บทที่ 55: หน่วยล่าล้างเมือง
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)
••••••••••••••••••••
บทที่ 55: หน่วยล่าล้างเมือง
“ว้าววววว งั้นเหรอๆ!” โม่ฝานตื่นเต้นจนออกนอกหน้า
นักเวทธาตุสายฟ้านั้นเป็นที่ชื่นชอบของสมาคมนักฆ่าสินะ!
แน่นอนว่านักเวทสายฟ้าไม่ใช่สิ่งที่ควรค่าแก่การดูถูกได้เลย อย่างไรก็ตามเพียงนักเวทสายฟ้านั้นมีเพียงหนึ่งในพันเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นพลังของมันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าธาตุไฟแม้แต่น้อย นอกจากนี้สายฟ้ายังสามารถหยุดการเคลื่อนไหวของศัตรูได้อีกด้วย ถ้าหากมีนักเวทสายฟ้าที่สามารถหยุดการเคลื่อนไหวของอสูรเวทได้ แน่นอนว่าในทีมจะต้องประหยัดแรงได้อีกมากโข!
‘เอาล่ะ! ฉันค้นพบหนทางที่ฉันจะหาเงินและเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ของตัวเองแล้วล่ะ’
‘แต่ว่าฉันก็ไม่ควรจะเปิดเผยว่าตนเองมีสองธาตุในตัว ฉันต้องปิดบังตัวตนซะหน่อย หนึ่งคือไม่ให้ใครจดจำฉันได้ สองฉันจะต้องดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ ตอนนี้ฉันดูเหมือนเด็กมัธยมปลายมากเกินไปจริงๆ!’ หลังจากที่โม่ฝานคิดได้เช่นนั้น เขารีบเดินไปยังร้านค้าและหาดินสอสีดำในทันที
เขาเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตนเองง่ายๆด้วยการทำให้ใบหน้าเข้มขึ้นด้วยหนวดเคราพร้อมคลุมเสื้อแขนยาวสีเทาให้ดูมาดขรึมขึ้นมา…
อีกทั้งเขายังไม่ลืมที่จะสวมหมวกเพื่ออำพรางใบหน้าอีกด้วย ในตอนนี้ไม่ว่าใครก็มองเขาเป็นผู้ใหญ่แน่นอน!
ในตอนนี้เขาเดินมาถึงหน่วยล่าล้างเมืองแล้วและเขาได้เห็นว่าแถวการสมัครนั้นยาวเหยียด เช่นนี้เขาอดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำในใจอย่างหงุดหงิด
‘บัดซบ ทำหยั่งกะมันเป็นการสอบอย่างนั้นแหละ วุ่นวายจริงๆ!’
‘เอาล่ะ ไม่มีทางเลือกสินะ ฉันต้องไปเข้าแถว! อ่า ดูเหมือนว่ามันจะเป็นการสัมภาษณ์เล็กๆนะ อืม… คนที่ยืนสัมภาษณ์ในขั้นต้นนั้นก็น่ารักดี ไม่เลวๆ!’
—
“พวกเขาทั้งหมดเป็นเพียงขยะเท่านั้น! อะไรกันที่ทำให้พวกเขาคิดว่าหน่วยล่าล้างเมืองนั้นจะยินยอมจ่ายงานที่มูลค่าสูงเช่นนั้นให้กันนะ? ไอ้พวกบ้าเอ้ย!” ชายร่างสูงและดูแข็งแกร่งยืนอยู่ด้านหลังของเคาน์เตอร์รับสมัครคนร่วมทีม เขาบ่นออกมาอย่างหงุดหงิด
“กัปตันอย่าได้กังวลไปเลย มีอีกมากมายที่ยังรอต่อแถวอยู่ ซึ่งจะต้องมีสักหนึ่งคนที่ยอดเยี่ยมแน่!” ชายอีกคนกล่าวออกมา บนหัวของเขาสวมหมวกที่ไฮแฟชั่น
“อันที่จริง คนนี้ก็ไม่เลวนะ เขานั้นเรียนรู้ทักษะธาตุลมระดับมัชฌิมแล้ว ด้วยความเร็วของเขาแน่นอนว่าจะต้องสามารถล่อลวงอสูรเวทได้เป็นอย่างดี” หญิงสาวที่ดูบอบบางด้านข้างกล่าวขึ้นมาด้วยอารมณ์ที่สดใส
“ตราบใดที่ยังมีฉันคนนี้ซึ่งเป็นนักเวทธาตุลมเช่นกัน เรายังจะต้องการคนอื่นอีกงั้นเหรอ?” นักเวทธาตุลมผมยาวพูดออกมาด้วยท่าทีไม่แยแส เขาดูสบายๆในลุคของชายหนุ่มเรียบง่าย
“อืม สิ่งเหล่านั้นฉันพิจารณาเป็นเรื่องๆไปอยู่แล้ว เพียงแต่ในตอนนี้ยังไม่มีสักคนที่ถูกใจฉันเลย!” ผู้เป็นหัวหน้าทีมกล่าวออกมา
“ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วอาเฉิงล่ะเป็นอย่างไร? เขาดูฉลาด เขาดูน่าทึ่งมากในความสามารถหลายๆอย่าง อีกทั้งยังมีทีมเป็นของตนเองอีกด้วย อีกอย่างเขาไม่ค่อยออกมาปรากฏตัวเท่าไหร่นัก ในมุมของฉันคิดว่าควรจะเลือกเขานะ ความสามารถธาตุไฟของเขาเพียงพอที่จะจัดการกับอสูรเวทได้” หนุ่มผมยาวธาตุลมกล่าวออกมา
กัปตันส่ายหัวอย่างไม่มีทางเลือก “ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรให้ฉันเลือกแล้วสินะ”
เมื่อเขาพูดจบ ในทันใดนั้นมีหญิงสาวรูปร่างบอบบาง หน้าตาของเธอจัดได้ว่าน่ารักพอสมควร วิ่งเข้ามาที่ด้านในและชนเข้ากับเขาในทันที
“อะ-อ๊ะ ขะ-ขอโทษ ฉันขอโทษนะกัปตัน…” หญิงสาวคนนั้นรีบขอโทษโดยพลันอย่างรวดเร็ว “คะ-คือว่า... นักเวทสายฟ้า… อยากจะเข้าร่วมหน่วยล่า-ล้างเมือง”
“หืม จริงเหรอ!” ชายร่างสูงตาโตพร้อมกับตื่นเต้นในทันที ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่หญิงสาวคนนั้นอย่างไม่วางตาราวกับเขารอคอยสิ่งนี้มาอย่างยาวนาน
ดวงตาของคนอื่นภายในทีมก็เปล่งประกายออกมาในทิศทางเดียวกัน
นักเวทสายฟ้า!
แน่นอนว่ามันเป็นที่ต้องการในทีมหน่วยล่าล้างเมืองนี้อย่างมาก แต่น้อยนักที่นักเวทสายฟ้าจะอยากเข้าร่วมทีมกับพวกเขา
ในอดีตนั้นแน่นอนว่ามีนักเวทสายฟ้าแวะเวียนมาร่วมทีมอยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่อทั้งหมดเก่งกาจ นักเวทสายฟ้าจะย้ายไปอยู่ในทีมที่ให้ค่าตอบแทนที่สูงขึ้นและทีมที่ยอดเยี่ยมไม่สนใจนักเวทสายฟ้ามือใหม่
แน่นอนว่าถ้าหากต้องการนักเวทสายฟ้า จะต้องยินยอมรับพวกเขาเข้ามาตั้งแต่ยังเป็นมือใหม่และทำการฝึกฝนพวกเขาด้วยตนเองเท่านั้น เพราะถ้าหากรอนักเวทสายฟ้าที่เก่งกาจ ก็คงจะไม่มีวันได้พบเลย!
หลายทีมนั้นต้องการนักเวทสายฟ้าอย่างมาก นอกจากนั้นนักเวทสายฟ้าสามารถเข้าสู่องค์กรหรือตระกูลใหญ่ได้อย่างง่ายดาย เพียงเพราะนักเวทสายฟ้านั้นมีน้อยเกินไป เขาเป็นที่ต้องการอย่างมากในทุกหนแห่ง!
“เขาน่ะเหรอ?” กัปตันร่างสูงกล่าวออกมาเมื่อเขาเดินออกมาที่ด้านนอกตรงจุดรับสมัคร
“ชะ-ใช่แล้ว คุณอยากจะสัมภาษณ์เขาด้วยตนเองไหม?” หญิงสาวกล่าวออกมาอย่างติดขัด
“สัมภาษณ์…. มีอะไรต้องสัมภาษณ์งั้นเหรอ?” กัปตันกล่าวออกมาอย่างงุนงง
หญิงสาวแสดงใบหน้าที่สงสัยออกมาในทันที ถ้าหากว่ากัปตันไม่ต้องการสัมภาษณ์เขาด้วยตนเองแล้ววิ่งตามเธอออกมาทำไมล่ะ?
แต่ในตอนนี้ทุกคนเห็นว่ากัปตันของเขาเดินไปที่โต๊ะสัมภาษณ์ด้วยตนเอง เขามองไปที่โม่ฝานด้วยใบหน้าเขร่งขรึมก่อนจะถามว่า “นักเวทสายฟ้าเหรอ?”
โม่ฝานมองไปที่ชายร่างสูงที่แข็งแกร่งตรงหน้า ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมในทันทีพร้อมกับยกมือของตนขึ้นมาอย่างช้าๆ ในวินาทีต่อมาเขาปลดปล่อยสายฟ้าเล็กๆขึ้นมาระหว่างนิ้วมือของตนและยิงมันออกไปจนเผาผ้าปูโต๊ะเป็นรูเล็กๆเพื่อแสดงความสามารถ
ใบหน้าของกัปตันในตอนนี้แสดงออกด้วยความตื่นเต้นเมื่อได้เห็นฉากเช่นนี้
“เอาล่ะ พวกคุณที่กำลังต่อแถวอยู่… ไม่ต้องเข้าแถวอีกต่อไปแล้ว! เราพบคนที่เราต้องการแล้ว!” กัปตันตะโกนออกมาเสียงดังพร้อมกับส่งสายตาไปในทิศทางที่เหล่านักเวทมากมายกำลังต่อแถวอยู่
หลังจากที่เขาตะโกนออกมา ผู้คนมากมายเริ่มหงุดหงิดในทันที
“บ้าเอ้ย ทำไมกัน? เรายังไมได้สัมภาษณ์ด้วยซ้ำ!?”
“ใช่ ฉันแข็งแกร่งจริงๆนะ ฉันใช้เวลาร่ายเวทเพียงแค่สี่วินาทีเท่านั้นเอง!”
“นี่เรื่องจริงงั้นเหรอเนี่ย มีนักเวทที่สามารถใช้เส้นสายเพื่อเข้าร่วมทีมงั้นเหรอ? นี่มันไม่ยุติธรรมเลย! ฉันไม่ต้องการที่จะไร้ที่ลงแบบนี้จริงๆ บ้าเอ้ย!”
กลุ่มคนพวกนั้นเริ่มโวยวายออกมาในทันที เห็นได้ชัดว่าทั้งหมดล้วนแต่คาดหวังในการสัมภาษณ์ครั้งนี้มาก
“เอาล่ะ ฟัง! ถ้าหากในกลุ่มพวกคุณนั้นมีใครเป็นนักเวทสายฟ้า ฉันในฐานะกัปตันของทีมจะรับพวกคุณเข้าทีมด้วยตนเอง!” กัปตันตะโกนออกมาในทันที
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้น พวกเขานิ่งเงียบในทันที
“บัดซบ สายฟ้างั้นเหรอ?”
“พูดจริงงั้นเหรอ? นักเวทสายฟ้านั้นขโมยอาชีพของพวกเราไปอีกครั้งหนึ่งแล้วสินะ แล้วเช่นนี้พวกเราจะใช้ชีวิตกันอย่างไรล่ะ?!”
“เหอะ ธาตุสายฟ้า! นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน? ไปที่อื่นกันเถอะ!”
ในทันทีที่ทุกคนได้ยินว่าทีมต้องการนักเวทสายฟ้า ทั้งหมดราวกับไก่น้อยคอตกและยอมรับชะตากรรมอย่างไม่เต็มใจทันที
พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย ธาตุสายฟ้านั้นเป็นธาตุที่ยอดเยี่ยมกว่าธาตุทั้งหมดในขั้นพื้นฐาน มันเป็นสิ่งที่ไร้การเปรียบเทียบ คนเหล่านี้ไม่สามารถแข่งขันกับนักเวทสายฟ้าได้เลยแม้แต่น้อย
โม่ฝานมองดูแถวที่แยกย้ายกันออกไปด้วยหัวใจที่ตื่นตระหนกเล็กน้อย
เมื่ออยู่ในโรงเรียน เขารู้ดีว่านักเวทสายฟ้านั้นหาได้ยากยิ่ง แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่านักเวทสายฟ้านั้นเป็นที่ต้องการและสามารถจัดการกับสังคมเวทมนตร์ได้อย่างง่ายดาย!
มันสมเหตุสมผลอย่างมากเพราะด้วยทักษะของธาตุสายฟ้า เมื่อต้องพบเจอกับหมาป่าตาเดียว มันสามารถจัดการหมาป่าให้อยู่หมัดได้ด้วยตนเอง แม้ว่าธาตุสายฟ้าจะไม่สามารถทำร้ายอสูรเวทได้มากนัก แต่สิ่งที่ยอดเยี่ยมก็คือมันสามารถหยุดการเคลื่อนไหวของอสูรได้!
“มานี่ เชิญๆนั่งก่อนน้องชาย ยินดีต้อนรับสู่หน่วยล่าล้างเมือง ฉันจะแนะนำสมาชิกของทีมเราให้คุณฟัง… โอ้ ไม่สิ ฉันต้องแนะนำตัวเองก่อน เอาล่ะ ฉันเป็นกัปตันทีมของหน่วยล่าล้างเมืองชื่อฉือต้าฮวงเป็นนักเวทธาตุไฟน่ะ” เขากล่าวแนะนำตนเองอย่างตื่นเต้นและเป็นกันเอง
“เฮ้ ส่วนฉันชื่อเสี่ยวเก๋อ เป็นนักเวทธาตุน้ำ” หญิงสาวยิ้มหวานออกมาพร้อมแนะนำตัว
“หลีเหวินเจี่ย ธาตุลม…” ชายหนุ่มรูปงามกล่าวออกมาพร้อมสะบัดผมยาวของเขาอย่างภูมิใจ
“ฉันชื่อเฟยฉือ นักเวทธาตุดิน” ชายหนุ่มสวมหมวกกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
โม่ฝานนั้นมองกลุ่มคนเหล่านี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีอายุมากกว่าไม่กี่ปีเท่านั้น เขาตกใจเล็กน้อยพร้อมรีบแนะนำตนเองในที่สุด “ฉันชื่อฝาน โม่”
“อ่า ฝานโม่ กระดาษแนะนำตัวของคุณนั้นว่างเปล่า เช่นนี้ฉันสามารถเดาได้ว่าคุณคงจะยังไม่เคยเจอกับอสูรเวทที่แท้จริงสินะ ดังนั้นฉันจะบอกอะไรเอาไว้สักอย่าง อย่าคิดว่าคุณยอดเยี่ยมที่เป็นนักเวทสายฟ้าแล้ว เพราะถ้าหากประมาทนั่นหมายถึงชีวิต!” เสียงหวานของหญิงสาวคนหนึ่งกล่าวออกมา
โม่ฝานมองไปที่หหญิงสาวคนนั้น เขารู้สึกคุ้นเคยกับเธออย่างบอกไม่ถูกเพียงแค่นึกไม่ออกว่าเธอเป็นใคร
“โอ้ เกือบลืม! นี่คือรองกัปตันนะ เธอชื่อไฉ่ถังธาตุน้ำแข็ง!” กัปตันฉือต้าฮวงกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มกว้าง
‘ไฉ่ถัง?’
‘บัดซบ ผู้หญิงคนนั้น!’
โม่ฝานจำเธอได้ในทันที เธอคือไฉ่ถังซึ่งอยู่ในตระกูลมู่ด้วยเช่นกัน เธอคนนี้นั้นใบหน้าคล้ายคลึงกับเจ้าหญิงหนิงเซวียมาก เช่นนี้เขาจึงรู้สึกคุ้นหน้าเธออย่างมากและเธอไม่ใช่คนที่เขาจะสามารถไปยั่วยุได้เลย!
‘บัดซบ นี่ฉันจะต้องพบเจอกับคนของตระกูลมู่ตลอดเวลาเลยรึไง? ดูเหมือนว่าฉันจะต้องรีบเข้ามหาลัยดีๆให้ได้และรีบออกไปจากเมืองนี้สักที!’
••••••••••••••••••••
••••••••••••••••••••
ช่วยกันกดคะแนนดาวให้กับผู้แปลเพื่อเป็นกำลังใจด้วยน้าาาา //อ้อนน
อย่าลืมกดติดตามนิยายไว้ด้วยน้า กดได้ที่หน้าปกนิยายเลยค่ะ