GE308 สาวงามและอสูร [ฟรี]
ข่าวการล่มสลายของเมืองนักโทษตอนใต้แพร่สะพัด เมืองที่เต็มไปด้วยอสูรทะเลถูกทำลายลงภายในหนึ่งวัน ผู้ที่เห็นเหตุการณ์บอกเล่าเพียงว่า เห็นฝ่ามือขนาดยักษ์ที่น่าสะพรึงกลัว ทำลายเมืองลงในพริบตา
แม้จ้าวดารา 2 คนมาเยือน แต่ต้องยอมถอนตัวไม่กล้าลงมือ
ยามนี้ ราชาหมึกนั่งไม่ติดที่ มันเดินกลับไปกลับมา พี่ชายทั้งสามของมันไม่ให้ความช่วยเหลืออีกต่อไป
ราชาวานรถอนทัพกลับ กองทัพที่เกรียงไกรของราชาหมึกก็หวาดกลัวที่จะยกทัพเข้าสังหารหนิงฝาน เพราะกลัวจะเป็นฝ่ายถูกสังหารเสียเอง
ราชาหมึกไร้ซึ่งผู้ให้พึ่งพิง ทุกคนล้วนหวาดกลัวหนิงฝาน
สถานะการณ์จากที่มันเป็นผู้ล่า ยามนี้กลับกลายเป็นผู้ถูกล่าเสียเอง
“ไม่ ข้ายังไม่แพ้ ตราบใดที่ข้ายังมี 2 สิ่งนี้อยู่ แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงก็เอาชนะได้...”
“จะจริงหรือเปล่า...”
หมอกม่วงปรากฏขึ้นในวังของราชาหมึกโดยที่มันไม่ทันสังเกตุ ภายในหมอกม่วง มีเงาร่างของคนสองคน หนิงฝานโอบกอดซีหลานเดินเข้าหาราชาหมึกช้าๆ แม้เหล่าทหารของมันจะเห็น แต่ไม่มีใครกล้าขวาง
“ยินดีที่ได้พบราชาหมึก… ดูเหมือนข้าจะกลายเป็นฝ่ายที่ตามล่าเจ้าแทน...”
“ลู่เป่ย! เจ้าเข้ามาที่นี่ได้ยังไง? ทำไมกองทัพนับล้านไม่สังเกตุเห็นเจ้า...”
ราชาหมึกตกตะลึง แต่ชั่วพริบตานั้น มันบี้แมลงพิษตัวสีแดง ก่อนที่มันถอยห่างออกไป 9 หมื่นลี้ในพริบตา
แมลงผลึกโลหิต! เป็นหนึ่งในสมบัติของราชาหมึก
“ระวังด้วย ข้าเคยเห็นแมลงนั่นมาก่อน...”
ซีหลานเร่งกล่าวเตือน แต่ดูเหมือนนางจะกล่าวช้าเกินไป เส้นแสงสีแดงสายหนึ่งตรงเข้าหาหนิงฝานอย่างรวดเร็ว
“ไม่ต้องกลัว โลหิตโบราณยังออกฤทธิ์ได้อีก 1 วัน… ข้าต้านรับมันได้!”
หนิงฝานขยับนิ้วเป็นท่าทางก่อนจะลงมืออย่างรวดเร็วราวกับอัสนี
พลังมิติก่อตัวขึ้นที่ปลายหนิงฝาน ก่อนที่เขาจะคีบจับเส้นแสงสีแดง จนทำให้เปล่งเสียงลั่น เส้นแสงสีแดงคืนสภาพแมลง สีหน้าดูหวาดกลัว
“ตอนนี้พิษหนอนม่วงในร่างข้าเพียงพอให้ข้ายกระดับสัมผัสเทพได้ถึงขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูงสุด ถ้าดูดซับแมลงนี่เข้าไปด้วย ไม่รู้ว่าสัมผัสเทพของข้าจะยกระดับถึงกึ่งไร้ดัดแปลงหรือเปล่า? ฮึ่ม! จะหนีเหรอ?”
หนิงฝานกระชับตัวซีหลานให้แน่นขึ้น ก่อนจะย่างก้าวติดตามราชาหมึกที่หนีไป ในชั่วพริบตานั้น หนิงฝานปรากฏกายตรงหน้า ขวางราชาหมึกที่กำลังหลบหนี แล้วซัดฝ่ามือเข้าใส่มันอย่างแรง
ราชาหมึกตอบสนองได้ทัน แต่ก็ถูกฝ่ามือกระแทกถอยไป 10 ก้าว สีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
“เป็นได้ยังไงที่เจ้าจะรวดเร็วขนาดนี้! แมลงผลึกโลหิตของข้าน่าจะจัดการเจ้าไปแล้วหนิ? หรือแมลงของข้าใช้กับเจ้าไม่ได้ผล เป็นไปไม่ได้! แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงก็รับแมลงของข้าไม่ได้!”
ราชาหมึกไม่กล่าวให้มากความ มันขยับนิ้วเป็นท่าทางก่อนที่เส้นแสงสีเหลืองจะตรงเข้าหาหนิงฝาน พร้อมตัวมันที่หนีออกไปอย่างรวดเร็ว
หนิงฝานหมดความอดทน เขาคร้านที่ต้องมาตามล่ามันอีกครั้ง
เขาสะบัดมือ เปลวสีดำถูกจุดขึ้นที่ฝ่ามือ ก่อนที่เขาจะย่างก้าวแล้วซัดมือเข้าที่แผ่นอกของราชาหมึกอย่างรุนแรง
ราชาหมึกถูกซัดปลิว อักกระโลหิตสีหลายครั้ง เส้นลมปราณได้รับความเสียหาย
เส้นแสงสีเหลืองไล่ตามหนิงฝาน แต่เขากลับคว้าและดูดซับมันเข้าไปอย่างง่ายดาย
“ขอบเขตไร้ดัดแปลง! นี่เจ้าเผาโลหิต ทำให้ได้พลังมาครองในช่วงเวลาสั้นๆ! ฮ่าฮ่า มิน่าเจ้าถึงทรงพลังขนาดนี้ ลู่เป่ย เจ้ามันบ้าไปแล้ว!”
หนิงฝานใช้เท้าเหยียบลงที่ร่างราชาหมึกอย่างรุนแรงจนทำให้มันแทบจะขยับตัวไม่ได้อีก
ในโลกใบนี้ จะตัดสินแพ้ชนะด้วยวิธีการใดไม่สำคัญ การที่หยิบหยิบยืมพลังของโลหิตโบราณแม้จะใช่พลังของตนแต่ก็ทำให้เอาชนะได้
ซีหลานเป็นสตรีที่มีเมตตา เมื่อเห็นราชาหมึกมีสภาพเช่นนี้ นางก็อยากให้โอกาสมัน
ในดาราสมุทรแห่งนี้ นางเห็นทุกสิ่งมาพร้อมกับหนิงฝาน แม้เหล่าอสูรที่นี่จะทรงพลัง แต่พวกมันก็ไม่ได้เก่งไปกว่าหนิงฝาน
อย่างน้อย ราชาหมึกก็ไม่อาจทำลายเมืองมังกรสมุทรได้ ไม่อาจช่วงชิงโลหิตบรรพบุรุษได้
อย่างน้อย ราชาหมึกก็ไม่กล้าหยิบยืมพลังจากโลหิตบรรพบุรุษเหมือนหนิงฝาน
อย่างน้อย ถึงราชาหมึกจะกล้าหยิบยืมพลังจากโลหิตบรรพบุรุษ แต่มันย่อมไม่ทรงพลังเท่าหนิงฝาน
แต่ต่อให้มันทำได้เช่นนั้นทั้งหมด มันก็ไม่อาจขู่ขวัญจ้าวดารา 2 คนได้อยู่ดี… บางที โชคชะตาอาจกำหนดจุดของมันเอาไว้แล้ว
ม่านฉานเองก็ทำลายภูเขากุ่ยซ่งไม่ได้ แต่หนิงฝานยังทำได้...
แม้นางจะเป็นสตรีที่เมตตา แต่นางก็ยากที่จะให้อภัยราชาหมึก หนิงฝานต้องทุ่มความพยายามอย่างหนัก กว่าที่เขาจะมาถึงตรงนี้พร้อมกับนางได้
“ลู่เป่ยปล่อยข้าก่อน ข้ามีเรื่องจะถามมัน...”
แต่เมื่อนางพ้นจากอ้อมกอดหนิงฝาน ราชาหมึกที่ใกล้จะหมดแรงกลับขยับนิ้วเป็นท่าทาง ก่อนเส้นแสงสีฟ้าจะตรงเข้าหาแผ่นอกของนาง!
มันยังมีไพ่ตายซ่อนอยู่!
หากจะตาย อย่างน้อยๆมันขอพาสตรีของหนิงฝานไปด้วย!
“แมลงตัวนี้มีนามว่า แมลงทำลายราคะ เหมาะที่จะใช้กับมนุษย์ที่สุด… อะไรกัน!”
ขณะที่มันคิดว่าแมลงตัวนั้นจะเข้าจู่โจมซีหลาน หนิงฝานกลับเอื้อมมือคว้าและเก็บแมลงตัวนั้นไป!
แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยน เต็มไปด้วยเจตนาสังหารที่รุนแรง
“บัดซับ! เจ้าลอบจู่โจมนาง...”
“เอาเลย ฆ่าข้าเลยสิ!”
“ฆ่าเจ้า? แล้วให้พิษในร่างเจ้าฆ่าข้าหน่ะเหรอ?!”
ตาซ้ายหนิงฝานเปล่งแสงสีม่วง เขาเห็นพิษเส้นบางๆซ่อนอยู่ในร่างของมัน เป็นพิษที่เกี่ยวพันกับชีวิตของมันด้วย
พิษที่ซ่อนอยู่ในร่างของมันมีชื่อว่าพิษแห่งชีวิต หากเมื่อใดที่มันตาย พิษจะแพร่กระจายสังหารทุกชีวิตที่อยู่ในรัศมีหมื่นลี้!
ไม่ว่ามันจะดิ้นรนยังไงก็ไม่อาจหนีหนิงฝานพ้น แม้จะใช้พิษลอบจู่โจมทั้งตัวเขาและนางก็ยังไม่เป็นผล
จนสุดท้าย มันจึงยั่วยุให้หนิงฝานสังหารมัน เพื่อให้พิษที่ซ่อนอยู่ภายในร่างทำงาน
แม้ร่างของมันจะตาย พิษกระจาย แต่ดวงจิตของมันจะไม่ต้องพิษและหนีไปได้ แต่หนิงฝานต้องตาย
แผนการของมันนับเป็นแผนการที่แยบยล หากผู้ใดสังหารมัน ผู้นั้นต้องตาย
แต่สิ่งที่มันคาดไม่ถึงคือหนิงฝานจะรู้แผนการของมัน
หนิงฝานโอบกอดซีหลาน พานางออกห่างจากราชาหมึกหมื่นลี้ พร้อมกับส่งฝ่ามือเข้าสังหารมัน
“ตายซะ!”
ฝ่ามือขนาดยักษ์ประทับร่าง พื้นที่โดยรอบถูกบดขยี้พังทะลาย
“ไม่! ข้าคือราชา ข้าไม่ยอมตายแบบนี้เด็ดขาด!”
มันดิ้นรนทุกวิถีทาง แต่ด้วยฝ่ามือทรงพลังเกินไป ทำให้มันไม่อาจถอดดวงจิตออกจากร่างได้ทัน ฝ่ามือบดขยี้ มันเปล่งเสียงร้องโหยหวนก่อนจะถูกลบหายไป
แต่ในขณะเดียวกัน หมอกปราณสีดำแผ่ออกรอบข้างเป็นวงกว้างหมื่นลี้ จนทำให้ซีหลานที่เห็นหวาดกลัว
“เป็นพิษที่รุนแรงมาก… คาดไม่ถึงว่ามันจะมีพิษซ่อนอยู่มากขนาดนี้”
นางหวนนึกถึงเมื่อครู่ที่นางออกจากอ้อมกอดหนิงฝาน หวังกล่าวถามพูดคุยกับราชาหมึก แต่สุดท้ายกลับตกเป็นเป้าลอบจู่โจมของมัน ยิ่งคิดนางยิ่งอับอาย
หนิงฝานหัวเราะ ซีหลานยังอ่อนต่อโลก นางมองแผนการของราชาหมึกไม่ออก
“เจ้าจงจำไว้ ว่าอย่างไว้ใจศัตรูเด็ดขาด”
“แล้วข้าควรเชื่อเจ้าหรือเปล่า?” นางก้มหน้ากล่าวสีใบหน้าที่แดงก่ำ
การสังหารเป็นเรื่องที่น่ากลัว หลังจากได้ประสบการชีวิตและความตายข้างกายหนิงฝาน นางยิ่งสัมผัสได้ว่าหนิงฝานไม่ธรรมดา แม้นางจไม่เข้าใจความรู้สึกของตนยามนี้ แต่หนึ่งสิ่งที่นางบอกได้คือนางชอบหนิงฝาน
นางไม่อยากออกห่างกายเขา อยากอยู่แบบนี้ไปตลอด
เรื่องราวสงครามที่เกิดขึ้นทั้งหมด และเรื่องการตายของราชาหมึก ทำให้ทุกขุมกำลังในดาราสมุทรหวาดกลัวหนิงฝาน และไม่กล้ายั่วยุเขาอีก
ยามนี้ สมควรไร้อันตรายไปชั่วขณะหนึ่ง และหนิงฝานก็ไม่จำเป็นต้องห่วงกังวลซีหลานแล้ว
“เจ้าเชื่อข้าเถอะ...” หนิงฝานถอนหายใจ ทั้งหมดที่เขาทำก็เพื่อช่วยเหลือนาง ตอบแทนที่นางจะช่วยปลุกจิตวิญญาณสมุนไพรให้
หากเขาไม่ช่วยนาง เขาจะไม่มีโอกาสได้ปลุกจิตวิญญาณสมุนไพร และรู้ความลับของบุบผาดาราม่วงชำระร่าง
บางที การได้ดูดซับบุบผาดาราม่วงชำระร่าง อาจทำให้เขาเข้าใจพลังแห่งชีวิตมากขึ้น
พลังแห่งชีวิตคือพลังที่น่าสะพรึงกลัวมาก
ด้วยระดับพลังหนิงฝานยามนี้ แม้จะใช้วิชาที่แฝงด้วยพลังแห่งชีวิตได้ แต่ก็ใช้ได้เพียงผิวเผินเท่านั้น
หากเขาใช้พลังแห่งชีวิตได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาจะทรงพลังจนยากจะบรรยาย
“บางที… คงมีเพียงต้องแข็งแกร่งเหนือใครๆ คนของข้าจึงจะปลอดภัย” หนิงฝานกล่าวกับตนเอง
เมื่อพิษเริ่มสลาย หนิงฝานโอบประครองซีหลายมุ่งไปยังตำแหน่งที่ราชาหมึกตาย จากนั้นเก็บประเป๋าของมันมา
ภายในช่วงเวลาไม่นาน หนิงฝานสังหารอสูรแก่นทองคำร่วม 10 ล้าน อสูรดวงจิตแรกเริ่ม 9 หมื่น อสูรตัดวิญญาณ 5 ร้อย!
การสังหารในครั้งนี้ทำให้ไม่มีผู้ใดกล้าลงมือกับหนิงฝานอีก
ชื่อเสียงของเขาดังกระฉ่อนไปทั่วทั้งดาราสมุทร แต่หนิงฝานไม่สนใจ เขาสนเพียงพิษที่ได้มาจากราชาหมึก สมควรพอให้สัมผัสเทพของเขาบรรลุขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง
สิ่งที่ได้จากสงคราม ผลไม้แห่งเต๋าแก่นทองคำ 1 แสนผล ดวงจิตแรกเริ่ม 9 ร้อยผล และตัดวิญญาณอีก 7 ผล นอกจากนี้ โลหิตอสูรจำนวนมหาศาลที่เขาได้มายังเพียงพอให้เขายกระดับปราณอสูรได้ไม่น้อย เพียงแต่ตอนนี้เขายังไม่ได้เริ่มดูดซับพวกมัน
หนิงฝานยังได้สมุนไพรพันปี 7 หมื่นต้น หมื่นปี 1200 ต้น และห้าหมื่นปีอีก 1 ต้น!
ที่สำคัญ เขายังได้โอสถที่ช่วยยกระดับพลังอีกมากมายนับไม่ถ้วน
การสังหารราชาหมึกทำให้เขาได้สิ่งสำคัญมากมาย ด้วยความที่มันปกครองและควบคุมกองทัพมานานหลายปี ทำให้มันกลายเป็นผู้มั่งคั่ง
หนิงฝานเห็นเหรียญหยกเหรียญหนึ่งในกระเป๋าของราชาหมึก มันคือเหรียญเทพกษัตริย์พิษ
ด้วยเหรียญนี้ทำให้ราชาหมึกยกระดับพลังมาจนถึงจุดนี้ได้
ที่สำคัญ นอกจากจะใช้ถอนพิษหนอนม่วงได้แล้ว อาจถอนพิษชนิดอื่นๆได้เช่นกัน
“ถ้าข้าผสานเหรียญหยกนี้กับร่าง ข้าอาจต้านพิษได้หลายชนิด!”
แววตาหนิงฝานเป็นประกาย นับเป็นโชดดีที่เขาได้มันมา
“เจ้าจะกลับหรือยัง? หรือจะอยู่ที่นี่อีกสักพัก?” วีหลานกล่าว แต่ใจของนางไม่อยากแยกจากหนิงฝาน
“อืม… ยังเหลืออีกหลายเรื่องให้จัดการ มีขุมกำลังมากมายยอมจำนน… อสูรเหล่านั้นเป็นอสูรพื้นเพของที่นี่ ไม่อาจพาร่วมเดินทางได้ ดังนั้นต้องหาทางจัดการให้เหมาะสม”
เมื่อกล่าวจบ หนิงฝานก็พาซีหลานทะยานหายไป
แต่หลังจากหนิงฝานไปได้เพียงครึ่งลมหายใจ พลังที่รุนแรงกระจายไปรอบทิศ ผืนนภารัศมีล้านลี้ถูกทำลาย รอยแยกขนาดยักษ์ปรากฏ พายุมิติที่รุนแรงพัดพา
พายุมิติในครั้งนี้ แตกต่างจากพายุมิติที่เว่ยฉวนเคยปิดให้
ภายในพายุมิติ อสูรร่างยักษ์ปรากฏตัว และร่วงหล่นกระแทกพื้นเสียงสนั่น
นอกจากอสูรตนนั้นแล้ว ยังมีสตรีนางหนึ่งที่ทั่วร่างอาบโชกไปด้วยโลหิต หมดสติ อยู่ในสภาพเป็นตายไม่อาจทราบ
“นั่นมันอสูรระดับไหนกัน”
แม้อสูรตนนั้นจะตายแล้ว แต่กลิ่นอายที่มันแผ่ออกมากลับทรงพลังพอที่จะทำให้ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงหวาดกลัว หนิงฝานเองก็เช่นกัน
“อสูรแห่งโลกอสูร! คงมีบางคนฆ่ามัน! ตรงนั่นมีร่างสตรี!” ซีหลานชี้กล่าว
“ไปช่วยนางกันเถอะ...” นางเห็นใจสตรีที่ร่วงหล่นลงมาพร้อมกับอสูร
แต่ไม่ว่านางจะกล่าวยังไง ผู้ที่ตัดสินใจจริงๆคือหนิงฝาน
“เจ้าอยากให้ข้าช่วยนางเหรอ?” หนิงฝานทำสีหน้าสงสัย
แม้จะรู้ว่าอสูรตนนั้นจะตาย แต่เขาก็ยังไม่วางใจ
การที่สตรีนางนั้นสังหารอสูรตนนั้นได้ แสดงว่าสตรีนางนั้นอย่างน้อยๆต้องเป็นเซียน หากยื่นมือไปช่วยนาง เขาอาจตกเป็นเป้าหมายของศัตรูนางก็ได้
อีกอย่าง หากนางตื่น นางอาจสังหารเขาก็ได้เช่นกัน
หนิงฝานไม่อยากเสี่ยงช่วยนาง แต่หากจะตามไปสังหารนางทิ้ง ก็อาจนำมาซึ่งปัญหามากมาย
วิธีที่ดีที่สุดคือทำให้นางเป็นกระถางขัดเกลา แต่ถึงนางจะยอมมอบกายให้อย่างเต็มใจ หนิงฝานก็ยังไม่กล้าดูดซับพลังนางอยู่ดี เพราะระดับของทั้งสองต่างกันเกินไป
จะสังหารก็ไม่ได้ จะช่วยก็เสี่ยงเกินไป...
“เรากลับเถอะ...” หนิงฝานส่ายหน้า เขาไม่อยากนำปัญหามาสู่ตน
แต่ก่อนที่เขาจะไป จู่ๆเขากลับขมวดคิ้ว
ที่นิ้วของสตรีนางนั้นมีแหวนหยกสีแดงสวมอยู่ ซึ่งเหมือนกับแหวนเย่าหยวนที่หนิงฝานมี
“แหวนเย่าหยวน! เหมือนกับแหวนของเป่ยเซี่ยวเหมิน! หรือนางจะเป็นพี่สาวของเซี่ยวเหมิน!”
หนิงฝานลังเล หากจะจากไปก็ใช่ที่ อีกอย่าง เขาก็ค่อนข้างสนิทสนมกับเป่ยลี่ผู้เป็นพี่สาวอีกคนของเป่ยเซี่ยวเหมิน เขาได้นางช่วยไว้ไม่น้อยยามที่จะทะลวงขอบเขตตัดวิญญาณ
ที่สำคัญ ในอนาคตเขาจะต้องไปเยือนแดนสวรรค์เหนือ เพราะตัดสินใจจะอาศัยวิหารสาบสูญ
ดังนั้น หากช่วยเหลือสตรีนางนั้นได้ อาจเป็นประโยชน์กับเขาไม่น้อย
“ชักช้าอยู่ทำไม รีบไปช่วยนางเร็วเข้า! นางมี ‘กายเจ็ดวิญญาณ’ เมื่อเจ้ายกระดับวิชาแปลงหยินหยางถึงระดับ 7 แล้ว นางจะเป็นประโยชน์กับเจ้ามาก!”
เสียงของหลั่วโยว่ สตรีที่อยู่ในสร้อยหยินหยางดังมา แม้นางจะกล่าวหยอกล้อเล็กน้อย แต่น้ำเสียงของนางก็หนักแน่น
“ข้าจำนางได้ ถึงในอดีตพวกเราจะไม่ค่อยลงรอยกัน แต่หากไม่ได้นางช่วย ข้าคงโดนบางคนในวิหารสาบสูญตามล่า… ถ้าเจ้าช่วยนาง ก็ถือว่าข้าติดหนี้บุญคุณเจ้าหนึ่งครั้ง”
“ก็ได้!”
หนิงฝานนำระฆังทะเลตะวันออกออกมา จากนั้นทะยานเข้าพายุมิติแล้วคว้าร่างของนางไว้
“มือซ้ายโอบกอดสาวน้อย มือขวาโอกอดสตรีที่งดงาม… เจ้าช่างเป็นบุรุษจ้าวเสน่ห์” เมื่อเห็นหนิงฝานโอบประครองสตรีที่งดงามงามทั้งสองนาง หลั่วโยว่ก็อดหยอกล้อเขาไม่ได้
“คงใช่เหมือนท่านว่า...” หนิงฝานยิ้ม
แต่ถึงอย่างนั้น หนิงฝานรู้ว่าในโลกนี้ยังมีสตรีที่ไม่ควรแตะต้อง
หนึง่ในนั้นคงเป็น เป่ยเซี่ยวเหมิน เป่ยลี่ และหลั่วโยว่
หากหนิงฝานปฏิเสธที่จะไม่ชั่วเหลือ เขาก็รู้สึกผิดต่อหลั่วโยว่ เพราะนางช่วยไว้หลายต่อหลายครั้ง
อีกอย่าง เขายังสัญญากับนางไว้ว่า เขาจะต้องช่วยนางออกมาจากสร้อยหยินหยางให้ได้...