ตอนที่แล้วบทที่ 90: สัญญาณ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 92: หนูโลหิตยักษ์!

บทที่ 91: อสูรเวทโจมตีเมือง!


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)

สารบัญ ราชันเทพเก้าสุริยัน

สารบัญ โกลาหลแห่งอสนีบาต

••••••••••••••••••••

บทที่ 91: อสูรเวทโจมตีเมือง!

การแจ้งเตือนนั้นแบ่งออกเป็นหลายระดับ ซึ่งระดับหนึ่งคือสีส้ม

สองปีที่แล้วเมืองบ่อได้ประกาศการแจ้งเตือนสีส้ม ซึ่งย้อนกลับไปในตอนนั้นคือหน่วยลาดตระเวณได้ตรวจพบอสูรเวทจำนวนกว่าสามร้อยตัวซึ่งรุกรานเข้ามาในเขตแดนของมนุษย์!

ในวันนี้ได้ปรากฏลำแสงพิสุทธิ์สองครั้ง ซึ่งหมายถึงการแจ้งเตือนสีฟ้า

การแจ้งเตือนประเภทนี้บ่งบอกถึงอสูรเวทมีการซ่อนเร้นและกำลังรุกรานเมืองแห่งนี้

ซึ่งครั้งก่อนการแจ้งเตือนสีส้มได้ถูกจ้านคงจัดการไว้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามในวันนี้การแจ้งเตือนสีฟ้านั้นหมายถึงอสูรเวทกว่าสามพันตัวได้รุกรานเข้าสู่ดินแดนของมนุษย์แล้ว!

สวรรค์! เมืองบ่อนั้นเงียบสงบและไม่ได้ประกาศแจ้งเตือนสีฟ้ามากว่าสิบปี!

กริ๊งงงงงงงงงงงงง~~

กริ๊งงงงงงงงงงงงง~~

เสียงกริ่งดังขึ้น

ในขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าเหตุการณ์เหล่านี้คือเรื่องตลก เสียงโทรศัพท์ของว่านหวังเฟิงได้ดังขึ้นมา…

ทุกอย่างเงียบสงัด ท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำจนใบหน้าของผู้พิทักษ์หลายร้อยได้เปียกปอนจนชุ่มฉ่ำ เสียงโทรศัพท์ของว่านหวังเฟิงได้ดังขึ้นมาทำลายบรรยากาศความเงียบโดยรอบโดยฉับพลัน

ว่านหวังเฟิงล้วงเอาโทรศัพท์ของตนแนบหูในทันที “ว่าไง…”

“ผู้นำว่าน พวกเราถูกกลุ่มอสูรเวทโจมตี นักเวทธาตุแสง… นักเวทธาตุแสงของเราตายตกไปในการประทะครั้งนี้ เช่นนี้จึงทำให้เราไม่สามารถยิงลำแสงพิสุทธิ์ต่อได้!” เสียงของกัปตันโซวจวิ๋นลอยมาตามสาย

ความรู้สึกหนาวเย็นไหลผ่านทั่วทั้งกระดูกสันหลังของว่านหวังเฟิง มือที่ถือโทรศัพท์น้อยของเขาเริ่มสั่นสะเทือนอย่างไม่อาจควบคุม

“ฉันหวังว่าเมืองบ่อจะสามารถรอดพ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้ ฉันฝากความขอโทษไปถึงหัวหน้าจ้านคงและพันหลี่จวินด้วย!” เสียงของโซวจวิ๋นเต็มไปด้วยความหดหู่และแหบแห้ง

ใบหน้าของว่านหวังเฟิงกระตุกอย่างรุนแรง ดวงตาของเขาสั่นคลอนเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและโกรธจัดในเวลาเดียวกัน

ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ~

หลังจากเขากล่าวจบ สายถูกตัดไปทันที แต่ก่อนที่ปลายสายจะหายไป ว่านหวังเฟิงได้ยินเสียงคำรามกึกก้องเล็ดลอดออกมาจากอีกฝั่ง ในหูของเขาจดจำเสียงเหล่านั้นและมันตรึงหัวใจของเขาไว้กับที่ทันที

ว่านหวังเฟิงยัดโทรศัพท์ลงกระเป๋าด้วยท่าทีที่สิ้นหวัง เขาหลับตาลงให้สายฝนชะโลมจิตใจของเขาเอาไว้ ปล่อยให้น้ำตาแห่งความเสียใจไหลออกมา ความรู้สึกในตอนนี้ราวกับถูกมีดนับพันเล่มทิ่มแทงหัวใจอย่างโหดเหี้ยม

แม้ว่าจะวางสายไปแล้ว แต่ว่านหวังเฟิงยังจำเสียงกึกก้องและเสียงกรีดร้องอันน่าหวาดหวั่นของอีกฝั่งได้เป็นอย่างดี …มันยังคงดังอยู่ภายในหัวใจของเขาซ้ำไปซ้ำมา

เขาตายแล้ว… เขาตายไปแล้ว! ไม่มีใครที่จะรู้เรื่องนี้ดีเท่ากับว่านหวังเฟิงอีกแล้ว ผู้ที่ใช้โทรศัพท์ในนาทีนั้นไม่สามารถมีชีวิตรอดได้อย่างแน่นอน!

“เปิดการแจ้งเตือนรหัสแดง!” ว่านหวังเฟิงสูดหายใจเข้าลึกๆพร้อมกับลืมตาขึ้นมา ความโศกเศร้าเมื่อครู่หายไปจนหมดสิ้น ทั้งหมดถูกแทนที่ด้วยปัญญาและเขาจะต้องแก้ไขปัญหาเหล่านี้!

“รหัสแดง… การแจ้งเตือนรหัสแดง?? คุณไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหมกัปตันว่าน?!” ผู้พิทักษ์คนหนึ่งกล่าวขึ้นมาอย่างไม่เชื่อถือคำสั่งนั้น

เหล่าผู้พิทักษ์ที่ได้ยินเช่นนั้นต่างรู้สึกไม่เข้าใจกับคำสั่งที่ได้รับอย่างมาก สำหรับพวกเขาแล้วเพียงแค่การแจ้งเตือนสีฟ้าก็สร้างความปั่นป่วนได้ไม่รู้จบ… แต่สำหรับรหัสแดงนั้น…

มันหมายถึงหายนะ!

การแจ้งเตือนรหัสแดงนั้นเป็นหายนะ มันคือภัยพิบัติที่น่ากลัวที่สุด ชั่วชีวิตของคนบางคนอาจจะไม่เคยต้องพบเจอกับรหัสแดงและบางคนที่มีประสบการณ์กับเหตุการณ์เหล่านี้มักจะจดจำฝังใจพร้อมกับภาพเหล่านั้นจะติดตามพวกเขาเป็นเงาไปตลอดชีวิตด้วยเช่นกัน!

“พวกแกกำลังพร่ำเพ้ออะไรกันอยู่ ฉันบอกให้ทำอะไรก็รีบไปทำ!!!” ว่านหวังเฟิงคำรามออกมาอย่างเดือดพล่าน

เพียงแค่เหล่าทหารพวกนี้ยืดการแจ้งเตือนรหัสแดงออกไปเพียงแค่ไม่กี่วินาที นั้นหมายถึงอาจจะมีผู้คนต้องตายตกไปกว่าร้อยชีวิต!

อู่วววววววววววววว!

อู่ววววววววววววววววววว! อู่ววววววววววววววววว!

โฮ่กกกกกกกส~

ทันใดนั้นปรากฏเสียงคำรามที่สามารถเขย่าวิญญาณของทุกได้ดังมาจากด้านหลังของภูเขา ราวกับว่าที่ภูเขาลูกนั้นกำลังสั่นสะเทือนจากกองทัพอะไรสักอย่าง

แผ่นดินไหวเล็กน้อยทำให้สถานียอดเขาหิมะนี้สั่นไหว!

อู๊ววว ฮู่ววววว!

ภายใต้เม็ดฝนมากมาย ร่างเลือนลางได้กระโดดออกมาจากด้านหลังของป่า มันยืนอยู่บนยอดของต้นสนอย่างโอ่อ่าและน่าเกรงขาม

สิ่งมีชีวิตที่เย่อหยิ่งเต็มไปด้วยสายตาที่เหยียดหยาม มันคล้ายคลึงกับราชันหมาป่า มันยืนนิ่งอยู่บนยอดต้นสนอย่างเขร่งขรึม ดวงตาสีแดงฉานทั้งสามบนกระโหลกของมันเคลื่อนไหวไปมาอย่างสยดสอยอง จิตสังหารที่แผ่ออกมาสร้างความหวาดหวั่นให้กับทุกสายตาที่จับจ้อง

อสูรเวทตนนี้ยืนมองสถานียอดเขาหิมะจากยอดต้นสนในระยะไกล ราวกับว่ามันกำลังมองแกะน้อยที่อยู่ในคอก!

“สาม… สามตา… หมาป่าเวทสามตา!!!” ผู้พิทักษ์คนหนึ่งตะโกนออกมาด้วยความหวาดกลัว

ในทันทีที่สิ้นสุดเสียงตะโกน เหล่าหมาป่าเวทสามตาค่อยๆปรากฏขึ้นบนยอดต้นสนทีละตัว ทั้งหมดปรากฏตัวออกมาราวกับกองทัพทหารที่ถูกนำโดยราชาหมาป่าเวทสามตา!

พวกมันปรากฏตัวขึ้นมากเรื่อยๆ ดวงตาสีแดงฉานเต็มไปด้วยความอำมหิตและจิตสังหารที่แรงกล้าได้แผ่กระจายออกมาทั่วบริเวณ การสบสายตาของมันเพียงแค่วูบเดียวก็ทำให้รู้สึกว่าวิญญาณได้หลุดลอยไปเสียแล้ว!

“มะ-มัน… เยอะมาก!”

อีกทั้งหมาป่าตาเดียวได้ปรากฏตัวขึ้นตรงเนินเขาด้วยเช่นกัน พวกมันปกคลุมทั่วภูเขาไว้ได้โดยสมบูรณ์ ทั้งหมดเงยหน้าขึ้นฟ้าพร้อมกับส่งเสียงออกมาอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด

“พวกมัน… พวกมันกำลังเรียกพรรคพวก!” ผู้พิทักษ์ด้านการวิจัยอสูรเวทได้ร้องออกมาอย่างตื่นตระหนก เขาเข้าใจภาษาของอสูรเวทพวกนี้!

สวรรค์! สถานที่นี้เต็มไปด้วยหมาป่าตาเดียวกว่าสามร้อยตัว ถ้าหากพวกมันส่งเสียงออกมาพร้อมกันเช่นนี้ มันจะสามารถเรียกอสูรเวทมาร่วมด้วยได้อีกเท่าไหร่กัน?!

ในตอนนี้ผู้พิทักษ์ทุกคนได้เข้าใจในทันทีว่าทำไมผู้นำของเขาจึงสั่งให้เปิดการแจ้งเตือนรหัสแดง!

อสูรเวทกำลังจะโจมตี!

กองทัพอสูรเวทกำลังจะโจมตีเมือง!

นี่คือหายนะ มันคือภัยพิบัติที่ไม่มีใครอยากพบเจอ!

อสูรเวทมากมายกำลังวิ่งมาอย่างดุเดือดพร้อมกับหยาดฝนที่ถาโถมลงมาไม่หยุดหย่อน!

เมืองบ่อแห่งนี้ต่อสู้กับหมาป่าเวทมาเนิ่นนานหลายปี ตอนนี้ดูเหมือนว่าหมาป่าเวทไม่สามารถระงับความโกรธแค้นภายในใจของพวกมันได้อีกต่อไปแล้ว! ทั้งหมดรวมตัวกันภายใต้คำสั่งของราชันหมาป่าเวทสามตา จากนั้นทั้งหมดพุ่งเข้าโจมตีแนวรั้วป้องกันของเมืองบ่ออย่างโหดเหี้ยม!

ตอนนี้สีเขียวปนดำได้ปกคลุมไปทั่วภูเขาเพราะหมาป่าตาเดียว

พวกมันวิ่งมาอย่างหื่นกระหายที่จะสังหาร สถานียอดเขาหิมะสั่นสะเทือนจากพลังของพวกมันอย่างรุนแรง

ดวงตาของพวกมันทั้งหมดเต็มไปด้วยความโหดร้ายและโกรธแค้น เป้าหมายของพวกมันในครั้งนี้คือการสังหารมนุษย์ทุกคนที่พวกมันได้พบเจอ!

ภายใต้สถานการณ์ที่น่ากลัวเช่นนี้ แม้แต่นักเวทก็ดูตัวเล็กจ้อยร่อยในทันที ขณะนี้พวกเขาทั้งหมดจะต้องต่อสู้กับอสูรเวทอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง!

แน่นอนว่าสำหรับผู้พิทักษ์เหล่านี้เขาย่อมไม่มีวันลืมภาพที่หมาป่าตาเดียวนับร้อยตัววิ่งถาโถมเข้าใส่… อ่า แต่ทว่าไม่ว่าพวกเขาจะลืมหรือจำได้ อย่างไรทุกคนที่อยู่ตรงนี้ก็คงไม่อาจมีชีวิตรอดไปถึงวันพรุ่งนี้ได้อย่างแน่นอน!

••••••••••••••••••••

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด