าน! เผาโลหิต!”
หมาป่าทั้งสองบ้าไปแล้ว พวกมันถึงกับเค้นแก่นโลหิตและเผาเพื่อแลกกับพลังมหาศาล
ในโลกใบนี้ การที่ผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลงจะยอมเผาโลหิตเป็นเรื่องที่หาได้ยากมาก
“แย่แล้ว! หมาป่าสองตัวนั้นกำลังจะไปปลุกจ้าวหมาป่า มันรู้ว่าสู้หนิงฝานไม่ได้!”
เยว่หลิงคงกระชับกระบี่ไล่ตามหมาป่าทั้งสองไป นางคาดไม่ถึงว่าพวกมันจะยอมเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อไปปลกจ้าวหมาป่าให้ได้
นางรู้ว่าผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลงเผาโลหิตนั้นน่ากลัวขนาดไหน หากพวกมันปลุกจ้าวหมาป่าได้สำเร็จ คงไม่มีใครรับมือกับจ้าวหมาป่าได้อีก
“อย่าให้มันปลุกจ้าวหมาป่าได้! ไม่งั้นเราจะไม่มีโอกาสได้ดาราจักรพรรดิ!” ซูฉวนตกตะลึง ยามนี้พวกมันถูกหมาป่าจำนวนมากรุมล้อม ผู้ที่ไล่ตามหมาป่ากึ่งไร้ดัดแปลงสองตัวนั้นไปได้มีเพียงหนิงฝานเท่านั้น
“ลู่เป่ย รั้งพวกมันเอาไว้!” ลู่เจี่ยเฟินตะโกนลั่น
ถึงมันจะคิดว่าหนิงฝานสังหารขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลงไม่ได้ แต่ขอแค่รั้งไม่ให้พวกมันหนีไปได้ก็พอแล้ว
“นายกองเป่ยอย่าให้มันหนีไปได้!”
“นายกองเป่ย!”
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนตะโกนให้หนิงฝานลงมือ แต่ถึงแม้คนเหล่านั้นจะตะโกนเรียก แต่หนิงฝานกลับไม่ได้รีบร้อน
“หุบปาก! หมาป่าโลหิตสวะ คิดว่าพวกเจ้าจะหนีข้าได้เหรอ! กระบี่วารีผันแปร!”
ร่างหนิงฝานสลายเป็นเส้นแสงสีดำจำนวนมาก ชั่วพริบตานั้น เส้นแสงสีดำเข้าพันธะนาการและทะลวงร่างของหมาป่าทั้งสองตัวอย่างไร้ที่มา
หากเป็นการต่อสู้ทั่วไป หนิงฝานไม่จำเป็นต้องทุ่มใช้วิชานี้ก็เอาชนะพวกมันได้ แต่เมื่ออีกฝ่ายเลือกที่จะหนีอย่างไม่คิดชีวิต เขาจึงไม่อาจปล่อยพวกมันไปได้
“นายท่าน...” เส้นแสงกระบี่สีดำฟาดฟันทะลวงร่างจนพวกมันไม่อาจเอาชีวิตรอดได้อีก
เส้นแสงสีดำผสานรวมเป็นร่างของหนิงฝาน หยัดยืนเฝ้าหน้าทางเข้าส่วนลึกของภูเขา แม้จะมีเพียงตัวเขาลำพัง แต่ผู้คนนับหมื่นยังไม่อาจทัดเทียม
หนิงฝานกำดวงจิตของหมาป่าทั้งสองไว้ในมือ ฉากที่ปรากฏทำให้ผู้เชี่ยวชาญทุกคนที่เห็นหวาดกลัว
“นั่นมันวิชาอะไร!”
แค่กระบวนท่าเดียวก็สังหารผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลงได้ หากเปลี่ยนเป็นลู่เจี่ยเฟินและคนอื่นๆโดนบ้าง พวกมันคงไม่อาจเลี่ยงอาการบาดเจ็บสาหัส… ช่างเป็นวิชาที่น่าสะพรึงกลัว
ขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลาง แต่สังหารขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลงได้
“นั่นเหรอลู่เป่ย...” หลินซูหวาดกลัวอย่างที่สุด หากมันรู้อยู่ก่อนว่าหนิงฝานแข็งแกร่งขนาดนี้ มันคงเลือกที่จะไม่ยั่วยุ...