บทที่ 79: การประลองเวท!
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)
••••••••••••••••••••
บทที่ 79: การประลองเวท!
“บัดซบ ไอ้แก่มู่โจวอวิ๋นนี่มันแน่นอนจริงๆ ดูสิว่าในร่างกายของเขาน่ะมีอุปกรณ์เวทมนตร์อะไรบ้าง?” เติ้งข่ายเห็นเช่นนั้นเขาแทบจะกระโดดออกมาจากเก้าอี้ของตัวเอง
อาจารย์ใหญ่ซูได้แต่ส่ายศีรษะซ้ำไปมาอย่างหดหู่
เหตุผลที่นักเรียนของโรงเรียนเวทมนตร์ไม่สามารถเอาชนะบุตรหลานจากตระกูลใหญ่ได้นั่นไม่ใช่เพราะทักษะของพวกเขาห่างชั้นกัน แต่นั่นเป็นเพราะว่าอุปกรณ์เวทมนตร์ที่พวกเขามีนั้นด้อยคุณภาพกว่ามาก
ในตอนนี้เป็นพิธีฉลองวันเกิดมอบอายุให้กับศิษย์ของตระกูลใหญ่ ใครจะรู้ว่าตาเฒ่ามู่โจวอวิ๋นจะมอบอุปกรณ์เวทมนตร์อะไรให้กับหยู่อั๋นบ้าง
แล้วสำหรับโม่ฝานล่ะ?
นอกเหนือจากโล่ห์เคียวกระดูกที่ได้รับจากจ้านคงแล้วดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีอุปกรณ์อื่นเลย
แล้วโม่ฝานจะต่อสู้กับเขาได้อย่างไร!?
เมื่อฉากนี้ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน นั่นทำให้ทั้งหมดรวมถึงอาจารย์ใหญ่ซูอดไม่ได้ที่จะหดหู่
“เติ้งข่ายเนื่องจากการต่อสู้นี้ได้รับอนุมัติจากคุณ ผมอนุญาตให้คุณเป็นคนตัดสินการประลองในครั้งนี้ได้” มู่โจวอวิ๋นกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้แววตาของเขาราวกับราชสีห์ที่อยากจะบดขยี้หนูเต็มทีแล้ว
เติ้งข่ายนั้นไม่รู้จะกล่าวอะไรออกมา ภายในใจของเขาได้แต่สวดภาวนาให้โม่ฝานปลอดภัยเท่านั้น
“เอาล่ะ ทั้งสองคนล้วนแต่เป็นเยาวชนที่โดดเด่นที่สุดในรุ่น การประลองในครั้งนี้คือบททดสอบสำหรับการฝึกฝนที่ผ่านมาของพวกเธอ… ขอให้ทั้งสองคนทำมันให้เต็มที่!” เติ้งข่ายยืนอยู่ตรงกลางระหว่างทั้งสองคนพร้อมกับประกาศด้วยน้ำเสียงที่ทุกคนในสนามได้ยิน
เติ้งข่ายถอยหลังไปสองถึงสามก้าวเพื่อแสดงว่าการประลองกำลังจะเริ่มขึ้น แต่เขาก็ยังยืนอยู่ในสนามเช่นเดิม
ถ้าหากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น แน่นอนว่าเขาจะสามารถหยุดมันได้!
“เอาล่ะ จับมือกันซะ แล้วรอสัญญาณจากฉัน…” เติ้งข่ายกล่าวออกมา
โม่ฝานและหยู่อั๋นเผชิญหน้ากันพร้อมกับค่อยๆยื่นแขนออกมา
น้ำแข็งพลันปรากฏผ่านมือของหยู่อั๋นเล็กน้อย ในขณะที่จับมือกันโม่ฝานรู้สึกได้ว่าความเย็นซึมซาบเข้าไปถึงด้านในของกระดูก!
โม่ฝานโต้ตอบอย่างรวดเร็ว เปลวไฟลุกโชนขึ้นเล็กน้อยแขนของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีเพื่อจัดการกับไอเย็นที่กำลังลุกลาม แต่ทว่าใบหน้าของเขายังคงเรียบเฉยเช่นเดิมพร้อมมองไปที่หยู่อั๋นด้วยสายตาที่ชูนิ้วกลาง!!
“แกน่ะเป็นแค่หนูขยะตัวเล็กๆที่ไม่เคยเจียมตัวสักนิด เอาล่ะแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาหรอกฉันจะแช่แข็งสมองที่เต็มไปด้วยน้ำของแกเอง ด้วยวิธีนี้แน่นอนว่าสมองของแกจะปลอดโปร่งขึ้นเยอะเลยล่ะ” หลังจากที่หยู่อั๋นดึงมือกลับเขาหันหลังพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะเย็นชาออกมา จากนั้นเขาเดินเข้าประจำตำแหน่งของตัวเอง
“ไอ้โง่เอ๊ย!” โม่ฝานตอบกลับ
หลังจากที่โม่ฝานเข้าประจำตำแหน่ง เขาหลับตาลงครู่หนึ่งจากนั้นเปิดตาขึ้นพร้อมมองไปรอบๆทันที
แรกเริ่มที่เขาได้เข้ามาในคฤหาสน์แห่งนี้ เขาลืมที่จะมองรอบๆไปอย่างสิ้นเชิง ในตอนนี้เขากวาดสายตาไปทั่วบริเวณและพบว่าส่วนใหญ่เต็มไปด้วยแววตาถากถางดูถูกราวกับกำลังถามเขาว่า ‘เด็กคนนี้เอาความกล้าหาญเช่นนี้มาจากไหน?’ มุมปากของทุกคนตื้นเขินราวกับกำลังแสยะยิ้มอย่างดูหมิ่นส่งมาถึงเขา ทุกคนล้วนแต่ส่งสายตาเป็นทางเดียวกัน “แกประเมินความสามารถของตัวเองสูงไปรึเปล่า ในตอนนี้แกแค่พยายามทำในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้อยู่!”
ในโลกใบนี้เต็มไปด้วยคนที่คิดว่าตนเองฉลาดพร้อมกับใช้บรรทัดฐานของตัวเองเพื่อตัดสินผู้อื่นว่าทำได้หรือไม่ได้เสมอมา พวกเขาทั้งหมดล้วนแต่ถูกขังอยู่ในกรงที่คับแคบและไม่มีวันกระโดดข้ามขีดจำกัดของตัวเองออกมาได้ ด้วยเหตุนี้ทั้งหมดจึงกล้าที่จะตัดสินโม่ฝานเพียงแว๊บแรกที่เห็นและใช้ความกล้าหาญของตนเองเพื่อถากถางผู้อื่นในกรงแคบๆของตัวเองต่อไป
คนเหล่านี้มักจะชอบยินดีกับความโชคร้ายของผู้อื่นเสมอ เรื่องซุบซิบนินทาเป็นสิ่งที่สนุกสนานที่ไม่ต้องลงทุนสิ่งใดพร้อมกับคิดว่าตนเองนั้นเหนือกว่า แข็งแกร่งกว่าและฉลาดมากกว่า…
ในวันนี้โม่ฝานจะทำให้ความคิดเหล่านั้นต้องพังลง!
“การประลอง… เริ่มได้!” ทันใดนั้นเติ้งข่ายประกาศออกมาเสียงดังสนั่น ซึ่งมันเป็นเวลาที่โม่ฝานรอคอยมาเนิ่นนาน
วินาทีถัดมาโม่ฝานเชื่อมต่อดวงดาวเวททั้งหมดเข้าด้วยกันในเสี้ยววินาที ดวงดาวเวททั้งหมดก่อตัวร่วมกันกลายเป็นเส้นทางเวทอย่างน่าอัศจรรย์ เปลวไฟลุกโชนล้อมรอบร่างกายของเขาไว้อย่างสว่างไสว
ลูกบอลเพลิงกระโดดโลดเต้นอยู่บนมือของเขาราวกับว่าพร้อมที่จะแผดเผาทุกสิ่งโดยรอบให้ราบคาบเสียตั้งแต่วินาทีนี้!
“บอลเพลิง แผดเผา!”
ความเร็วของโม่ฝานนั้นรวดเร็วจนแทบจะหยุดหายใจ เสียงประกาศของเติ้งข่ายยังไม่ทันจางหายไปด้วยซ้ำ มันยังกึกก้องอยู่ภายในหูของเหล่าผู้คนอย่างชัดเจน
การกระทำเช่นนี้ทำให้ผู้คนโดยรอบรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในทันที
“เหมือนว่าเขาจะมีความสามารถอยู่บ้างนะ แต่ทว่าอัคคีระดับปฐมภูมินี้มันช่างไร้ประโยชน์จริงๆ”
“แปลก เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ได้ใช้บอลเพลิงเผาผลาญกระดูกงั้นเหรอ? ทำไมเขาคิดที่จะใช้อัคคีระดับปฐมภูมิกันล่ะ? อีกทั้งพลังอัคคีระดับสองนั้นรุนแรงกว่าระดับแรกมาก เขาอุตส่าร่ายเวทเสร็จก่อนแต่กลับไม่แสดงความเกรี้ยวกราดเอาซะเลย!” ลั่นหยุนปั๋วบ่นออกมาอย่างหงุดหงิด
ทุกคนนั้นรู้อยู่แล้วว่าโม่ฝานนั้นเป็นคนแรกในโรงเรียนที่สามารถใช้อัคคีระดับสองได้ แต่ในตอนนี้ทุกคนล้วนขัดใจเมื่อเขาเลือกใช้อัคคีระดับแรกเท่านั้น ทำไมกัน? ในเมื่อตอนสอบปฏิบัติเขายังเลือกใช้บอลเพลิงเผาผลาญกระดูกอยู่เลย? ในการประลองที่สำคัญเช่นนี้ เขาคิดอะไรอยู่?
หยู่อั๋นที่อยู่อีกด้านไม่ได้รีบร้อนแต่อย่างใด เขายืนดูโม่ฝานร่ายเวทจนเสร็จพร้อมกับกล่าวออกมาอย่างไม่แยแส “เสร็จแล้วงั้นเหรอ? แต่ใช้เวทระดับหนึ่งน่ะเหรอ?”
“แช่แข็ง!” หยู่อั๋นไม่รอช้า เขาควบคุมดวงดาวเวทของตนเองในทันทีเช่นกัน
ความเก่งกาจของเขานั้นพอๆกับโม่ฝาน ลมโบกพัดกรรโชกทำให้เสื้อคลุมของเขาปลิวไสว
“แช่แข็ง รวมตัว!”
หยู่อั๋นร่ายเวทต่ออย่างไม่หยุดยั้ง อุณหภูมิจากที่ร้อนในตอนแรกกลายเป็นหนาวเหน็บในทันที ราวกับว่าในตอนนี้ทุกคนกำลังเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว
เกล็ดหิมะลอยว่อนอยู่ในอากาศพร้อมกับเริ่มมีชั้นน้ำแข็งปกคลุมพื้นที่บางส่วน
หิมะร่วงหล่นลงมากระทบกับร่างกายของโม่ฝาน เขาถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดหิมะมากมาย ความเร็วของมันนั้นน่ากลัวมาก ถ้าหากเขายังยืนเฉยอยู่ตรงนี้อีกเพียงสามวินาทีแน่นอนว่าเขาจะถูกแช่แข็งทันที
คาถาแช่แข็งนั้นถือว่าได้เปรียบอย่างมากในการประลองเวท
ในคาถาแรกเริ่มนั้นมีเพียงธาตุลมและดินเท่านั้นที่เป็นเวทสำหรับเคลื่อนไหว
แต่ผลกระทบของเวทน้ำแข็งนั้นมักจะปกคลุมทั่วบริเวณ เมื่อใดที่มันปกคลุมลงมาสู่ลานประลอง เช่นนั้นศัตรูยากที่จะหลบหนีได้ พวกเขาทั้งหมดจะถูกแช่แข็งในเวลาที่รวดเร็ว ถ้าหากเร็วไม่พอที่จะหลบหนี แน่นอนว่าจะกลายเป็นก้อนน้ำแข็งโดยสมบูรณ์
หยู่อั๋นร่ายเวทน้ำแข็งครอบคลุมโม่ฝานทั้งหมด แม้ว่าโม่ฝานจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เขาก็จะไม่สามารถหลบหนีจากเวทนี้ได้ภายในสามวินาทีแน่นอน ดังนั้นหลังจากผ่านไปสามวินาทีเขาจะถูกแช่เหลือไว้เพียงรูปปั้น!
หลังจากนั้นหยู่อั๋นจะใช้เวทปิดทับเขาอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้เขากลายเป็นรูปปั้นให้ผู้คนหัวเราะสักระยะก่อนแล้วค่อยปล่อยออกมา!
ไม่มีอะไรที่ต้องทำมากมายนัก เวทน้ำแข็งนั้นเหนือชั้นกว่าในการประลองอยู่แล้ว ยิ่งถ้าหากนักเวทที่เป็นคู่ต่อสู้เชื่องช้ากว่า แน่นอนว่าเพียงแค่เวทน้ำแข็งระดับแรกก็สามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย!
“บัดซบ ทำไมไอ้เด็กบ้านั่นยังยืนอยู่เฉยๆล่ะ?”
“ถ้าเป็นฉัน แน่นอนว่าฉันจะเริ่มวิ่งในทันทีก่อนที่มันจะสายเกินไป!”
โม่ฝานไม่ได้เริ่มวิ่งแต่อย่างใด ถ้าหากเป็นนักเวทคนอื่นที่โดนโจมตีเช่นนี้ แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องเคลื่อนไหวเพื่อไม่ให้ถูกแช่แข็งได้โดยง่าย
“แกอยากจะแช่แข็งฉันงั้นเหรอ?” ในเวลานั้นโม่ฝานเผยรอยยิ้มปีศาจออกมา
เขาไม่ได้โยนบอลเพลิงในมือไปที่หยู่อั๋น ความจริงแล้วบอลเพลิงในมือของเขานั้นไม่สามารถทำร้ายหยู่อั๋นได้เลยแม้แต่น้อย แต่ทว่าบอลเผลิงแผดเผาระดับแรกเริ่มนี้มันฉลาดกว่าสิ่งที่ทุกคนเคยรู้จัก!
••••••••••••••••••••
••••••••••••••••••••