บทที่ 54: หายาก!
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)
••••••••••••••••••••
บทที่ 54: หายาก!
ตอนนี้การฝึกฝนของเรายังไม่เร็วพอ!
แม้ว่าโม่ฝานจะมีเวลาฝึกมากกว่าคนอื่นถึงสองเท่า รวมถึงได้รับการสนับสนุนจากอุปกรณ์เวทละอองดาราอีกยี่สิบเปอร์เซ็น แต่ทว่าเขายังต้องแบ่งเวลาให้กับธาตุทั้งสองอย่าเท่าๆกัน เช่นนี้ทำให้การฝึกฝนของเขาเร็วกว่ามู่ไป๋เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เขาไม่ต้องการเปิดเผยว่าครอบครองธาตุสายฟ้า เหตุผลของเขาก็คือเพื่อที่จะได้เล่นกับตระกูลมู่ได้อย่างสนุกสนาน!
แต่คำถามในตอนนี้ก็คือเขาจะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเองได้อย่างไร?
เขาพยายามใช้ไป่ตู่ในการค้นคว้าหาข้อมูล แต่คำตอบของมันคือ : ซื้ออุปกรณ์เวทละอองดารา!
‘บ้าฉิบ นี่มันเป็นคำตอบที่โง่ที่สุดเลย!’
มันไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไรนัก เพราะอุปกรณ์เวทละอองดารานั้นเป็นสิ่งที่สามารถเพิ่มความสามารถทางเวทมนตร์ได้ดีที่สุด แต่คำถามต่อไปก็คือไอ้อุปกรณ์ที่ว่านี้คนธรรมดาสามารถหาซื้อมันได้งั้นเหรอ?
อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากนี้ โม่ฝานก็มองไม่เห็นหนทางไหนที่จะดีเทียบเท่าการใช้ละอองดาราอีกแล้ว!
“หรือว่าถ้าฉันสามารถอัพเกรดจี้ทมิฬนี้ให้มีระดับเทียบเท่ากับสร้อยที่มู่หนิงเซวียใส่อยู่ได้ล่ะ….”
“อุปกรณ์เวทละอองดาราทั่วไปนั้นสามารถช่วยในการฝึกฝนได้เพียงสองในสิบเท่านั้น ถ้าหากว่าสามารถอัพเกรดมันได้ มันจะเพิ่มความสามารถขึ้นไปได้อีกถึงสี่ในสิบ ถ้าหากฉันสามารถทำได้ แม้ว่าจะต้องฝึกฝนทั้งธาตุสายฟ้าและธาตุไฟ ฉันก็ยังจะมีความสามารถเหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไปมากโข มู่หนิงเซวียนั้นเริ่มต้นก่อนฉันนานมาก ระยะห่างของเรานั้นมากเกินไป อีกทั้งตอนนี้เธอยังได้รับเลือกจากมหาวิทยาลัยเวทมนตร์จักรพรรดิแล้วด้วย นั่นเป็นคำตอบว่าพลังของเธอเหนือว่าฉันมาก อีกอย่างถ้าหากฉันยังคงฝึกฝนได้ยืดยาดแบบนี้ สักวันฉันก็คงจะถูกเขย่าตายโดยคนของตระกูลมู่อย่างแน่นอน” โม่ฝานนั้นไม่เสียใจเลยที่ได้สร้างศัตรูตัวใหญ่เช่นนี้ เขาใช้มันเพื่อเป็นแรงผลักดันให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้นเพื่อที่จะสามารถบดขยี้พวกเขาได้
ดูเหมือนว่าอุปกรณ์เวทละอองดาราจะเป็นสิ่งเดียวที่สามารถช่วยให้เขาแข็งแกร่งได้เร็วขึ้น!
อาจารย์ถังหยู่เคยกล่าวไว้ว่าจี้ทมิฬนี้สามารถดูดซับพลังวิญญาณบริสุทธิ์ของอสูรเวทเมื่อมันตายตกไปแล้วได้ ถ้าอย่างนั้นแปลว่าเขาต้องออกไปที่ด้านนอกกำแพงและสังหารอสูรเวท! ถ้าเขาโชคดีสักหน่อยแน่นอนว่าเขาจะสามารถเก็บวิญญาณบริสุทธิ์ได้ จากนั้นจี้ทมิฬอันนี้ก็จะอัพเกรดขึ้นอีกขั้น!
ความเร็วในการฝึกฝนกลายเป็นสี่ในสิบ… สำหรับโม่ฝานแล้วมันไม่ต่างอะไรจากการขี่จรวด!!!
“ดูเหมือนว่าจะมีแค่วิธีนี้สินะ…”
ในตอนนี้เขาตัดสินใจได้แล้ว จากนี้เขาควรจะตั้งใจทำมันให้ดีที่สุด!
สวรรค์นั้นประทานความได้เปรียบให้กับเขาแล้ว ถ้าหากเขาจะเพิกเฉยต่อสิ่งเหล่านี้ คงจะไม่มีประโยชน์อะไร!
——
หลังจากที่การสอบปฏิบัติจบลงไปแล้ว ยังเหลือเวลาปิดเทอมฤดูร้อนอีกหนึ่งเดือน เช่นนี้โม่ฝานจึงเดินไปที่ตึกของสมาคมนักล่าอย่างแน่วแน่
สมาคมนักล่าแห่งนี้ถูกจัดตั้งขึ้นโดยเหล่ากองทัพเช่นกัน นักเวทมากมายนั้นมายังสถานที่แห่งนี้เพื่อค้นหาภารกิจที่เหมาะสมกับตนเอง
ในขณะที่โม่ฝานเดินเข้ามา เขามองเห็นว่าราคาของวิญญาณบริสุทธิ์นั้นมีค่าถึงห้าล้านหยวน!!!
การค้นหาอสูรเวทนั้นเป็นหนทางเดียวที่จะนำพาเขาไปสู่ความมั่งคั่ง แต่ก่อนที่จะร่ำรวยเขาจะต้องได้รับเงินห้าล้านหยวนซะก่อน เช่นนี้ตอนนี้เขาทำได้เพียงฝันกลางวันเท่านั้น อีกทั้งการที่จะได้รับวิญญาณบริสุทธิ์นั้นจำเป็นจะต้องสังหารอสูรเวทเท่านั้น ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่เขาสามารถเดินได้ในตอนนี้
‘ฉันจะต้องสังหารอสูรเวทด้วยตนเองงั้นเหรอ?’
โม่ฝานส่ายหัวเพื่อสลัดความคิดเหล่านั้น เขายังไม่มีความสามารถมากพอที่จะสังหารอสูรเวทด้วยตัวคนเดียวได้ ดังนั้นในตอนนี้เขาจะต้องมองหาทีมภายในสมาคมนักล่าแห่งนี้ ทีมที่เหมาะสมกับเขา!
นักเวทภายในสมาคมนักล่านั้นมีกลุ่มเล็กๆ พวกเขามักจะรวมตัวกันอยู่เสมอ เนื่องจากผู้ที่สามารถสังหารอสูรเวทได้ด้วยตัวคนเดียวนั้นยังหาได้ยากยิ่ง
—
ผู้คนเดินไปมาในห้องโถงขนาดใหญ่นี้อย่างขวักไขว่ ราวกับว่าภายในสถานที่แห่งนี้นั้นไม่เคยได้หลับใหลแม้แต่น้อย
บนผนังของห้องโถงนี้มีจอขนาดใหญ่ติดไว้ มันเกี่ยวกับข่าวและภารกิจต่างๆพร้อมด้วยรางวัล ซึ่งรางวัลที่ต่ำที่สุดอยู่ที่หนึ่งแสนหยวนและภารกิจระดับสูงนั้นสามารถได้รับรางวัลมากกว่าหลานหยวน!
ขณะที่โม่ฝานมองไปที่ภารกิจระดับล้านหยวน ขากรรไกรของเขาแข็งค้างจนน้ำลายแทบจะไหลถึงพื้นในทันที
ถ้าหากเขาสามารถทำภารกิจระดับสูงสำเร็จสักห้าครั้ง จากนั้นเขาจะสามารถมีเงินมากพอที่จะซื้อวิญญาณบริสุทธิ์เพื่ออัพเกรดจี้ทมิฬนี้
แต่น่าเสียดายที่นั่นไม่ใช่ภารกิจที่คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถทำได้!
“อ่า กลุ่มค้อนเงินกำลังมองหานักเวทธาตุน้ำแข็ง มีประสบการณ์การต่อสู้สามปีหรือมากกว่า มีความสามารถในการทำงานเป็นทีมและมีความสามารถในการควบคุมเวทมนตร์เป็นอย่างดี รางวัลที่ได้รับหลังจากเฉลี่ยแล้วจากภารกิจอยู่ที่สองหมื่นหยวน ใช้เวลาประมานสองเดือนในการทำภารกิจ!”
“ต้องการนักเวทธาตุลม ภายในทีมนั้นขาดแคลนนักเวทธาตุลมสำหรับการล่อลวงหมาป่าตาเดียวเท่านั้น สำหรับธาตุอื่นเราไม่ต้องการแล้ว!”
“ต้องการนักเวทธาตุไฟ ใครรู้ตัวว่าเป็นนักเวทธาตุไฟแล้วล่ะก็จงมารวมกลุ่มกับแก๊งวายุหมุนเดี๋ยวนี้! ขอรับรองความสำเร็จของภารกิจและความร่ำรวย!”
โม่ฝานนั้นหันไปมองที่ด้านข้างของจอยักษ์ เขาเห็นกลุ่มนักเวทกำลังยื่นใบแนะนำตนเองอยู่!
มันคือประวัติพื้นฐานส่วนตัวของนักเวทผู้นั้นที่จะเสนอต่อทีม ซึ่งจะเป็นทั้งจำนวนภารกิจและรางวัลที่เคยได้รับมา
โม่ฝานตื่นตาตื่นใจกับภาพตรงหน้าอย่างมาก ในตอนนี้เขาไม่รู้เลยว่าควรจะทำอะไรก่อนดี
ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครต้องการนักเวทที่เพิ่งเรียนจบใหม่ๆสินะ เพราะเด็กใหม่เหล่านั้นมีประสบการณ์กับอสูรเวทน้อยเกินไป หากเกิดข้อผิดพลาดเพียงนิดเดียว แน่นอนว่าชีวิตอาจจะจบสิ้นลงในทันที แล้วใครจะกล้ารับนักเวทที่เพิ่งเรียนจบเข้าร่วมทีมล่ะ?
โม่ฝานนั้นยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ เขาอยู่ในโรงเรียนมัธยมชั้นปีที่สองเท่านั้นเอง ซึ่งแน่นอนว่าเหล่านักเวทรุ่นใหญ่ย่อมรำคาญเด็กเหล่านี้อย่างมาก การนำเด็กเหล่านี้เข้าทีมนั้นแปลว่าทั้งหมดยอมรับที่จะมีตัวถ่วงเพิ่มขึ้นมา แน่นอนว่าโม่ฝานย่อมเข้าใจเป็นอย่างดีว่าการหาเพื่อนร่วมทีมที่เข้าขากันได้นั้นยากมากจากประสบการณ์ที่เขาได้พบเจอตอนสอบปฏิบัติ
“บัดซบ การเป็นนักเวทนั้นไม่ง่ายเลย ทุกอย่างเต็มไปด้วยเงื่อนไขและคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม โธ่เอ้ยแล้วปีนี้ฉะ-น….” โม่ฝานอดไม่ได้ที่จะโอดครวญออกมา
ในขณะที่โม่ฝานกำลังสาปแช่งอยู่นั้น มีชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาชนกับเขาอย่างรุนแรงก่อนที่เขาจะบ่นจบเสียอีก
“ขอโทษ ฉันขอโทษนะ หน่วยล่าล้างเมืองกำลังเปิดรับสมัครอยู่ ฉันรีบมาก ขอโทษด้วยที่ชนคุณ!” เด็กที่รูปร่างผอมบางดูอ่อนแอคนนั้นพูดกับโม่ฝานพร้อมกับรีบเก็บแว่นที่หนาเตอะใส่เข้าที่อย่างรวดเร็ว
“หน่วยล่าล้างเมืองงั้นเหรอ?” โม่ฝานถามออกไปอย่างงุนงง
“ใช่ คุณไม่รู้งั้นเหรอ? เขาเป็นทีมที่คอยกวาดล้างอันตรายต่างๆภายในเมือง หน้าที่ก็คือคอยสังหารเหล่าอสูรที่หลบซ่อนอยู่ด้านในกำแพงเมือง ทีมนี้นั้นเป็นตัวเลือกแรกๆเลยสำหรับนักเวท อีกทั้งการอยู่ในกลุ่มของพวกเขาก็คือเราจะสามารถอาศัยอยู่ภายในเมืองได้ ใครบ้างล่ะจะชอบวิ่งออกไปนอกกำแพงและต่อสู้กับอสูรเวทมากมายที่เราไม่รู้จัก? อ้อ สำหรับรางวัลแล้วไม่ต้องห่วงเลย มันอยู่ในระดับที่สูงมากเลยแหละ!” เด็กหนุ่มคนนั้นกล่าวพร้อมดันแว่นให้เข้าที่
“ถ่งหยู่หวิน เธอควรเลิกเสียเวลาสักทีนะ นักเวทที่เพิ่งจบใหม่นั้นไม่มีประสบการณ์ ไร้ความสามารถ ไม่มีทางที่จะได้รับเลือกเข้าหน่วยล่าล้างเมืองแน่นอน พวกเขาไม่มีทางสนใจเธอเว้นเสียแต่ว่าเธอจะเป็นนักเวทสายฟ้าแหละนะ” นักล่าอีกคนที่อยู่ข้างๆกล่าวเยาะเย้ยเขา
“พวกเขากำลังมองหานักเวทสายฟ้างั้นเหรอ?” โม่ฝานรีบถามออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกาย
ทีมนี้เหมาะสมกับเขาอย่างมาก ซึ่งพวกเขาทั้งหมดอยู่ภายในเมืองและโม่ฝานยังต้องเรียน มันเหมาะสมกันเหลือเกิน!
ถ้าหากเขาต้องวิ่งออกไปนอกเมือง ซึ่งก็ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ถึงจะทำภารกิจได้สำเร็จ เวลากี่เดือนที่เขาจะต้องเสียไป เขาไม่มีทางรู้ได้เลย
“นักเวทสายฟ้านั้นเป็นที่ต้องการของทุกทีมเสมอ แม้ว่าจะยังไม่มีประสบการณ์ใดๆ คนภายในทีมก็พร้อมที่จะอ้าแขนรับเข้ามาอย่างเต็มใจ แต่นักเวทสายฟ้านั้นน้อยเกินไป อีกทั้งทักษะของเขายังร้ายกาจมากอีกด้วย เฮ้อ! ถ้าหากฉันสามารถปลุกธาตุสายฟ้าในตื่นขึ้นมาได้ ฉันก็คงจะไม่โดนไอ้พวกทหารนั่นหัวเราะเยาะทุกวันอย่างนี้หรอก!” ชายคนนั้นกล่าวออกมาอย่างขื่นขม
••••••••••••••••••••
••••••••••••••••••••
ช่วยกันกดคะแนนดาวให้กับผู้แปลเพื่อเป็นกำลังใจด้วยน้าาาา //อ้อนน
อย่าลืมกดติดตามนิยายไว้ด้วยน้า กดได้ที่หน้าปกนิยายเลยค่ะ