[KotB] บทที่ 241: สกายลอร์ด (4)
บทที่ 241: สกายลอร์ด (4)
ดาวแห่งการนำทาง?
โดยสัญชาตญาณ เพียงแค่มูยองเห็นดาวสีน้ำเงินดังกล่าว เขาก็รู้สึกได้ถึงความผูกพันบางอย่างแล้ว
ดาวทั้งสองดวงเปรียบเสมือนหยินและหยาง พวกมันส่องสกาวไปทั่วท้องฟ้าโดยมีดาวอื่นๆนับพันดวงรายล้อมเป็นกลุ่มอยู่รอบๆ
จากนั้น ฉายาที่มูยองได้รับก็เกิดการเปลี่ยนแปลง
<ชื่อ 'ดวงดาวอันบริสุทธิ์ (S+, ทุกสเตตัส +30)' ได้พัฒนาเป็น ดวงดาวแห่งแก่นแท้ (S+++, ทุกสเตตัส +50) '>
<'ดวงดาวแห่งแก่นแท้' เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากดาวสองดวงซึ่งมีคุณสมบัติต่างกันแต่กลับมีความสอดคล้องต่อกัน>
<ความเป็นผู้นำของเจ้าของเพิ่มขึ้น ดาวอีกมากมายจะมารวมตัวกันที่ดวงดาวแห่งแก่นแท้>
<ดวงดาวจะรวมตัวกันเพื่อสร้างจักรวาล คุณได้รับสมุดบันทึก 'การนำทางแรก' แล้ว>
การนำทางแรก?
ด้านหน้าของเขามีหนังสือเล่มหนึ่งที่ไม่มีอะไรเขียนอยู่ในนั้น
มันเป็นแค่สมุดปกขาวที่ไม่มีชื่อหรือผู้แต่ง
หลังจากนั้นไม่นาน นาฬิกาแสดงสเตตัสของมูยองก็เปลี่ยนไป มันสั่นอย่างบ้าคลั่งก่อนที่ตัวอักษรจำนวนหนึ่งจะถูกเขียนในหนังสือ
- ปฏิทินมูยอง ปีที่ 0, นำทางเหล่าดวงดาว
- ปฏิทินมูยอง ปีที่ 0, ดวงดาวขับขาน
บันทึกถูกเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหัน
และมูยองก็ตระหนักรู้ถึงบางอย่างได้...
หนังสือเล่มเล็กๆนี้เรียกเปรียบมูยองเสมือน 'โลก' ใบหนึ่ง อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายละเอียดใดๆมากกว่านั้น
'ดวงดาว?'
มูยองไม่เคยตั้งคำถามต่อดวงดาวเหล่านี้เลย ทำไมดวงดาวถึงมีอยู่ และพวกมันเลือกเจ้าของได้อย่างไร?
ผู้ที่ไม่ใช่ปีศาจเท่านั้นที่จะถูกดวงดาวเลือก แต่ละคนล้วมีพลังและมีลักษณะของผู้นำ และมูยองกลายเป็นผู้นำของดวงดาวเหล่านั้นอีกที
'แล้วสกายลอร์ดล่ะคือตัวอะไรกันแน่?'
สกายลอร์ดเองก็กินดวงดาวได้
บางทีสกายลอร์ดอาจไม่ใช่เพียง“โล่ป้องกันเดียโบล”
นี่เป็นสิ่งที่มูยองค้นพบด้วยเหตุผลง่ายๆที่ดันดาเลี่ยนคาดไม่ถึง เมื่อเขาคิดและสนใจเรื่องดวงดาว
บางทีอาจมีผู้กลัวว่าดวงดาวจะรวมตัวกันและทำเรื่องบางอย่างขึ้น
ในอดีตพวกมันไม่ได้รวมตัวกันเป็นจำนวนมากเช่นนี้ แต่ละดวงต่างทำหน้าที่แตกต่างกันไปตามเผ่าพันธุ์ ต่างกลุ่มและมีเป้าหมายที่ต่างกัน แต่ปัจจุบันมูยองกลับรวบรวมพวกมันไว้ทั้งหมด
บางที…สกายลอร์ดอาจถูกสร้างขึ้นก็เพราะมูยอง ผู้ถูกกำหนดให้เป็นผู้นำทางของเหล่าดวงดาว หรือเป็นเพราะบุคคลที่สามอื่นอาจรวบรวมเจ้าของดาวเอาไว้?
ดูภายนอกมันเป็นเกราะป้องกันเดียโบล แต่เดียโบลกลับเข้าสู่ดินแดนเทพปีศาจเรียบร้อยแล้ว
'เทพปีศาจเฮอเรสถูกเดียโบลสังหาร' ในดินแดนเทพปีศาจ
นั่นหมายความว่าสกายลอร์ดไม่ได้ทำอะไรมากมายเพื่อหยุดมัน
สุดท้ายการหยุดเดียโบลก็เป็นเพียงข้ออ้างเพื่อหลบซ่อนเหตุผลอื่น
'ดวงดาวรวมตัวกันเพื่อสร้างจักรวาล มันหมายถึงการสร้างโลกใหม่หรือไม่? '
มูยองเกาหัว บางทีมันอาจเป็นเส้นทางที่เขาต้องเดินไปหลังจากกำจัดเทพปีศาจทั้งหมด
ในขณะที่เขาใช้เวลาจัดระเบียบความคิดของตัวเองอยู่
<ผู้มีอำนาจพลังของกาเบรียล ผลลัพธ์ของ 'บัญญัติอันเที่ยงธรรม' ถูกเพิ่มเข้ามา '
<ช่วยเหล่าเจ้าของดวงดาว และทำให้ราชาปีศาจยอมพ่ายแพ้>
<พลังเทวะบริสุทธิ์เพิ่มขึ้น 30 >
มูยองมีหลายวิธีในการเสริมกำลังของเขา แต่ถึงการสร้างความแข็งแกร่งจะมีความจำเป็นต่อหลายสิ่ง อย่างไรก็ตามการวิ่งไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียวนั้นไม่พอ
สเตตัสสามารถเพิ่มขึ้นในภายหลังได้ ตอนนี้เป็นเวลาที่จะหาข้อมูลเกี่ยวกับสกายลอร์ดเสียก่อน
หากมีบางสิ่งเกี่ยวกับสกายลอร์ดตามที่มูยองคาดไว้ นี่เป็นโอกาสดีที่มันจะถูกเปิดเผย
มูยองไม่สามารถรอได้อีก
“โซระ”
"...ค่ะท่าน"
โซระตอบด้วยอาการสั่นเทาก่อนจะคุกเข่าลง
พลังความมืดจากศิลปะแห่งความตายได้กลืนโซระจนเธอเชื่อฟังมูยองอย่างสมบูรณ์แบบ
“เธอรู้จักสกายลอร์ดมากแค่ไหน?”
สายตาของโซระหันไปทางมูยอง
“มันถูกสร้างขึ้นโดยเหล่าเทพปีศาจระดับสูง เพื่อป้องกันไม่ให้เดียโบล และผู้ติดตามของมันเข้าสู่ดินแดนเทพปีศาจ…”
"พอ!"
เป็นการเสียเวลาที่จะฟังมากกว่านี้ เพราะข้อสรุปที่ออกมาก็คือเธอไม่รู้อะไรมากไปกว่าที่คนอื่นรู้
เขาต้องการข้อมูลเกี่ยวกับมันมากกว่านั้น
ครั้งก่อนเขาพยายามหลีกเลี่ยง แต่ตอนนี้ถึงเวลาที่จะพุ่งเข้าหามันแล้ว
“โซระ เธอไปล่อสกายลอร์ดมาที่นี่”
"ค่ะท่าน"
โซระเป็นราชาปีศาจที่คอยดูแลสกายลอร์ดตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว แม้ว่าเธออาจไม่รู้เรื่องราวการกำเนิดของสกายลอร์ด แต่เธอก็ยังรับมือกับมันได้ดีกว่าใครก็ตามที่อยู่ที่นี่
'สิ่งที่เหลืออยู่คือทาร์แคนล่อกองทัพพวกนั้นได้ดีเพียงใด'
***
ทาร์แคนถอนหายใจ
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะต่อสู้กับศัตรูนับแสนด้วยกองทหารเพียง 50,000 คนเท่านั้น
ทาร์แคนอยู่ในระดับผู้ปกครองแต่เขาเก่งในเรื่องต่อสู้มากกว่าเป็นหัวหน้าสั่งการในกองทัพ
หากปราศจากเบซองมินเขาคงเสียกองกำลังทั้งหมดไปแล้ว ซองมินเป็นนักวางแผนและนักกลยุทธ์ที่น่าทึ่งมาก
“อ่า มีจำนวนศัตรูมากกว่าที่ข้าคิดซะอีก”
จำนวนหน่วยไล่ล่าของศัตรูเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ทาร์แคนยังคงยอมสูญเสียกำลังเล็กน้อย และถอยกลับ
ในกระบวนการนี้มีหทารของศัตรูประมาณ 200,000 นายที่ถูกสังหาร แต่จำนวนศัตรูกลับเพิ่มขึ้นเป็น 400,000 นายในเวลารวดเร็ว ทาร์แคนเหลือทหารประมาณ 20,000 นายเท่านั้น เพราะเขาเสียไป 30,000 นายแล้ว
“ดูเหมือนจะถึงขีดจำกัดแล้ว เราต้องกลับไปเข้าร่วมกองทัพหลัก”
ซองมินบอกทาร์แคน
ถ้าไม่ได้เวทมนตร์ของซองมินคงมันเป็นเรื่องยากที่สามารถทนได้จนกระทั่งตอนนี้ กองทัพของทาร์แคนได้มาถึงขีดจำกัดแล้ว
ทาร์แคนพูดอย่างไม่ชอบใจนัก
“เราต้องหันหลังกลับเช่นนี้จริงๆหรือ? ข้ายังสามารถต่อสู้ได้”
“นี่เป็นเรื่องไม่จำเป็น คุณคิดว่านายท่านส่งผมมาที่นี่ทำไมกันเหรอ?”
ทาร์แคนเกาหัว มูยองอาจส่งซองมินมาเพราะเขาเป็นนักเวทและเก่งเรื่องกลยุทธ์ แต่อีกเหตุผลก็อาจเป็นเพราะเพื่อห้ามทาร์แคนทำอะไรตามใจตัวเอง
“ถ้ามีแต่ข้า ข้าคงต่อสู้จนถึงที่สุด”
“สถานการณ์ทางทหารของเราไม่ค่อยดีนัก ถึงการเอาชนะศัตรูเกือบ 200,000 ด้วยทหารเพียง 30,000 เป็นเรื่องน่ายกย่อง แต่การสูญเสียทหารเหล่านั้นไปก็ถือเป็นเรื่องที่หนักหนาสำหรับเราแล้ว และมันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกำจัดศัตรูทั้งหมดด้วยทหารที่เหลือเพียง 20,000 นาย”
ยังมีศัตรูอีกจำนวนกมาก ทหาร 20,000 นายไร้ค่าต่อหน้าจำนวนศัตรูขนาดนั้น
ทาร์แคนพยักหน้า
"ข้ารู้ แต่ถ้าให้ถอยอย่างเดียวก็ดูยังไงอยู่“
ทาร์แคนหันไปดูปีศาจที่กำลังบินด้วยปีกขนาดใหญ่ด้านบน
“ดูเหมือนปีศาจทั้งหมดจะทำตามคำสั่งเจ้าตัวที่ดูเหมือนจะเป็นราชาปีศาจนั่น ”
ทาร์แคนไม่ได้เอาแต่สู้อย่างบ้าคลั่ง หากพวกมันเคลื่อนไหวราวกับมีร่างเดียวกัน นั่นต้องมีบางคนบงการพวกมันอยู่
“ถ้ากำจัดมันได้ ทุกอย่างจะง่ายขึ้น”
“งั้นผมจะซื้อเวลาให้คุณสักพัก”
ซองมินเห็นด้วย
หัวหน้าของพวกมันต้องถูกสังหารก่อนที่พวกเขาจะดำเนินการไปยังขั้นตอนต่อไป ปัญหาคือพวกเขาจำเป็นต้องหยุดปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วน เพื่อฆ่าราชาปีศาจตนนั้น
“ไฮดร้า, อมาเดอุส และดูมไนท์”
ซองมินอัญเชิญมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา หลังจากนั้นก็ใช้หัวของไฮดราเพื่ออัญเชิญแม่มดเบียทริซ เขายังใช้เวทย์มนตร์ที่เหลืออยู่เพื่อสร้างบาร์เรียป้องกันไว้ด้วย
“ผมขวางมันได้ไม่เกิน 10 นาที ถ้าคุณฆ่ามันไม่สำเร็จ เราจะหนีไปทันที”
"10 นาที ย่อมได้“
ทาร์แคนชักดาบออกมา
น่าแปลกหลังจากได้รับกระดูกของมูยอง เขาก็รู้สึกว่าร่างกายเบาขึ้น ถ้าทุ่มพลังทั้งหมดออกไปโจมตีเขารู้สึกว่าตนเองสามารถฆ่าราชาปีศาจได้
* * * *
สกายลอร์ดไล่เขมือบเหล่าดวงดาวด้วยความเร็วสูง จนขนาดร่างกายของมันใหญ่โตมากกว่าเกาะแห่งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ดวงดาวที่สกายลอร์ดอยากกลืนกินที่สุดคือดาวของมูยอง ผู้ที่มีดาวสองดวงที่สว่างไสว
“สกายลอร์ดจะกระจายพลังเพื่อกลืนกินทุกอย่าง ถึงตอนนั้นการเคลื่อนไหวของมันจะช้าลงมาก”
ราชาปีศาจโซระอธิบาย
มูยองพยักหน้า ดูเหมือนว่าท้องของมันต้องการเวลาสำหรับการย่อยสลาย
ปีศาจที่อยู่บนทางเดินของสกายลอร์ดต่างถูกกลืนกินในขณะที่มันพุ่งไปทางมูยอง
หากยังคงอยู่เช่นนี้ กองทัพของมูยองทั้งหมดจะถูกกินโดยสกายลอร์ด
ด้วยความเร็วของมันสถานการณ์จึงค่อนข้างอันตราย ยังไงก็ตามเขาต้องการทำให้มันอิ่ม เพื่อชะลอการเคลื่อนไหวของมันลง
“กระจายกำลัง ฉันจะล่อมันเอง”
วูม!
มูยองกางปีกกาเบรียลออกแล้วเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเหนือสิ่งมีชีวิตใดๆ
***
ทาร์แคนวิ่งเร็วสุดชีวิต ทหารม้าวิญญาณ 20,000 นายก็วิ่งตามมาติดๆเช่นกันโดยมีปีศาจ 400,000 ตนไล่อยู่ข้างหลังพวกเขา
“เวรตะไล ข้าใช้ไปหมด 10 นาทีแล้ว!”
“บอกแล้วว่ามันยากมากที่จะกำจัดพวกมัน”
ซองมินมีพลังเวทไม่พอที่ควบคุมปีศาจจำนวนมากในตอนนี้ได้
“น่ารำคาญเสียจริง พวกมันคงไม่เลิกตามจนกว่าจะสังหารพวกเราทั้งหมด”
ไม่ใช่แค่ 10 นาที แต่กว่าจะฆ่าราชาปีศาจได้ต้องใช้เวลาถึงสองเท่า นั่นเป็นผลทำให้ปีศาจเริ่มไล่พวกเขาอย่างบ้าคลั่ง เมื่อหัวหน้าของพวกมันเสียชีวิต
ซองมินพูด
“ คุณบอกไม่ใช่เหรอว่ากำจัดมันได้ใน 10 นาที? ทำไมถึงใช้เวลามากกว่านั้น?”
“มันแข็งแกร่งกว่าที่ข้าคิด แต่ยังไงข้าก็เป็นผู้ชนะนะ!”
ทาร์แคนยอมรับเบาๆ
ราชาปีศาจนั้นแข็งแกร่ง เขาเกือบจะแพ้ เมื่อคิดว่ามันจะเหมือนราชาปีศาจตัวอื่นที่เขาได้ต่อสู้มา
ทาร์แคนไม่ควรมองข้ามราชาปีศาจที่อยู่ภายใต้คำสั่งเทพปีศาจแห่งสงครามอย่างเลราเจ
“ซองมิน บางทีเราควรฆ่าพวกมันให้หมด…”
ทางเลือกที่ดีที่สุดคือยอมแพ้ แต่ทาร์แคนเป็นนักรบ นอกจากนี้เขายังมีความรู้สึกของการผู้ปกครองหลงเหลืออยู่
พลัง!สิ่งที่เขาต้องการตอนนี้คือพลัง!ทาร์แคนคิดอย่างนั้น
"เดี๋ยว!"
ขณะนั้นซองมินหยุดเคลื่อนไหว เขามองไปยังที่ห่างไกลราวกับรู้สึกถึงบางสิ่ง และในไม่ช้าเขาก็พูดอย่างรวดเร็ว
“กระจายกำลังเร็ว เดี๋ยวนี้”
"อะไร?"
“เร็วเข้า ถ้าคุณไม่อยากถูกกิน!”
ซองมินบีบพลังเวทมนตร์ที่ยังเหลือ ก่อนจะใช้ก้าวย่างพริบตา เวทย์มนตร์เคลื่อนที่ระยะสั้นที่จะทำให้เขาสามารถย้ายไปยังที่ไหนก็ได้ที่มองเห็น
ทาร์แคนเงยหน้าขึ้นครู่หนึ่งแล้วเขาก็รู้ว่าทำไม
“...บัดซบ! แยกย้าย!”
จากระยะไกล ร่างของสิ่งมีชีวิตสีดำขนาดใหญ่ปกคลุมท้องฟ้ากำลังพุ่งเข้าหาพวกเขาในขณะที่อ้าปากกว้าง
ทาร์แคนวิ่งด้วยพละกำลังทั้งหมดจนกระดูกเสียดสีกันเกิดเสียงแกรกกราก