GED : 36 เจ้าเหยียบใครบางคน..!
GED : 36 เจ้าเหยียบใครบางคน..!
ในเมื่อผลจิตวิญญาณอมตะอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม นางจึงไม่กังวลอีกต่อไปแล้วเพราะชุนหลิงเหยียจะต้องเอามันมาไว้ในครอบครองได้แน่... ดังนั้นสิ่งที่นางกังวลก็คือนางจะขโมยมันมาจากชุนหลิงเหยียได้อย่างไรต่างหาก
เฟิงหวูพยายามข่มความตื่นเต้น นางพยายามคิดหาวิธี..
ขณะเดียวกัน ชุนหลิงเหยียก็ขึ้นไปถึงยอดผาแล้ว!
ผาแห่งนี้มีความพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง ..โดยทั่วไปส่วนประกอบของผาจะเป็นหินเรียบ ๆ ทว่าผาแห่งนี้ถูกเถาวัลย์และใบไม้ปกคลุมอยู่ตั้งแต่ด้านบนลงมาจนถึงด้านล่าง
แม้จะอยู่ในความมืด..แต่เพราะหินที่ยื่นออกมาจากหน้าผา ชุนหลิงเหยียจึงกระโดดไปมาตามแง่งหินเหล่านั้นและขึ้นไปด้านบนสุดได้อย่างรวดเร็ว
ทว่าก่อนที่เขาจะถึงยอดผาแท่นหินสุดท้ายที่ยื่นออกมา..ส่งเสียงร้อยด้วยความเจ็บปวด หลังจากชุนหลิงเหยียกระโดดเหยียบมัน..
แต่เพราะชุนหลิงเหยียไม่ได้ใส่ใจ เขาจึงไม่ได้ยิน เจ้าตัวกระโดดขึ้นไปบนยอดผาในเวลาชั่วอึดใจเดียว
เฟิงซุ่นเองก็ตามหลังชุนหลิงเหยียไปติด ๆ เขาได้ยินเสียงร้องนั้น ดังนั้นเมื่อขึ้นไปถึงยอดเขา เขาจึงถามชุนหลิงเหยียอย่างประหลาดใจ "ข้าคิดว่าเจ้าต้องเหยียบใครสักคนแน่ ๆ "
“เปล่านี้ ข้าไม่ได้เหยียบ” ชุนหลิงเหยียตอบโดยไม่คิดอะไรอีก
เพราะว่า..สิ่งที่เขาสนใจในตอนนี้ก็คือผลจิตวิญญาณอมตะที่อยู่ตรงหน้า
แสงจันทร์สาดส่องลงมาจากก้อนเมฆที่ลักษณะเหมือนหยดน้ำ ดอกของต้นจิตวิญญาณอมตะสีขาวเหมือนดอกแมกโนเลียค่อย ๆ ผลิบานใต้แสงจันทร์ ช่างเป็นภาพที่งดงามจนไม่มีทางลืมได้..
ผลจิตวิญญาณอมตะเป็นประกายและกึ่งโปร่งแสง มันช่างดูล้ำค่าคล้ายหยกขาว ความสวยของมันแทบทำให้ใครที่ได้พบเห็นเกือบลืมหายใจ
แม้จะมีขนาดเล็ก..ผลจิตวิญญาณอมตะนั้นกลับแผ่พลังวิญญาณที่เข้มข้นออกมา..
และรอบ ๆ ต้นผลจิตวิญญาณอมตะนั้นมีหนังงูที่ลอกคราบทิ้งไว้..
“นั่นเป็นคราบของงูยักษ์เทวะมรกตแน่ๆ ถ้าดูจากสีของคราบแล้ว แสดงว่ามันเพิ่งจะกลายร่างเป็นร่างสมบูรณ์ขั้นที่เก้า ..ตอนนี้มันคงแข็งแกร่งมากเลยทีเดียว ถ้าพวกเราต้องเผชิญหน้ากับมันแล้วก็...ท่านชุน ท่านคิดว่าเรามีโอกาสชนะไหม?”
เฟิงซุ่นลืมเรื่องคนที่ชุนหลิงเหยียเหยียบไปเสียสนิท เพราะคราบงูยักษ์เบี่ยงเบนความสนใจของเฟิงซุ่นไปเสียสนิท
ชุนหลิงเหยียเลิกคิ้วเล็กน้อย "พวกเราคงบาดเจ็บพอ ๆ กับงูยักษ์"
เฟิงซุ่นทุบอกอย่างชอบใจ "ฮ่า ๆ ถ้าอย่างนั้นก็เป็นโชคดีจริง ๆ ที่ท่านชุนหลอกให้อวี๋ หมิงเหยี่ยล่องูยักษ์ออกไป หากต้องเผชิญหน้ากับงูยักษ์ พวกเราคงลำบากแน่ ..เฮ้อ..แต่ก็ข้าอดสงสัยไม่ได้จริง ๆ ว่าอวี๋ หมิงเหยี่ยจะโกรธขนาดไหนในตอนที่เขารู้ว่าท่านขโมยมันไป "
“อวี๋ หมิง..…” ชุนหลิงเหยียขมวดคิ้วและดูท่าทีสับสน
เฟิงซุ่นถอนหายใจ “อวี๋ หมิงเหยี่ย.. อวี๋ หมิงเหยี่ย.. ใช่ ๆ ชายที่ชื่อ อวี๋ หมิงเหยี่ย… ไม่เอาน่าท่านชุน ท่านจำอวี๋หมิงเหยี่ยไม่ได้เหรอ เขาอุตส่าห์คิดว่าท่านคือศัตรูอันดับหนึ่งของเขา เขาพยายามเรียกร้องความสนใจจากท่านทุกครั้งที่มีโอกาส..ท่านจำชื่อเขาไม่ได้เลยหรือไง?”
ชุนหลิงเหยียยังคงขมวดคิ้ว " นั่นไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่ข้าต้องจำนี่.."
เฟิงซุ่นพูดอะไรไม่ออก เขาได้แต่เอาใจช่วยอวี๋ หมิงเหยี่ยในใจ "อวี๋ หมิงเหยี่ยช่างน่าสงสารยิ่งนักที่ศัตรูหมายเลขหนึ่ง..กลับจำชื่อตนไม่ได้.. ข้าไม่รู้ว่า ถ้าเขารู้ เขาจะยิ่งโมโหมากขนาดไหน? เฮ้อ..โชคดีที่เขาไม่อยู่ที่นี้ ไม่อย่างนั้นอวี๋ หมิงเหยี่ยต้องคลุ้มคลั่งแน่ "
ชุนหลิงเหยียไม่สนใจสิ่งใดอีก เขายื่นนิ้วเรียวไปหาผลจิตวิญญาณอมตะโดยอัติโนมัติ ก่อนจะเก็บมันไว้ในกล่องหยกขาวที่เจ้าตัวถืออยู่
เมื่อเอาใส่เข้ากล่อง ฝากล่องก็ปิดล็อคตัวเองในทันที
ชุนหลิงเหยียหันไปรอบ ๆ ผ้าคลุมของเขายังคงพริ้วไสวไปพร้อมกับสายลม เขาทิ้งน้ำหนักลงไปบนผืนดินของหน้าผา ก่อนจะอาศัยแรงกระโดดดีดตัวเองลงไปจากหน้าผา..
ในตอนที่กระโดดลงมา เขาเหยียบอะไรบางอย่างอีกครั้ง...และครั้งนี้มันก็ส่งเสียงร้องอีกเช่นเคย ทว่าชุนหลิงเหยียก็ไม่ได้สนใจอีกเช่นกัน !
จบตอน