บทที่ 327 - วันสิ้นโลก (3) [24-05-2020]
บทที่ 327 - วันสิ้นโลก (3)
”
การต่อสู้ได้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เมื่อเวลาได้ผ่านไปอีกห้านาทีคังมิเรย์ก็ได้เปิดประตูเพิ่มอีกร้อยบาน ยูอิลฮานได้ใช้หอกเพลิงที่สร้างจากมานาทำการกวาดล้างโลกผู้อาศัยในโลกไปมากกว่าสิบโลกเพื่อที่จะลดมานาส่วนเกินในโลกของเขา แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ว่าทุกๆอย่างจะเป็นไปตามที่เขาต้องกร ในตอนที่พลังเวทย์ได้หลุดไปจากการควบคุม มานาทุกๆส่วนในดาเรย์ก็ได้ปะทุและปั่นป่วนขึ้นมา!
[ดาเรย์กำลังลงอยู่ภายใต้มหาภัยพิบัติขั้นที่ 7]
[ดาเรย์กำลังลงอยู่ภายใต้มหาภัยพิบัติขั้นที่ 7]
"ชิ... รู้แล้วน่า ฉันรู้แล้ว!"
ยูอิลฮานได้เปลื่ยนกลับมาควบคุมดาเรย์อีกครั้งหนึ่ง เขาได้ใช้ประกาศิตหลายต่อหลายรอบทำให้โลกสงบลงและโยนภาระส่วนหนึ่งไปให้มิสทิค
ในตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้แล้วที่จะปล่อยพลังงานไปภายนอกหรือขยายขนาดโลกให้ใหญ่มากยิ่งขึ้น เพราะแบบนี้โลกก็ได้เริ่มนำพลังมานาส่วนเกินไปเพื่อความทนทานให้กับสิ่งที่มีอยู่แล้วแทนการจะเพิ่มขนาดของมัน และนี่คือสิ่งที่ยูอิลฮานก็เล็งเอาไว้
"ความหนาแน่นมานา... นี่มันกำลังเพิ่มสูงยิ่งขึ้น!"
"พรก็กำลังทรงพลังขึ้นเหมือนกัน! ไม่ต้องยั้งมือไว้แล้ว ปล่อยพลังทั้งหมดออกไปใส่ศัตรูตรงหน้าเลย"
[กรรรรรรรรรรรรร!]
เพราะการที่โอโรจิได้กลายมาเป็นคลาส 7 ได้ทำให้พลังของกองกำลังเขาแกร่งยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าจะหลีกเลี่ยงการตายของมังกรและสายพันธ์มังกรที่อ่อนแอไม่ได้ แต่ว่าคนที่เหลือรอดก็จะกินเลือดเนื้อของคนที่ตายไปเพื่อที่จะแกร่งขึ้นจนมากพอที่จะสู้สิ่งมีชีวิตชั้นสูงกลับคืนไป
เหล่ามังกรได้กัดศัตรูกันจนตายตามคำสั่งของยูอิลฮาน! เพื่อที่จะแกร่งยิ่งขึ้น! เพราะแบบนี้พวกมังกรทุกๆตนต่างก็เอาชีวิตไปเสี่ยง ไพ่ใบที่สองของยูอิลฮานได้ทำงานอย่างสมบูรณ์แบบ
"เด็กๆมองมาที่ฉันสิ! ฉันมีสิ่งที่พวกเธอต้องการอยู่ การพักผ่อนสุดหอมหวาน!"
เฮเรียน่าที่ได้รับการเสริมพลังขึ้นมาอย่างมากหลังจากได้กลายเป็นมังกรคลาส 7 กำลังเปิดศึกอยู่ในแนวหน้า มานาแห่งเสน่ห์ของเธอได้ถูกกระจายออกไปรอบตัวและทำให้การเคลื่อนไหวของศัตรูหยุดลงจนโดนสมาชิกดราก้อนเนสคนอื่นเข้าโจมตีอย่างรุนแรง
ไม่มีใครที่หลีกหนีไปจากเสน่ห์ของเฮเรียน่าได้ สมาธิของศัตรูจะถูกดึงดูดให้ล่องลอยออกไปและในตอนที่เกิดเรื่องแบบนี้เขาคนนั้นก็จะต้องตายไปในทันที ผู้บุกรุกที่เจอเข้ากับเสน่ห์ของเฮเรียน่าต่างก็เป็นเหมือนกับแมงเม่าบินเข้ากองไฟ
"นี่แหละ ที่นี่ ฉันจะไม่หนี ฉันจะยืนนิ่งๆอยู่ตรงนี้"
[อ๊าาา....!]
[บ้าเอ้ย มานากำลังต่อต้านฉัน ฉันต้องทนไว้...!]
เฮเรียน่าเธองดงาม และสง่างามมาก พลังนี้ของเธอส่งผลดีให้กับพรรคพวกและเป็นพิษร้ายกับศัตรู เธอตั้งใจที่จะเป็นคนลดความทุกข์ใจจากตัวยูอิลฮาน
เฮเรียน่าเธอรู้ดีว่ายูอิลฮานค่อนข้างอ่อนไหวกับการบาดเจ็บล้มตายของพรรคพวก เพราะงั้นตัวยูอิลฮานจึงไม่ได้พักเลยแม้แต่นิดเดียว ที่เธอล่อลวงคนอื่นมันไม่ใช่เพื่อสนองความชอบของตัวเองแต่เป็นเพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นต้องตายต่างหาก
มันนานแค่ไหนแล้วนะที่เธอไม่ได้ทำเพื่อคนอื่น? เธอยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ แต่ว่าในที่สุดแล้วความรู้สึกของเธอก็ได้กลับมาถูกกระตุ้นขึ้นอีกครั้งหลังจากผ่านไปหลายหมื่นปีนับตั้งแต่เข้าสู่พลังสิ่งมีชีวิตชั้นสูง
[พ่อครับ! อ๊าา พ่อ!]
ท่ามกลางความโกลาหลนี้ หมายเลขหนึ่งได้โดดเด่นขึ้นมาในหมู่มังกร ส่วนรูบี้ได้ยืนหยัดอยู่ท่ามกลางสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ!
อ่างแห่งปาฏิหาริย์ได้อยู่ในสภาพเตรียมพร้อมมาตลอดก็ได้ครอบคลุมตัวเธอ และไม่นานหลังจากนั้นก็ก็ได้มีหญิงสาวผมแดงนัยน์ตาสีชาดเดินออกมา หญิงสาวคนนี้ดูน่ารักเหมือนกับออกมาจากการ์ตูน แต่ว่าพลังที่เธอมีอยู่ไม่ใช่เล่นๆเลย
"อ๊าาา! ขอบคุณค่ะพ่อ! พ่อสุดที่รักของหนู!"
[ฉันรู้สึกได้! เธอได้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงแล้ว!]
[มังกรที่แท้จริง... โอ้ววว พวกเราก็จะกลายเป็นมังกรที่แท้จริงเหมือนกัน! หากว่าไปถึงระดับนั้นได้ต่อให้ต้องขายวิญญาณก็ยอม!]
สถานการณ์อาจจะไม่ได้สดใสนัก แต่ว่าขวัญกำลังใจทางฝั่งยูอิลฮานได้พุ่งถึงขีดสุดไปแล้ว มังกรทั้งหมด สายพันธ์มังกรทั้งหมดต่างก็อยากที่จะเป็นเหมือนกับรูบี้ เหล่ามังกรคือสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นมาชื่นชมในพลังมานานแล้ว!
รูบี้ได้ทำตามเป้าหมายสำเร็จและในตอนนี้ก็ถึงเวลาของพวกเขาแล้ว คลาส 5 คลาส 6 คลาส 7 - เจ้าพวกนี้มันมีอะไรให้ต้องกลัวกัน มังกรทั้งหมดต่างก็บุกตรงเข้าใส่โดยไม่ลังเล เสียงคำรามของดราก้อนเนสได้ดังสนั่นไปทั้งโลก
เลียร่าที่เห็นแบบนี้ได้แต่บ่นออกมา
"การเกิดแล้วก็พัฒนาของเหล่ามังกรนี่มัน... ดูง่ายจังเลยนะ ใครกันนะที่บอกว่าสิ่งมีชีวิตชั้นสูงคือเหล่าผู้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก!?"
"ก็เธอนั่นแหละที่บอก"
แน่นอนว่าในด้านประสบการณ์และการฝึกฝนมันเป็นไปไม่ได้เลยที่รูบี้จะไปเทียบกับสิ่งมีชีวิตชั้นสูงตนอื่นๆ แต่ยังไงก็ตามเนื่องจากว่าตัวเธอได้พลังจากโลกช่วยสนับสนุนทำให้เธอมีพลังที่เหนือไปกว่าสิ่งมีชีวิตคลาส 5 ส่วนใหญ่! การขาดประสบการณ์และการฝึกฝนมันสามารถจะทดแทนกันได้ ในตอนนี้มันคือเวลาที่จะอารวาดโดยไม่ต้องคิดอะไร
[มหาภัยพิบัติขึ้นที่ 7 ในดาเรย์กำลังจบลง]
"ทุกคนเตรียมตัวนะ....!"
ยูอิลฮานได้กัดริมฝีปากตะโกนออกมา ในเวลาเดียวกันนี้คังมิเรย์ก็ได้เปิดประตูมิติเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งร้อยบานและมีสิ่งมีชีวิตชั้นสูงนับพันถูกดูดเข้ามาในดาเรย์ ในเวลาเดียวกันนายูนาก็ได้กัดฟันฝืนทนคงสภาพแดนศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ และในตอนที่เลียร่ากำลังแทงหัวใจเทวดาตกสวรรค์คลาส 6 นี่เอง
"จงรวมเป็นหนึ่ง! [หลอมรวม! ห้ามแยกออก รวมเป็นหนึ่ง!]"
[มหาภัยพิบัติขั้นที่ 7 ได้จบลงแล้ว]
โลกทั้งใบได้สั่นสะเทือน มีโลกจำนวนมากได้ถูกหลอมรวมเข้ามาและยังมีอีกหลายโลกที่กำลังอยู่ระหว่างลอมรวม ในที่สุดแล้วมหาภัยพิบัติขั้นที่ 7 ของดาเรย์ที่ทำให้มีความหนาแน่นและขนาดที่เพื่มขึ้นก็ได้จบลงและดาเรย์ได้เรืองแสงสว่างออกมา! มานาได้มารวมกันอยู่ตรงศูนย์กลางของโลกที่มีป้อมปราการลอยฟ้า ป้อมปราการผู้พิทักษ์แล้วก็เมืองอยู่ มิสทิคได้บ่นออกมาทันที
"ให้ตายสินายท่าน ไม่ว่าาท่านจะทำเรื่องบ้าอะไรก็ง่ายไปหมดเลย!"
[จงเปลื่ยนการสร้างให้กลายไปเป็นการทำลายแทนซะ!]
ยูอิลฮานได้ตะโกนออกมา ในตอนนี้เองเพลิงโปร่งแสงได้ลุกขึ้นต่อหน้าพรรคพวกของเขาและเผาไหม้ศัตรูทุกๆคนที่มองเห็น!
ไม่ว่าจะเป็นคลาส 5 หรือคลาส 6 ก็ไม่อาจจะหลีกหนีเพลิงที่เผาไหม้วิญญาณที่ได้ สิ่งที่หลงเหลืออยู่มีก็แค่เพียงก้อนขี้เถ้ากับหินพลังเวทย์เท่านั้น
[ติดคริติคอล!]
[คุณได้รับค่าประสบการณ์]
[คุณได้รับบันทึก]
[ทำการเก็บวิญญาณ]
"นะ นี่มันบ้าอะไรกัน?"
"นายท่าน..."
ทั่วทั้งพื้นที่ได้เงียบลงไป การที่โอโรจิฆ่าริเมอเร่ไปเทียบไม่ได้กับเรื่องที่เพิ่งเกิดตะกี้เลย การที่พูดเพียงประโยชน์เดียวก็ทำให้ทุกสิ่งต้องการนี้ได้ทำให้เหล่าคนที่ได้เผชิญหน้ากับมันได้แต่หยุดอยู่เงียบๆ
ประตูมิติของโลกที่ได้กลายมาอยู่ใต้อำนาจของยูอิลฮานได้ปิดลง และสุดท้ายก็ไม่มีประตูมิติใดที่เปิดอยู่อีก พรรคพวกของยูอิลฮานที่เห็นแบบนี้ได้เริ่มโกรธกันขึ้นมา
"ฉันไม่สนหรอกนะว่านายทำมันได้ยังไง แต่ว่านะนายก็จบมันได้ตั้งแต่แรกแล้วนี่หากว่านายใช้เวทย์ที่ทรงพลังแบบนี้!"
"นายจัดการมันเองหมดเลยก็ได้นี่!? เมื่อกี้นายคนเดียวเพิ่งจะกวาดล้างไปเกือบๆจะสองร้อยโลกเลยนะ!"
ยังไงก็ตามยูอิลฮานได้แต่หัวเราะออกมาแห้งๆ
"พวกเธอรู้กันใช่ไหมว่าเมื่อไหร่ที่เกิดมหาภัยพิบัติขึ้นจะมีมอนสเตอร์เกิดขึ้นมาจำนวนมาก ฉันได้ใช้ประกาศิตเมื่อตะกี้เพื่อเปลื่ยนมานาที่ใช้สร้างมอนสเตอร์ให้กลายมาเป็นเพลิงจนหมดนะ นี่คือการโจมตีที่ฉันจะได้แค่ในตอนที่เกิดมหาภัยพิบัติได้เท่านั้น"
"...มันใช้ได้ง่ายๆงั้นหรอ?"
"อ่า บางทีในหมู่หัวหน้ากองกำลังอาจจะมีแค่ฉันคนเดียวที่ใช้ได้ก็ได้ โอ้ ที่สำคัญกว่านั้นนะ..."
[โลก...]
[โลก...]
[โลก...]
[โลก...]
[โลก...]
[โลก...]
[โลก...]
[โลก...]
ยูอิลฮานได้จับหัวตะโกนออกมาในขณะที่มองดูโลกกว่าสองร้อยใบปรากฏขึ้นรอบๆดาเรย์และหลอมรวมเข้ามา
"...เราจะต้องหลอมรวมโลกทั้งหมดนี่เข้ามาในดาเรย์!"
"เจ้านายบ้าที่สุดดดดดดด!"
"ชะ ช่วยด้วย! ช่วยฉันหน่อย!"
นี่มันยิ่งกว่ามหาภัยพิบัติขั้นที่ 7 ซะอีก การหลอมรวมครั้งนี้ไม่ใช่แค่สิบ หรือร้อย แต่เป็นโลกระดับสูงสองร้อยแห่ง มาคิดๆดูแล้วเรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย
[บีบอัด อย่าขยาย! ฉันบอกให้บีบอัด! ขอล่ะนะ อย่าได้แพ้ winrar ล่ะ!]
"บ้าอะไรของนายท่านเนี้ย! อ๊ากกกกกกกก!"
หมวกฟางของมิสทิคได้เรืองแสงออกมา หมวกฟางนี้ได้เสริมพลังของมิสทิคให้เกินขีดจำกัดไปและควบคุมการหลอมรวม
ท้องฟ้า ผืนดิน ทะเล ทุกๆอย่างเหล่านี้ได้หลอมรวมบีบอัดเข้าด้วยกันจนหนาแน่น
"กะ การสร้างโลก..."
"บิ๊กแบง...?"
ทุกๆคนต่างก็ช่วยส่งพลังมานาไปช่วยยูอิลฮานกับมิสทิคปรับแต่งโลกใบนี้ สิ่งที่ทำงานหนักที่สุดเลยแน่นอนว่าคือพรม!
พรมได้ดูดซับมานาจากโลกต่างๆมาโดยไม่ล่ะเว้น มันได้นำมานาที่เก็บไว้ภายในกลายมาเป็นเชื้อเพลิงขยายอาณาเขตออกไป ในจุดๆนี้ในด้านขยายเพียงอย่างเดียวดาเรย์ก็ใหญ่กว่าสวรรค์ไปแลว
"คำทำนายถูกต้องจริงๆน่ะหรอที่ล่ะ!? ไม่ใช่ว่าเอิร์ธจะยิ่งใหญ่กว่าดาเรย์หรอกหรอ!?"
"อ่า เดี๋ยวฉันก็จะหลอมรวมโลกของฉันด้วยเหมือนกัน"
"เยี่ยมไปเลย!"
ละลอกคลื่นมานาได้กระจายออกไปจนทั่ว ทุกๆห้าหรือหกวินาทีจะมีการระเบิดทำลายพื้นผิวที่มีขนาดใหญ่พอๆกับดาวดวงหนึ่งขึ้นมา แน่นอนว่าหลังจากนั้นมานาที่ทำให้เกิดการระเบิดก็จะถูกพรมดูดเข้าไปและส่งต่อมาที่สมาชิกดราก้อนเนส
"ก้อนมานาที่ส่งออกมาพวกนี้จะไม่ฆ่าเราแน่นะ?"
"พระเจ้า นี่มันบ้ายิ่งกว่าในตอนมิคาเอลสู้กับซาตานซะอีก หัวหน้ากำลังคิดอะไรอยู่กันนะ? นี่เขากำลังจะจัดการทุกๆอย่างเองหมดเลย"
[โลกที่คุณปกครองได้มีการเชื่อมต่อกับคุณทำให้ระดับพลังของคุณเพิ่มขึ้น คุณเพิ่มเลเวลขึ้นเป็น 600]
"โอ้...."
ยูอิลฮานได้อุทานออกมา ตอนนี้เขากำลังยุ่งกับการปรับปรุงโลก แต่ว่ามานาและบันทึกของเขาได้ผสานกับวิญญาณและร่างกายทำให้เกิดการเปลื่ยนแปลงขึ้นจากภายใน
ยังไงก็ตามนี่มันคือเรื่องธรรมดา การวิวัฒนาการของโลกมันหมายถึงการเพิ่มขึ้นของมันบึก เพราะงั้นคนที่เป็นเจ้าของโลกใบนี้ก็จะถูกเพิ่มพลังขึ้นไปเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ยูอิลฮานคิดแค่ว่าการฆ่ามอนสเตอร์จะทำให้เขาเลเวลเพิ่มขึ้น แต่ว่าเขาคิดผิด!
[ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น พลังเวทย์เพิ่มขึ้นอีก 500]
ตอนยูอิลฮานได้กำลังหลอมรวมโลกไม่ได้มีการเปลื่ยนแปลงอะไรมากนักกับบันทึกของยูอิลฮาน แต่ว่าเมื่อเกิดมหาภัยพิบัติขั้นที่ 7 กับการหลอมรวมโลกทั้งสองร้อยใบในคราวเดียวทำให้บันทึกของยูอิลฮานผสานเข้ากับดาเรย์และนำเขาไปสู่ดำแหน่งที่สูงยิ่งขึ้น!
[นำบันทึกทั้งหมดมาคำนวนเพื่อนำไปสู่การวิวัฒนาการ คุณจะต้องทนผ่านความเจ็บปวดจากการเปลื่ยนแปลง เริ่มทำการวิวัฒนาการร่างกาย]
"อ๊ากกกก ไม่ไหว! ฉันทนไม่ไหว!"
"อย่ามาทำเป็นอ่อนแอ!"
พร้อมๆกันกับความเจ็บปวดเหมือนฉีกกระชากวิญญาณ ร่างของยูอิลฮานก็ได้บิดเบี้ยวและเปลื่ยนแปลงยิ่งกว่าที่โอโรจิกับรูบี้ได้เจอซะอีก
มันคงจะดีหากเขายอมปลดปล่อยสติไปกับความเจ็บปวดได้ แต่ว่าน่าเสียดายที่ยูอิลฮานกำลังทำการปรับแต่งการหลอมรวมของโลกจำนวนมากเข้ากับดาเรย์อยู่ ทั้งการขยายของพรม จำนวนมานาที่หลั่งไหลอยู่ในเมือง เพราะแบบนี้เขาไม่อาจจะหมดสติไปได้ เพราะงั้นเขาได้เลือกหลับตาลงไปแทน
"อิลฮาน..."
"ที่รักสู้ๆนะ!"
"ให้ฉันทำยังไงต่อ? ผ่านไปห้านาทีแล้วนะ..."
"มิเรย์ รออีกสักนิดนะ!"
กระดูกทั้งหมดได้หายไปและมีกระดูกชิ้นใหม่เกิดขึ้นมาแทน กล้ามเนื้อหัวใจได้ถูกกฉีกขาดและมีหัวใจใหม่เกิดขึ้นมากำลังกินหัวใจดวงเก่าอยู่
เลือดทั้งหมดได้ระเหยไปและถูกรวมอยู่ที่หัวใจ พร้อมทั้งมีเลือดใหม่ถูกปล่อยออกมา ผิวหนังใหม่ กล้ามเนื้อใหม่ กระดูกใหม่ และมานาถูกปล่อยออกมา มันทั้งยอดเยี่ยมแต่น่าหดหู่ ลึกลับแต่น่าสะพรึง
แต่ยูอิลฮานก็ไม่ได้หยุดใช้งานมานาเลยถึงแม้ว่าเขาจะไปอยู่ในสภาพที่ไม่ใกล้เคียงกับมนุษย์แล้ว มันถึงขนาดที่ทำให้ไม่มีใครอยากจะเชื่อว่าเขาเป็นคนๆเดียวกับที่ทำเป็นอ่อนแอเมื่อตะกี้นี้ ตอนนี้เขากำลังแสดงความอดทนอย่างมหาศาลและสมาธิของเขา
เมื่อเวลาได้ผ่านไปอีกซักพัก หลังจากนั้นก็ผ่านไปอีกห้านาที คังมิเรย์ก็ไม่รู้จะทำอะไรแล้ว
"ฟู่ ฮ่าาาาาห์...."
ในที่สุดยูอิลฮานก็ลืมตาขึ้นมาและเริ่มสูดลมหายใจ หลังจากผ่านการเจ็บปวดอย่างมหาศาลมา ร่างของเขาก็ถูกสร้างขึ้นมาใหม่สมบูรณ์แล้ว
ในเวลาเดียวกันดาเรย์ก็ได้หลอมละลาย ดูดซับและบีบอัดโลกอื่นๆมาได้อย่างสมบูรณ์แล้วด้วย
โลกใบนี้กำลังสอดผสานเข้ากับยูอิลฮาน
เพราะแบบนี้ทำให้ทุกๆเรื่องได้ง่ายขึ้นมา เขารู้สึกว่าเขาสามารถจะทำให้ทุกๆอย่างในดาเรย์เคลื่อนไหวได้ราวกับเป็นแขนขาตัวเองโดยไม่ต้องใช้พรมหรือสกิลประกาศิตช่วยเลย เขารู้แล้วว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้อง
[นายท่าน นายท่าน!]
[ท่านผู้ปกครอง]
"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรแล้ว"
ระหว่างเขากำลังตอบเพลิงนิรันดร์กับอิชจาร์กับไปก็ได้มีปีกคู่ใหม่โผล่ขึ้นมาจากหลังของเขา
ปีกนี้เหมือนกันกับปีกเสียงเพรียกแห่งการล่มสลาย แต่ว่าหากปีคู่แรกถูกเผาไปด้วยเพลิงที่ลุกไหม้ ปีกคู่ที่สองก็เป็นด้านตรงข้ามที่เป็นโลหะโดยสมบูรณ์! ปีกทั้งสองคู่นีได้แสดงถึงเอกลักษณ์ของยูอิลฮานมาอย่างชัดเจน
หากว่าดาเรย์ได้ยอมรับแหล่งมานากับบันทึกจากภายนอก และบีบทั้งหมดเข้ามาภายใน ยูอิลฮานก็ได้พัฒนาการขึ้นมาจากการบีบอัดบันทึกจากภายนอกแทน ทั้งยูอิลฮานกับโลกต่างก็แข็งแกร่งขึ้น แต่ว่าการวิวัฒนาการนั้นตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง
ปัญหายังไม่ได้หมดแค่นี้ ตามใดที่ดาเรย์วิวัฒนาการต่อไป ยูอิลฮานก็จะวิวัฒนาการต่อไปด้วย และในตอนที่เอิร์ธที่เป็นจุดกำเนิดของตัวเขาได้หลอมรวมเข้ามา...
"หืม สวรรค์..."
"อิลฮานไม่เป็นไรจริงๆนะ...?"
"มิเรย์"
ยูอิลฮานได้ยิ้มให้กับมิเรย์ที่กำลังมองมาที่เขาอย่างเป็นกังวล
"ช่วยโปรดประตูมิติทีนะ"
"...เข้าใจแล้ว"
ยูอิลฮานได้หยุดคิดทุกอย่างและเงยหน้าขึ้นมา เมื่อเขาได้ยกมือขึ้นมาโลกก็ได้เริ่มมีแรงดึงดูดอีกครั้งหนึ่ง
ประตูมิติได้ถูกเปิดขึ้นแล้วและสิ่งมีชีวิตชั้นสูงทั้งหมดก็ได้เจอกับหายนะที่มีชื่อว่ายูอิลฮาน
เขายังมีโลกอีกจำนวนนับไม่ถ้วนที่ต้องหลอมรวม