GE313 สั่งการดาราสมุทร [ฟรี]
หลังจากต้านรับฝ่ามือของชายชราทั้งสองไป ม่านฉานปรากฏกายในร่างหมียักษ์ สูงใหญ่ 3 พันจ้าง
ถึงแม้ชายชราจะต้านรับได้ แต่สีหน้าของชายชรากลับไม่ได้ผ่อนคลาย เพราะศัตรูเบื้องหน้าไม่ได้ด้อยไปกว่าชายชราเลย
“กึ่งไร้ดัดแปลง!”
พวกซื่อฉวนคนของมันเร่งติดตามสองชายชราอย่างรวดเร็ว
ม่านฉานคืออสูรที่แข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์อสูรที่นี่ตัวหนึ่ง ยามนี้ม่านฉานเคลื่อนกายมาขวางระหว่างเหล่าสตรีของหนิงฝานและชายชราทั้งสอง
ไม่นาน เหล่าอสูรทะเลของเกาะจำนวนมหาศาล เข้าได้ล้อมคนของวังอาภรณ์ม่วงเอาไว้
ซื่อฉวนหันมองพลางกะประมาณอสูรทะเลได้ราว 4 แสนตน นอกจากนี้ ยังมีอสูรตัดวิญญาณอีก 7 ตน!
“นายน้อย ทำยังไงดี!”
ชายชราทั้งสองรู้ว่าทำพลาด หากเกิดการต่อสู้ขึ้นที่นี่ แม้พวกมันจะเอาชนะได้ แต่ก็ต้องบาดเจ็บล้มตายไปไม่น้อย
ดังนั้น สิ่งที่พวกมันควรทำคือถอยให้ห่างและอย่าไปยุ่งกับพวกนางอีก
“ในเมื่อพวกเจ้าก่อเรื่อง พวกเจ้าก็ต้องรับผิดชอบ!” ซื่อฉวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่นั่นกลับทำให้สีหน้าของชายชราทั้งสองแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
พวกมันขยายร่างเป็นยักษ์ในเกราะม่วงสูง 2500 จ้าง แรงกดดันเพิ่มพูน ราวกับจะเปลี่ยนให้เกาะดารากลายเป็นแดนแห่งการสังหาร
แม้อีกฝ่ายเป็นถึงอสูรหมีกึ่งไร้ดัดแปลง แต่ชายชราทั้งสองเชื่อว่าหากร่วมมือ ย่อมเอาชนะได้
“ถอยไปซะ!”
แววตาม่านฉานแปรเปลี่ยนเย็นชา มันรู้สงครามในครั้งนี้ยากจะเลี่ยง
จริงๆแล้วมันจะปล่อยให้พวกนางถูกจับก็ได้ แต่มันกลับอยากช่วยพวกนาง เหตุผลเพราะ 6 ส่วนหนิงฝานมีผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกหนุนหลัง 3 ส่วนคือหนิงฝานทรงพลัง มีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดาราสมุทร และอีก 1 ส่วนสุดท้าย เป็นเพราะมันถูกใจนิสัยหนิงฝาน
แม้มันไม่ค่อยชอบกล่าว ไม่ค่อยชอบเคลื่อนไหวหาเรื่องคนอื่นๆ แต่หากมันได้เคลื่อนไหว ย่อมเป็นการเคลื่อนไหวที่สั่นสะเทือนไปทั้งวังดารา
“ลู่เป่ยครองใต้… ข้าครองเหนือ… ครองเกาะดาราร่วมกัน แม้จะเคยบาดหมาง แต่พวกข้าก็อยู่ร่วมกันอย่างสันติเสมอมา หากพวกเจ้าจะล่วงเกินสตรีของเขา ต้องผ่านข้าไปก่อน!”
แรงกดดันที่ทรงพลังของม่านฉาน ทำให้ภูเขาสั่นสะเทือน สายน้ำปั่นป่วน
เหล่าอสูรทะเลตกตะลึง พวกมันไม่ได้เห็นม่านฉานแสดงพลังแบบนี้มานานมากแล้ว
หากม่านฉานไม่ได้บุบผาดาราม่วง มันคงไม่กลายเป็นอสูรที่ทรงพลัง เป็นผู้ครองเกาะดาแห่งนี้
“ลู่เป่ย?” ซื่อฉวนขมวดคิ้ว คนผู้นั้นเป็นใคร เหตุใดถึงมีภรรยาที่งดงามราวกับนางสวรรค์เช่นนี้ ที่สำคัญ ม่านฉานอสูรกึ่งไร้ดัดแปลงยังยอมออกหน้าเพื่อช่วยเหลือ
แต่ชายชราทั้งสองไม่ขบคิดให้วุ่นวาย พวกมันโคจรปราณ ฝ่ามือขนาดยักษ์เคลื่อนไหว ปราณสีม่วงห่อคลุม แรงกดดันที่รุนแรงแผ่ออกจากฝ่ามือ มิติรอบข้างแตกเป็นเสี่ยงๆ เกาะดาราสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ก่อนที่พวกมันทั้งสองจะซัดฝ่ามือเข้าใส่ม่านฉาน
“ฝ่ามือวิญญาณม่วง!”
ม่านฉานเปล่งแสงคำรามดังสนั่นราวกับอัสนี ทั่วร่างเปล่งแสงสีเงิน อ้าปากราวกับจะกลืนกินฝ่ามือ
“วิชากลืนภูเขา!”
เมื่อม่านฉานใช่วิชา สีหน้าของสองชายชราแปลงเปลี่ยนใหญ่หลวง
“วิชากลืนภูเขาเป็นวิชาที่สามีข้าสร้างขึ้นเอง แม้เป็นการจู่โจมของผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง สามีข้าก็ดูดกลืนพลังได้หลายส่วน! หากพวกเจ้าจู่โจมระดับนั้นไม่ได้ ก็ทำร้ายสามีข้าไม่ได้!”
“ฮึ่ม!” สองชายชราจ้องมองด้วยสีหน้าเย้ยหยัน ฝ่ามือของพวกมันทรงพลัง ใช่ว่าจะรับได้ง่ายๆ
เมื่อม่านฉานกลืนฝ่ามือลงไป สีหน้ายังสงบนิ่ง กลิ่นอายยังสงบ ราวกับฝ่ามือของพวกมันไม่ได้ส่งผลอะไร
แต่เมื่อฝ่ามือของพวกมันลงไปถึงท้อง สีหน้าม่านฉานกลับแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง เพราะฝ่ามือของพวกมันพิสดาร ไม่ได้ส่งผลใดๆกับร่างกาย แต่ส่งผลโดยตรงกับดวงจิต!
*อ๊อก!*
ม่านฉานกระอักโลหิตพลางถอนหายหลายร้อยก้าว มันบาดเจ็บสาหัสภายใน แววตาแปรเปลี่ยนดุร้ายยิ่งกว่าเดิม
“เป็นฝ่ามือที่ดี จู่โจมตรงไปยังดวงจิต! แต่ฝ่ามือแค่นี่โค่นข้าไม่ได้! ‘วิชาดารารักษา’”
ม่านฉานคำรามลั่น ปราณจากรอบทิศทะลักเข้าสู่ร่างของมัน
บาดแผลที่ดวงจิตได้รับเริ่มฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว สีหน้าของชายชราทั้งสองแปรเปลี่ยนอีกครั้ง
“วิชาดาราเสริมกาย? ไม่… หมีนั่นไม่มีทางได้วิชานั่นมา นั่นไม่ใช่วิชาดาราเสริมกายที่แท้จริง แต่เป็นวิชาที่คล้ายกัน… ฝ่ามือของพวกเจ้ายังไม่บรรลุขั้นสูงพอ ไม่งั้นหมีนั่นคงไม่ฟื้นฟูได้ง่ายๆแบบนี้”
ม่านฉานโกรธ มันเป็นถึงอสูรที่ยิ่งใหญ่ แต่ยามนี้กลับพลาดท่าอย่างขายหน้า
ฝ่ามือของสองชายชราลึกล้ำยากจะเข้าใจ การที่ม่านฉานจะต่อสู้กับพวกมันเพียงลำพัง คงจะเป็นไปไม่ได้!
“สาวน้อย พวกเจ้ามาช่วยจัดการกับพวกมัน!”
“ได้!”
สตรีใบหน้าอัปลักษณ์สองนางพุ่งทะยานออกมาในร่างหมียักษ์สูงใหญ่ 2 พันจ้าง พวกนางทั้งสองอยู่ขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูงสุด
ม่านฉานและภรรยาเข้าล้อมชายชราทั้งสอง
“แค่ขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูงสุด...”
หนึ่งในชายชราจ้องมองพวกนางด้วยสายตาเย็นชา หากต่อสู้กับพวกนางเพียงลำพัง ย่อมสังหารพวกนางได้ไม่ยาก แต่หากพวกนางร่วมมือ พวกนางต่อกรได้แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลง
พวกนางผสานพลังจู่โจมเข้าใส่หนึ่งในชายชรา ผลักให้มันถอยไปถึงร้อยลี้!
เมื่อโอกาสมาถึง ม่านฉานเปิดฉากเข้าจู่โจมชายชราอีกคน “ถึงเวลาตายของพวกเจ้าแล้ว”
*ตูม*
แม้ชายชราจะมีเกราะคุ้มกาย แต่หมัดของม่านฉานก็ส่งร่างของมันให้ลอยไปไกลกว่าหมื่นจ้าง
พวกมันคาดไม่ถึงว่าสตรีทั้งสองนางจะทรงพลังมากขนาดนี้
และยามนี้ เกิดต่อสู้ระหว่างทั้งสองฝ่ายจึงเริ่มขึ้น
การที่ชายชราจะพ่ายให้กับม่านฉานและภรรยานั้น เป๋นเรื่องของเวลาแล้ว
“บัดซบ!” แววตาซื่อฉวนแปรเปลี่ยนเย็นชา ยามนี้มันไม่อาจพึ่งพิงชายชราทั้งสองได้อีก นอกจากนี้ มันอยากให้ชายชราทั้งสองถูกม่านฉานสังหารไปให้พ้นๆ
“พวกเจ้าไม่คู่ควรที่จะเป็นคนของวังอาภรณ์ม่วง อสูรชั้นต่ำแค่นี้ยังเอาชนะไม่ได้!”
ซื่อฉวนนำเอาแท่งผลึกออกมาจากกระเป๋า แล้วบดขยี้มันจนแตก
หมอกสีม่วงก่อตัวเป็นรูปร่างกระบี่ 3 เล่ม ตรงเข้าหาม่านฉาน
ในระหว่างการต่อสู้ ต่างฝ่ายต่างจดจ่ออยู่กับการต่อสู้ของตน จึงไม่ทันสังเกตุเห็นการกระทำของซื่อฉวน
แม้มันจะมีศักดิ์สูงส่ง หรือพรสวรรค์มากขนาดไหน แต่มันอยู่เพียงขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลาง ไม่ควรค่าให้กล่าวถึง
เพียงแต่สิ่งที่ม่านฉานคาดไม่ถึงคือ ซื่อฉวนกลับซ่อนไพ่ตายเอาไว้ นั่นคือกระบี่ผลึก! กระบี่ที่สร้างโดยผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง บีบจนกลายเป็นแท่งผลึกให้ซื่อฉวนพกติดตัว
กระบี่ทั้งสามเล่มนี้ทรงพลังมาก ทรงอานุภาพเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นต้น
“ปราณกระบี่ไร้ดัดแปลง!”
เยว่หลิงคงและวู่หยานตกตะลึง
กระบี่แต่ละเล่มเทียบเท่าการจู่โจมของผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง สมแล้วที่เป็นไพ่ตายของซื่อฉวน แต่ราคาที่ต้องจ่ายสำหรับพวกมันยังถือว่าสูงไม่น้อย การที่ซื่อฉวนมีของล้ำค่าเช่นนี้กับตัว แสดงว่าศักดิ์ฐานะของมันไม่ธรรมดาอย่างที่สุด
ม่านฉานไม่ได้เตรียมตัวต้านรับกระบี่ ยิ่งมีศัตรูพัวพัน ยิ่งยากที่ม่านฉานจะรอดพ้นไปได้
เยว่หลิงคงและวู่หยานรู้ดีว่า เหตุผลที่ม่านฉานออกหน้าช่วยเหลือ เป็นเพราะพวกนางคือสตรีของหนิงฝาน
หากม่านฉานตาย พวกนางเองก็ไม่รอด
เยว่หลิงคงไร้หนทาง นางไม่รู้ว่าต้องทำยังไง จะช่วยม่านฉานยังไง
“กระบี่ไร้ดัดแปลงแล้วยังไง! ข้าไม่กลัว! เผาโลหิต!”
นอกจากหนิงฝานที่จะเผาโลหิตเป็นแบบอย่างแล้ว ม่านฉานที่กล้าหาญก็กล้าที่จะเผาโลหิตเช่นกัน!
เมื่อกระบี่เข้าประชิด ม่านฉานอ้าปากกลืนเอากระบี่เข้าไปอย่างไม่หวาดกลัว
ชายชราอีกฝ่ายฉวยโอกาสซัดฝ่ามือใส่ม่านฉาน สร้างความเสียหายให้กับดวงจิตของมันไม่น้อย แต่ชายชราไม่สนใจ กลืนกระบี่อีก 2 เล่มที่ตรงเข้ามาไปด้วย
แม้ฉากหน้าดูเหมือนม่านฉานจะรับได้ แต่อานุภาพของกระบี่รุนแรงเกินไป ทำให้ม่านฉานบาดเจ็บรุนแรง
“ไม่ว่ายัง ข้าก็ไม่ยอมแพ้พวกเจ้า! หากข้าตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วย!”
ม่านฉานคำรามลั่น
“ท่านพี่!” ภรรยาทั้งสองของม่านฉานเข้าต้านรับฝ่ามือของชายชราทั้งสอง ก่อนจะหันมองม่านฉานทั้งน้ำตา
“อย่าร้อง! จำไว้ เอาเรื่องนี้ไปบอกลู่เป่ย ให้มันแก้แค้นแทนข้า ข้าจะระเบิดร่างและพาพวกมันลงนรกด้วย!”
แต่แล้วเรื่องที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น จุดตีบตันในขอบเขตไร้ดัดแปลงที่ม่านฉานติดมานานหลายปี กลับถูกทะลวง!
นี่นับเป็นข่าวดี คาดไม่ถึงว่าในช่วงเวลาชีวิตและความตายแบบนี้ จะทำให้มันทะลวงจุดตีบตันได้สำเร็จ หากได้เก็บตัวฝึกฝนสักร้อยปี ย่อมทะลวงขอบเขตไร้ดัดแปลงได้ไม่ยาก
“น่าเสียดายที่ข้าไม่มีโอกาสได้บรรลุไร้ดัดแปลง...”
“บอกลู่เป่ยให้แก้แค้นแทนข้าด้วย!”
ม่านฉานกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต และเร่งเผาพวกมันเพื่อหวังจะฆ่าตัวตายไปพร้อมกับศัตรู
สองชายชราและซื่อฉวนสีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
“เจ้าโง่! ถ้าเจ้าหนีไปก็ไม่ตายแล้ว ถ้าเจ้าไม่รับกระบี่อีก2 เล่มที่เหลือเจ้าก็ไม่ตายแล้ว!”
ทันทีที่ซื่อฉวนกล่าวจบ เส้นแสงสีทองกลับแหวกผ่านท้องนภามาแต่ไกล
เมื่อแสงสีทองหยุด หมอกม่วงปรากฏเบื้องหน้าม่านฉาน พร้อมกับเงาร่างของคนผู้หนึ่ง จ้องมองซื่อฉวนและสองชายชราด้วยแววตาที่เย็นชาอย่างถึงที่สุด
หนิงฝานมาแล้ว!
“เจ้าเป็นใคร!” ซื่อฉวนสีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
หนิงฝานไม่ตอบคำถามของมัน เขากล่าว “ม่านฉานไม่ได้โง่ แต่กล้าหาญที่จะปกป้องคนของตน ต่อให้ตายก็ไม่เสียดายชีวิต!”
ปราณปีศาจที่น่าสะพรึงปะทุ เมฆแดงฉานราวกับโลหิต ก่อตัวปกคลุมท้อนภานับหมื่นลี้
“ลู่เป่ย! แก้แค้นให้ข้าด้วย...”
“หุบปาก! ข้าไม่อยากติดหนี้ใคร!”
หนิงฝานสัมผัสร่างม่านฉาน ก่อนจะดึงเอากระบี่ทั้งสามเล่มในร่างของมันออกมาทางปาก จากนั้นควบคุม สะบัดกระบี่ทั้ง 3 เล่มเข้าใส่ซื่อฉวนและชายชราทั้งสอง
แม้ม่านฉานจะกลืนกระบี่เข้าไป แต่ไม่อาจสลายพวกมันได้ นับว่าโชคดีที่ร่างกายของม่านฉานทรงพลัง จึงทำให้หนิงฝานถอนกระบี่ทั้งหมดกลับออกมาได้
กระบี่ทั้งสามเล่มพุ่งตรงเข้าหาซื่อฉวนและชายชราทั้งสองอย่างรวดเร็ว
“มันถอนกระบี่ออกมาได้ยังไง!”
“นั่นเหรอลู่เป่ย!”
ซื่อฉวนหวาดกลัว การปรากฏตัวของหนิงฝานเปลี่ยนกระแสการต่อสู้โดยสิ้นเชิง
ยามนี้ พวกมันไม่อาจสัมผัสถึงระดับพลังของหนิงฝาน พวกมันรู้แค่เพียงว่า หนิงฝานมีปราณปีศาจที่ทรงพลัง ราวกับผ่านการสังหารผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังมามากมายนับไม่ถ้วน จนทำให้ซื่อฉวนสั่นสะท้านไปถึงจิตวิญญาณ
“ตายซะ!”
หนิงฝานบังคับกระบี่ดิ่งตรงเข้าหาชายชราทั้งสองอย่างแม่นยำ เกราะคุ้มกายของพวกมันถูกทำลาย กระบี่แทงทะลุร่าง ระดับได้รับความเสียหายร้ายแรงจนไม่อาจคงสภาพขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลงได้อีก!
กระบี่อีกเล่มถูกหนิงฝานทำให้แตกเป็นเสี่ยง ตรงดิ่งเข้าหาคนของวังอาภรณ์ม่วงทั้งหมด
เมื่อกระบี่ดิ่งเข้าซื่อฉวน มันเร่งนำผนึกใสออกมาแล้วบดขยี้ เกิดเป็นกระบี่อีกเล่มเข้าต้าน
ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มของวังอาภรณ์ม่วงทั้งหมดถูกสังหาร ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ 12 คนที่มา ตาย 3 บาดเจ็บสาหัสอีก 4 คน
หากหนิงฝานมาช้ากว่านี้อีกก้าว ม่านฉานอาจไม่รอด โชคดีที่หนิงฝานช่วยชีวิตม่านฉานไว้ได้ทัน ทำให้ม่านฉานที่ทะลวงจุดตีบตันได้มีชีวิตรอด
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทำให้หนิงฝานโกรธแค้นและทราบซึ้งน้ำใจของม่านฉานเป็นอย่างมาก มันถึงขั้นกล่าวว่าให้เขาเป็นผู้แก้แค้นแทนให้
“ไม่ว่าพวกเจ้าจะเป็นใคร แต่อย่าได้คิดว่าจะรอดออกไปจากที่นี่ได้!”
สองชายชราที่กระอักโลหิตอย่างหนักหัวเราะลั่น ยิ้มร่าอย่างพอใจ พวกมันสัมผัสได้แล้วว่าหนิงฝานเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้น แต่กลับถอนกระบี่ออกจากร่างม่านฉาน ทั้งยังกล่าวว่าจะฆ่าพวกมันทั้งหมด… ช่างน่าสนใจจริงๆ
แต่ชั่วลมหายใจถัดมา พวกมันกลับต้องตกตะลึง เมฆแดงฉานเริ่มก่อตัวเป็นยักษ์สูงใหญ่หมื่นจ้าง พวกมันสัมผัสได้ถึงความกระหายเลือด เมื่อสบตากับหนิงฝาน มันรู้สึกราวกับถูกมือสังหารที่อัมหิต ที่ผ่านการสังหารผู้คนนับล้านจ้องมอง
“ปราณปีศาจก่อตัวเป็นเมฆแดงฉาน เด็กคนนี้มีพรสวรรค์เรื่องการฆ่า! หากเรื่องนี้รู้ถึงหูวังสังหารในแดนสวรรค์ เด็กคนนี้ต้องกลายเป็นคนสำคัญของที่นั่นอย่างแน่นอน!”
พวกมันพลาดที่มายั่วยุตัวตนที่อันตรายขนาดนี้
ในแดนสวรรค์มีข่าวลือว่า พันปีวังสังหารจะรับศิษย์เพียง 1 คน แต่หากศิษย์ผู้นั้นออกท่องโลก จะไม่มีผู้ใดกล้ายั่วยุเลยแม้แต่น้อย
หากพวกมันรู้ว่าหนิงฝานน่าสะพรึงกลัวขนาดนี้ พวกมันคงถอยห่างทันที แต่น่าเสียดายที่พวกมันไม่มีโอกาสนั้นแล้ว
“ลู่เป่ย! ฮ่าฮ่า ตัวเจ้ามีพรสวรรค์สูงส่ง แต่ไม่ว่ายังไงเจ้าก็ไม่ใช่คู่มือของพวกข้า... แสดงให้พวกข้าเห็น! ว่าเจ้าจะจบชีวิตพวกข้ายังไง!”
สองชายชราข่มใจเย้ยหยัน
ไม่ว่าหนิงฝานจะน่ากลัวขนาดไหน แต่มันไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายจะสังหารมันได้
“ใครบอกว่าข้าจะลงมือด้วยตัวเอง! เหล่าผู้รับใช้ของข้า หากพวกเจ้าได้ยินคำสั่ง ให้เร่งมุ่งหน้ามายังเกาะดารา และสังหารคนของวังดาราม่วงอย่างให้เหลือ!”
เสียงของหนิงฝานสะท้อนออกไปไกล 3 หมื่นลี้ แต่ด้วยเมฆแดงเสริมพลัง เร่งเร้าให้เสียงสะท้อนไกลออกไปอย่างต่อเนื่อง… 1 ลี้… 3 ล้านลี้… 30 ล้านลี้… 300 ล้านลี้!
สีหน้าซื่อฉวนแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง หลังจากนั้น 10 ลมหาย สีหน้าของมันกลับแปรเปลี่ยนหวาดกลัว
ที่ใจกลางของเกาะดารา สามารถมองเห็นรอบด้านได้อย่างชัดเจน และยามนี้ กองทัพอสูรจำนวนมหาศาลกำลังมุ่งหน้ามายังเกาะดารา ในหมู่อสูรเหล่านั้น มี 3 ขุมกำลังของดาราสมุทร แต่ละขุมกำลังนำทัพอสูร 1 แสนพร้อมอสูรตัดวิญญาณจำนวนมาก มุ่งหน้ามายังเกาะดาราด้วยความเร็วสูง
เมื่อพวกมันมาถึง ผู้นำแต่ละเผ่าป้องมือให้หนิงฝานพลางก้มหัวด้วยความเคารพ
“เผ่าตั๊กแตน… เผ่ามดพิษ… และเผ่าหอยมาตามคำสั่งนายท่านแล้ว!”
หลังจากผ่านไปถึงร้อยลมหายใจ สี่ขุมกำลังใหญ่ได้นำทัพมุ่งมาถึงเกาะดารา ผู้นำแต่ขุมกำลังที่เป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นสูงสุด ป้องมือคารวะหนิงฝาน
“เมืองมู่หลง เมืองหงส์เพลิง และเมืองหิมะคลั่ง คารวะนายท่าน… ขออภัยที่พวกข้ามาถึงช้า!”
หลังจากผ่านไป 1 พันลมหายใจ 3 ผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลงเร่งมุ่งมาหน้ามาหาหนิงฝานพลางก้มหน้าป้องมือ
“แคว้นเต๋า แคว้นกระบี่ และแคว้นสวรรค์ คารวะนายท่าน!”
ขุมกำลังที่อยู่ไกลจนเกินไปจนไม่อาจมาได้ ได้ส่งข้อความผ่านกระบี่บินมาหนิงฝานเป็นจำนวนมาก
แคว้นเมฆาโบราณไม่อาจข้ามผ่านแนวแบ่งกันทะเลได้ ขอนายท่านยกโทษให้ด้วย!
“เมืองราชาหมาป่าจัดทัพส่งไปแล้ว แต่อีกครึ่งเดือนถึงจะเดินทางถึงเกาะดารา นายท่านยกโทษให้ด้วย!”
“วังมังกรดาราเหนือได้ส่งคนออกไปแล้ว แต่คงใช้เวลาเดินทางอีกสักพัก ขอนายท่านยกโทษให้ด้วย!”
ศัตรูในวันวานยอมสยบ
การฆ่าล้างสังหารของหนิงฝานในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ทุกขุมกำลังในดาราสมุทรไม่กล้าปฏิเสธหนิงฝาน เพราะกลัวว่าหนิงฝานจะเผาโลหิต และเริ่มการฆ่าล้างอีกครั้ง
พวกมันยกให้หนิงฝานจ้าวดาราคนใหม่ ที่ม่านฉาน มังกรดารา และหมาป่าดาราล้วนยอมสยบ
ไม่ว่าจะอยู่ไกลขนาดไหน แต่เหล่าอสูรจะเร่งมุ่งหน้ามาช่วย
ซึ่งการปรากฏของขุมกำลังอสูรจำนวนมหาศาลเช่นนี้ ทำให้คนของวังอาภรณ์ม่วงหวาดกลัวโดยสมบูรณ์!
นี่คือลู่เป่ย… บุรุษที่สั่งการอสูรได้ทั้งดาราสมุทร!
“หนี!” ซื่อฉวนตัดสินใจกล่าวก่อนจะนำสมบัติที่ช่วยหลบหนีออกมา เพียงแต่หนิงฝานรู้ความคิดของมัน จึงสร้างปราณกระบี่ขนาดยักษ์ดักรอมันไว้!
“สายไปแล้ว!”...