บทที่ 9 เม็ดยาระดับพิภพ
“ไม่นะ... พังหมดเลย”
เจียงอี้ทรุดลงไปกับพื้น จำนวนของยาสมุนไพรในหม้อนั้นไม่ใช่น้อยๆเลย... ในหม้อนี้มียาอย่างต่ำก็ประมาณห้าสิบเม็ด และที่สำคัญคือมันเป็นเม็ดยาแก่นแท้วิญญาณระดับสูงด้วย...
เจียงอี้เคยได้ยินมาว่าเม็ดยาชั้นดีระดับนี้ เมื่อขายให้กับบุคคลภายนอกนั้นมีราคาอย่างน้อยสิบตำลึงเงินต่อเม็ด กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ยาทั้งหม้อนั้นมีจำนวนรวมกันเท่ากับห้าตำลึงทอง ซึ่งเจียงอี้ได้ทำมันระเบิดไปแล้วเรียบร้อย
หวด!!
ร่างของชายสวมชุดสีน้ำตาลระเบิดออกมาจากห้องข้างๆ บรรยากาศภายในห้องนั้นมาคุจนเจียงอี้รู้สึกหายใจแทบไม่ออก
ดวงตาที่อาฆาตของผู้เฒ่าหลิ่วนั้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เมื่อเขาจ้องมาที่เจียงอี้ มือข้างหนึ่งของผู้เฒ่าคว้าหม้อยาขึ้นมาและยกขึ้นให้เจียงอี้เห็นสิ่งที่อยู่ภายในหม้อ เขาเริ่มมองหาซากพวกนั้นทันที
เจียงอี้หายใจอย่างติดๆขัดๆ และภาวนาในใจ ขอให้ยาภายในหม้อนั้นเสียหายแค่เพียงนิดเดียว
มิเช่นนั้นผู้เฒ่าหลิ่วคงโกรธจนเฆี่ยนตีเจียงอี้ถึงตายแน่ๆ และคนในตระกูลเจียงก็คงจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเหมือนเช่นเคย...
“เจ้าเด็กสารเลว หม้อที่เต็มไปด้วยยาของข้าถูกทำลายไปจนหมดสิ้น! เจ้ารู้ตัวมั้ยว่าเจ้าทำอะไรลงไป!!!”
เมื่อผู้เฒ่าหลิ่วมองเข้าไปในหม้อ ความโกรธเกรี้ยวของผู้เฒ่าหลิ่วนั้นก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้น
สายตาของผู้เฒ่าหลิ่วจ้องไปที่ใบหน้าของเจียงอี้ราวกับใบมีดที่แหลมคม ในขณะที่กำปั้นของผู้เฒ่าเต็มไปด้วยแก่นแท้พลังสีแดง
ผู้เฒ่าหลิ่วนั้นพร้อมที่จะโจมตีเจียงอี้ด้วยกำปั้นที่เต็มไปด้วยแก่นแท้พลังสีแดง
“ข้าทำมันไปแล้วขอรับ!”
เจียงอี้หลับตาปี๋และเตรียมรับแรงหวดจากกำปั้นของผู้เฒ่าหลิ่ว แม้ว่าผู้เฒ่าหลิ่วจะเป็นเพียงผู้ดูแลการปรุงยา แต่เขาก็ถือว่าเป็นหนึ่งในสิบอันดับของผู้อาวุโสที่ทรงพลังที่สุดในตระกูลเจียง
เจียงอี้จะถูกท่านผู้เฒ่าหลิ่วฆ่าเขาตายภายในหนึ่งฝ่ามือหรือไม่?
"เอ๊ะ?"
แต่ทันใดนั้นผู้เฒ่าหลิ่วหยุดนิ่งและงุนงง เขาชะงักกำปั้นของตัวเองเอาไว้ และมองด้วยความสงสัยไปที่ยาทั้งสองเม็ดที่เหลืออยู่ภายในหม้อยานั่น
ผู้เฒ่าหลิ่วรู้สึกได้ว่า ... ยาสองเม็ดที่เหลืออยู่นี้แตกต่างจากเม็ดยาวิญญาณที่เขาปรุงไว้ในตอนแรก
ทันใดนั้นเจียงอี้ก็รู้สึกเหมือนเพิ่งหลุดพ้นจากความตายได้แล้ว เขารีบเช็ดเหงื่อที่ไหลอาบหน้าของเขาอย่างเร่งรีบ และสังเกตการเคลื่อนไหวทุกอย่างของผู้เฒ่าหลิ่ว
"นี่ ... ยาสมุนไพรนี่มัน ... "
ผู้เฒ่าหลิ่วเลิกสนใจเจียงอี้ไปโดยสิ้นเชิง ดวงตาของผู้เฒ่านั้นเบิกกว้างราวกับพระจันทร์เต็มดวง ในขณะที่เขาหยิบเม็ดยาสีดำสองเม็ดจากในหม้อใบนั้น
ใบหน้าของผู้เฒ่าก็เต็มไปด้วยความตกใจและสับสน เขาพูดว่า "มันไม่ใช่เม็ดยาวิญญาณสีขาวหรอกหรือ?ยาสองเม็ดนี้มันกลายเป็นสีดำได้อย่างไร เหมือนว่ายานี่มัน…ฤทธิ์ยามันมีพลังมากขึ้น!"
"ยาสีดำ? สองเม็ดนี้?"
ดวงตาของเจียงอี้เต็มไปด้วยความสับสนไปมา และความคิดของเขาก็ผุดขึ้น จะเกิดอะไรขึ้นหากข้าใช้แก่นแท้พลังสีดำสองเส้นใส่เข้าไปในเม็ดยาทั้งสองเม็ดนั่น?
ไม่เพียงแต่ยาทั้งหม้อระเบิดจนเหลือสองเม็ด แต่สีของพวกมันก็ถูกเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีดำอีกด้วย?
แก่นแท้พลังสีดำสองเส้นนี้เป็นสิ่งที่อยู่เบื้องหลังหรือเปล่านะ?
"ประสิทธิภาพของยาสองเม็ดนี้มันต้องเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน!"
ดวงตาของผู้เฒ่าหลิ่วก็เปล่งประกายขึ้นมา เขามีชีวิตชีวาขึ้นเป็นอย่างมาก ผู้เฒ่าหลิ่วนั้นพูดจาไม่หยุด
“สุดยอด พลังของยานี่ช่างเหมือนเหลือเกิน เหมือนมากๆ!!! ตลอดชีวิตที่ข้าได้ปรุงยามามากมาย... เป็นไปได้หรือไม่…ในที่สุดก็ปรุงได้เม็ดยาพิภพสองเม็ดได้แล้ว”
"เม็ดยาพิภพ?"
ความคิดที่อยู่ภายในใจของเจียงอี้ทำให้เขารู้สึกสั่นไหวไปหมด
เขาจำได้ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา เมื่อตอนที่เขารักษาอาการบาดเจ็บของตัวเอง แก่นแท้พลังสีดำนั้นสามารถเพิ่มพลังรักษาของเม็ดยาโสมเหลืองได้อย่างน่าประหลาดใจ มันเพิ่มขึ้นไปสี่ถึงห้าเท่า
จากสถานการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น ในใจของเจียงอี้มั่นใจมาก ว่าการระเบิดของยาในหม้อนี้ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพยาทั้งสองเม็ดนี้ไปสู่คุณภาพระดับพิภพได้นั้น มันเกิดขึ้นจากแก่นแท้พลังสีดำ ...
อึก!
ทันทีที่เจียงอี้พูดพึมพำกับตัวเอง ผู้เฒ่าหลิ่วก็คว้าเม็ดยาสีดำเข้าปากและกลืนมันก่อนที่จะทำสมาธิและหลับตาลง
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้เฒ่าหลิ่วก็เบิกตากว้างขึ้นมาในทันที ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความปีติยินดีอย่างเอ่อล้น
"ฮ่า ๆ ๆ ๆ ! นี่เป็นเม็ดยาระดับพิภพขั้นต่ำอย่างแน่นอน! สามสิบปีแล้ว! ในที่สุดข้าก็กลั่นเม็ดยาระดับพิภพนี้ขึ้นมาได้! ข้าไม่ใช่ผู้ปรุงยาที่เก่งที่สุดอีกต่อไป.... "
เจียงอี้เม้มริมฝีปากของเขาอย่างเงียบๆและพึมพัมกับตัวเอง เขาคิดกับตัวเองว่าคงไม่ใช่เขาหรอกที่ปรุงเม็ดยานี้ขึ้นมาได้
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เจียงอี้ก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมา แต่เจียงอี้ยืนอยู่ตรงนั้น และทำตัวดีโดยในใจของเขาหวังเพียงแค่ เมื่อผู้เฒ่าหลิ่วอารมณ์ดีขึ้นแล้ว ท่านผู้เฒ่าจะปล่อยเจียงอี้กลับไปแต่โดยดี
ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ!
ในเวลานั้น เสียงรอยเท้าดังมาจากด้านนอกของห้องปรุงยา เด็กหนุ่มผู้ลึกลับคนหนึ่งได้เข้ามา และชำเลืองมองไปที่เจียงอี้ก่อนที่เขาจะเดินไปหาผู้เฒ่าหลิ่วพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่แสนเจ้าเล่ห์และจับมือยินดีแก่ผู้เฒ่าหลิ่ว
"ข้าน้อยยินดีด้วยขอรับ ท่านผู้เฒ่า!" เขาอุทานออกมา "ข้ายินดีกับท่านด้วย! ท่านผู้อาวุโสของข้า ในที่สุดท่านก็ปรุงเม็ดยาวิญญาณที่ยอดเยี่ยมออกมาได้... "
ปึงง!
ท่าทีของผู้เฒ่าหลิ่วนั้นก็ได้เปลี่ยนไปในทันที และปล่อยกำปั้นใส่เด็กชายผู้นั้นจนลอยลิ่วออกไปทางประตูหน้าของห้องปรุงยาทันที
จากนั้นผู้เฒ่าก็ตะคอกขึ้นมาอย่างเย็นชา "เจียงซง เจ้าจงออกไปให้พ้นสายตาของข้าเดี๋ยวนี้! เจ้าไม่จำเป็นต้องกลับมาที่ห้องปรุงยานี่อีกแล้ว เจ้าเซ่อ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้ามักจะทำคือมัวแต่ขี้เกียจไปวันๆ!"
เจียงอี้หดหัวของเขาและคิดกับตัวเองอย่างเงียบๆ เขาไม่สงสัยเลยว่าทำไมผู้เฒ่าหลิ่วจึงมีชื่อเสียงในเรื่องนิสัยที่แปลกประหลาด
ก่อนหน้านี้ผู้เฒ่านั้นยังยิ้มร่า แต่ตอนนี้เขาสามารถกลายเป็นชายแก่ผู้ไม่เป็นมิตรกับผู้ใดได้ในทันที
เมื่อเจียงอี้สังเกตเห็นใบหน้าที่แดงก่ำและบวมตุ่ยของเจียงซงที่กำลังวิ่งออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว เจียงอี้ก็ไม่กล้าที่จะอยู่ที่นี่นานไปมากกว่านี้
เจียงอี้ยกมือคำนับและพูดด้วยเสียงเบาๆว่า "ผู้เฒ่าหลิ่ว งั้นข้าขอตัวก่อน" ก่อนที่เจียงอี้จะรีบสาวเท้าออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
"เดี๋ยว!"
ใครจะคาดคิดว่าผู้เฒ่าหลิ่วจะเรียกเจียงอี้อย่างดังด้วยเสียงทุ้มต่ำของเขา เสียงนั้นได้หยุดเจียงอี้ไว้อย่างชะงัก
เจียงอี้ทำได้เพียงหยุดและถามอย่างขมขื่น "ท่านผู้เฒ่าหลิ่ว ท่านมีอะไรจะแนะนำข้าอีกหรือขอรับ?"
ผู้เฒ่าหลิ่วก็เผยรอยยิ้มขึ้นมาบนใบหน้าในทันที ผู้เฒ่าเดินไปข้างหน้าเพียงไม่กี่ก้าว แล้วตบไปที่บ่าข้างขวาของเจียงอี้ด้วยมืออันมหึมาของเขา
เขาพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง "เจ้าไม่เลวเลย เจ้าเด็กน้อย! เจ้าคือผู้โชคดีของข้า! อืม ... เจ้าเจียงซงนั่นไร้ประโยชน์ มันไม่ทำอะไรเลย...ข้าไม่ต้องการมันอีกแล้ว! ในตอนนี้ข้าก็ไม่มีผู้ช่วยแล้ว ทำไมเจ้าไม่มาอยู่ที่นี่และเป็นผู้ช่วยข้านับตั้งแต่วันนี้ล่ะ?”
“อะไรนะ?” เจียงอี้สั่นเทาและส่ายหัวเหมือนกลองที่กำลังสั่นสะเทือน พร้อมปฏิเสธข้อเสนออย่างเด็ดขาด
"ไม่ได้หรอก ท่านผู้เฒ่าหลิ่ว ข้าไม่รู้วิธีปรุงยาเลย แถมข้าก็ไม่รู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ด้วย นอกจากนั้น…ตอนนี้ข้ายังทำงานอยู่ในสวนสมุนไพรอยู่ด้วยขอรับ หากข้ามาทำงานให้ท่านที่นี่ ข้าไม่รู้ว่าจะอธิบายกับหัวหน้าหรงได้อย่างไร "
อารมณ์ของผู้เฒ่าหลิ่วนั้นพิลึกมาก....หากวันใดวันหนึ่งเจียงอี้ไปยั่วโมโหผู้เฒ่าหลิ่วขณะที่ทำงานอยู่ที่นี่เข้า เจียงอี้จะเป็นเช่นไร หากเจียงอี้ถูกผู้เฒ่าฟาดจนตาย ก็คงไม่มีใครข้องใจกับการตายของเขาเลยแน่ๆ
"ไร้สาระ!”
อารมณ์ของผู้เฒ่าหลิ่วนั้นเปลี่ยนเร็วยิ่งกว่าการเปลี่ยนหน้าหนังสือ หน้าตาของผู้เฒ่านั้นกำลังเดือดดาลและพูดด้วยความโกรธ
"หากข้าต้องการใครซักคน หัวหน้าหรงก็คงจะไม่ว่าอะไร หรือแม้แต่หัวหน้าพ่อบ้านเจียงหยุนเฉอก็ไม่กล้าหือกับข้า!!”
"เจ้าจงไปบอกหัวหน้าของเจ้าซะ ว่าถ้าหากเขาไม่เห็นด้วย ข้าจะฉีกเขาออกเป็นชิ้นๆ ส่วนเรื่องที่เจ้าไม่รู้วิธีการปรุงยา เจ้าค่อยๆเรียนรู้ไปเรื่อยๆก็ได้
อย่างไรก็ตาม เจ้าห้ามเรียนรู้ความขี้เกียจแบบเจ้าเด็กเจียงซงที่ไม่มีอะไรดีนั่น ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไว้แน่ ... เอาล่ะ ตอนนี้เจ้ากลับไปก่อน และค่อยกลับมาที่นี่และเริ่มงานได้ในพรุ่งนี้ตอนรุ่งเช้า ข้าจะไปศึกษาเม็ดยานี่ก่อนล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า…เม็ดยาระดับพิภพ… "
ผู้เฒ่าหลิ่วถือเม็ดยาสีดำไว้ในมือ และเดินส่ายหัวออกไปอย่างร่าเริ่ง อย่างไรก็ตามเจียงอี้ผู้น่าสังเวชดูเหมือนว่าเขากำลังจะร้องไห้ออกมา
แต่สุดท้ายแล้วเจียงอี้ก็เปลี่ยนความคิดของเขา ถ้าข้าทำงานที่นี่ ข้าก็ไม่ต้องออกไปที่เขาซีชานอีกต่อไป?
นอกจากนั้น เจียงหยูหู่และลูกน้องของเขาก็จะไม่กล้ามาที่นี่หรือไปที่บ้านของข้าและต่อสู้กับข้า ใช่ไหมนะ??
เจียงอี้คิดว่าตอนนี้เขามีเวลาในการทดลองแก่นแท้พลังสีดำนี้อย่างเหมาะเจาะ
แก่นแท้พลังสีดำ ฮืม?
ทันใดนั้น ความคิดของเจียงอี้ก่อนหน้านี้ก็ผุดขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาของเขาก็ส่องเป็นประกาย แก่นแท้พลังสีดำของเขาได้ไปเพิ่มผลลัพธ์ให้ยานั่นหรือเปล่านะ?
จากเม็ดยาระดับมนุษย์ขั้นสูงนั้นได้กลายเป็นเม็ดยาแห่งพิภพ พลังการรักษาของพวกมันที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจน่าจะเป็นผลมาจากแก่นแท้พลังสีดำแน่ๆ
ถ้าหากว่า…เจียงอี้เริ่มทำงานที่นี่ นั่นก็หมายความว่าเขาก็จะรู้สูตรการปรุงยาด้วยหรือเปล่านะ
เจียงอี้สามารถยืมพลังของแก่นแท้พลังสีดำเพื่อผสมและปรุงยาระดับสูง ก่อนที่จะเอาออกไปขายให้กับผู้คนข้างนอกได้โดยไม่มีใครรู้!!
เม็ดยาสมุนไพรระดับมนุษย์ขั้นสูงนั้นก็ได้ราคาเม็ดละสิบตำลึงเงินแล้ว เม็ดยาสิบเม็ดนั้นก็จะเท่ากับร้อยตำลึงเงิน ซึ่งก็จะเท่ากับหนึ่งตำลึงทอง!!
หากเจียงอี้ผลิตเม็ดยาระดับสูงได้หนึ่งร้อยเม็ดภายในเวลาหนึ่งเดือน เขาจะสามารถคืนหนี้มหาศาลให้กับพ่อบ้านที่หอนางโลมเฟิงเยว่ได้ทันมั้ยนะ?
“ฮ่าฮ่า!”
เจียงอี้แอบดีใจออกมา ในที่สุดเขาก็สามารถลดความเครียเรื่องการหาเงินไปใช้หนี้ลงได้ เหมือนเขาได้ยกภูเขาออกจากอก
ในตอนแรกเจียงอี้ไม่เต็มใจที่จะทำงานกับผู้เฒ่าหลิ่วเลยแม้แต่น้อย; แต่ในขณะนี้เขามีความสุขที่จะได้มาทำงานที่นี่มากกว่าตอนแรกเสียอีก
"ใช่แล้ว ข้าควรจะต้องไปแจ้งหัวหน้าหรงก่อน"
เจียงอี้เดินทะลุก้อนอิฐหน้าประตูและพุ่งออกไปจากห้องในทันที เขายังคงจำตอนที่ตนเองยืนเหม่ออยู่หน้าประตูได้อยู่เลย
ตอนนี้เจียงอี้รู้สึกเหมือนว่าผู้เฒ่าหลิ่วนั้นได้มองเจียงอี้ต่างไปจากเดิมแล้ว เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเดินไปห้องข้างๆ อย่างช้าๆ
“ฮ่าฮ่า เม็ดยาพิภพ? หม้อยาที่ปรุงเม็ดยาวิญญาณนี้สามารถเปลี่ยนเป็นเม็ดยาระดับพิภพได้ยังไง? อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ก็เป็นได้? ไม่สิ ข้าต้องตรวจสอบและค่อยๆทดลองเม็ดยานี่ก่อน...”
ผู้เฒ่าหลิ่วนั่งอยู่ที่พื้นห้อง เขาหันหลังให้แก่เจียงอี้อยู่ ผู้เฒ่าได้หุ้มเม็ดยาสีดำไว้ด้วยแก่นแท้พลังสีแดงที่ถูกปล่อยออกมาจากมือของเขา
ด้วยความจดจ่อไปกับการวิจัยเม็ดยาอย่างเต็มที่ เขาจึงไม่ได้สนใจเจียงอี้
"ผู้เฒ่าหลิ่ว"
เจียงอี้ยืนนิ่งอยู่พักหนึ่ง แต่ผู้เฒ่าหลิ่วก็ยังคงเมินเฉยต่อเขา เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องกัดฟัน และใช้มือป้องปากเพื่อตะโกนบอกผู้เฒ่าว่า "ข้าอยากจะมาขอเม็ดยาโสมเหลืองและเม็ดยาเสริมพลังอย่างละนิดขอรับ "
ในที่สุดผู้เฒ่าก็รู้สึกตัวขึ้นมา เขาชำเลืองมองเจียงอี้ด้วยการมองเพียงแว้บเดียว แล้วตอบอย่างกระวนกระวายว่า
"ไปที่ห้องเก็บยา ที่อยู่ฝั่งนั้นแล้วไปหยิบด้วยตัวเองเลย หยิบไปเท่าที่เจ้าต้องการ และอย่ามารบกวนข้าได้แล้ว…เอ๊ะ? เม็ดยาวิญญาณนี้ยังคงมีส่วนผสมดั้งเดิมและไม่มีส่วนประกอบพิเศษใดๆเพิ่มมา มันจะกลายเป็นเม็ดยาระดับพิภพได้เช่นไร ช่างแปลกประหลาดนัก... "
"หยิบไปเท่าที่ข้าต้องการหรอ?"
มุมปากของเจียงอี้ฉีกยิ้มออกมา เพราะเขาไม่เชื่อว่าการทำงานที่ห้องปรุงยานั้นจะมีประโยชน์มากมายกับเขาได้ขนาดนี้
เขาไม่กล้ารบกวนผู้เฒ่าหลิ่วอีกต่อไป เจียงอี้รีบคำนับท่านผู้เฒ่าหลิ่วก่อนที่จะเดินหันกลับไปที่ห้องที่ผู้เฒ่าบอกไว้
เขาเห็นห้องอยู่สองห้องที่ฝั่งที่ผู้เฒ่าบอก และประตูของห้องทั้งสองนั่นก็ถูกปิดอยู่ทั้งคู่
เจียงอี้ผลักประตูบานหนึ่งและชะเง้อไปดู เขาเห็นการตกแต่งภายในของห้องที่เต็มไปด้วยสมุนไพร ซึ่งเขาเดาว่าสมุนไพรที่ถูกส่งไปที่นั่นคือสมุนไพรที่ถูกเก็บมาจากสวนสมุนไพรที่เขาซีชาน
เขาไม่กล้าที่จะมองอะไรมากมาย เขาจึงถอยกลับไปก่อนและจึงมุ่งหน้าไปยังห้องถัดไป ขณะที่เขาเปิดประตูอีกบานนั้น กลิ่นของยาก็ได้เตะจมูกเจียงอี้ขึ้นมาทันที
“โอโห ยาที่นี่ช่างมากมายเหลือเกิน”
ห้องเก็บของที่เก็บเม็ดยานั้นกว้างขวางมาก ภายในห้องนั้นประกอบด้วยชั้นสามชั้นที่มีขนาดใหญ่สองตู้ ในแต่ละชั้นนั้นเต็มไปด้วยขวดและกล่อง ทุกๆอันนั้นถูกบรรจุด้วยเม็ดยามากมาย
"เม็ดยาแก่นแท้วิญญาณ, เม็ดยาวิญญาณ, เม็ดยาโสมดำ, เม็ดยาเสริมพลัง, เม็ดยาโสมเหลือง...."
เจียงอี้รู้สึกตื่นเต้นมาก เมื่อเขายิ่งมองยาพวกนี้เขาก็ตื่นเต้นมากขึ้น ผู้เฒ่าหลิ่วกล่าวว่า เจียงอี้สามารถหยิบยาไปได้เท่าที่เขาต้องการ
มันหมายความว่าเจียงอี้จะสามารถหยิบยาไปได้มากกว่าหนึ่งเม็ดหรือแม้กระทั่งจะหยิบยาที่มีระดับสูงกว่าระดับมนุษย์ขั้นกลาง หรือแม้กระทั่งขั้นสูงได้เลยรึเปล่านะ?
“ไม่ได้สิ ข้าไม่ควรจะโลภมากเกินไป...”
เจียงอี้ต่อต้านความโลภภายในใจของเขาอย่างยากลำบาก เจียงอี้นั้นมีความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นอย่างยิ่ง
เขาหยิบเม็ดยาเสริมพลังซึ่งเป็นยาที่มีคุณภาพต่ำที่สุดรวมถึงยาเม็ดโสมเหลืองไปสามเม็ดซึ่งเป็นยาที่มีพลังในการรักษาต่ำที่สุดเช่นกัน
ก่อนที่จะรีบออกจากห้องเก็บยาและเดินตรงไปยังตำหนักที่หัวหน้าหัวหน้าหรงพำนักอยู่ที่นั่น
“เอ่อเฮอะ เจ้าเด็กตระกูลเจียงคนนี้ช่างมีอุปนิสัยที่ดี เขานั้นช่างไม่โลภเสียเลย!”
หลังจากเจียงอี้ออกไปแล้ว ผู้เฒ่าหลิ่ว ชายผู้มีผมหงอกสีเทาอมขาวเต็มหัวก็เดินออกจากห้องปรุงยาและเข้าไปในห้องเก็บยาเพื่อตรวจสอบ
ผู้เฒ่าหลิ่วพยักหน้าอย่างพึงพอใจและพึมพำกับตัวเอง หลังจากนั้นผู้เฒ่าก็กลับไปที่ห้องเพื่อที่จะตรวจสอบและวิจัย "เม็ดยาพิภพ" อีกครั้ง...
ณ ตำหนักตระกูลเจียงฝั่งตะวันออก, ในห้องของพ่อบ้าน
หัวหน้าหรงเห็นเจียงอี้เดินมาแต่ไกล เขาจ้องมองเจียงอี้และพูดอย่างเย็นชาว่า “เจียงอี้ วันนี้เจ้าได้ไปนับสมุนไพรที่สวนมาให้ข้าเรียบร้อยหรือยัง?”
เจียงอี้คำนับหัวหน้าหรงและพูดว่า "หัวหน้าหรง ข้ายัง...."
“เจ้าคนไร้ประโยชน์!” หัวหน้าหรงตะโกนเสียงดังลั่นขัดจังหวะเจียงอี้โดยที่เจียงอี้ยังไม่ทันพูดจบ “เจ้าจะมาทำอะไรอยู่ที่นี่ ในเมื่อเจ้ายังนับมันไม่เสร็จ? ที่นี่เป็นที่ที่เจ้าจะสามารถเข้าออกเมื่อไหร่ก็ได้อย่างนั้นรึ? รีบกลับไปที่เขาซีชานเพื่อนับสมุนไพรต่อเดี๋ยวนี้!”
เจียงอี้เกาจมูกของเขาและตอบด้วยความละอาย “หัวหน้าหรง ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากไปนับสมุนไพรนะขอรับ เพียงแต่ว่าผู้เฒ่าหลิ่วบอกให้ข้ามาแจ้งท่านเรื่องที่ข้าจะต้องไปเป็นผู้ช่วยให้แก่ท่านผู้เฒ่าหลิ่ว…”
“ไอ้เด็กนี่!”
ไม่เพียงแต่เจียงอี้จะไม่รีบออกไปแล้ว แต่เจียงอี้ยังพยายามที่จะปกป้องตัวเองแทน จึงทำให้หัวหน้าหรงมีน้ำโหขึ้นมา
เขาไม่รอให้เจียงอี้พูดจนจบ หัวหน้าหรงก็ทุบโต๊ะแล้วยืนขึ้น พร้อมที่จะด่าเจียงอี้เรียบร้อย
แต่ทันใดนั้น หัวหน้าหรงก็รู้สึกตกใจ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้นทันทีและถามขึ้นว่า
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ ใครให้เจ้าไปเป็นผู้ช่วยนะ? ผู้เฒ่าหลิ่วงั้นรึ? เจ้าหมายถึง ผู้เฒ่าหลิ่วที่อยู่ที่ห้องปรุงยาของตระกูลน่ะรึ?”
“ใช่ขอรับ!”
เจียงอี้พูดไม่ออก...ในตระกูลเจียงนั้นมีผู้อาวุโสเพียงคนเดียวที่มีนามว่าหลิ่วซึ่งก็คือผู้เฒ่าหลิ่วที่อยู่ในห้องปรุงยานั่นเอง ...
"โอ้?"
สีหน้าของหัวหน้าหรงนั้นเปลี่ยนสีในทันใด หัวหน้าหรงแสยะยิ้มเล็กน้อยก่อนจะถามว่า "เจียงอี้เด็กดี เด็กอย่างเจ้านี่มักจะสามารถทำอะไรที่คาดไม่ถึงได้ตลอดเลยนะ...เจ้าได้รับความโปรดปรานจากผู้เฒ่าหลิ่วจริงหรือเนี่ย?
ข้าถามเจ้าจริงๆ.... เจ้ามีพรสวรรค์ในการปรุงยาด้วยหรือ? เจ้าถึงได้กลายเป็นที่โปรดปรานของผู้เฒ่าหลิ่ว
ผู้เฒ่าหลิ่วนั้นเป็นผู้ที่เข้ากับใครไม่ค่อยได้และหัวดื้อมาก พ่อของเจียงซงนั้นมาขอร้องข้าเป็นเวลานานมากกว่าข้าจะส่งเจียงซงไปที่นั่นได้”
“ข้ามีพรสวรรค์หรือ....”
เจียงอี้แอบคิดกับตัวเองอย่างลับๆ ขณะที่เขายิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า "ข้าไม่ทราบหรอกขอรับว่าข้าเป็นที่โปรดปรานของผู้เฒ่าหลิ่วได้อย่างไร"
"เอาล่ะ เจ้าไปได้แล้ว ไปทำงานที่ห้องปรุงยาอย่างสงบสุขเถอะ ตระกูลเจียงจะไม่ปฏิบัติต่อเจ้าอย่างไม่เป็นธรรมเช่นกัน ข้าจะรายงานเรื่องนี้กับหัวหน้างาน และจะเพิ่มเงินเดือนให้เจ้าเพิ่มขึ้นหนึ่งเท่าตัว"
หัวหน้าหรงตบบ่าเจียงอี้อย่างจริงใจ ทัศนคติของหัวหน้าหรงนั้นได้เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง จริงๆแล้วผู้เฒ่าหลิ่วถือว่ามีตำแหน่งที่สูงในตระกูลเจียงอย่างมากซึ่งบารมีท่านได้เพิ่มตำแหน่งให้แก่เจียงอี้เป็นอย่างมาก
ตอนนี้ พ่อบ้านเล็กๆอย่างหัวหน้าหรงนั้นไม่กล้าดูถูกเจียงอี้อีกต่อไป ไม่เช่นนั้นเจียงอี้คงจะพูดอะไรบางอย่างกับผู้เฒ่าหลิ่วและมันจะทำให้ตำแหน่งของหัวหน้าหรงในฐานะพ่อบ้านสามารถตกอยู่ในอันตรายได้....
เจียงอี้พยักหน้าแล้วก็กำลังจะกลับออกไปเพื่อที่เขาจะได้กลับไปรักษาอาการบาดเจ็บที่บ้านสักที
สิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น จู่ๆหัวหน้าหรงก็พูดออกมาว่า "เอ้อ เจียงอี้ในเมื่อเจ้ากำลังจะย้ายไปทำงานที่ห้องปรุงยาแล้ว เจ้าก็เอาป้ายคำสั่งที่ข้าเคยให้เจ้า มาคืนข้าได้แล้ว ในเมื่อเจ้าไม่มีธุระกงการอะไรที่นั่นแล้ว"
ป้ายคำสั่ง!
สีหน้าของเจียงอี้ก็เปลี่ยนไป ป้ายคำสั่งที่หัวหน้าหรงให้แก่เขา มันถูกจำนองไว้ที่พ่อบ้านที่หอนางโลมเฟิงเยว่ ตอนนี้เจียงอี้จะมอบอะไรให้กับหัวหน้าหรงได้ล่ะ?!!