บทที่ 58: ในโรงอาหาร!
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)
••••••••••••••••••••
บทที่ 58: ในโรงอาหาร!
“เธอเจออะไรบ้างไหม?” ไฉ่ถังหันมาถามโม่ฝาน
“อ่า ฉันได้ถามเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่กับเด็กที่หายไปคนสุดท้าย เธอบอกว่าเธอได้กลิ่นเหม็นหืนคล้ายกับกลิ่นในโรงอาหาร อาจจะเป็นไปได้ว่าอสูรเวทนั้นหลบซ่อนอยู่ในโรงอาหารหรือใช้กลิ่นของโรงอาหารเพื่อกลบกลิ่นตัวเองล่ะมั้ง” โม่ฝานดันแว่นขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้ดูเหมือนกับคนมีหัวสมอง ‘นักสืบโคนันนี่ต้องพูดว่าอะไรนะ… โอ้ ใช่ ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!’
“ถ้าเป็นเช่นนั้น หลังจากคืนนี้ไปเธอก็คอยเฝ้าระวังที่โรงอาหารซะ พวกเราที่เหลือจะไปที่ห้องเรียน ยอดภูเขาหมิงเหวิน หอพักและสนามของโรงเรียน” ไฉ่ถังออกคำสั่งอย่างเย่อหยิ่ง
“ทำไมถึงไม่ให้ฉันไปดูที่หอพักล่ะ? ฉันได้ยินมาว่ามีนักเรียนบางส่วนอยู่ที่นั่น ทำไมถึงไม่ให้ฉันคอยดูแลความปลอดภัยของพวกเขา…” โม่ฝานกล่าวอย่างอ้อยอิ่ง
“แค่เฟยฉือคนเดียวก็พอ”
โม่ฝานรู้สึกปวดหัวในทันที เฟยฉือคนนั้นดูโรคจิตยิ่งกว่าเขาเสียอีก แน่นอนว่าเขาจะต้องวางแผนขโมยกางเกงในของนักเรียนหญิงเหล่านั้นแน่นอน การให้ชายคนนั้นไปดูแลหอพักมีแต่จะทำให้เหล่านักเรียนอยู่ในอันตรายมากยิ่งขึ้น!
——
สุดท้ายแล้วในเย็นวันนั้นโม่ฝานจำเป็นต้องดูแลโรงอาหารจริงๆ…
โรงอาหารของโรงเรียนหมิงเหวินนั้นมีขนาดใหญ่มาก มันดูเหมือนกับห้องประชุมขนาดใหญ่ สถานที่แห่งนี้นั้นเป็นของโรงเรียนชั้นสูง แน่นอนว่ามันหรูหราและกว้างขวางอย่างมาก ซึ่งมันแตกต่างจากโรงเรียนเวทมนตร์มัธยมเทียนหลานอย่างสิ้นเชิง ถ้าหากว่าใครก็ตามต้องการซ่อนอะไรบางอย่าง แน่นอนว่าพวกเขาจะถูกค้นพบโดยป้าในโรงอาหาร!
ภายในโรงอาหารนั้นมีเพียงบางจุดเท่านั้นที่มืดมิดเพราะแสงไม่สามารถส่องไปถึงได้ เก้าอี้และโต๊ะต่างถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ โม่ฝานนั่งอยู่ยองๆอยู่ใต้โต๊ะนั้นพร้อมกับฝันกลางวันถึงเด็กหญิงมากมายที่ใส่กระโปรงสั้นเดินไปมาในสถานที่แห่งนี้ กลิ่นคงหอมหวานอย่างล้นเหลือภายในสถานที่แห่งนี้ผสมกับอากาศในฤดูใบไม้…….
ตู้ม!
ตู้ม!!!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้มมมมมม!
เกิดเสียงดังออกมาจากทุกหนทุกแห่ง!
ช้อนที่วางอยู่บนโต๊ะในตอนนี้กำลังสั่นไหวพร้อมกับค่อยๆเคลื่อนที่ไปยังขอบโต๊ะตามแรงสั่นสะเทือน
ช้อนหล่นลงมากระแทกกับศีรษะของโม่ฝาน เขารีบหยิบมันขึ้นมาทันทีพร้อมกับมองไปรอบๆบริเวณ แต่ด้วยสิ่งนี้ทำให้เขาเองเกือบจะเปิดเผยตำแหน่งของตัวเองซะแล้ว!
‘บ้าเอ้ย ใครกันที่ลืมช้อนเหล่านี้ไว้หลังจากกินไอศรีมตอนดึก? มันเกือบจะทำให้ฉันต้องเปิดเผยตำแหน่งแล้วเนี่ย…’
‘ว่าไปแล้วโรงอาหารนี้แปลกจริงๆ โต๊ะเหล่านี้สั่นไหวได้อย่างไรกัน? เหมือนกับว่าฉันอยู่ภายใต้เครื่องจักรก่อสร้างอย่างนั้นแหละ เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขากำลังสร้างห้องใต้ดินกันอยู่? อีกอย่างห้องใต้ดินกำลังแพร่หลายในหลายประเทศอย่างมากอีกด้วย’ โม่ฝานคิดพึมพำในหัวก่อนที่จะเฝ้าระวังรอบๆอย่างระมัดระวัง
ฮึ่มมมมมมมม…..
ทันใดนั้นเองเกิดเสียงประหลาดดังขึ้นมาจากด้านหลังของห้องครัว
ตามด้วยกลิ่นเหม็นหืนของอาหารที่เน่าเสียแล้ว มันเหมือนกับเนื้อปลาเน่าและผักเค็มๆ
‘บ้าเอ้ย มีอสูรเวทจริงๆงั้นเหรอ?’ โม่ฝานรู้สึกเกร็งในทันที
ก่อนที่เขาจะเข้าร่วมกับทีมหน่วยล่าล้างเมือง เขาคิดมาเสมอว่าโลกนี้นั้นเงียบสงบและปลอดภัย เขาคิดว่าอสูรเวทนั้นเป็นเพียงเรื่องหลอกลวงที่ผู้ใหญ่สร้างขึ้นเพียงเพื่อให้เด็กๆรีบเข้านอน ใครจะรู้ล่ะว่าในเมืองนี้มีอสูรเวทซ่อนอยู่จริงๆ ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่ป้าโม่ชิงกล่าวก่อนหน้านี้นั้นเธอไม่ได้โกหก!
เมื่อคิดย้อนกลับไป เขาพบว่าทุกสิ่งอย่างนั้นสมเหตุสมผล เมืองใหญ่แห่งนี้นั้นเต็มไปด้วยสถานที่ที่เขาไม่รู้จัก ถ้าหากมีอสูรเวทปรากฏขึ้นและในสถานที่แห่งนั้นมีมนุษย์อาศัยอยู่ ตำรวจจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างเงียบๆและป้องกันไม่ให้ข้อมูลรั่วไหลออกไปโดยเด็ดขาด เพราะว่าผลของการที่ผู้คนตื่นตระหนกนั้นเลวร้ายเกินกว่าจะควบคุมได้ไหว
โม่ฝานเอาอุปกรณ์สื่อสารยัดลงไปในกระเป๋าของตนเองอย่างรวดเร็ว
มันเป็นอุปกรณ์ที่เรียบง่ายอย่างมาก ตราบใดที่พกมันติดตัวไว้มันจะแจ้งให้คนในทีมรับรู้ถึงตำแหน่งของเขาและสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน!
เสียงคำรามดังขึ้นอีกครั้ง
ในตอนนี้เขากำลังถืออุปกรณ์นี้ไว้อย่างแน่นหนา สิ่งที่อยู่ด้านหลังห้องครัวราวกับรู้สึกถึงสัญญาณสื่อสารได้ ดวงตาสีน้ำเงินเข้มได้โผล่ออกมาหลังกระจกบานใหญ่ ภาพนั้นสะท้อนออกมาในกระจกอย่างชัดเจน
ดวงตากลมกลิ๊กนั้นใหญ่ราวกับลูกบาสเก็ตบอล มันกำลังสั่นไหวมองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง ในขณะที่มันกำลังบิดไปมานั้น ภาพตรงหน้าทำให้โม่ฝานรู้สึกขนลุกชูชันทันที
ด้วยเงาสะท้อนบนกระจกทำให้โม่ฝานเห็นภาพตรงหน้าอย่างชัดเจน!
‘นั่นหัวของมันเหรอ? หรือว่าคอ!’
คอของมันใหญ่ราวกับต้นไม้ มันยากที่จะบอกว่านั่นคือคอหรือหัวกันแน่ แต่เขาคิดว่ามันควรจะเป็นหัวซะมากกว่าเพราะดวงตาของมันกินพื้นที่ไปมากโข อีกทั้งปากของมันยังเต็มไปด้วยอาหารที่เน่าเหม็น
‘บ้าเอ้ย มันเป็นอสูรที่สามารถดักจับสัญญาณได้งั้นเหรอ? มันปรากฏตัวทันทีที่ฉันส่งสัญญาณออกไป!’ โม่ฝานสาปแช่งกับตัวเองทันที
ทันทีที่เขาส่งสัญญาณออกไป อสูรตนนั้นล็อกสายตาไว้ที่เขาในทันที ความสามารถของมันจะโหดร้ายเกินไปแล้ว!
ฮึ่มมม!
ตอนนี้ดวงตายักษ์คู่นั้นกำลังจับจ้องมาที่เขาอย่างแน่นอน มันกำลังเพ่งสายตาอย่างหนักมาทางเขา!
เมื่อมันรวบรวมพลังได้ถึงขีดสุดแล้ว คลื่นพลังสีแดงเปล่งออกมาจากดวงตาของมันทันที!
แสงของสีแดงนั้นพุ่งเข้าหากระจกและสะท้อนมาที่โต๊ะของโม่ฝานในทันที มันแยกทุกสิ่งที่ขวางหน้ามันอย่างเฉียบคม!
โม่ฝานตกใจจนแทบจะฉี่รดกางเกงของตนเอง
‘บัดซบ มันไม่ได้ส่งสัญญาณเตือนอะไรเลยก่อนที่จะโจมตี! การแสดงออกที่เย็นชาของมันนั้นคืออะไร มันจะจ้องมองทุกคนก่อนจากนั้นจะคิดว่าหญิงสาวเหล่านี้คือเนื้อของมันงั้นเหรอ!’
โชคดีที่ในครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่โม่ฝานได้พบกับอสูรเวท เขากลิ้งหลบอย่างรวดเร็วพร้อมกับพุ่งไปที่ประตูทางออก
ภายในเสี้ยววินาที ที่หลบภัยเดิมของเขากลายเป็นหลุมดำไหม้เกรียม ถ้าหากเขาไม่สามารถหลบได้ แน่นอนว่ารูไหม้นั้นจะอยู่บนหน้าอกของเขาอย่างแน่นอน!
เมื่อละอองดาราในร่างกายแข็งแกร่งขึ้น แน่นอนว่าพละกำลังของนักเวทผู้นั้นย่อมเปลี่ยนแปลงไป แม้ว่าจะไม่ได้มองเห็นได้อย่างชัดเจนมากนัก แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้นักเวทเหล่านั้นสามารถหลบการโจมตีหรือมองเห็นสิ่งต่างๆได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
โม่ฝานนั้นมีสมอง เขาเลือกสถานที่หลบซ่อนที่อยู่ไม่ไกลจากทางออกมากนักและจากนั้นเขาได้ออกจากโรงอาหารนี้อย่างรวดเร็วเพื่อหลบหนีความวุ่นวายได้อย่างทันท้วงที
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างนั้นไม่ได้ง่ายดายอย่างเช่นใจนึก อสูรเวทที่ร้ายกาจวิ่งตามเขาออกมาในทันทีพร้อมด้วยดวงตาขนาดยักษ์ของมันกำลังควบแน่นพลังอีกรอบจนดวงตาแดงฉาน
โม่ฝานหันหลังกลับไปมองภาพนั้นพร้อมกับตื่นตระหนกในทันที
‘ความถี่ในการโจมตีมากล้นอะไรอย่างนี้ ฉันหลบไม่พ้นแน่!’
โม่ฝานคิดที่จะเปิดการใช้งานอุปกรณ์ป้องกันเวทมนตร์ที่เพิ่งได้รับมา ในตอนนี้จิตวิญญาณของเขากำลังคิดที่จะเรียกใช้งานโล่เคียวกระดูกเพื่อป้องกันตนเอง…
แต่ในขณะที่เขากำลังจะจัดการทุกอย่างได้เสร็จสิ้น เสียงหวานชัดเจนดังออกมาจากสนามบาส “โล่ห์วารี!”
ทันใดนั้นเองโม่ฝานได้เห็นกระแสน้ำลอยสูงในอากาศ มันอ่อนนุ่มราวกับริบบิ้นที่พริวไหวอยู่ตรงหน้าของเขา จากนั้นมันก่อตัวเป็นเกราะป้องกันอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ลำแสงสีแดงพุ่งเข้าชนกับโล่ห์วารี แน่นอนว่าลำแสงเหล่านั้นได้เหือดหายไปพร้อมกับสายน้ำโดยสมบูรณ์ จากนั้นน้ำทั้งหมดก็ระเหยหายไปในอากาศทันที
โม่ฝานหยุดคิดที่จะเรียกใช้งานโล่เคียวกระดูกทันที เขาหันไปด้านหลังและพบกับหญิงสาวน่ารักกำลังที่ชื่อเสี่ยวเก๋อกำลังยิ้มหวานให้กับเขา เขี้ยวทั้งสองซี่ของเธอทำให้เธอดูมีเสน่ห์อย่างมาก!
‘ว้าว เสี่ยวเก๋อ! โธ่สาวน้อย โผล่มาได้จังหวะพอดีเลย!’
••••••••••••••••••••
••••••••••••••••••••
ช่วยกันกดคะแนนดาวให้กับผู้แปลเพื่อเป็นกำลังใจด้วยน้าาาา //อ้อนน
อย่าลืมกดติดตามนิยายไว้ด้วยน้า กดได้ที่หน้าปกนิยายเลยค่ะ