ตอนที่ 14 : ห้องเรียนระดับสูง
เมื่ออเดลกลับมาถึงห้องเขาก็นั่งลงบนเตียงพร้อมกับจ้องมองมือของตัวเองก่อนจะคิดอะไรบางอย่าง จากนั้นอเดลก็นำชุดนักเรียนของสถาบันออกมา
เขาลูบคางตัวเองเบาๆก่อนจะเอาหนังของมอนสเตอร์และหมึกเวทมนต์กับขวดบางอย่างที่ด้านในบรรจุผงอะไรบางอย่างเอาไว้ออกมา
ผงด้านในขวดนั้นคือผงเวทย์มันถูกสร้างขึ้นโดยนำผงแร่ สมุนไพร และอื่นๆเอามาผสมรวมกันและสกัดให้เป็นผงซึ่งวิธีใช้ของมันก็มีเยอะแยะมากมายไม่ว่าจะเป็นใช้สร้างเขตแดน ใช้เป็นส่วนผสมในการสร้างอุปกรณ์ หรืออื่นๆ
แต่หากนำมันมาผสมรวมเข้ากับหมึกเวทมนต์มันจะช่วยให้หมึกเวทมนต์มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอีกเท่าหรือหลายเท่าตัว
หลังจากที่อเดลนำผงเวทย์มาผสมเข้ากับหมึกเวทมนต์แล้วเขาก็ได้น้ำหมึกสีฟ้าอ่อนเขายิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะหยิบปากกาเวทมนต์ออกมาจุ่มไปหมึกเล็กน้อยและวาดอักษรรูนบนหนังของมอนสเตอร์
อเดลวาดอักษรรูนนับสิบตัวพร้อมกับวาดวงเวทย์ควบคู่ไปด้วยเพื่อช่วยเสริมการทำงานของอักษรรูนการที่อเดลนั้นวาดวงเวทย์เพื่อเสริมอักษรรูนนั้นคือการเพิ่มประสิทธิภาพของอักษรรูน หากจะอธิบายอย่างง่ายวงเวทย์กับอักษรรูนนั้นเหมือนกับฟันเฟืองที่จำเป็นจะต้องทำงานร่วมกันมันถึงจะแสดงประสิทธิภาพได้อย่างสูงสุด
อักษรรูนนั้นจะช่วยดึงประสิทธิภาพของวงเวทย์ออกมาจนถึงขีดสุดและวงเวทย์ก็จะช่วยเสริมการทำงานของอักษรรูนด้วยเช่นกัน
ไม่นานหลังจากหมกมุ่นอยู่กับอักษรรูนอยู่พักหนึ่งอเดลก็ได้วางปากกาลงก่อนจะมองดูอักษรรูนที่อยู่บนหนังมอนสเตอร์ซึ่งถูกวาดออกมาอย่างดีถึงสองแผ่น
จากนั้นอเดลก็วางแผ่นหนังของมอนสเตอร์ทั้งสองแผ่นไว้บนเสื้อและกางเกงของชุดนักเรียนก่อนจะใช้พลังเวทย์ของตัวเองอัดเข้าไปในแผ่นหนังมอนสเตอร์ ทันทีนั้นอักษรรูนและวงเวทย์บนแผ่นหนังมอนสเตอร์ก็เรืองแสงขึ้น
เมื่ออักษรรูนเรืองแสงมันก็สั่นไหวเล็กน้อยก่อจะลอยขึ้นมาจากแผ่นหนังมอนสเตอร์จากนั้นมันก็ลอยไปอยู่บนเสื้อนักเรียนของอเดลและหายเข้าไปในเสื้อของเขานี่คือวิธีการสลักอักษรรูนของบนสิ่งของขั้นพื้นฐานที่รูนมาสเตอร์ทุกคนรู้จักโดยใช้แผ่นหนังมอนสเตอร์เป็นสื่อกลางการเคลื่อนย้ายอักษรรูนจากอีกที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง
แต่ก็มีอีกวิธีหนึ่งเช่นกันก็คือการสลักลงไปที่วัตถุโดยตรงเหมือนอย่างที่เขาเคยทำกับแหวนมิติก่อนหน้านี้ แต่นั่นก็จำเป็นจะต้องใช้มานาจำนวนมากเป็นสื่อกลางแทนที่แผ่นหนังของมอนสเตอร์การที่จะทำแบบนั้นได้จำเป็นจะต้องมีมานาเป็นจำนวนมาก
หลังจากนั้นอเดลก็ทำวิธีเดิมกับกางเกงนักเรียนของเขา ในตอนนี้อเดลชุดนักเรียนที่เป็นอาติเฟคทั้งชุดอยู่กับตัวเรียกได้ว่านี่เป็นชุดนักเรียนที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสถาบันเมอร์เซียก็ว่าได้
อเดลนำเสื้อและกางเกงนักเรียนของเขาไปที่สวนก่อนจะแขวนมันไว้กับต้นไม้ใกล้ๆจากนั้นอเดลก็ขยับมือเล็กน้อยลำแสงสีแดงเพลิงก็พุ่งออกจากมือของเขา
ตูมมมม
แรงปะทะเล็กน้อยดังสนั่นสวนหมอกควันฟุ้งกระจาย เมื่อหมอกควันจางหายไปอเดลก็เดินเข้าไปดูที่ชุดนักเรียนของเขาที่ไม่มีแม้แต่ลอยขีดข่วนก่อนจะลูบคางตัวเองเบาๆ
''อืม... สามารถทนเวทมนต์ระดับ 3 ได้อย่างสบายๆเลยซินะ ถือว่าดีไม่เลวเลย ช่วงนี้คงหมดปัญหาเรื่องอาติเฟคประเภทป้องกันไปสักพักละนะ''
หลังจากที่ตรวจเช็คความเรียบร้อยแล้วอเดลก็ขยับนิ้วไปมาเล็กน้อยก่อนที่รูปสลักจันทร์เสี้ยวจะปรากฏขึ้นที่ปกคอเสื้อและกระดุมขอบกางเกงมันเป็นตราสัญลักษณ์ส่วนตัวของอเดลเปรียบเสมือนลายเซ็นของเขาอเดลยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเก็บชุดและเดินกลับเข้าห้อง
—————————————————————————————————————————
3วันต่อมาเป็นวันเปิดภาคเรียนแรกของสถาบันเมอร์เซีย อเดลสวมชุดเครื่องแบบนักเรียนของเขาก่อนจะเดินเท้าไปยังสถาบันเมอร์เซียซึ่งอยู่ไม่ไกลจากย่านชนชั้นสูงนัก
เมื่อมาถึงหน้าสถาบันเมอร์เซียอเดลก็พบกับนักเรียนมากมายที่ต่างเร่งรีบมาให้ทันเวลาในคาบแรก เขาเห็นลูกของพวกชนชั้นสูงมากมายอยู่ด้านในซึ่งอเดลสามารถสังเกตุได้ง่ายๆจากท่าทีหยิ่งยโสของพวกเขาที่มีมากสะจนสามารถมองได้ด้วยตาเปล่า
อเดลหยิบจดหมายที่ได้รับจากสถาบันเมื่อสามวันก่อนขึ้นมาอ่านก่อนจะพบว่าในเนื้อหานั้นบอกถึงชั้นเรียนของเขาและระดับชั้นต่างๆในสถาบันด้วย
ซึ่งตามที่บอกในจดหมายสัญลักษณ์ดาวที่ติดอยู่ตรงปกคอเสื้อของเขานั้นหมายถึงห้องเรียนระดับสูงที่เป็นแหล่งรวมของนักเรียนระดับสูงเอาไว้
อเดลเดินตามแผนที่เข้าไปยังตึกเรียนที่ดูยิ่งใหญ่และกว้างขวางเมื่อมาถึงห้องเรียนเขาก็เปิดประตูเข้าไป ทันทีที่เดินเข้ามาในห้องอเดลก็กลายเป็นเป้าสายตาของทุกคนทันที
แต่อเดลก็ไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่เขาเดินตรงไปเลือกที่นั่งของตัวเองซึ่งอยู่ท้ายห้องก่อนจะนั่งลงและฟุบหลับทันทีโดยที่ไม่สนสายตาของใครทั้งห้องเลยแม้แต่น้อย