ตอนที่แล้วบทที่ 87: เขย่าโลกในครั้งเดียว!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 89: จี้ทมิฬเอ๋ยจงใจเย็น!

บทที่ 88: คัมภีร์นำทางดวงดาว


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)

สารบัญ ราชันเทพเก้าสุริยัน

สารบัญ โกลาหลแห่งอสนีบาต

••••••••••••••••••••

บทที่ 88: คัมภีร์นำทางดวงดาว

บ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ใต้ดินนั้นตั้งอยู่ใต้ศูนย์การค้าเหรียญเงิน เรื่องนี้ทำให้โม่ฝานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะนี่คือสถานที่ที่เขาได้พบกับมู่หนิงเซวียบนดาดฟ้าห่างจากศูนย์การค้าเหรียญเงินเพียงแค่ช่วงตึกเดียวเท่านั้น!

ศูนย์การค้าเหรียญเงินนั้นราวกับเป็นตึกสูงใหญ่ตั้งกระหง่านราวกับหอคอยยักษ์ ผู้คนมองว่ามันคือตึกระฟ้าราวกับเจดีย์ห้าเหลี่ยมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางของเมืองบ่อแห่งนี้

ความสูงของศูนย์การค้าเหรียญเงินนี้ราวสองรอยเมตร ด้านนอกของมันถูกปกคลุมไปด้วยกระจกเสริมใยเหล็ก เมื่อถูกแสงอาทิตย์สาดส่องมันเปรียบได้กับดาบที่ไม่ได้ถูกเก็บไว้ในฝัก เมื่อถึงยามค่ำคืนที่จันทราสาดส่องมันจะเปล่งประกายระยิบระยับออกมาอย่างสวยงาม พื้นที่ใกล้เคียงสามารถมองเห็นความอัศจรรย์ของมันได้ในทุกวัน สายรุ้งมักจะทอดผ่านตัวตึกในทุกเย็น

ว่ากันว่ามันคือสัญลักษณ์แห่งความยิ่งในของเมืองบ่อแห่งนี้ อีกทั้งห้องประชุมชั้นบนสุดซึ่งมีขนาดใหญ่นั้นยังเป็นของมู่โจวอวิ๋นอีกด้วย

บ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นสมบัติล้ำค่าของเมืองบ่อ มันอยู่ใต้ศูนย์การค้าเหรียญเงินแห่งนี้ คนงานทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนี้ไม่รู้ว่าหอคอยยักษ์นี้มีชั้นที่สิบห้าอยู่ใต้ดินด้วย!

ลิฟท์พาโม่ฝานลงไปสู่ชั้นที่สิบห้าของหอคอยยักษ์นี้ เขามองดูสภาพแวดล้อมโดยรอบพร้อมตะลึงอยู่ภายในใจ พวกมันราวกับองค์กรณ์ลับอะไรสักอย่าง ภาพตรงหน้าของเขานั้นคืออุโมงค์ใต้ดินขนาดใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความลับ

อุโมงค์นี้ถูกสร้างขึ้นด้วยหินผลึกพิเศษ เมื่อมองดูแล้วจะเห็นว่ามันถูกสร้างขึ้นมาจากช่างฝีมือที่ยอดเยี่ยมมาก

ภายในอุโมงค์นี้มีเพียงหัวหน้าทีมคอยดูแลเพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งเขาเป็นนักเวทระดับมัชฌิม

นักเวทระดับมัชฌิมทำหน้าที่ผู้พิทักษ์ปกป้องทางเข้างั้นเหรอ?

สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ใต้เมืองบ่อแห่งนี้ได้เป็นอย่างดีว่ามันน่าอัศจรรย์แค่ไหน!

“ด้านหลังประตูบานนั้นคือบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เธอจะได้ฝึกฝนอยู่ในนั้นเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ บ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์นั้นมีการโคจรพลังของตนเองอยู่เสมอ ดังนั้นอย่างแตะต้องมันเป็นอันขาด สิ่งที่เธอต้องทำก็คือการนั่งอยู่บนพรมใจกลางของมัน จากนั้นเข้าสู่สมาธิและฝึกฝนไปเท่านั้น!” มู่โจวอวิ๋นกล่าวกับโม่ฝานด้วยอารมณ์ที่บูดเบี้ยว

ความจริงแล้วบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ใต้ดินแห่งนี้จะต้องเป็นหยู่อั๋นเท่านั้นที่ได้เข้ามา ใครจะสามารถคาดคิดได้ว่าเหตุการณ์จะพลิกผันกลายเป็นโม่ฝาน? แล้วเรื่องเหล่านี้จะทำให้มู่โจวอวิ๋นนั้นอารมณ์ดีได้อย่างไรกัน?

ถังหยู่นั้นยืนอยู่ข้างโม่ฝาน เธอพยักหน้าให้กับเขาน้อยๆเพื่อบอกเขาเป็นนัยว่าควรเข้าไปด้านในและปฏิบัติตามที่มู่โจวอวิ๋นพูดซะ

“โอ้ ฉันมีบางอย่างจะมอบให้เธอน่ะ” ถังหยู่กล่าวกับโม่ฝานออกมาในทันทีที่นึกได้

“มอบอะไรให้ผมงั้นเหรอ?” โม่ฝานประหลาดใจ

ถังหยู่ยกมือขึ้นในอากาศพร้อมกับปรากฏหนังสือเวทมนตร์สีม่วงและสีแดง มันดูเหมือนหนังสือที่เขียนถึงเรื่องราวของดวงดาวเวท มีภาพพิมพ์ของละอองดารา มันดูเหมือนกับองค์ประกอบแห่งดวงดาวเวทที่สมบูรณ์แล้วอย่างไรอย่างนั้น!

“ว้าว คุณถังหยู่ คุณนี่ช่างใจกว้างเหลือคณาจริงๆนะ นี่คือคัมภีร์นำทางดวงดาวที่ล้ำค่ายิ่งนักแต่คุณกลับมอบมันออกไปได้โดยไม่คิดอะไรเลย! เฮ้อ เพราะเจ้าสิ่งนี้แหละที่ทำให้ฉันร่ำรวยได้มากถึงขนาดนี้!” มู่โจวอวิ๋นที่ยืนอยู่ด้านข้างเห็นว่าถังหยู่มอบอะไรให้กับโม่ฝาน ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำอย่างช่วยไม่ได้

“คำภีร์นำทางดวงดาวนี่คืออะไรงั้นเหรอ?” โม่ฝานถามออกมาด้วยความงุนงง

“หลังจากที่เธอได้เข้าสู่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ใต้ดินแล้ว ฉันคิดว่าเธอคงจะอยู่ในระดับมัชฌิมมากแล้วในตอนนี้ ซึ่งต่อไปฉันไม่แน่ใจว่าจะสามารถสอนเธอได้อีกหรือไม่ เช่นนี้ฉันจึงตั้งใจจะมอบคำภีร์เส้นทางดวงดาวไว้ให้เธอเพื่อเป็นของขวัญและใช้มันเพื่อปกป้องตนเองหลังจากที่เข้าสู่ระดับมัชฌิมได้แล้ว!” ถังหยู่หยุดหายใจชั่วขณะพร้อมเริ่มอธิบายถึงความสามารถของมัน “เธอรู้อยู่แล้วว่านักเวทระดับปฐมภูมินั้นเพียงแค่เชื่อมต่อดวงดาวเวทได้ ก็จะสามารถร่ายคาถาได้ แต่ระดับมัชฌิมไม่ใช่แบบนั้น…”

โม่ฝานพยักหน้ารับ ในตอนนี้อาจารย์ของเขากำลังสอนเขาในระดับที่สูงขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

“หลังจากที่เธอสามารถไปถึงระดับมัชฌิมได้ ดวงดาวเวทของเธอจะกลายเป็นเนบิวล่า ซึ่งมันกว้างใหญ่กว่าละอองดาราอย่างมาก มันคือดวงดาวสี่สิบเก้าดวงหลอมรวมกัน ซึ่งนักเวทระดับมัชฌิมจะต้องเชื่อมต่อดวงดาวทั้งสี่สิบเก้าดวงนี้ให้เป็นเส้นทางดวงดาว การจะเป็นนักเวทระดับมัชฌิมได้คือการที่เธอสามารถสร้างเส้นทางดวงดาวจากเนบิวล่าทั้งสี่สิบเก้าดวงเชื่อมด้วยกันได้…” ถังหยู่อธิบาย

ละอองดาราเปลี่ยนเป็นเนบิวล่างั้นเหรอ!

ดวงดาวทั้งสี่สิบเก้าดวงเชื่อมต่อกันจนกลายเป็นเส้นทางดวงดาว จากนั้นเราจะกลายเป็นนักเวทระดับมัชฌิม!

โม่ฝานจดจำคำเหล่านี้เอาไว้ในใจอย่างแม่นยำ!

“เธอควรจะตระหนักไว้เสมอว่าการควบคุมดวงดาวนั้นไม่ง่ายดาย คราวก่อนเธอเพียงแค่ควบคุมดวงดาวเวททั้งเจ็ด ซึ่งในตอนนี้การควบคุมดวงดาวเวททั้งสี่สิบเก้าดวงนั้นไม่เพียงยากขึ้นแค่สองหรือสามเท่า แม้ว่าเธอจะสามารถเปลี่ยนให้มันกลายเป็นเนบิวล่าได้ก็จะต้องใช้เวลาสักระยะใหญ่กว่าที่จะสามารถใช้เวทมนตร์ระดับมัชฌิมได้ ความพิเศษของคำภีร์นำทางดวงดาวนี้คือเมื่อเธอตั้งใจกับมัน มันจะปล่อยพลังวิเศษออกมาทำให้เธอสามารถจัดการกับดวงดาวทั้งสี่สิบเก้าดวงได้อย่างง่ายดาย” ถังหยู่อธิบายออกมาอย่างจริงจัง

ขากรรไกรของโม่ฝานอ้ากว้างอย่างไม่อาจควบคุม เขาไม่คิดมาก่อนว่าโลกใบนี้จะมีเรื่องมหัศจรรย์เช่นนี้ด้วย!

เพียงแค่มีสิ่งที่เรียกว่าคำภีร์นำทางดวงดาวงั้นเหรอ? สิ่งที่เป็นความขมขื่นของนักเวทจะหายไปจนหมดสิ้น? เพียงแค่มีคำภีร์นี้อย่างงั้นเหรอ!?

มู่โจวอวิ๋นราวกับอ่านใจของโม่ฝานได้ เขารีบพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “แม้ว่าเธอจะมีเงินมากมายแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจใช้มันเพื่อซื้อคำภีร์นำทางดวงดาวนี้ได้! แค่นี้ก็รู้แล้วว่าอาจารย์ถังหยู่นั้นไม่ธรรมดา!”

โม่ฝานมองไปที่อาจารย์คนสวยของเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถามและความประหลาดใจ

เมื่อคิดเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนแล้ว อาจารย์ที่มีของล้ำค่าเช่นนี้ไม่น่าที่จะกลายเป็นอาจารย์ประจำโรงเรียนมัธยมปลายเช่นนี้ได้ นอกจากนั้นเวทมนตร์ที่ถังหยู่ร่ายออกมา เห็นได้ชัดว่าอย่างน้อยที่สุดเธอควรอยู่ในระดับมัชฌิม!

“เธอเป็นนักเวทธาตุคู่ แน่นอนว่าเธอจะต้องพบเจอกับผู้คนที่อิจฉาในพลังของเธอเอง คำภีร์เล่มนี้มีไว้เพื่อปกป้องเธอเอง ซึ่งถ้าหากเธอจะใช้งานคำภีร์นำทางดวงดาวเล่มนี้ เธอจะต้องเปลี่ยนแปลงละอองดาราทั้งเจ็ดให้กลายเป็นดวงดาวทั้งสี่สิบเก้าดวงซะก่อน ถ้าหากไม่ทำเช่นนั้นคำภีร์นำทางดวงดาวจะดูดซับพลังในร่างกายของเธอจนหมดส่งผลให้เธอกลายเป็นมัมมี่ไปโดยปริยาย!” ถังหยู่อธิบายเรื่องนี้อย่างเขร่งขรึม

โม่ฝานพยักหน้ารับอย่างจริงใจ เขารู้สึกว่าไฟในร่างกายของเขาเริ่มลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง!

เขาและถังหยู่นั้นมีความสัมพันธ์เป็นนักเรียนและอาจารย์เท่านั้น แต่ถึงอย่างไรเธอนั้นก็มีความห่วงใยให้กับโม่ฝานมากเหลือเกิน ดูเหมือนว่าเธอต้องการที่จะให้โม่ฝานสามารถไปถึงระดับมัชฌิมได้โดยเร็วที่สุด จากนั้นเขาจะสามารถทำงานเก็บเงินได้มากมาย… สุดท้ายเขาจะแต่งงานกับเธอและจะตอบแทนบุญคุณทั้งหมดนี้คืนให้กับเธออย่างสาสม!

“ขอบคุณครับ ผมจะทำให้ดีที่สุด!” โม่ฝานตอบกลับอย่างจริงจัง

ถังหยู่เผยรอยยิ้มจางๆออกมาราวกับว่าเธอนั้นคาดหวังบางอย่างในตัวของเขาอยู่

“เธอไม่ควรจะภูมิใจในตัวเองมากจนเกินไปนะ จริงอยู่ที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ใต้ดินแห่งนี้นั้นไม่เลวเลย อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้ช่วยให้เธอสามารถเข้าสู่ระดับมัชฌิมได้โดยง่ายเช่นนั้นหรอก มันเป็นแค่การช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆเท่านั้นที่จะพาเธอไปสู่ระดับมัชฌิมน่ะ ถ้าหากเธอต้องการจะผ่าฟันมันไปจริงๆล่ะก็… ฮ่าฮ่า มันยังห่างไกลนัก!” มู่โจวอวิ๋นหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา

ถังหยู่ไม่ได้กล่าวอะไรเพิ่มเติมอีก ตอนนี้เธอได้ทำในสิ่งที่ต้องการแล้ว… เมื่อจบเรื่องแล้วเธอหันหลังพร้อมเดินออกไปทันที

มู่โจวอวิ๋นนั้นก็ไม่ต้องการจะมองขยะเปียกชิ้นนี้อีกต่อไป เขาส่งสัญญาณให้กับผู้ควบคุมประตูให้นำโม่ฝานเข้าไปขังไว้ด้านในอย่างรวดเร็ว

“จงระวังให้ดีล่ะ เมื่อเร็วๆนี้พวกเราได้พบกับหนูตายักษ์ที่นี่ ถ้าหากว่าน้ำในบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์นี้ได้แพร่กระจายออกไป รับรองว่ามันจะต้องเป็นหายนะยิ่งใหญ่แน่ๆ เช่นนั้นแกจะต้องโดนสอบสวนครั้งใหญ่ด้วยนะ” กัปตันขององค์รักษ์เหลียงปิงได้ตะโกนออกมา

“กัปตันไม่ต้องห่วงหรอก! เรื่องนั้นจะไม่เกิดขึ้นอีกแน่นอน!” ผู้พิทักษ์อีกคนตะโกนกลับมาอย่างมั่นอกมั่นใจ

ขณะที่โม่ฝานได้ยินเหล่าผู้คุมตะโกนคุยกัน เขานึกถึงครั้งสุดท้ายที่เขาได้พบกับหมาป่าตาเดียวที่เกือบจะพัฒนาไปสู่ขั้นสุดท้ายเพียงเพราะได้ดูดซับพลังจากบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้

หมาป่าตาเดียวตัวนั้นจะต้องได้รับพลังจากน้ำพุนี้แน่นอน จากนั้นมันเปลี่ยนแปลงไปสู่ขั้นกว่าที่น่าเกรงกลัวอย่างยิ่ง… ‘นั่นมันได้รับพลังไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนะ ถ้าหากฉันต้องอยู่ที่นี่เจ็ดวันร่างกายของฉันจะใหญ่โตแค่ไหนกัน? ฮ่าฮ่า ไม่สิ ฉันจะแข็งแกร่งได้มากแค่ไหนนะ?’

••••••••••••••••••••

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด