GE316 ผู้อาวุโสใหญ่ [ฟรี]
หนิงฝานอยู่ภายในถ้ำ นำตำรับโอสถจำนวนมากที่ได้ออกมา
เขาได้รับสมบัติจากสงครามมากมาย ทั้งแมลงพิษที่จะช่วยยกระดับสัมผัสเทพ ทั้งโลหิตอสูรและผลไม้แห่งเต๋าที่จะช่วยยกระดับปราณอสูร
แม้จะมีสมบัติดีๆมากมาย แต่ยังยากที่ต้านสมบัติล้ำค่าของเหล่าผู้ถูกเลือก
วังอาภรณ์ม่วงเข้ามาเยือนวังดาราได้ ขุมกำลังอื่นๆในแดนสวรรค์ก็คงเช่นกัน
“ในช่วง 3 วันนี้พวกมันอาจเข้ามาแล้วก็ได้… ข้าต้องเร่งปลุกจิตวิญญาณสมุนไพรและครอบครองบุบผาดาราม่วงชำระกาย!”
รุ่งเช้ามาเยือน วิหคขับขานต้อนรับวันใหม่
ซีหลานตื่นนอน นางเดินออกมาจากห้องและเห็นหนิงฝานอยู่
“พี่ลู่เป่ย ท่านยังไม่ได้นอนเหรอ?”
“อืม… ผู้เชี่ยวชาญอย่างเราไม่จำเป็นต้องนอนก็ได้”
“ปากของท่าน...” นางประหลาดใจ
“ข้าเผลอกัดปากตัวเอง”
“อ๋อ...” นางพยักหน้าพลางกล่าวด้วยความสนใจ
นางรู้ว่าหนิงฝานไม่มีทางเผลอกัดปากตัวเองอย่างแน่นอน
“ข้าว่าถึงเวลาที่ข้าจะต้องปลุกจิตวิญญาณสมุนไพรแล้ว”
“วันนี้หน่ะเหรอ? ข้ายะงไม่ได้เตรียมโอสถให้ท่านเลย… ถ้าไม่มีโอสถช่วยจะเจ็บมากเลยนะ” นางเป็นกังวล
“ไม่เป็นไร” หนิงฝานกล่าว
“ก็ได้... งั้นข้าขอเตรียมตัวก่อน”
นางนำสมุนไพรและสำรับโอสถบางอย่างออกมา จากนั้นตระเตรียมสมุนไพรจนทำให้ทั่วถ้ำอบอวนไปด้วยปราณสมุนไพรที่เข้มข้น
นางวางข่ายอาคมเสริมการกระตุ้นจิตวิญญาณ และกักเก็บปราณสมุนไพรไม่ให้กระจายออกไปภายนอก
เดิมทีนางไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องการวางข่ายอาคม แต่ด้วยข่ายอาคมสมุนไพรนี้ไม่ได้ซับซ้อน นางจึงทำได้
หลังจากตระเตรียมทั้งหมด ซีหลานจ้องสิ่งที่ทำด้วยความพอใจ
“พี่ลู่เป่ย… ไม่สิ… ลู่เป่ยน้อย เจ้าเข้ามาข่ายอาคมได้เลย เดี๋ยวอาจารย์จะช่วยเจ้าปลุกจิตวิญญาณสมุนไพรเอง!”
ท่วงท่า การกระทำ น้ำเสียง นางยังดูไม่เหมือนอาจารย์ ยังขาดความน่าเกรงขามอยู่มาก แต่กลับกัน นางดูเหมือนคนรักที่พูดจาหยอกล้อมากกว่า
“อาจารย์ซีหลาน… ต้องรบกวนท่านแล้ว”
หนิงฝานหัวเราะพลางนำเอาทรายกลั่นวิญญาณออกมา แล้วเดินเข้าไปนั่งที่ใจกลางข่ายอาคม
“ผ่อนคลายจิตใจและร่างกายไว้ เจ้ามีจิตวิญญาณสมุนไพรอยู่กับตัวแล้ว”
นางเริ่มควบคุมข่ายอาคม… จิตวิญญาณสมุนไพรคือความพิเศษของนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 เฉกเช่นกับเจตจำนงค์เทพของผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ หากไม่มี ก็ไม่สามารถปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ได้
ความทรงจำในด้านการปรุงโอสถที่หนิงฝานได้มาจากจักรพรรดิสวรรค์ มีถึงเพียงโอสถผันแปรที่ 5 เท่านั้น หากอยากก้าวหน้า ก็ต้องพึ่งพาตนเอง ซึ่งการปลุกจิตวิญญาณสมุนไพรคือก้าวแรก
วิธีที่จะช่วยให้เขาพัฒนาได้เร็วที่สุดคือการพัฒนาการปรุงโอสถและการยกระดับวิชาแปลงหยินหยาง
“พี่ลู่เป่ย ท่านขยับนิ้วเป็นท่าทางตามข้า จากนั้นให้รีบบดูดซับปราณสมุนไพร”
“อืม!”
หนิงฝานหลับตาและทำตามที่นางบอก ไม่นานร่างของหนิงฝานก็เปล่งแสงสีครามเรืองรอง ปราณสมุนไพรในข่ายอาคมถูกดูดซับเข้าร่างอย่างรวดเร็ว
เมื่อเริ่มดูดซับปราณจากทรายกลั่นวิญญาณ แสงสีครามที่ส่องประกายออกมาก็ยิ่งเข้มขึ้น
ดวงจิตหนิงฝานเริ่มถูกขัดเกลา กระบวนการที่เกิดขึ้นนี้เจ็บมาก แต่หนิงฝานย่อมทนได้ ยิ่งได้เห็นแสงสีครามเข้มขึ้น เขาก็ยิ่งมีความสุข เพราะมันเปล่งออกมาจากจิตวิญญาณสมุนไพรของเขา
ระดับการปรุงโอสถจะถูกจำแนกไปตามสีของจิตวิญญาณสมุนไพร นักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 จะมีจิตวิญญาณสมุนไพรเป็นคราม นักปรุงโอสถผันแปรที่ 6 เป็นสีม่วง เป็นต้น...
ยิ่งแสงสีที่เปล่งออกมาเข้มมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงถึงระดับของจิตวิญญาณสมุนไพรที่สูงชั้น ซึ่งส่งผลกระกับระดับการปรุงโอสถที่จะเหนือกว่าคนทั่วไปด้วย
เมื่อแสงสีครามบรรลุถึงจุดหนึ่งที่คงที่ หนิงฝานลืมตา แสงสีครามหายไป ปรากฏเป็นไอปราณสีครามที่แผ่ออกมาจากร่างแทน
หนิงฝานเข้าใจแล้วว่าเหตุใดซีหลานถึงได้เข้าใจสมุนไพรมากกว่าทั่วไป นั่นเป็นเพราะจิตวิญญาณสมุนไพรจริงๆ
“พี่ลู่เป่ย ยินดีด้วย!” ซีหลานกล่าวด้วยความสุข นางเป็นสตรีที่บริสุทธิ์ ใครดีกับนาง นางก็ดีตอบ
“อืม… สำเร็จแล้ว!”
หนิงฝานยืนขึ้น อ้าปากดูดกลืนเอาปราณสมุนไพรในข่ายอาคมทั้งหมดเข้าร่างในคราวเดียว เพื่อเสริมพลังให้กับจิตวิญญาณสมุนไพรที่เพิ่งถูกปลุกให้ตื่นขึ้น
“นี่สินะจิตวิญญาณสมุนไพร!” ทั่วร่างหนิงฝานเปล่งแสงสีครามระยิบระยับ จิตใจสงบนิ่งราวกับวารี
จิตวิญญาณสมุนไพรทำให้สัมผัสการรับรู้ถึงสมุนไพรกระจ่างชัดขึ้น ทั้งยังเป็นการชำระให้ดวงจิตกระจ่างใส หากปรุงโอสถ ไม่ว่าภายนอกจะเกิดสิ่งเร้าใดก็ไม่อาจรบกวนได้ เพราะจิตใจอันสงบ สามารถจดจ่ออยู่กับการปรุงโอสถได้มากขึ้น
หนิงฝานลองนำสมุนไพรออกมา เขารู้สึกได้ถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน ว่ายามนี้ตนเองสามารถสัมผัสถึงเอกลักษณ์ของสมุนไพรได้มากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
สมุนไพรในมือดูผิวเผินคือสมุนไพร 5 พันปี แต่ยามนี้ เขาบอกได้อย่างชัดเจนว่าอายุจริงๆของมันคือ 5400 ปี
เมื่อลองจุดเพลิงทมิฬที่มี ดูเหมือนเพลิงของเขาก็จะรุนแรงมากขึ้นเช่นกัน และยังควบคุมมันได้ง่ายขึ้น
“รู้สึกดีใช่มั้ยหล่ะ?” ซีหลานกล่าวด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
“อืม… ดีมากเลยหล่ะ สงสัยข้าต้องให้รางวัลเจ้าแล้ว...” หนิงฝานขบคิดว่าจะมอบอะไรให้นาง
“ข้าไม่ได้อยากได้รางวัลอะไรหรอก ข้าขอหยกสวรรค์ข้าคืนก็...”
ก่อนที่นางจะกล่าวจบ ริมฝีปากน้อยของนางก็โดนขโมยจูบ
“นี่คือรางวัล!” หนิงฝานยิ้มก่อนที่เงาร่างของเขาจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย
นางตกตะลึง ตัวแข็งทื่อไม่อาจขยับ
ผ่านไปครู่หนึ่ง นางหันมองในทิศทางที่หนิงฝานจากไป ใบหน้าเริ่มแดงระเรื่อ
“เจ้าลู่เป่ยบ้า! เจ้าล่วงเกินข้า เจ้าข่มเหงข้าอีกแล้ว! ข้า… ข้าไม่อยู่กับเจ้าแล้ว!”
นางกระทืบเท้าด้วยความโกรธ
จูบนิดเดียวแลกกับหยกสวรรค์พันล้าน… เขาคิดว่าตัวเองหล่อมากหรือไง!
จูบนั้นอย่างมากก็แค่ 50 ล้านเท่านั้นแหละ...
“ลู่เป่ย เจ้าต้องคืนข้า 950 ล้านหยกสวรรค์!”
ถ้าหนิงฝานรู้ว่าจูบของเขามีค่า 50 ล้านหยกสวรรค์ ไม่รู้เขาจะหัวเราะหรือร้องไห้
หนิงฝานไม่ได้คิดมากเรื่องจูบ เพราะเวลาของเขาเหลือไม่มาก เขาต้องไปชิงบุบผาดาราม่วงชำระกายจากม่านฉาน และซ่อมแซมทะเลสติของศพนางสวรรค์ให้ได้
“จิตวิญญาณสมุนไพรยกระดับได้… วิชาปรุงโอสถก็เช่นกัน เหล่านักปรุงโอสถระดับสูงสมควรมีจิตวิญญาณสมุนไพรที่แข็งแกร่ง ถึงตอนนี้ระดับการปรุงโอสถของข้าจะยกระดับขึ้นมาก แต่ยังห่างชั้นจากนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นกลางอยู่มาก”
หนิงฝานเร่งมุ่งหน้าไปยังทางเหนือของเกาะ ตรงไปยังต้นไม้โบราณต้นหนึ่ง
ที่นั่นคือที่พักของม่านฉาน ซึ่งมีอสูรคอยคุ้มกันอยู่มากมาย
เมื่อเห็นว่าผู้ที่มาคือหนิงฝาน ไม่มีใครกล้าหยุด ทั้งยังเปิดทางและคารวะด้วยความนอบน้อม
“คารวะท่านจ้าวดารา! นายท่านมีคำสั่งว่าหากท่านมา ให้เข้าไปพบท่านได้เลยโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ”
“อืม… อาการบาดเจ็บม่านฉานเป็นยังไงบ้าง?”
“ต้องขอบคุณโอสถผันแปรที่ 6 ของท่าน อาการบาดเจ็บของนายท่านจึงทรงตัว แต่หากจะรักษาให้หายขาดยังต้องใช้เวลา”
“ดีแล้ว” หนิงฝานพยักหน้า เมื่ออาการบาดเจ็บของม่านฉานทรงตัว เขาก็วางใจ
หนิงฝานมุ่งไปยังที่พักของม่านฉาน
“ที่จ้าวดารามาสมควรเป็นเพราะบุบผาดาราม่วงใช่หรือเปล่า?”
“น่าจะใช่… นายท่านบอกว่า หากท่านจ้าวดาราขอให้แบ่งให้ครึ่งหนึ่ง แต่ผู้อาวุโสใหญ่ไม่เห็นด้วย... ผู้อาวุโสใหญ่ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจปกป้อง จึงไม่ยอมมอบให้ผู้ใด”
“แต่ตอนนี้ผู้อาวุโสใหญ่ยังบาดเจ็บอยู่… ถ้าไม่เพราะครั้งนั้นท่านไปยั่วยุจ้าดาราหมาป่า ท่านคงบรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลงไปแล้ว… ข้ากลัวว่าผู้อาวุโสใหญ่จะยั่วยุท่านจ้าวดารา”
ลึกเข้าไปในต้นไม้ใหญ่ มีถ้ำที่มืดสนิทอยู่แห่งหนึ่ง ม่านฉานยิ้มพลางกล่าวกับผู้อาวุโสใหญ่
“ท่านอา… ถ้าลู่เป่ยมา เจ้าจะแบ่งบุบผาดาราม่วงให้เขาสักครึ่งหนึ่งไม่ได้เหรอ?”
“ฮึ่ม! ม่านฉาน ข้าทุ่มชีวิตเพื่อปกป้องมัน แต่เจ้าจะยอมยกให้คนอื่นเนี่ยนะ! ข้าบาดเจ็บหนัก ไม่มีโอกาสได้บรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลง เป็นอิสระจากวังดารา มีร่างกายเป็นของตน… แต่ข้าทำไม่ได้อีกแล้ว ข้าจึงต้องยอมให้เจ้าแทน แต่เจ้ากลับจะยกให้คนอื่นต่ออีก… เลิกพูดเรื่องนี้กับข้าได้แล้ว!”
ม่านฉานไม่กล้ากล่าวต่อ
ฝั่งหนึ่งก็ลู่เป่ย ฝั่งหนึ่งก็อาของตน ช่างเป็นเรื่องที่ยากจะพูดคุย
แต่ในขณะนั้นเองก็มีกระบี่บินลอยมาพร้อมกับข้อความ “รายงานนายท่าน ท่านจ้าวดารารออยู่ในโถงใหญ่!”
ม่านฉานฝืนยิ้ม มันรู้ว่าที่หนิงฝานมาเป็นเพราะเรื่องบุบผาดาราม่วง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่กล้ายกให้ เพราะท่านอาของมันไม่ยอม
“เช่นนั้นไว้ข้าจะมาหาท่านใหม่...”
“ไม่ต้อง! ข้าจะไปพบมันด้วยตัวเอง อยากจะเห็นนักว่าคนที่ทำให้ดาราสมุทรหวาดกลัวจะเป็นยังไง… ข้าอยู่ที่นี่มาหลายพันปีแล้ว สมควรแก่เวลาที่จะออกไปสูดอากาศบ้าง”
ชายชราร่างกายผอมบางปรากฏตัว ก้าวย่างออกจากถ้ำด้วยแรงกดดันที่รุนแรง แววตาดุดันเข้มงวด
เพียงแต่แรงกดดันของชายชราไม่คงที่ อ่อนด้อยสุดเทียบได้กับขอบเขตเปิดเส้นชีพจร แข็งแกร่งสุดเทียบเท่าขอบเขตไร้ดัดแปลง
“พาข้าไป!” ชายชรากล่าว...